พืชอายุสั้น
ที่บ้านบูโล๊ะ หมู่ที่ 4 ตำบลท่าแพ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล บนพื้นที่ 16 ไร่ กลางสวนยางพาราต้นใหญ่ที่ล้อมรอบ เกษตรกรรุ่นใหม่ยังสมาร์ทประจำอำเภอท่าแพ ได้ลงมือปลูกแตงโมพันธุ์ตอปิโดแซมสวนยางกล้าอ่อน โดยขณะนี้ได้ให้ผลผลิตขนาดใหญ่พร้อมเก็บเกี่ยว หลังลงมือปลูกเพียง 65 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว การปลูกแตงโมบนพื้นที่ขนาดใหญ่ ด้วยการใช้ระบบการปลูกโดยใช้พลาสติกคลุมดิน ให้น้ำ ปุ๋ย ผ่านระบบน้ำใต้ผ้ายางพลาสติก เป็นชุดความรู้ที่ น้องด๊ะ หรือ นางสาววิลาวรรณ เปรมใจ อายุ 26 ปี บุตรสาวคนที่ 3 ของ นายก อบต.ท่าเรือ ที่หลงใหลในอาชีพเกษตร จบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิชาเอกพืชผัก ได้เรียนรู้และศึกษาจนนำมาซึ่งการลงมือทำ น้องด๊ะ อายุ 26 ปี เกษตรกรรุ่นใหม่ หรือยังสมาร์ทฟาร์มอำเภอท่าแพ หลังจบการศึกษาจากแม่โจ้กลับบ้าน ลงมือทำการเกษตรทันทีที่โค่นยางพาราแก่ เพื่อปลูกแตงโมบนพื้นที่ 16 ไร่แซมต้นยางพาราที่ปลูกใหม่ เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากที่เกษตรกรหลายคนไม่กล้าปลูกเพราะกลัวปัญหานานาและในอำเภอท่าแพนับเป็นเจ้าแรกที่ปลูกแตงโมแปลงใหญ่สุด ด้วยเกษตรกรรุ่นใหม่จนประสบความสำเร็จ น้องด๊ะ ยังสมาร์ทฟาร์ม
ชาวโคราช ฮิตปลูก กะหล่ำปลี รายได้งาม ไร่ละแสน เผยเป็นพืชอายุสั้น เก็บเกี่ยวได้เร็ว ได้เงินไว ต่างจากพืชเชิงเดี่ยวที่เคยปลูก อย่าง มัน และ อ้อย นครราชสีมา – วันที่ 17 มกราคม 2567 เกษตรกรส่วนหนึ่งที่บ้านใหม่สมบูรณ์ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา เริ่มปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกพืช จากการทำเกษตรแบบเชิงเดี่ยว ปลูกมันสำปะหลังหรืออ้อย หันมาปลูกพืชอายุสั้น อย่างเช่น กะหล่ำปลี กันเป็นจำนวนมาก หลังมีผู้ทดลองปลูกแล้วได้ผลดี และยังมีตลาดใกล้บ้าน อย่างตลาดดอนแขวน เป็นจุดรับซื้อและกระจายผลผลิตทางการเกษตร ทั้งผักและผลไม้ อยู่ใกล้ๆ บ้านอีกด้วย ทำให้เกษตรกรไม่ต้องแบกรับภาระค่าขนส่งที่สูงมากนัก และมั่นใจว่าผลผลิตที่ออกมาจะมีผู้รับซื้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุดตอนนี้ มีเกษตรกรในบ้านใหม่สมบูรณ์ เปลี่ยนมาปลูกกะหล่ำปลีส่งจำหน่าย แทนการปลูกมันสำปะหลังและอ้อยแล้วกว่า 10 ราย แถมยังปลูกผักอายุสั้นอย่างอื่นอีกกว่า 10 ชนิด เป็นการสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น นางพวงเพ็ญ ชโลมกลาง อายุ 42 ปี หนึ่งในเกษตรกรบ้านใหม่สมบูรณ์ กล่าวว่า ตนเองมีพื้นที่เพาะปลูก 4 ไร่ ก่อนหน
ผักชีฝรั่ง เป็นผักและสมุนไพรไทยที่นิยมนำมาปรุงอาหารในหลากหลายเมนู โดยเฉพาะอาหารอีสาน เนื่องจากใบมีรสชาติจืด แต่มีกลิ่นหอมแรง สามารถปรับปรุงกลิ่นอาหารให้ชวนรับประทานมากขึ้น ผักชีฝรั่ง เป็นพืชอายุสั้น ใช้เวลาปลูกประมาณ 4 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว โดยเกษตรกรจะปลูกในโรงเรือนความสูงประมาณ 1.70-2.00 เมตร ด้านบนจะมุงตาข่ายพรางแสง ให้แสงส่องผ่านได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ โดยการปลูกผักชีฝรั่งจะใช้เมล็ด ปลูกระบบร่องน้ำจึงจะได้ผลผลิตดี โดยหน้าร่องควรกว้าง 6 เมตร หรือ 3 วา ร่องน้ำกว้าง 1 เมตร ลึก 1 เมตร ส่วนความยาวแล้วแต่พื้นที่ และหลังจากหว่านเมล็ดลงไปแล้ว 10- 15 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นกล้า ซึ่งในช่วงนี้จะต้องดูแลกำจัดวัชพืช รดน้ำอย่าให้ขาด เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของดิน และพอต้นกล้าอายุได้ 1 เดือน ก็จะเริ่มบำรุงปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ ส่วนตลาดจะเป็นตลาดในประเทศ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยจำหน่าย กิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งแต่ละรอบจะเก็บผลผลิตได้ 3-4 ตัน ทำรายได้เฉลี่ย 60,000-80,000 บาท เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ.2561
จากปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้ คุณสอาด คำทราย จำต้องเกษียณตัวเองออกราชการก่อนกำหนด ทั้งๆ ที่ใจยังรักอยากจะทำงานต่อ แต่เพราะกลัวความเครียดจากการทำงานที่เพิ่มขึ้นตามภาระงานที่ได้รับซึ่งเป็นสาเหตุเร่งเร้าทำให้สุขภาพทรุดโทรม จึงตัดสินใจเกษียณตัวเองจากอดีตเจ้าพนักงานการเกษตร อำลาหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรให้แก่เกษตรกรมา 31 ปี คุณสอาด คำทราย อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ที่ 6 บ้านปงวัง ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง สัมผัสชีวิตเกษตรมาโดยตลอด เมื่อเรียนที่วิทยาลัยเกษตรกรรมลำปาง (ปัจจุบัน เป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดลำปาง) ปี พ.ศ. 2520 ในระดับ ปวช. และ ปวส. จบปี พ.ศ. 2524 (ต่อมาจบปริญญาตรี วท.บ. เทคโนโลยีการเกษตร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ปี พ.ศ. 2535) ในปี พ.ศ. 2524 ได้บรรจุเป็นเจ้าพนักงานการเกษตร ที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่ และย้ายมาอยู่จังหวัดลำปาง เมื่อปี พ.ศ. 2531 ระหว่างรับราชการอยู่ที่จังหวัดลำปาง ได้ใช้พื้นที่หลังบ้านตนเองประมาณ 400 ตารางเมตร ยกแปลงปลูกผักเป็นแปลงๆ เริ่มปลูกได้ก็แจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน เมื่อมีมากขึ้นจึงมีแม่ค้าใกล้เคียงมาซื้อกัน ส่วนใหญ่เป็นผักตามฤดูกาล ในเวลานั้นไม่ได้ปล
มะเขือเปราะ เป็นพืชทนแล้ง อายุสั้น ปลูก 3 เดือน ให้ผลผลิต เก็บได้นาน 1 ปี ปลูกได้ทุกสภาพอากาศ ถือว่าเป็นพืชอายุสั้น และให้ผลผลิตดี มะเขือขาวหยก เป็นพันธุ์ที่ได้มาจากจังหวัดสระบุรี ข้อดีของพันธุ์นี้คือ จุกใหญ่ เหี่ยวช้า หากวันไหนเหลือขายไม่หมด สามารถเก็บไว้ได้ยังไม่เหี่ยว รสชาติหวาน ลูกใหญ่ เป็นที่ต้องการของตลาด ปลูก 10 ไร่ ผลผลิตดก เก็บขายวันละ 300 กิโลกรัม ต่อวัน การเตรียมดิน ไถตากดินไว้ 1 เดือน เมื่อไถเสร็จให้ขึ้นร่องใหญ่กว่าร่องอ้อย ความกว้าง ประมาณ 150 เซนติเมตร ยกร่องสูงทำเป็นร่องน้ำ โดยสวนทั่วไปจะใช้ระบบน้ำหยด แต่ถ้าสายตันขึ้นมาจะลำบาก มะเขือจะไม่ชุ่ม พอไม่ชุ่มจะเกิดไรแดง เพลี้ยหนอน แต่ถ้าเราขุดร่องน้ำไว้ ถึงเวลาฝนตกหรือปล่อยน้ำเข้า ก็วิดน้ำรดได้เลย มะเขือจะชุ่ม ความชื้นจะเยอะเขาจะชอบ การปลูก จะเพาะต้นกล้าเองหรือใช้วิธีซื้อต้นกล้าที่เขาเพาะไว้แล้วมาปลูก 1 ถาด มี 120 ต้น ราคาถาดละ 100 บาท นำกล้าลงหลุม ความห่างระหว่างหลุม 70 เซนติเมตร ความกว้าง 150 เซนติเมตร เพื่อจะได้เดินในร่องทางซ้ายและขวาได้สะดวก การดูแล ใส่ปุ๋ยเคมี สูตรเสมอ 16-16-16 พอลูกออกให้หยุดใส่ แล้วเปลี่ยนมาใช้ชีวภาพแทน
พืชทุกชนิดที่ปลูกจำเป็นต้องได้รับน้ำใช้อย่างพอเพียงจึงจะทำให้งอกงามเจริญเติบโตสมบูรณ์ แต่เมื่อปี 2562 ทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยฝนตกน้อยมาก ทำให้เขื่อน อ่างเก็บน้ำ แม่น้ำหรือลำคลอง มีปริมาณน้ำน้อยตามไปด้วย กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้วางมาตรการ/โครงการช่วยเหลือเกษตรกรฤดูแล้ง ปี 2562/63 โดยให้เกษตรกรปลูกพืชอายุสั้นใช้น้ำน้อยที่ได้ผลตอบแทนดีกว่า หรือแปรรูปผลผลิตเกษตร ทำงานหัตถกรรม หรือทำงานวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นการยกระดับรายได้นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีความมั่นคง คุณทวี มาสขาว รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2562 ประเทศไทยเกือบทุกพื้นที่มีฝนตกน้อยมาก ทำให้แหล่งกักเก็บน้ำหลายแห่งมีปริมาณน้ำลดลงไปกว่าปีที่ผ่านมา แม่น้ำหรือลำคลองบางแห่งปริมาณน้ำก็แห้งขอด ส่งผลกระทบต่อการผลิตการเกษตรในหลายด้าน กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้วางมาตรการ/โครงการช่วยเหลือเกษตรกรในสถานการณ์ฤดูแล้ง ปี 2562/63 ไว้ 8 มาตรการ ดังนี้ การเฝ้าระวังน้ำเค็มรุก 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ ราชบุรี กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และฉะเชิงเทรา ดำเนินการช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม
คุณรุ้งตะวัน ช้างสาร อยู่บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ที่ 4 ตำบลพังยาง อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา โทรศัพท์ (061) 190-1887 เริ่มทำเกษตรกรรมในพื้นที่ 6 ไร่ เป็นเกษตรกรทำสวนไม้ผลระยะสั้นแบบผสมจนประสบความสำเร็จ ปัจจุบันมีพื้นที่ทำเกษตรกรรมจำนวน 33 ไร่ ในนาม “สวนรุ้งตะวัน” และจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรผสมผสาน แล้วยังได้รางวัลผู้นำเครือข่ายพัฒนาชุมชนพืชระยะสั้น คุณรุ้งตะวันตั้งใจนำความสำเร็จสร้างเป็นต้นแบบเพื่อถ่ายทอดไปสู่ชาวบ้านในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียง ดังนั้น ในปี 2559 จึงเริ่มจัดกิจกรรมส่งเสริมชาวบ้านปลูกพืชระยะสั้น หวังให้ชาวบ้านทุกคนทำเกษตรกรรมแบบครบวงจรด้วยตัวเอง ตั้งแต่เริ่มปลูก จัดเก็บ ขนส่ง ไปจนถึงการขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่มาใช้ติดต่อขายสินค้าเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว คล่องตัว ขณะเดียวกัน ยังช่วยหาตลาด รวมทั้งยังช่วยวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแต่ละชุมชนว่าควรปลูกพืชระยะสั้นประเภทใดที่เหมาะกับสภาพดิน น้ำ และความต้องการของตลาด โดยมีพืชระยะสั้นหลักๆ ได้แก่ แคนตาลูป มะเขือเทศรับประทานสด และฝรั่งกิมจู เพื่อนำผลผลิตเหล่านั้นไปขายยังตลาดที่แนะนำ ทั้งนี้ ได้รับค
จากปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้ คุณสอาด คำทราย จำต้องเกษียณตัวเองออกราชการก่อนกำหนด ทั้งๆ ที่ใจยังรักอยากจะทำงานต่อ แต่เพราะกลัวความเครียดจากการทำงานที่เพิ่มขึ้นตามภาระงานที่ได้รับซึ่งเป็นสาเหตุเร่งเร้าทำให้สุขภาพทรุดโทรม จึงตัดสินใจเกษียณตัวเองจากอดีตเจ้าพนักงานการเกษตร อำลาหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรให้แก่เกษตรกรมา 31 ปี คุณสอาด คำทราย อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 6 บ้านปงวัง ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง สัมผัสชีวิตเกษตรมาโดยตลอด เมื่อเรียนที่วิทยาลัยเกษตรกรรมลำปาง (ปัจจุบัน เป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดลำปาง) ปี พ.ศ. 2520 ในระดับ ปวช. และ ปวส. จบปี พ.ศ. 2524 (ต่อมาจบปริญญาตรี วท.บ. เทคโนโลยีการเกษตร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ปี พ.ศ. 2535) ในปี พ.ศ. 2524 ได้บรรจุเป็นเจ้าพนักงานการเกษตรที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่ และย้ายมาอยู่จังหวัดลำปางเมื่อปี พ.ศ. 2531 ระหว่างรับราชการอยู่ที่จังหวัดลำปาง ได้ใช้พื้นที่หลังบ้านตนเองประมาณ 400 ตารางเมตร ยกแปลงปลูกผักเป็นแปลงๆ เริ่มปลูกได้ก็แจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน เมื่อมีมากขึ้นจึงมีแม่ค้าใกล้เคียงมาซื้อกัน ส่วนใหญ่เป็นผักตามฤดูกาล ในเวลานั้นไม่ได้ปลูกมาก
บัตเตอร์นัท เป็นผลไม้กลุ่มสควอช (Cucurbita moschata) รูปทรงคล้ายน้ำเต้า เป็นฟักทองเทศที่เติบโตเป็นเถา รสชาติหวาน มัน มีสีเหลืองอ่อนและส้ม โดยที่แกนเมล็ดอยู่ด้านล่างของผล เมื่อผ่าออกมาแล้ว จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มเข้มขึ้นและจะมีรสหวานขึ้น คุณทาริกา วงค์น้อย (พี่นิ) อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 14 บ้านร่องปลาค้าว ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เกษตรกรสาวดีกรีปริญญาโท จากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถึงแม้จะเริ่มเข้าสู่ชีวิตการเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัวได้เพียง 4 ปี แต่ระยะเวลาแค่ 4 ปี ก็สามารถทำให้พี่นิสะสมประสบการณ์มาได้ไม่น้อย พี่นิ เล่าว่า จุดเริ่มต้นของการเข้ามาเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัวเกิดจากงานประจำก่อนหน้านี้ พี่นิเรียนจบปริญญาตรี และปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยจบปริญญาโทจากคณะเกษตรศาสตร์ เมื่อเรียนจบได้เข้าทำงานที่ต้องข้องเกี่ยวกับสารกัมมันตภาพรังสีค่อนข้างเยอะ ทำได้ระยะหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีอาการป่วยเรื้อรัง ร่างกายไม่แข็งแรง จึงตัดสินใจลาออกจากงานกลับมารักษาตัวที่บ้านนานนับปี ในช่วงระหว่างพักฟื้นก็คิดไปเรื่อย ว่าจะทำอะไรต่อไปดี ประจวบกับที่ตัวเองชอบการ