พายุ
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุ ‘ปาบึก’ (PABUK)” ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 04 มกราคม 2562 เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (4 ม.ค. 62) พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือที่ละติจูด 7.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 102.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชในช่วงค่ำของวันนี้ (4 ม.ค. 62) โดยมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วง วันที่ 4-5 มกราคม 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ มีผลกระทบ ดังนี้ ในช่วง วันที่ 4-5 มกราคม 2562 ภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา
วาฟ-รอม เผย ‘พายุปาบึก’ ออกอาละวาดแล้ว! เริ่มที่จังหวัดชายแดนใต้ และ สงขลา! เผย ‘พายุปาบึก’ ออกอาละวาดแล้ว! – เวลา 10.00 น. วันที่ 3 ม.ค. แบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) รายงานเรื่องการเฝ้าระวัง พายุโซนร้อน “ปาบึก” ว่า จะเคลื่อนตัวผ่านอ่าวไทยตอนล่างและมีแนวโน้มเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านลงไปสู่ทะเลอันดามัน ส่งผลให้ภาคใต้จะเกิดฝนตกหนัก ถึงหนักมาก เป็นบริเวณกว้าง ในช่วง วันที่ 3-6 มกราคม โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล วาฟ ระบุว่า ให้มีการเฝ้าระวัง คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น และอาจเกิดคลื่นซัดฝั่งกำลังแรง ความสูงคลื่นประมาณ 3-5 เมตร รวมทั้งระดับน้ำทะเลยกตัวขึ้นสูง 3 เมตร ทั้งนี้ พายุโซนร้อน “ปาบึก” บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีแนวโน้มเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านลงไปสู่ทะเลอันดามันต่อไป กลุ่มเมฆฝนด้านหน้าของพายุปาบึก ได้เคลื่อนตัวเข้าปกคุลมบริเวณภาคใต้ตอนล่างแล้
วันนี้ วันที่ 3 มกราคม นายไพโรจน์ คำทอน ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากมีประกาศเตือนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ลมกระโชกแรงจากอิทธิพลของพายุ “ปาบึก” ที่จะส่งผลกระทบต่อหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วงวันที่ 3-5 มกราคมนี้ ในส่วนของอ่างเก็บน้ำปราณบุรี ปัจจุบันมีปริมาณน้ำกักเก็บกว่า 353 ล้าน ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากความจุ 391 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 90.3 ของความจุอ่าง จึงจำเป็นต้องปรับแผนบริหารจัดการน้ำในอ่างให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม เพื่อเตรียมพร้อมรับมวลน้ำใหม่ที่จะไหลเข้าอ่างภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากมีฝนตกหนัก ขณะนี้ได้เพิ่มการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำปราณบุรี ที่อัตรา 35 ลบ.ม. ต่อวินาที และจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำอีก ในช่วงวันที่ 4-6 มกราคม ในอัตรา 75 ลบ.ม. ต่อวินาที 115 และ 120 ตามลำดับ สำหรับการระบายน้ำจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปราณบุรีล้นตลิ่ง
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้อำนวยการกลางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) กล่าวว่า กอปภ.ก. ได้ติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำท่า และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า ในช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมา หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก ดินเริ่มชุ่มน้ำ อาจก่อให้เกิดดินโคลนถล่ม กอปรกับประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า พายุโซนร้อน “เบบินคา” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน จะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศลาว ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 15-18 สิงหาคม 2561 บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และอาจมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ คลื่นลมทะเลสูง 2-4 เมตร กอปภ.ก. จึงได้สั่งการให้จังหวัดเสี่ยงภัย แยกเป็น พื้นที่เฝ้าระวังดินโคลนถล่มเป็นพิเศษ 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ระนอง และพังงา พื้นที่เฝ้าระวังอุทกภัยและดินโคลนถล่ม 54 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 17 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร ตาก นครสวรรค์ และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหน
นายพงศ์ชาติ เชื้อหอมหัวหน้าศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว คณะทำงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาลิงในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ นำอาหารจำพวกผลไม้หลากหลายชนิดไปส่งให้ลิงแสมที่เกาะปายู ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง พร้อมทั้งสังเกตและติดตามพฤติกรรมของลิงแสม หลังจากที่มีการทำหมันและปล่อยสู่ธรรมชาติบนเกาะปายู เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา นายพงศ์ชาติ เปิดเผยว่า จากการสังเกตุพบลิงแสมที่อยู่บริเวณชายป่า ชายหาด และโขดหินรอบเกาะ ประมาณ 20 ตัว ทุกตัวมีสุขภาพแข็งแรง อ้วนท้วนสมบูรณ์ ขณะที่ตัวอื่นๆ นั้นจากการสังเกตุพบว่า มีการปีนป่ายอยู่ตามต้นไม้ออกหากินเองตามธรรมชาติ “การนำอาหารไปให้ครั้งนี้สืบเนื่องจากที่จังหวัดภูเก็ตมีมรสุม ทำให้คลื่นลมแรงต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ อาจส่งผลให้ลิงออกหากินอาหารตามธรรมชาติ เช่นกุ้ง หอย ริมชายหาดได้ยากลำบาก จึงต้องนำอาหารไปเสริมพร้อมทั้งทำการสำรวจดูประชากร และความสมบูรณ์ของลิง ซึ่งพบว่าลิงปรับตัวอยู่ได้เองตามธรรมชาติและลงมารับอาหารที่นำไปให้น้อยลง ไม่ต้องพึ่งพาอาหารที่นำไปเสริม ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ค่อนข้างดี”นายพงศ์ชาติ ที่มา : มติชนออนไลน์
วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศ ฉบับที่ 15 เรื่อง “พายุโซนร้อน “เบบินคา”” เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (14 ส.ค. 61) พายุโซนร้อน “เบบินคา” (BEBINCA) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 20.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เกือบไม่เคลื่อนที่ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน และประเทศลาวในช่วงวันที่ 16-17 สิงหาคม 2561 โดยจะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงดินโคลนถล่มไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร และอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคต
มรสุมถล่มทั่วไทย กรมอุตุฯ เตือนวันนี้ฝนตกหนักทั่วประเทศ ร้อยละ 70 ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก จนถึง วันที่ 9 ส.ค. นี้ ภาคใต้มีคลื่นสูง 3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง มรสุมถล่มทั่วไทย / เมื่อวันที่ 7 ส.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึง วันที่ 9 สิงหาคม 2561 ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณท
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประชุม “ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต” โดยเปิดเผยว่า สทนช.ตั้ง “ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต” ขึ้นตามคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีคำสั่งให้เปิดศูนย์เฉพาะกิจติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้เชิญผู้แทนจาก 9 หน่วยงาน อาทิ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา เป็นต้น วางแผนบริหารจัดการน้ำร่วมกัน เนื่องจากขณะนี้มีฝนตกจำนวนมาก ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำมากกว่าเกณฑ์ควบคุมที่กำหนดไว้ 80-100 % แบ่งเป็น เขื่อน ขนาดใหญ่ 12 แห่ง และขนาดกลาง 103 แห่ง ช่วงปลายเดือนส.ค.นี้คาดการณ์ว่าจะมีพายุพัดผ่านเข้ามาในไทยผ่านภาคอีสานตอนบน และภาคเหนือตอนบน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดลำน้ำโขง และฝั่งภาคตะวันตก อาทิ จังหวัด ตาก เพชรบุรี อีกระลอก ดังนั้นที่ประชุมจึงมอบหมายให้การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกรมชลประทาน เร่งระบายน้ำหรือพร่องน้ำออกจากเขื่อนให้มากที่สุดภายใน 10 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนมีปริมาณน้อย เพื่อรองรับปริมาณฝนตกหนักในช่วงกลางเดือนส.ค.เป็นต้นไป โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 กรกฎาคม 2561) ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว นับเป็นวันที่ 3 ล่าสุดวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ อยู่ที่ระดับ 10.24 เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ (23 กรกฎาคม 2561) ถึง 1.94 เซนติเมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 1.96 เมตร และพรุ่งนี้ (25 กรกฎาคม 2561) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากน้ำทางตอนเหนือ คือ ที่สถานีเชียงคาน จ.เลย วันนี้ยังเพิ่มขึ้น 15 เซนติเมตร ซึ่งระดับน้ำโขงวันนี้เป็นสถิติสูงสุดในรอบปี และได้เริ่มหนุนเข้าในลำห้วยสาขา ทำให้ลำห้วยสาขาที่มีประตูปิด-เปิดน้ำต้องปิดประตูทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำโขงหนุนเข้าไปท่วมพื้นที่การเกษตรทางตอนใน ล่าสุด นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสถานการณ์น้ำโขง และได้ตรวจการปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 ประตู ของโครงการห้วยหลวง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำในแม่น้ำโขงไหลเข้าในลำห้วยหลวงไปท่วมพื้นที่ทางการเกษตรที่อยู่ใกล้เคียง ทั้ง จ.หนองคาย และ จ.อุดรธานี กว่า 3 หมื่นไร่ พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 15 เครื่อง ไว้สูบน้ำในลำห
กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกชุก เตือน 33 จังหวัด ฝนหนัก ภาคใต้มีคลื่นสูงและฝนยังคงตกหนัก ร้อยละ 80 ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ระบุ พายุโซนร้อน “มาเรีย” ไม่มีส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ฝนหนัก / เมื่อวันที่ 12 ก.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมง ข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-4 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง จนถึง วันที่ 15 กรกฎาคม 2561 อนึ่ง พายุโซนร้อน “มาเรีย” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นอยู่บริเวณมณฑลเจียงซี ประเทศจีน พายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ประชาชนที่จะเดินทางไปมณฑลเจียงซี