มะเดื่อฝรั่ง
การตอนกิ่ง เป็นการขยายพันธุ์อีกวิธีหนึ่ง การทำให้กิ่งหรือต้นพืชเกิดรากในขณะที่ติดกับต้นแม่ เมื่อรากออกแล้วจึงสามารถตัดออกได้เป็นต้นใหม่ เพื่อนำไปปลูก ต้นที่ได้ก็จะมีลักษณะทางสายพันธุ์เหมือนกับต้นแม่นั่นเอง ✨วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน จะพาทุกคนไปดูขั้นตอนการตอนกิ่ง “มะเดื่อฝรั่ง” มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง ไม่ยากกว่าที่คิด และสามารถนำไปทำตามกันได้เลย แต่ก่อนอื่นไปเตรียมอุปกรณ์ที่จะต้องใช้กันก่อน 🪣อุปกรณ์ 👉🏻ต้นพันธุ์ที่จะใช้ในการตอนกิ่ง 👉🏻มีดคว้าน 👉🏻ถุงมือ 👉🏻เจลเร่งราก 👉🏻ขุยมะพร้าวอัดแข็ง 👉🏻ลวด หรือเชือก 👉🏻ฟิล์มห่อ 📌ขั้นตอนที่ 1 ก่อนเริ่มลงมือทำ ควรใส่ถุงมือขณะทำการตอนกิ่ง หลังจากนั้นมองหากิ่งที่คิดว่าจะทำการตอนกิ่ง โดยดูจากยอดจนถึงบริเวณที่จะทำการตอนให้ขนาดห่างกันประมาณ 30 เซนติเมตร ใช้มีดควั่นระยะห่างจากด้านบนและด้านล่างห่างกันประมาณ 2 นิ้ว 📌ขั้นตอนที่ 2 ควรควั่นตำแหน่งชิดใต้ข้อให้รอบกิ่ง โดยกดมีดเบาๆ ให้ลึกเพียงสัมผัสเนื้อไม้ จากนั้นควั่นแผลล่าง ให้ห่างจากแผลบนลงมาประมาณเท่าเส้นรอบวงของกิ่งหรือ 1.5-2.5 เซนติเมตร กรีดเปลือกในแนวตั้งระหว่างแผลบนและล่าง แล้วลอกเปลือกออก ทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ย
เกษตรกรรมเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ผู้คนหลากหลายอาชีพให้ความสนใจ เพราะนอกจากได้ทำสืบต่อครอบครัวแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้ทำกินอยู่บนที่ดินของตนเอง จึงทำให้คนรุ่นใหม่ในหลายพื้นที่ให้ความสนใจ ในเรื่องของการทำเกษตรในแบบที่ตั้งใจ และยังสร้างระบบการทำตลาดที่เข้มแข็งแบบระบบออนไลน์เข้ามาช่วย เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ คุณนุชา บุญมา หรือ คุณนุ วิศวกรหนุ่มที่สนใจในเรื่องของการทำเกษตร โดยศึกษาทดลองการปลูกมะเดื่อฝรั่ง (Fige) และนำความรู้ที่ได้เรียนมาทางด้านวิศวะ มาต่อยอดการจัดการระบบต่างๆ ของการปลูกมะเดื่อฝรั่ง ซึ่งคุณนุมองว่าไม้ผลชนิดนี้จะเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ไม่เพียงขายผลเท่านั้น ยังสามารถต่อยอดขายกิ่งพันธุ์ได้ด้วยเช่นกัน หลังจบการศึกษา กลับมาทำเกษตรเต็มตัว คุณนุ เล่าให้ฟังว่า หลังจบการศึกษาทางด้านวิศวะไม่ได้ไปทำงานตามสาขาที่ร่ำเรียนมา แต่กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดและใช้ที่ดินว่างเปล่าของครอบครัวให้เกิดประโยชน์ โดยมาทดลองทำการเกษตรในแบบที่สนใจ โดยครั้งแรกปลูกเมล่อน แต่ก็มักเจอปัญหาค่อนข้างมาก ต่อมาจึงได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกมะเดื่อฝรั่งที่มองว่าเป็นพืชที่น่าสนใจ ซึ่งหลั
กว่า 10 ปีแล้ว ที่ คุณธงชัย ความเพียร และ คุณอรัญญา ความเพียร สองสามีภรรยา ปลูกต้นไม้บริเวณบ้าน และทำรายได้เสริมจากต้นไม้ที่เขารัก คุณธงชัย เรียนจบมาทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนคุณอรัญญา เรียนจบมาทางด้านนิเทศศาสตร์ ทั้งคู่รักธรรมชาติ ชอบการปลูกต้นไม้ เมื่อพื้นที่บ้านพอมีที่ว่าง ราว 20 ตารางวา ก็ไม่ปล่อยให้พื้นที่ว่างเปล่า โดยคุณธงชัย ได้ไอเดียจากการเดินห้างสรรพสินค้า แล้วพบ “มะเดื่อฝรั่ง” ผลแห้ง จึงลองซื้อมารับประทาน เห็นว่ารสชาติดี แต่ราคาค่อนข้างแพง จึงคิดที่จะซื้อพันธุ์มาปลูกเอง เพื่อรับประทานในครอบครัว และเริ่มปลูกมะเดื่อฝรั่งเพียง 5 ต้นก่อน “5 ต้นนั่นก็ยังไม่ได้ทำเงินอะไรนะครับ ก็คือคิดจะปลูกเอาผลไว้กิน ไม่อยากเสียเงินซื้อในราคาที่สูง แต่โชคดีในช่วงนั้นกระแสมะเดื่อฝรั่งมาแรง คนเริ่มพูดถึง เริ่มรู้จัก จึงคิดจะลองตอนกิ่งขาย ก็ลองทำดู ยุคนั้นมีแค่เว็บไซต์ที่เปิดพื้นที่ให้ขายของฟรี ลองลงไป ก็ขายได้” จริงๆ คุณธงชัย มีงานประจำอยู่แล้ว เป็นงานจำหน่ายอุปกรณ์สแตนเลสที่ใช้ในอุตสาหกรรมโรงงานและภายในบ้าน นอกจากนี้ ยังจำหน่ายแผ่นปูพื้นอเนกประสงค์กันลื่น กันไฟดูด สำหรับฟาร์มสัตว์ และโรงงาน
หน้าตาอาจจะดูแปลก แต่คุณประโยชน์ฉ่ำ อาจจะเป็นผลไม้ที่แทบจะไม่ค่อยมีคนรู้จักเลยในบ้านเรา แต่พอมีกระแสเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ ก็มีคนสนใจไม่น้อย ในปัจจุบันมีการพัฒนาในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องสายพันธุ์ที่มีการนำเข้ามาปลูกในบ้านเรานับร้อยสายพันธุ์จากทั่วโลก มะเดื่อฝรั่ง หรือ ฟิก (Fig) เป็นผลไม้ลูกเล็กๆ ที่มีเนื้อด้านในเป็นสีแดงเข้ม เมื่อสุกจะมีรสชาติหวาน หอมละมุน และเนื้อละเอียด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนรักสุขภาพเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ด (Superfood) มะเดื่อฝรั่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย เหมาะกับสภาพภูมิอากาศในบ้านเรา ให้ผลผลิตเร็ว เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนยาวมากกว่า 100 ปี สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นานหลาย 10 ปี ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดินและสภาพภูมิอากาศ สามารถติดผลได้ทุกฤดูกาล แต่จะมีปัญหาในช่วงฤดูฝน จะทำให้ได้ผลผลิตไม่มากนัก เนื่องจากมีปัจจัยที่ทำให้มะเดื่อฝรั่งเกิดโรคราสนิมในฤดูนี้ จึงต้องคอยหมั่นดูแลและจัดการ แต่ถ้าเป็นฤดูกาลอื่นให้ผลผลิตได้ตลอด ขึ้นอยู่กับการตัดแต่งก
หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จัก “มะเดื่อฝรั่ง” มากนัก เพราะในประเทศไทยยังมีคนปลูกน้อย สามารถสร้างรายได้ครึ่งแสนต่อเดือน คุณปัทม์จะพาไปดูการตอนกิ่ง “มะเดื่อฝรั่ง” อยากรู้ใช้อุปกรณ์ มีเทคนิคอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย #มะเดื่อฝรั่ง #ชลบุรี #friendfarm #มะเดื่อ #ตอนกิ่ง #เทคโนโลยีชาวบ้าน #technologychaoban
ปัทม์-ปัทมา โรจนวิชัย จากสาวพนักงานออฟฟิศผันตัวเป็นเกษตรกร สร้างรายได้ครึ่งแสนต่อเดือน ด้วยการขายออนไลน์มาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน เก็บเกี่ยวประสบการณ์และศึกษาข้อมูลทดลองปลูกมะเดื่อฝรั่งเพื่อหาสายพันธุ์ที่มีรสชาติดี หวานฉ่ำ ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค . หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จัก “มะเดื่อฝรั่ง” มากนัก เพราะในประเทศไทยยังมีคนปลูกน้อย วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านพาบุกดูสวนมะเดื่อฝรั่งของคุณปัทม์ ไปรู้จักมะเดื่อฝรั่งพร้อมๆ กัน ทั้งยังแปรรูปออกมาได้หลากหลายอีกด้วย สร้างมูลค่าและรายได้ดีเลยทีเดียว . #มะเดื่อฝรั่ง #ชลบุรี #friendfarm #มะเดื่อ
หากเอ่ยชื่อ “ฟิก” (FIG) คิดว่าคงมีหลายคนที่ยังไม่รู้จักว่าคือพืชชนิดใด แต่หากเอ่ยชื่อ “มะเดื่อฝรั่ง” ก็คิดว่าคงมีบางคนที่เคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้ว มะเดื่อฝรั่งเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เนื่องจากมีรสชาติดีและอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร เชื่อกันว่า การกินมะเดื่อฝรั่งอาจมีส่วนช่วยรักษาโรคเบาหวาน บรรเทาอาการท้องผูก หูด และอาจมีประโยชน์ต่อผิวหนังด้วย มะเดื่อฝรั่ง เป็นผลไม้ที่มีแคลอรีต่ำและปราศจากไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักและผู้ที่อยากกินอาหารอื่นที่ยังได้ประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย โดยมะเดื่อฝรั่งตากแห้ง 100 กรัม ประกอบด้วยกากใยอาหาร 9.8 กรัม ซึ่งจะช่วยให้อิ่มท้องนานขึ้นและยังส่งผลดีต่อสุขภาพ ทั้งการกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เพราะมะเดื่อฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ หลายชนิด คือ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี วิตามินเค โพแทสเซียม สังกะสี เหล็ก และอื่นๆ อีกมากมาย ใครที่เคยเข้าไปกินขนมจีนสารพัดน้ำยา ที่ร้าน “บ้านคุณย่า” อยู่เลขที่ 60 หมู่ที่ 11 ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร คงได้เห็นแปลงปลูกพืชกางมุ้งที่ตั้งอยู่ติดลานจอด
มะเดื่อฝรั่ง หรือ ลูกฟิก (Fig) เป็นไม้ผลอีกอย่างหนึ่งที่สร้างรายได้ให้คนไทย เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่เหมาะเป็นของฝาก จัดกระเช้า ที่คนกินไม่ได้ซื้อ หมายความว่า ความมีคุณค่าของผลไม้ที่นำไปฝาก ผู้ให้ยิ้มด้วยความภูมิใจ ถึงจะมีมูลค่าไม่มาก แต่ก็ให้ผลทางด้านจิตใจแก่ผู้รับ มะเดื่อฝรั่ง หรือ ลูกฟิก ทำไมถึงใช้คำว่า คนรับภูมิใจ เพราะว่า มะเดื่อฝรั่งมีคุณค่าทางอาหารสูง และเป็นผลไม้เปลือกบาง การขนส่งและการดูแลจึงยุ่งยาก เพราะผิวช้ำง่าย ต้องทะนุถนอมในการส่งให้ถึงมือผู้รับ มะเดื่อฝรั่ง หรือ ลูกฟิก ปลูกได้แล้วในเมืองไทย มะเดื่อฝรั่ง เป็นพันธุ์ไม้ผลที่น่าสนใจ และเข้ามาเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ที่เมืองไทยมาหลายปีแล้ว เมื่อก่อนคนไทยไม่เคยเห็นมะเดื่อฝรั่งสดที่มีรสหวานฉ่ำ ส่วนใหญ่ที่เราได้กินมะเดื่อฝรั่งหรือฟิกเป็นรูปของผลไม้อบแห้ง แต่ปัจจุบันมีต้นพันธุ์ขายทั่วไป แต่ก็ต้องเลือกสายพันธุ์ซึ่งมีมากมายหลายพันธุ์ที่มีการนำเข้ามาปลูก บางพันธุ์ก็ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร แต่ที่แนะนำ หนึ่งในสายพันธุ์ที่ปลูกได้ดีในเมืองไทยคือ พันธุ์บราวน์ตุรกีญี่ปุ่น สายพันธุ์นี้ปลูกง่าย วิธีการขยายพันธุ์ สำหรับ มะเดื่อฝรั่ง พันธ
การปักชำ มะเดื่อฝรั่ง การปักชำ เป็นวิธีง่ายและสะดวกมาก ทำได้จำนวนมาก แต่การชำมักได้ผลไม่มากนัก ถ้ามีกิ่งจำนวนมากก็ไม่ต้องเสียดาย เพราะส่วนมากจะพบปัญหากิ่งชำเน่าเสียก่อน เปอร์เซ็นต์ที่ได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ การปักชำควรทำในฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – เดือนกันยายน เคล็ดลับที่สำคัญอย่าเร่งปุ๋ยจนงามเกินไปเมื่อตัดกิ่งไปปักชำมักจะเหี่ยวง่าย ควรบำรุงต้นให้สมบูรณ์ก็เพียงพอ การคัดเลือกกิ่งที่จะนำมาปักชำควรเลือกกิ่งแก่ ห้ามใช้กิ่งอ่อน ดูกิ่งที่ตั้งตรง ยอดใบสมบูรณ์ ไม่มีโรคและเเมลงรบกวน ริดก้านใบให้หมดแล้วนำมาตัดเป็นท่อนๆ ยาว 6-10 นิ้ว ตัดใต้ข้อตาลงมาอย่างน้อย สัก 3-5 เซนติเมตร (รากจะออกบริเวณใกล้ข้อตา) หรือบางท่านอาจจะเพิ่มพื้นที่การออกรากโดยการใช้มีดกรีดที่เปลือก จากนั้นนำท่อนพันธุ์มะเดื่อฝรั่งจุ่มด้วยน้ำยาเร่งราก ประมาณ 15-30 นาที นำไปปักในกระบะ หรือตะกร้าภายในตาข่ายพรางแสง โดยวัสดุชำใช้แกลบดำ 3 ส่วน ผสมทรายหยาบ 1 ส่วน หรือดินร่วน 1 ส่วน รดน้ำให้ชุ่ม แต่ไม่ควรรดน้ำบ่อยจนเกินไปทำให้กิ่งเน่าง่าย หลังปักชำ 1 สัปดาห์ ถ้าต้นยังสดอยู่มีแนวโน้มได้ผลดี ราว 7-15 วัน ตาใบจะเริ่มแตกและจะเริ่มออกรากตามมา
คุณพิเชษฐ กันทะวงค์ เกษตรกรรุ่นใหม่ วัย 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ที่ 12 ถนนพหลโยธิน ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ได้บริหารจัดการพื้นที่ 3 ไร่ 3 งาน ให้เป็นทั้งฟาร์ม/แหล่งเรียนรู้/แหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตร/ศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย/ร้านอาหาร และที่พักอาศัย จนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ 2-3 แสนบาท ต่อเดือน ผลิตเมล่อนในโรงเรือน สร้างสินค้าคุณภาพสูง สู่ผู้บริโภคที่รักสุขภาพ หลังจากเรียนจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2546 ได้มีโอกาสเรียนรู้สะสมประสบการณ์ด้านการทดสอบสายพันธุ์พืชและการควบคุมศัตรูพืชกับบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นกว่า 10 ปี จึงได้ตัดสินใจออกมาทำฟาร์มเมล่อนปลอดสารพิษ ในปี 2555 บนพื้นที่ของตนเอง 3 ไร่ 3 งาน จากเดิมที่เป็นทุ่งนา มาเป็นฟาร์มระบบโรงเรือนแบบปิด เพื่อผลิตเมล่อนปลอดสารพิษคุณภาพสูงเกรดพรีเมี่ยม (Premium) สาเหตุที่เลือกทำฟาร์มเมล่อนปลอดสารพิษ เนื่องจากเมล่อนโดยทั่วไปเป็นผลไม้ที่มีโรคและแมลงศัตรูมาก จำเป็นต้องใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัด การผลิตเมล่อนปลอดสารพิษจึงเป็นความท้าทาย แต่คุ้มค่าต่อการลงทุนและเมล่อนปลอดสารพิษ มีราคาและความต้อ