กระท่อม
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2567 ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ลงนามบันทึกความเข้าใจ กับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) กรมการแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านการจัดการห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมแบบครบวงจรสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ร่วมพัฒนาต่อยอดงานวิจัยพัฒนายาจากพืชกระท่อมใช้บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด สอดรับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในการตั้งเป้าผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของความเป็นเลิศด้านการแพทย์และสุขภาพ ปัจจุบัน กรมการแพทย์ โดย สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) โรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และปัตตานี มีบทบาทสำคัญในการรับส่งต่อและบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่มีความยุ่งยากซับซ้อน รวมทั้งสนับสนุนและสร้างความร่วมมือในการศึกษาวิจัยทางคลินิกพัฒนาเทคโนโลยีการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด เพื่อการมีสุขภาพที่ดีของป
ประกาศ “สมุนไพรประจำจังหวัด” ซึ่งผ่านการพิจารณาจากทางคณะอนุกรรมการแล้ว 57 จังหวัด โดย สกลนคร ชู กัญชา ขณะที่ กระบี่ มีกระท่อม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีการจัดนิทรรศการแสดงเรื่องเมืองสมุนไพร และการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมถึง “สมุนไพรอัตลักษณ์ประจำจังหวัด” ด้วย ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการด้านวิชาการกำหนดชนิดสมุนไพรอัตลักษณ์ประจำจังหวัดแล้ว 57 จังหวัด อยู่ระหว่างการพิจารณา 19 จังหวัด มีรายละเอียดดังนี้ ภาคเหนือ เชียงใหม่ – กัญชง, แม่ฮ่องสอน – บุกไข่, เชียงราย – ส้อมป่อย, ลำพูน – เปล้าใหญ่, ลำปาง – กวาวเครือ, พะเยา – เพชรสังฆาต, แพร่ – กลอย, น่าน – มะแขว่น, ตาก – ขมิ้นชัน, สุโขทัย – เพกา, พิษณุโลก – ส้มซ่า, กำแพงเพชร – สมอพิเภก, เพชรบูรณ์ – ขิง, พิจิตร – ฟ้าทะลายโจร ภาคกลาง ชัยนาท – มะตูม, นครปฐม – กระชาย, นนทบุรี – หน่อกะลา, ปทุมธานี &
กรมส่งเสริมการเกษตรขอเรียนชี้แจงเกี่ยวกับข่าวบุคคลอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรเข้าไปติดต่อรับซื้อกระท่อมจากเกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้ ดังนี้ ตามที่มีกระแสข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับพฤติการณ์ของบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปติดต่อรับซื้อต้นกระท่อมจากเกษตรกรในหลายจังหวัด ทั้งในจังหวัดชุมพร ตรัง และอำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีผู้เสียหายหลายคน ซึ่งได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดกับบุคคลดังกล่าวแล้ว โดยผู้เสียหายระบุว่า บุคคลดังกล่าวใช้ชื่อในการติดต่อว่า “ผู้กองเดียร์” และมีการแนะนำกันมาเป็นทอดๆ นั้น กรมส่งเสริมการเกษตรขอเรียนว่า จากการตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว บุคคลดังกล่าวมิได้เป็นเจ้าหน้าที่ของกรมแต่อย่างใด และกรมส่งเสริมการเกษตรมิได้มีโครงการในลักษณะดังกล่าว รวมทั้งมิใช่ภารกิจของเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตรทั่วประเทศเฝ้าระวัง และเตือนภัยเกษตรกรให้ระมัดระวังการติดต่อซื้อขายในลักษณะดังกล่าวแล้ว แล
หวังชาวบ้านริเริ่มพัฒนาต่อยอดกระท่อม อัพเกรดผลิตภัณฑ์สร้างอาชีพเป็นรายได้ ขอบคุณชาวใต้เปลี่ยนใบไม้เป็นเงิน “สมบัติ” ยันช่วยหนุนสร้างโอกาสพัฒนาพืชเกษตร แนะ อว. ร่วมมือ มหาวิทยาลัยวิจัยยกระดับนวัตกรรมให้มากขึ้น เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร จากการจัดงานพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุงนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การปลดล็อกกระท่อมได้ดำเนินมา 8-9 เดือนแล้ว แนวทางการปลดล็อกมีพี่น้องประชาชนช่วยกันผลักดัน มี 152 หมู่บ้านที่อนุรักษ์ไว้เพื่อให้เราศึกษา วันนี้คนมีความต้องการใบกระท่อมมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะชาวใต้เท่านั้น แต่ภาคเหนือและอีสานก็ต้องการเช่นกัน แต่ตนเองเกรงว่าหากปลูกมากไป สักวันหนึ่งราคาจะตก เราจะทำยังไงให้กระท่อมมีมูลค่าเพิ่ม แนวทางของการเพิ่มมูลค่ายังต้องทำต่อไป วันนี้เราต้องพึ่งมหาวิทยาลัยในการทำวิจัย เพื่อให้รู้ว่าจะต่อยอดแล้วทำอย่างไรต่อไป ซึ่งประเทศไทยเป็นพื้นที่เหมาะสมมากในการเพาะปลูก มีความพร้อม เราจะขยายให้กระท่อมเดินไปข้างหน้าได้ “ประเทศเราขาดโอกาสพัฒนาพืชเกษตรให้มีค
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ที่มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง จังหวัดพัทลุง มีการจัดงานพืชกระท่อมสร้างเศรษฐกิจไทย ใช้อย่างไรให้มีคุณค่าและยั่งยืน โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายฉัตรชัย อุตสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง นายณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป ป.ส. นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา พรรคพลังประชารัฐ นายอนุมัติ อาหมัด อดีต ส.ว. และประชาชนร่วมงานจำนวนมาก โดยมีการคัดกรองอย่างเข้มงวดก่อนเข้างาน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การปลดล็อกกระท่อมได้ดำเนินมา 8-9 เดือนแล้ว แนวทางการปลดล็อกมีพี่น้องประชาชนช่วยกันผลักดัน มี 152 หมู่บ้านที่อนุรักษ์ไว้เพื่อให้เราศึกษา วันนี้คนมีความต้องการใบกระท่อมมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะชาวใต้เท่านั้น แต่ภาคเหนือและอีสานก็ต้องการเช่นกัน แต่ตนเองเกรงว่าหากปลูกมากไปสักวันหนึ่งราคาจะตก เราจะทำยังไงให้กระท่อมมีมูลค่าเพิ่ม แนวทางของการเพิ่มมูลค่ายังต้องทำต่อไป วันนี้เราต้องพึ่งมหาวิทยาลัยในการทำวิจัย เพื่อให้รู้ว่าจะต่อยอดแล้วทำอย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมคิด ชัยเพชร รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตนครศรีธรรมราช กล่าวต้อนรับ โครงการสัมมนา ของคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม เรื่อง “สัมมนาทางวิชาการแนวทางการส่งเสริมกระท่อม กัญชาและกัญชง ให้เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่” ณ อาคารหอประชุมวิธานสันติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่) โดยมีการอภิปราย สัมมนาการอภิปราย และบรรยายเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริม กระท่อม กัญชาและกัญชง ให้เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทยให้กับกลุ่มเกษตรกร และประชาชนที่สนใจทั่วไป มีการนำพืชกระท่อม กัญชา และกัญชง มาสาธิต และรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่แปรรูป จากพืชกระท่อม กัญชา และกัญชง ที่สามารถสร้างรายได้และยกระดับเศรษฐกิจให้กับผู้ปลูกและประชาชนที่สนใจ การสัมมนาในครั้งนี้สามารถช่วยให้เกษตรกรและประชาชนผู้สนใจทั่วไป สามารถนำความรู้ที่ได้ไปวางแผน การผลิต การตลาด และการแปรรูป สามารถสร้างกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช และเกษตรกรหรือบุคคลทั่วไปที่สนใจในจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่และแลกเปลี่ยนองค
กระท่อม เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงได้ถึง 15 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปไข่ ปลายแหลม โคนป้าน หูใบระหว่างก้านใบเป็นแผ่นคล้ายใบ ช่อดอกเป็นแบบช่อกระจุกแน่น ออกตามปลายกิ่ง มี 1-3 ช่อ ช่อกลางสั้นมาก แต่ละช่อประกอบด้วยดอกสีเหลือง กลีบเลี้ยงเป็นหลอดสั้น ปลายมี 5 แฉก กลีบดอกเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็น 5 หยัก เมล็ดมีปีก กระท่อมเป็นพืชที่อยู่ในสกุล Mitragyna หอพรรณไม้ กรมป่าไม้ รายงานไว้ว่าพืชในสกุลนี้ในประเทศไทยมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ 1) Mitragyna diversifolia (Wall ex G. Don) Havil. มีชื่อท้องถิ่นว่า กระท่อมขี้หมู กระทุ่มดง กระทุ่มนำ ท่อมขี้หมู ตุ้มน้ 2) Mitragyna hirsuta Havil. มีชื่อท้องถิ่นว่า กระทุ่มโคก ตุ้มเขา ทุ่มพาย 3) Mitragyna parvifolia Korth. มีชื่อท้องถิ่นว่า กระทุ่มใบเล็ก 4) Mitragyna rotundifolia (Roxb.) Kuntze มีชื่อท้องถิ่นว่า กระทุ่มเนิน แก่นเหลือง ตุ้มกว้าว 5) Mitragyna speciosa (Korth.) Havil. มีชื่อท้องถิ่นว่า กระท่อม ท่อม อีถ่าง กระท่อมมีหลายสายพันธุ์ถือเป็นความร่ำรวยทางชีวภาพ ในแต่ละพันธุ์มีความแตกต่างกันที่ลักษณะของใบ คือ พันธุ์ก้านแดงมีก้านและเส้นใบสีแดง พันธุ์แตงกวามีเส้
ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ประเทศไทยเริ่มมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 เสียงตอบรับด้วยความตื่นเต้นยินดีจากฝ่ายต่างๆ ก็ดังขึ้นทันที เพราะนั่นหมายความว่าจากนี้ไปการปลูกพืชกระท่อม การนำเข้า การส่งออกเชิงพาณิชย์ การขาย ในระบบอุตสาหกรรม รวมถึงการนำมาบริโภคได้อย่างเสรี ไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป ตามนโยบายรัฐบาล ต้องการผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สามารถส่งขายเชิงพาณิชย์ หรืออุตสาหกรรมได้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทย แต่ยังคงมีข้อห้ามในการนำพืชกระท่อมไปผสมกับสารเสพติดชนิดต่างๆ เช่น 4×100 ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย ส่วนทิศทางการสร้างรายได้หลังที่มีการ “ปลดล็อกพืชกระท่อม” ควรจะเป็นไปในรูปแบบไหน สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกควรเตรียมตัวอย่างไร สามารถหาคำตอบได้จาก บทสัมภาษณ์พิเศษ คุณนิพนธ์ สุขสะอาด เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ในฉบับนี้ ความเป็นมาของพืชกระท่อม กับพี่น้องชาวใต้ สืบเนื่องจาก วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเริ่มมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 ถือเป็นสัญญาณที่ดีให้กับพี่น้อ
หลังจากที่นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ฉบับ 753 ที่ผ่านมา ได้มีการกล่าวถึงกฎหมาย และทิศทางการสร้างรายได้ของพืชกระท่อมไปแล้วนั้น ในฉบับ 754 นี้ มาต่อกันในเรื่องของวิธีการปลูก และการเลือกสายพันธุ์มาปลูกให้เหมาะกับความต้องการของตลาด นายสรรเพชญ์ ทันราย กำนันตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช กำนันนักพัฒนาผู้ริเริ่มแนวคิดเพาะกล้าพันธุ์ไม้ เพื่อกระจายรายได้ให้กับชุมชน ด้วยการจ้างงาน และรับซื้อต้นพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ จากเกษตรกรในพื้นที่ รุกทำตลาดไม้ผลเสียบยอด จนกระทั่งได้มีกฎหมายปลดล็อกพืชกระท่อมขึ้น กำนันท่านนี้ก็ยังเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนคนในชุมชน หันมาสร้างรายได้จากพืชกระท่อม จากคนที่ไม่มีรายได้ ให้มีรายได้กว่าหลักพันบาทต่อวัน กำนันสรรเพชญ์ เล่าถึงที่มาของการริเริ่มสร้างรายได้จากพืชกระท่อม ว่า สืบเนื่องจากวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเริ่มมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 ส่งผลทำให้เกษตรกรในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมถึงตนได้มีความตื่นตัวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จนถึงขั้นได้มีการรวมกลุ่มในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนขึ
ในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ประเทศไทยเริ่มมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 เสียงตอบรับด้วยความตื่นเต้นยินดีจากฝ่ายต่างๆ ก็ดังขึ้นทันที เพราะนั่นหมายความว่าจากนี้ไปการปลูกพืชกระท่อม การนำเข้า การส่งออกเชิงพาณิชย์ การขาย ในระบบอุตสาหกรรม รวมถึงการนำมาบริโภคได้อย่างเสรี ไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป ตามนโยบายรัฐบาล ต้องการผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สามารถส่งขายเชิงพาณิชย์ หรืออุตสาหกรรมได้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทย แต่ยังคงมีข้อห้ามในการนำพืชกระท่อมไปผสมกับสารเสพติดชนิดต่างๆ เช่น 4×100 ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย ส่วนทิศทางการสร้างรายได้หลังที่มีการ “ปลดล็อกพืชกระท่อม” ควรจะเป็นไปในรูปแบบไหน สำหรับเกษตรกรที่ต้องการปลูกควรเตรียมตัวอย่างไร สามารถหาคำตอบได้จาก บทสัมภาษณ์พิเศษ คุณนิพนธ์ สุขสะอาด เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ในฉบับนี้ ความเป็นมาของพืชกระท่อม กับพี่น้องชาวใต้ สืบเนื่องจาก วันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเริ่มมีผลบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 ถือเป็นสัญญาณที่ดีให้กับพ