การเลี้ยงโค
คุณทองเตียง บริบาล อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 5 ตำบลส้มป่อย อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคอยู่ในจังหวัดศรีสะเกษ โดยเลี้ยงแบบครบวงจร คือ ทำการตลาดทั้งขายลูกพันธุ์และเลี้ยงเป็นโคขุนส่งขาย เรียกง่ายๆ ว่า เป็นงานที่สร้างเงินเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี คุณทองเตียง บริบาล และภรรยา คุณทองเตียง เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกเดิมทีมีอาชีพทางด้านการทำนา ตลอดจนปลูกหอมเพื่อเป็นอาชีพของครอบครัว แต่เนื่องจากสินค้าเกษตรจำพวกพืชไม่สามารถกำหนดในเรื่องของราคาได้ จึงได้มีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนมองหาสิ่งใหม่ๆ สร้างรายได้ให้มีเพิ่มมากขึ้น “ช่วงนั้นประมาณปี 2520 ช่วงนั้นเราก็ปลูกพืชอยู่ และก็มีควายอยู่ด้วย 1 ตัว เราก็เลี้ยงดูแลเรื่อยๆ พอโตเราก็ขายเอาเงินที่ได้มาต่อยอดซื้อมาเลี้ยงใหม่อีก คราวนี้ประมาณปี 2530 เราก็เริ่มเปลี่ยนจากควายมาเลี้ยงโคแทน ก็จะเป็นพวกพันธุ์บราห์มัน พันธุ์พื้นเมือง ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จดี ก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากพื้นที่ปลูกพืชมาเลี้ยงโคมากขึ้น โดยปัจจุบันนี้จะเป็นลูกผสมที่มีสายพันธุ์ชาร์โรเล่ส์มากขึ้นเพื่อให้เกิดความเจ้าเนื้อ ส่งขายให้กับพ่อค้าเขียงเนื้อ” คุณทองเตียง เล่าถึงเหตุกา
ในช่วงนี้เราจะเห็นจากสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่มีคนดังหลายท่านให้ความสนใจในเรื่องของการประกอบอาชีพเสริมทางการเกษตรมากขึ้น เพราะช่วงนี้เราจะเห็นว่าในประเทศไทยมีการระบาดของโควิด-19 จึงทำให้อาชีพหลักที่ทำอยู่อาจต้องหยุดชะงักจึงค่อนข้างที่จะส่งผลต่อรายได้ ทำให้อาชีพทางการเกษตรเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ไม่เป็นเพียงการสร้างรายได้เพียงอย่างเดียว แต่กับทำให้เกิดความสุขในงานทางการเกษตรเสียด้วยซ้ำไป คุณเจริญศักดิ์ โพธิ์ศรีชัย หรือ ลุงโทนี่ เป็นอีกหนึ่งคนดังที่หลายๆ คนในโลกโซเชียลรู้จัก ได้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องของการทำการเกษตรด้านปศุสัตว์ ทำให้ลุงโทนี่ได้มองหาทำเลการเลี้ยงโคเนื้ออยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะพื้นที่ในแถบนั้นค่อนข้างมีความสมบูรณ์ในเรื่องของอาหารที่จะให้โคเนื้อกินได้ จึงทำให้การเลี้ยงโคเนื้อไม่มีความลำบาก สามารถเป็นโคเนื้อที่มีคุณภาพส่งจำหน่ายได้ ลุงโทนี่ เล่าให้ฟังว่า เมื่อได้มาทำงานอยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครในระยะเวลานานๆ เริ่มเกิดแนวความคิดว่าอยากจะหาพื้นที่เพื่อทำการเกษตร โดยในช่วงนั้นเห็นทำเลเหมาะคือจังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะพื้นที่นี้มีการปลูกข้าวโพดกันจำนวนมาก ทำให้มั่นใจได
คุณอรัญญา อาษาราษฎร์ เจ้าของอรัญญาฟาร์ม ตั้งอยู่ที่บ้านหินลาด ตำบลท่าสองคอน อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ได้หันมาเลี้ยงโคอเมริกันบราห์มันเป็นอาชีพเสริม โดยอาชีพหลักที่ทำอยู่นั้นเป็นพยาบาล แต่ด้วยมีใจรักใจชอบที่อยากจะเลี้ยงโค จึงได้ใช้เวลาว่างจากงานประจำมาเลี้ยงโคในแบบที่เธอรักและเรียนรู้ที่จะพัฒนาการเลี้ยงไปเรื่อยๆ เพื่อต่อยอดเป็นธุรกิจในอนาคตของเธอเอง คุณอรัญญา เล่าว่า สมัยก่อนนั้นจะเน้นเก็บเงินแบบนำเงินเข้าฝากธนาคาร แต่เห็นว่าได้ผลตอบแทนน้อยจึงเริ่มซื้อโคเนื้อลูกผสมเข้ามาเลี้ยงก่อน พอเลี้ยงแล้วก็ได้ผลตอบแทนได้ไม่ดีนัก ต่อมาจึงได้มารู้จักกับการเลี้ยงโคเนื้ออเมริกันบราห์มันเลือดร้อย จึงได้เริ่มศึกษาการเลี้ยงอย่างจริงจัง และพอเลี้ยงออกมาผลกำไรถือว่าดีมาก ได้ผลตอบแทนมากกว่าการเลี้ยงโคเนื้อลูกผสม หลังจากนั้นมาเธอก็เลี้ยงโคเนื้ออเมริกันบราห์มันมาโดยตลอด สำหรับพื้นที่เพื่อแบ่งเลี้ยงโคเนื้ออเมริกันบราห์มันนั้น คุณอรัญญา บอกว่า จะแบ่งพื้นที่การเลี้ยงอย่างชัดเจนมีการแบ่งโรงเรือนนอน พร้อมกับแบ่งพื้นที่ปลูกหญ้าอาหารสัตว์ที่ชัดเจน ทำให้เธอสบายมากขึ้นในการจัดการ การเลี้ยงโคอเมริกันบราห์มันจึงทำเป็น
สวัสดีครับ เจอกันกับผม ธนากร เที่ยงน้อย เป็นครั้งแรกในคอลัมน์ “คิดใหญ่แบบรายย่อย The challenge of smallscale farmers” ที่ผมอาสามาเขียนประจำ คอลัมน์นี้ผมตั้งใจที่จะนำเสนอเรื่องราวของเกษตรกรรายย่อยที่มีแนวคิดก้าวหน้า มีวิธีการปฏิบัติที่น่าสนใจ เหมาะควรที่จะเสนอเป็นตัวอย่างให้แก่พี่น้องเกษตรกรท่านอื่นๆ พบกันครั้งแรกผมขออนุญาตเล่าที่มาที่ไป ว่าทำไมผมต้องเจาะจงนำเสนอเรื่องราวของเกษตรกรรายย่อย? คำตอบก็เนื่องมาจากข้อมูลมากมายทั้งของภาครัฐและเอกชน ชี้ตรงกันว่าเกษตรกรรายย่อยคือคนสำคัญ เช่น กรมส่งเสริมการเกษตรรายงานว่า “เกษตรกรรายย่อยถือเป็นเกษตรกรกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและเป็นกลุ่มที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าเกษตรกรหรือผู้ประกอบการรายใหญ่ เนื่องจากเกษตรกรรายย่อยนำรายได้มาใช้จ่ายในระดับชุมชนเกิดการหมุนเวียนของเงินตรา” หรือ FAO (2018) ที่รายงานว่า ผลผลิตอาหารในโลก ราว 80% ผลิตมาจากฟาร์มขนาดเล็กของครอบครัว และเกินกว่า 90% ของฟาร์มทั่วโลกเป็นฟาร์มขนาดเล็กที่เป็นธุรกิจของครอบครัว คำถามถัดมา ใครคือเกษตรกรรายย่อย? คำตอบที่เป็นประกาศของภาครัฐ เกษตรกรรายย่อยคือ เกษตรกรที่ทำนาไม่เกิน 50 ไร่ กรณีทำ
ปัจจุบันความสำเร็จของการทำเกษตรเกิดจากการมองถึงโอกาสในเรื่องของการประหยัดต้นทุนมากขึ้น เพราะการลดต้นทุนเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่จะทำให้สินค้าต่างๆ มีผลกำไรในการขายสินค้าแต่ละครั้ง เพราะถ้าหากไม่มีการคำนึงในเรื่องของการลดต้นทุนการผลิต ก็จะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงมีแต่เพิ่มภาระหนี้สิน หรือบางรายมีผลกำไรที่ไม่มากพอ แม้แต่เกษตรกรที่ทำปศุสัตว์เองในเวลานี้หลายๆ ครัวเรือนที่ได้มีการใส่ใจในเรื่องการลดต้นทุนมากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้แล้ว ยังสามารถมีเงินเก็บเพื่อใช้จ่ายในคราวจำเป็น อย่างเกษตรกรหลายรายได้มีการประหยัดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ในการขายแต่ละครั้งมีรายได้เพียงพอ เหมือนเช่น คุณเกษร สุขสุคนธ์ อยู่บ้านเลขที่ 257 หมู่ที่ 7 ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ยึดอาชีพเลี้ยงโคลูกผสมเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ โดยเน้นประหยัดต้นทุนด้วยการนำไปเลี้ยงตามทุ่งหญ้าทุ่งนา ทำให้สามารถประหยัดต้นทุนในเรื่องค่าอาหาร สามารถมีกำไรจากการขายได้เป็นอย่างดี คุณเกษร เล่าให้ฟังว่า ทำอาชีพเสริมเกี่ยวกับเลี้ยงโคเนื้อมากว่า 10 ปี เพราะสมัยก่อนนั้นยังไม่ได้คิดที่จะทำงานอาชีพทางด้านนี้ ต่อมาได้รับ
การทำปศุสัตว์ในปัจจุบันมีผู้สนใจนำมาเลี้ยงเพื่อสร้างเป็นอาชีพเสริมมากขึ้น เพราะการทำปศุสัตว์มีการปรับการเลี้ยงให้สอดคล้องกับการทำอาชีพในปัจจุบันคือ ไม่จำเป็นต้องยึดทำเพื่อเป็นอาชีพหลัก แต่สามารถทำเป็นอาชีพเสริมรายได้ควบคู่ไปกับการทำงานประจำที่ตนเองทำได้ นอกจากจะช่วยสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ผู้เลี้ยงยังได้ทำในสิ่งที่รักและเกิดความเพลิดเพลินกับสิ่งที่ได้ลงมือทำด้วยสองมือของตนเอง โดยไม่ต้องเลือกว่าจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งยุคนี้สามารถทำหลายๆ อย่างให้เกิดรายได้ที่มากขึ้น คุณศุภัสสร มั่นคง อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านยาง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ได้ยึดการเลี้ยงโคเนื้อลูกผสมชาโรเลส์เป็นอาชีพเสริม โดยที่เขาสามารถทำควบคู่ไปกับงานประจำได้ ทำให้เกิดรายได้ทั้งสองทาง และสิ่งที่ได้มากกว่ารายได้นั้นก็คือความสุขของการได้เลี้ยงสัตว์ที่เขารัก คุณศุภัสสร เกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงอายุ 27 ปี เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานอยู่บริษัทเอกชน โดยผู้ที่ริเริ่มนำโคเนื้อมาเลี้ยงนั้นคือคุณแม่ของเขา โดยสมัยนั้นเขาได้เห็นกิจกรรมการเลี้ยงต่างๆ พร้อมทั้งชอบดูเวลาที่โคออกลูกใหม่ๆ ลูกโคมีความน่ารัก ทำใ
ปัจจุบันการเลี้ยงโคในประเทศไทยยังมีความนิยมอย่างกว้างขวาง เพราะผู้เลี้ยงนอกจากจะสามารถทำเงินจากการเลี้ยงโคได้แล้ว ยังมีการจัดเวทีประกวดหลากหลายประเภท ที่ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถนำโคไปประชันขันแข่งในการกวาดรางวัลในประเภทต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งสายพันธุ์ของโคที่เลี้ยงก็มีหลากหลายตามความชื่นชอบของผู้เลี้ยงที่แตกต่างกันไป เช่น โคพันธุ์พื้นเมือง โคพันธุ์ชาโรเลส์ โคพันธุ์กำแพงแสน โคพันธุ์อเมริกันบราห์มัน ฯลฯ และตลอดไปถึงโคพันธุ์ลูกผสมต่างๆ ซึ่งการเลือกเลี้ยงแต่ละสายพันธุ์ขึ้นอยู่ที่ความชื่นชอบ และการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านนั้นๆ ของผู้เลี้ยง โคพันธุ์อเมริกันบราห์มัน เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยง โดยส่วนมากจะเลี้ยงให้เป็นแบบเลือดร้อยโดยไม่นำสายพันธุ์อื่นเข้ามาผสม ด้วยเอกลักษณะประจำพันธุ์ที่โด่ดเด่น คือเป็นโคที่มีรูปร่างใหญ่ปานกลาง ตะโหนกใหญ่พอประมาณ ขนสั้นเกรียนมีสีขาวเทาและสีแดง และที่สำคัญเจริญเติบโตได้ดี หากินเก่ง เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศและโรคได้ดี คุณวิสิทธิ์ สุดใจ อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 3 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นเกษตรกรที่เลี้ยงโคสายพันธุ์อเมริกันบราห์
ปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่กำลังหาคำตอบและหาความสุขให้กับตัวเอง ด้วยการกลับมาทำงานอยู่กับครอบครัวมากขึ้น โดยอาชีพหลักที่ลงมือทำคือ การทำเกษตร เพราะมีหลายท่านส่วนใหญ่จะมีที่ดินเป็นของตนเอง จึงได้กลับมาทำการพัฒนาที่ดินให้มีการทำเกษตรที่ครบวงจร สามารถสร้างรายได้พร้อมกับไม่ต้องอยู่ห่างครอบครัวไปทำงานตามที่ไกลๆ การเป็นนายตัวเองด้านการเกษตรคือสิ่งที่ตอบโจทย์ คุณอาทิตย์ แป้นเมือง อยู่บ้านเลขที่ 171 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองบุนนาก อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาสัตวศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และศึกษาปริญญาโท MPA. กรุงเทพธนบุรี เขาได้มองหาความสุขให้กับตัวเองด้วยการมาทำการเกษตรในแบบที่เขาได้ร่ำเรียนมา คือการทำฟาร์มปศุสัตว์ผสมผสานกับการปลูกพืชผักสวนครัว ตามแนวหลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงทำให้เขาพบตัวตนว่าชอบทำการเกษตรและมีความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัว ก่อนมาทำเกษตร ผ่านงานรับราชมา 8 ปี คุณอาทิตย์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีแล้วได้ไปทำงานบริษัทเอกชนอยู่ประมาณ 1 ปี จากนั้นได้สมัครสอบรับราชการทหารเพื่อทำตามความตั้งใจของคุณพ่อคุณแม่ เมื่อสอบติด
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ตั้งเป้ารายได้หมื่นล้าน เร่งขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ทุ่มงบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตนมพาสเจอไรซ์ โดยขยายไลน์ผลิตที่โรงงานนม อ.ส.ค. ภาคเหนือตอนบน ตำบลห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ดร. ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า ในปี 2562 อ.ส.ค. ตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากปีงบประมาณ 61 ที่ทำรายได้ 9,560 ล้านบาท อ.ส.ค. ทุ่มงบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตนมพาสเจอไรซ์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมเย็นที่โรงงานนม อ.ส.ค. ภาคเหนือตอนบน โดยนำไปปรับปรุงในส่วนของโรงงาน ระบบการผลิต และเครื่องจักรใหม่ ซึ่งในปัจจุบันการผลิตผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรซ์และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมเย็นมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การลงทุนในการปรับปรุงและการขยายไลน์ผลิตนมพาสเจอไรซ์และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมเย็นที่โรงงานนม อ.ส.ค. จังหวัดเชียงใหม่ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อจะผลักดันให
สวัสดีครับ ช่วงหนึ่งของชีวิตผมต้องตระเวนเยี่ยมฟาร์มวัว ทัวร์ฟาร์มควายในหลายๆ จังหวัดของประเทศไทย ทุกครั้งที่ผ่านมาเยี่ยมฟาร์มวัวในเขตภาคตะวันตก ผมมักจะได้ยินพี่น้องเกษตรกรพูดถึงสัตวแพทย์หรือหมอคนหนึ่งอยู่เสมอ หมอคนนี้เปรียบเสมือนผู้เข้ามาพัฒนาความรู้และเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวอย่างใส่ใจ ไม่ว่าฟาร์มจะอยู่ไกลหรือไปยากแค่ไหน ชื่อของหมอคนนี้ก็เข้าไปถึงก่อนที่ผมจะเข้าไปเสมอ หมอคนนั้นชื่อว่า “หมอโอ๊ต” วัวคือมิตร ปะเหมาะเคราะห์ดีวันหนึ่งผมมีโอกาสได้พบกับ หมอโอ๊ต หรือ อาจารย์ ดร.น.สพ.สราวุฒิ ทักษิโณรส ซึ่งมีตำแหน่งอาจารย์ ประจำโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า ปศุปาลัน ภาควิชาเวชศาสตร์คลินิกและการสาธารณสุข คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นนายสัตวแพทย์ที่จบการศึกษาปริญญาเอก ด้านไบโอเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัย Kyoto Sangyo ประเทศญี่ปุ่น หมอโอ๊ตเริ่มเล่าให้ฟังว่า สมัยเรียนปริญญาตรีที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พยายามคลำหาทาง หาความถนัดของตัวเอง จนเรียนถึงปีที่ 2 ได้ไปฝึกงานด้านวัวนม เริ่มรู้สึกว่าวัวเป็นมิตร จึงรู้สึกว่าจะต้องจบไปทำงานด้านวัว จนเริ่มทำงานปี 2549 ที่โรงพยาบาลปศุสั