จังหวัดปัตตานี
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่อ่าวปัตตานี จังหวัดปัตตานี นำโดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมประเด็นเป้าหมายด้านการพัฒนาสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ คณะผู้ทรงคุณวุฒิ วช. นายธีรวัฒน์ บุญสม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม และสื่อมวลชน เยี่ยมชมผลการดำเนินงานโครงการ “การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเชิงพื้นที่ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตฐานรากชุมชนชายฝั่ง โดยการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย : กรณีศึกษาอ่าวปัตตานี จังหวัดปัตตานี” ซึ่งเป็นโครงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัย จาก วช. โดยมี นายมนูญ ศิริธรรม ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ผศ.ดร.อรุณีวรรณ บัวเนี่ยว รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพันธกิจสังคม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี รศ.ดร.ซุกรี หะยีสาแม แห่ง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หัวหน้าโครงการวิจัย และคณ
เชื่อว่า หลายคนชอบกินปลากุเลาเค็ม โดยเฉพาะเมนูข้าวผัดปลากุเลาเค็ม ทอดมันปลากุเลาเค็ม สปาเกตตี้ปลากุเลาเค็ม หลนปลากุเลาเค็ม คะน้าปลากุเลาเค็ม ผัดผักบุ้งปลากุเลาเค็ม กุ้งสับผัดปลากุเลาเค็ม ยำปลากุเลาเค็มทอด หากมีเมนูอาหารเหล่านี้วางตรงหน้า มั่นใจว่าหลายคนคงขอเติมข้าวสวยอีกหลายๆ รอบ เพื่อลิ้มลองรสชาติความอร่อยของปลากุเลาให้สะใจกันสักมื้อ วิถีชีวิตปลากุเลา “กุเลา” เป็นปลาที่ชอบอยู่เป็นฝูง มักหากินหน้าดินโคลน ตั้งแต่ริมชายฝั่งทะเลไปจนถึงบริเวณห่างจากฝั่งประมาณ 5 กิโลเมตร พบมากบริเวณปากอ่าวปัตตานี ปากคลองต่างๆ กุเลาเป็นสัตว์น้ำที่ชอบล่าเหยื่อ โดยเฉพาะสัตว์น้ำตัวเล็กๆ เช่น ปลาหลังเขียว ปลากะตัก กุ้งเคย ฯลฯ นับเป็นความโชคดีที่ได้พบเห็นปลากุเลาในทะเลปัตตานี เพราะเป็นดัชนีชี้วัดว่า ท้องทะเลปัตตานียังคงมีความอุดมสมบูรณ์ ระบบห่วงโซ่อาหารในทะเลยังเป็นไปอย่างครบวงจร มีสัตว์น้ำขนาดเล็กที่เป็นแหล่งอาหารของปลากุเลาและปลาใหญ่ชนิดอื่นๆ ชาวประมงพื้นบ้านปัตตานียังคงใช้เครื่องมืออวนปลากุเลาในการจับปลากุเลา ซึ่งเป็นอวนที่ต้องพึ่งพาการไหลของกระแสน้ำเป็นหลัก ช่วงเวลาที่ชาวประมงพื้นบ้านมักจับปลากุเลาได้ คือช่ว
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์อิสลามปัตตานี จำกัด พร้อมทั้งเป็นประธานเปิดงาน ครบรอบ 33 ปี วันสถาปนาสหกรณ์อิสลาม “33 TAHUN KOPERASI” ณ สำนักงานสหกรณ์อิสลามปัตตานี จำกัด ตำบลตะลุโบะ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายปรีชา ชนะกิจกำจร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นางรอซนานี สันหมุด สหกรณ์จังหวัดปัตตานี นายอาแว เจ๊ะมะ ประธานกรรมการสหกรณ์ฯ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรให้การต้อนรับ โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบโล่ห์ที่ระลึกงานครบรอบ 33 ปี วันสถาปนาสหกรณ์อิสลามปัตตานี จำกัด ให้กับผู้แทนหน่วยงานราชการ และหน่วยงานเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของสหกรณ์ฯ จำนวน 13 ราย และรับฟังปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “กว่าจะมาเป็นสหกรณ์ที่ปลอดดอกเบี้ย” โดย นายเด่น โต๊ะมีนา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเป็นผู้ก่อตั้งสหกรณ์อิสลามปัตตานี จำกัด จากนั้น รมช.มนัญญาได้ร่วมพิธีเปิดมัสยิดในบริเวณสำนักงานสหกรณ์อิสลามปัตตานี จำกัด
อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม ได้แก่ การทำสวนยางพารา ลองกอง เงาะ ทุเรียน ทำนา ทำไร่ ประมงน้ำจืด (อาชีพตามฤดูกาล) ฯลฯ รายได้เฉลี่ยของประชากร 41,515 บาท/คน/ปี ภายในชุมชนแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ คือ โครงการศูนย์ศิลปาชีพบ้านพิเทน อยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ที่ผ่านมา สำนักงาน กศน.จังหวัดปัตตานี เข้าไปพัฒนาคุณภาพการศึกษา/พัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้านให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมอาชีพตามบริบทของพื้นที่และวิถีชุมชน เผยแพร่ความรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ชาวบ้านใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต อำเภอทุ่งยางแดง มีสินค้าจากภูมิปัญญาชาวบ้านที่สำคัญหลายชนิด ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มปักผ้าคลุมผม กลุ่มทอผ้าด้วยกี่กระทบ การแสดงปัญจสีลัต คณะลิเกฮูลู มีดกรีดยางพารา และ “สาคูรสอร่อย” จากป่าสาคูตามธรรมชาติ ป่าสาคู มีความสำคัญกับวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างมาก เพราะใช้เป็นพืชอาหาร เปลี่ยนต้นไม้เป็นที่อยู่อาศัย และสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชากรในพื้นที่พอสมควร ซึ่ง กศน.อำเภอทุ่งยางแดง มีส่วนร่วมใน
กศน.ปัตตานี มอบหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เมื่อวันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2563 นายอุดร สิทธิพาที ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยผู้บริหารในสังกัด ร่วมมอบหน้ากากอนามัย จำนวน 8,000 ชิ้น และเจลล้างมือ จำนวน 200 หลอด เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี( นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์) ณ ห้องรับรองสำนักงานผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี
ครูพี่โอ๊ะ ยกนิ้วให้ ชาว กศน. ร่วมด้วยช่วยกันจัดกิจกรรมป้องกันการแพร่โรคระบาด Covid-19 ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรค Covid-19 ในประเทศไทย ว่า พยายามติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และได้ฝากความห่วงใยไปยังชาว กศน.ทั่วประเทศ ขอให้ดูแลและป้องกันตัวเอง พร้อมติดตามข่าวสารของทางราชการอย่างต่อเนื่อง และขอแสดงความชื่นชม ชาว กศน.ทั่วประเทศ ที่นำนโยบายของรัฐมนตรีไปสู่การปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จนเกิดผลเป็นรูปธรรมในหลายพื้นที่ อาทิ กศน.ปัตตานี ช่วยทำหน้ากากอนามัยแจกประชาชนที่โรงพยาบาล, กศน. กทม. จัดอบรมทำเจลล้างมือ เป็นต้น ด้าน กศน. ปัตตานี สอนทำหน้ากากอนามัยแจกประชาชน ณ โรงพยาบาลจังหวัดปัตตานี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 นายอุดร สิทธิพาที ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. จังหวัดปัตตานี มอบหมายให้ทีมวิทยากรผู้สอน กศน. อำเภอเมืองปัตตานี สอนทำหน้ากากอนามัยแก่จิตอาสาและผู้สนใจ เพื่อแจกให้กับประชาชน ณ โรงพยาบาลจังหวัดปัตตานี
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธีปิดและมอบวุฒิบัตรผู้ผ่านการอบรม โครงการประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย หลักสูตร “อบรมวิทยากรประวัติศาสตร์ชาติไทย” ของสำนักงาน กศน. จังหวัดปัตตานี ณ ห้องพญาตานี 1 โรงแรมเซาเทิร์น วิว จังหวัดปัตตานี โดยมี นายอุดร สิทธิพาที ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. จังหวัดปัตตานี รายงานผลการดำเนินโครงการ
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานีและตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตร กรป.กลางมะปรางมันปัตตานี จำกัด ตำบลช้างไห้ตก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยมี นางรอชนานี สันหมุด สหกรณ์จังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดปัตตานี บุคลากรสำนักงานสหกรณ์จังหวัดปัตตานี คณะกรรมการสหกรณ์และสมาชิก ให้การต้อนรับ สหกรณ์การเกษตร กรป.กลางมะปรางมันปัตตานี จำกัด สมาชิก 556 คน ทุนดำเนินงาน 21,570,448 บาท ดำเนินงาน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเงินรับฝากจากสมาชิก ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย และธุรกิจการรวบรวมน้ำยางสด โดยเป็นกลุ่มวิสาหกิจแปลงใหญ่ยางพารา (Mega Farm Enterprise) โดยได้ดำเนินธุรกิจรวบรวมน้ำยางสด และยางก้อนถ้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิก และเกษตรกรอีกทางหนึ่ง ในปี 2562 มีสมาชิกร่วมโครงการแปลงใหญ่ยางพารา 157 ราย เนื้อที่ 1,300 ไร่ ปริมาณการรวบรวม จำนวน 22.173 ตัน ซึ่งการทำแปลงใหญ่ยางพารา ช่วยให้เกษตรกรได้รวมกลุ่มกันผลิตยางพาราและรวบรวมผลผลิตจำหน่ายสู่ตลาด ช่วยลด
ครั้งหนึ่งที่โรงเรียนสายบุรี “แจ้งประชาคาร” อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มีโอกาสนำบูดูอัดแท่งสำเร็จรูปและผง ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินลงพื้นที่ อำเภอสายบุรี และเสด็จเยี่ยมโรงเรียนสายบุรี “แจ้งประชาคาร” เมื่อปี 2553 ซึ่งได้พระราชทานคำแนะนำให้ปรับปรุงรสชาติ ด้านบรรจุภัณฑ์ การเก็บรักษา และกำหนดวันหมดอายุ อาจารย์เสรี ยีดอรอแม ผู้อำนวยการโรงเรียนสายบุรี “แจ้งประชาคาร” เล่าถึงเหตุการณ์สำคัญและที่มาว่า จากครั้งนั้นทางเราน้อมนำรับสั่งได้ปฏิบัติตามพระราชกระแสอย่างครบถ้วน โดยการรวบรวมปัญหาในขั้นตอนการผลิตและปรับปรุงพัฒนาอยู่หลายครั้ง ผลิตภัณฑ์นี้มาจากการแปรรูปการผลิตน้ำบูดู ไปอีกขั้นตอนหนึ่งเป็นการทำให้เป็นบูดูก้อน หรือ อัดแท่ง ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ และได้สร้างชื่อเสียงให้กับทางโรงเรียนมานานแล้ว อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เป็นแหล่งทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของชายแดนภาคใต้ ด้วยความเป็นแหล่งอาหารวัตถุดิบอาหารทะเลที่มีต้นทุนทรัพยากรสูง เช่น แหล่งปลาทะเลต่างๆ เช่น ปลากะตัก ปลาทู ปลาหมึก กุ้ง หอย นานาชนิด ทรัพยากรและผลผลิตที่ไ
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงานร่วมต้อนรับ นายอับดุล สารีเต๊ะ อายุ 45 ปี พนักงานขับรถเก็บขยะขององค์การบริหารส่วนตำบลสะกำ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี โดยออกวิ่งจาก อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ถึง จังหวัดเชียงราย ผ่าน 55 จังหวัด รวมระยะทาง 4,200 กิโลเมตร ซึ่งได้วิ่งมาราธอนมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 เพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเงินตามโครงการ “เราทำดีเพื่อพ่อ จิตอาสาน้ำใจไทย สู่จังหวัดชายแดนใต้” โดยระดมเงินสนับสนุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ช่วยเหลือโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอำเภอชายแดนสงขลา ได้แก่ โรงพยาบาลนาทวี จังหวัดสงขลา โรงพยาบาลยะหริ่ง และโรงพยาบาลมายอ จังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้ร่วมสมทบทุน จำนวน 62,300 บาท พร้อมร่วมอำนวยความสะดวกในการวิ่งมาราธอนตลอดระยะเส้นทาง ณ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ บางเขน เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563