ลองกอง
นางสาวนริศรา เอี่ยมคุ้ย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลสรุปการจัดทำข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2568 (ข้อมูล ณ 2 เมษายน 2568) โดย สศท.6 และศูนย์สารสนเทศการเกษตร สศก.ประชุมร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ภาคตะวันออก ติดตามสถานการณ์การออกดอกและติดผลของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด (ระยอง จันทบุรี ตราด) สรุป ปี 2568 ปริมาณผลผลิตรวม ทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 1,298,482 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 999,211 ตัน (เพิ่มขึ้น 299,271 ตัน หรือร้อยละ 29.95) เนื่องจากปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญและสภาพอากาศแปรปรวน ออกดอกติดผลน้อย ทำให้ปีนี้ได้พักต้นเพื่อสะสมอาหาร ต้นสมบูรณ์ พร้อมออกดอกติดผลได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับปีนี้สภาพอากาศเอื้ออำนวยทำให้การออกดอกและติดผลของไม้ผลทั้ง 4 ชนิดเพิ่มขึ้น สำหรับเนื้อที่ให้ผลของทุเรียนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 17 โดยเนื้อที่ให้ผลของทุเรียนเริ่มให้ผลผลิตในปี 2568 เป็นปีแรกเพิ่มขึ้น 72,908 ไร่ ถึงแม้บางพื้นที่ได้รับผลกระ
คุณธนงศักดิ์ บัวแดง เกษตรกรชาวอำเภอเชียงม่วน อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 7 บ้านท่าฟ้าใหม่ ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา สมัยที่แล้วดำรงตำแหน่งประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสระ ช่วงนี้วางมือทางการเมืองท้องถิ่นหันมาดูแลสวนอย่างจริงจัง แต่ยังคงเป็นเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) คุณธนงศักดิ์ เล่าให้ฟังว่า รู้จักกับ อาจารย์ประพันธ์ เขื่อนขันธ์ อดีตอาจารย์วิทยาลัยเกษตรกรรมแพร่ บ้านอยู่ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ และเป็นที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนตำบลสวนเขื่อน เมื่อปี พ.ศ. 2548 ได้ถามคุณธนงศักดิ์ว่าประกอบอาชีพอะไร ก็ได้บอกว่ายังไม่มีอาชีพอะไร ท่านก็เลยบอกว่าให้กลับไปทำสวนผลไม้ โดยมอบต้นพันธุ์ลองกองและเงาะให้มาปลูก นับถึงปัจจุบัน นับอายุได้ 17 ปี มีผลผลิตออกสู่ตลาดทุกปี รสชาติหวาน กรอบ แห้ง เป็นที่ถูกใจของผู้บริโภค โดยจำหน่ายในเขตอำเภอเชียงม่วนและใกล้เคียง ทำรายได้ให้เป็นอย่างดี ส่วน นายสุรชัย ณ มา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ปฏิบัติการรับผิดชอบงานส่งเสริมการผลิตไม้ผล สำนักงานเกษตรอำเภอเชียงม่วน ให้ข้อมูลทางวิชาการว่า ลองกอง มีชื่อสามัญว่า Lo
ลองกองลับแล เป็นผลไม้เลื่องชื่อของจังหวัดอุตรดิตถ์มานาน เพราะปลูกแบบธรรมชาติจึงมีความอร่อย รสหวาน ผลใหญ่ ดก ได้รับความสนใจทั้งตลาดในและต่างประเทศ แต่เดิมลับแลมีลางสาดพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมมาก่อน กระทั่งพบว่าลองกองมีคุณสมบัติหลายอย่างที่เหมาะกับการปลูกเชิงพาณิชย์จึงนำยอดลองกองมาเสียบ ติดตากับต้นลางสาดเดิม เปลี่ยนยอดลางสาดเป็นลองกอง เนื่องจากต้นตอลางสาดมีความแข็งแรง ระบบรากดี ทำให้มีการขยายพันธุ์ลองกองเพิ่มมากขึ้น กระทั่งตอนนี้จำนวนต้นลางสาดลดลง พื้นที่ปลูกลองกองที่ลับแลมี 2 ลักษณะ คือ พื้นที่เก่าแก่ที่อยู่ในสวนป่าหรือเนินเขาตามธรรมชาติกับพื้นที่ปลูกใหม่บนที่ราบ เช่น พื้นที่ทำนา แล้วจัดเป็นสวนเกษตร หรือบางแห่งทำเป็นสวนผลไม้ผสมเปิดเข้าเที่ยวชม โดยทั้ง 2 ลักษณะได้ปรับเทคนิคการปลูกด้วยนำหลักวิชาการ เทคโนโลยี ปรับปรุงบำรุงการดูแลรักษา ตัดแต่งกิ่ง และแต่งช่อผลเข้ามาในกระบวนการปลูก ขณะเดียวกัน ด้วยลักษณะทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เกื้อกูลให้ลองกองอุตรดิตถ์มีคุณภาพสมบูรณ์ ได้มาตรฐานไม่แพ้แหล่งปลูกทางใต้และตะวันออก จึงนับเป็นตลาดแหล่งใหญ่ทางภาคเหนือ คุณธวัช ดีมูล มีสวนทุเรียนและลองกอง อยู่บ
นับกว่าร้อยปีมาแล้ว ใครที่รู้จักเมืองอุตรดิตถ์ ก็พูดถึงลับแลเมืองแม่หม้าย รู้จักเมืองลับแล ก็พูดถึงลางสาด อยากกินลางสาด ก็ต้องไปเมืองลับแล ต่อมามีการกระจายขยายพื้นที่ปลูกลางสาดออกไปหลายแห่ง ซึ่งก็กระจายอยู่ใกล้ๆ กับพื้นที่ดั้งเดิม ที่เมืองลับแล โดยการแพร่กระจาย ก็ใช้วิธีเดียวกับการมีลางสาดตอนเริ่มต้นบนพื้นที่เมืองลับแล คือคนกินแล้วเก็บเอาเมล็ดไปเพาะ ได้ต้นใหม่ แต่เนื่องจากมีเหตุ 2-3 ประการ ได้แก่ หนึ่ง ลางสาดเป็นผลไม้ที่ต้องกินตอนสุกงอม จึงจะมีรสชาติหวาน ไม่ค่อยมียางเหนียว ทำให้เจ้าของจำเป็นต้องตัดตอนที่แก่จัด ตัดมาแล้ววันสองวันก็เริ่มร่วงหลุดจากพวง สองสามวันจะสีคล้ำ เหมือนผลไม้เน่าเสีย ผู้บริโภคจึงไม่ค่อยชอบใจนัก อีกประการ เริ่มมีทางเลือกให้หาผลไม้อื่นมาเป็นคู่เปรียบ จึงหันเหความนิยมไปหาผลไม้นั้นเสียมาก ประกอบกับผลไม้ชนิดใหม่ปลูกแข่งลางสาดได้ผล ชนะด้านผลผลิต ด้านคุณภาพดีกว่า เป็นช่อพวงคงทน รสชาติหวาน หอม กรอบกว่า ราคาซื้อขายดีกว่านับเท่าตัว วันนี้เมื่อ 20-30 ปี ผลไม้ทางเลือกใหม่ จึงวิ่งนำหน้าลางสาดกลายเป็นผลไม้ยอดนิยมแทนลางสาด นั่นคือ “ลองกอง” ลองกองอุตรดิตถ์ เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่ง ที่
นางศศิญา ปานตั้น ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลสรุปข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2565 (ข้อมูล ณ 11 เมษายน 2565) โดย สศก. ร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ ภาคตะวันออก สรุปตัวเลขเอกภาพปริมาณผลผลิตของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด (ระยอง จันทบุรี ตราด) พบว่า ผลผลิตรวมทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 1,189,522 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีจำนวน 903,865 ตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32) เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564 ส่งผลให้เอื้อต่อการออกดอกและติดผล แม้จะมีภัยธรรมชาติจากลมพายุช่วงปลายปี 2564 และเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2565 ที่ทำให้ดอกและลูกร่วงเสียหาย แต่ในภาพรวมปริมาณผลผลิตยังคงมากกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผลผลิตได้ทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะออกต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนกันยายน 2565 โดยผลผลิตจะออกมากที่สุดช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 (คิดเป็นร้อยละ 51 ของผลผลิตทั้งหมด) เมื่อพิจารณาปริมาณผลผลิตรายชนิด พบว่า ทุเรียน มังคุด เงาะ ผลผล
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลสรุปข้อมูลปริมาณการผลิตไม้ผลเอกภาพ ปี 2562 โดยคณะทำงานสำรวจข้อมูล ไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออกได้สรุปตัวเลขเอกภาพผลผลิตไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2562 ของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัดตะวันออก จันทบุรี ระยอง และตราด โดยผลสรุปข้อมูลเอกภาพไม้ผล ปี 2562 (ข้อมูล ณ 27 มีนาคม 2562) พบว่า เนื้อที่ยืนต้น ของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 692,810 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีจำนวน 678,203 ไร่ (เพิ่มขึ้น 14,607 ไร่ หรือร้อยละ 2.15) โดยทุเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.20 ส่วน เงาะ ลดลง ร้อยละ 2.10 มังคุด ลดลง ร้อยละ 0.28 และ ลองกอง ลดลง ร้อยละ 5.08 เนื้อที่ให้ผลของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 626,339 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีจำนวน 615,172 ไร่ (เพิ่มขึ้น 11,167 ไร่ หรือ ร้อยละ 1.82) โดยทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.31 มังคุด เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.69 ส่วนเงาะ ลดลง ร้อยละ 2.43 และ ลองกอง ลดลง ร้อยละ 3.84 ผลผลิต รวมทั้ง 4 สินค้ามีจำนวน 886,535 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีจำนวน 667,025 ตัน (เ
จากประสบการณ์ของเกษตรกร ผู้ได้รับการยอมรับด้านการเกษตร ผู้ผลิตผลไม้ “ลองกอง” ที่มีชื่อเสียงในแถบพื้นที่ภาคตะวันออก อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี กับเทคนิคการกำจัด “ราดำ” บนผิวผลของผลไม้ ประเภท “ลองกอง” ให้หมดไป “ราดำ” ตัวการสำคัญที่ทำให้ลูกผลของลองกองไม่สวย ไม่น่ารับประทาน และไม่เป็นที่ปรารถนาของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกษตรกรผู้ปลูกลองกองท่านนี้ คิดหาหนทางที่จะไม่ใช้สารเคมีที่ก่อผลกระทบต่อผู้บริโภค และประหยัดต้นทุนในการกำจัด “ราดำ” บนผลลองกองโดยปลอดสารเคมี คุณธีรเชษฐ์ บำรุงรักษ์ เกษตรกรในพื้นที่ตำบลฉมัน ผู้ถือได้ว่ามีประสบการณ์และมีเทคนิคในการดูแลพืชผลทางการเกษตรให้เป็นผลไม้ที่ปลอดภัย อีกทั้งเพื่อประหยัดต้นทุนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกอีกทางหนึ่ง ด้วยประสบการณ์ด้านการเกษตร มากว่า 20 ปี ครูธีรเชษฐ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ครูแดง” อดีตข้าราชการครู ที่ผันตัวเองมาทำสวนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เล่าว่า ขณะนี้ชาวสวนผลไม้ตระหนักดีถึงการผลิตผลไม้ปลอดภัยหรือที่เรียกกันว่า “ผลไม้อินทรีย์” ที่ถือว่าเป็นการให้ความสำคัญกับผู้บริโภค ที่จะได้รับประทานผลไม้ที่ปลอดภัย ห่างไกลจากสารพิษ เนื่องจากในอดีตพี
กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เตรียมวางแผนการตลาดเพื่อควบคุมปริมาณสินค้าลองกองชายแดนใต้ ระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคม นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ลองกอง เป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ มีแหล่งผลิตในภาคใต้ของประเทศไทย โดยในปี 2561 ได้ประมาณการผลผลิตลองกองของภาคใต้ไว้ จำนวน 70,383 ตัน มากกว่าผลผลิตปี 2560 ประมาณร้อยละ 613.82 (ปี 2560 ผลผลิต 9,860 ตัน) โดยจังหวัดที่มีผลผลิตมากและต้องเฝ้าระวัง คือ 4 จังหวัดชายแดนใต้ อย่าง ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา มีผลผลิตรวม 35,649 ตัน คิดเป็นร้อยละ 50.65 ของปริมาณผลผลิตลองกองใต้ทั้งหมด ขณะนี้มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตลองกองไปแล้ว 30,326 ตัน คิดเป็นร้อยละ 43 ของผลผลิตลองกอง 14 จังหวัดภาคใต้ คงเหลือผลผลิตประมาณ 4 หมื่นตัน หรือร้อยละ 60 ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต แต่จากการติดตามสถานการณ์ผลผลิตลองกองในขณะนี้เปรียบเทียบกับข้อมูลที่คาดการณ์ไว้ พบว่า ผลผลิตลองกองของภาคใต้ลดลงมากกว่า ร้อยละ 50 หรือประมาณ 2 หมื่นตัน เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน มีฝนตกชุก ทำให้ลองกองผลแตก หลุดร่วงเป็นจำนวนมาก เดือนก
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ ลองกอง เป็นผลไม้ที่มีรสชาติดี แต่ทุกครั้งที่ซื้อมารับประทาน มักเกิดความรำคาญใจก่อนจะพบกับความอร่อย เพราะผลลองกองเต็มไปด้วยราสีเขียวๆ ผสมผสานกับมดดำ ผมจึงอยากจะขอคำแนะนำจากคุณหมอเกษตรผ่านไปยังชาวสวน ว่าจะมีวิธีทำอย่างไรเพื่อพัฒนาคุณภาพของลองกองให้น่ารับประทานมากกว่าที่ผ่านมา หากแก้ปัญหาได้ผมเองก็จะได้รับประทานลองกองที่สวยงาม สะอาดตา ขอขอบคุณมาในโอกาสนี้ครับ ขอแสดงความนับถือ สุชาติ วิทยานุรักษ์ กรุงเทพฯ ตอบ คุณสุชาติ วิทยานุรักษ์ ลองกอง เจริญเติบโตให้ผลผลิตได้ดีในบริเวณที่มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยตลอดปี 2,000-3,000 มิลลิเมตร และพื้นที่ปลูกสูงไม่เกิน 600 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพดินเป็นดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี ต้องการอุณหภูมิที่ 20-30 องศาเซลเซียส ลองกองจึงได้ผลดีในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกของไทย การขยายพันธุ์ทำได้ทั้งเมล็ด การเสียบยอด ติดตา และทาบกิ่ง แต่การปลูกจากเมล็ดมีข้อด้อยคือ ให้ผลผลิตเมื่ออายุ 4-5 ปี ส่วนต้นพันธุ์ที่ได้จากวิธีอื่นๆ จะให้ผลผลิตได้ภายใน 2-3 ปีเท่านั้น อีกทั้งได้ต้นลองกองเหมือนกับต้นแม่ทุกประการ การทำสวนลองกองทำได้ทั้งปลูกแซม
สหกรณ์การเกษตรสะบ้าย้อย จำกัด เปิดจุดรับซื้อลองกองคุณภาพ การันตีรสชาติหวานหอมกลมกล่อม ช่วยเกษตรกรชาวสวนลองกองในจังหวัดสงขลาเร่งระบายผลผลิตสู่ตลาด พร้อมส่งทดสอบตลาดที่ประเทศสิงคโปร์ ประเดิมล็อตแรก 2 ตัน วางแผนทำลองกองแปลงใหญ่คุณภาพ ป้อนตลาดพรีเมี่ยม-โมเดิร์นเทรด เชื่อลองกองจะช่วยสร้างรายได้ดีแก่เกษตรกรในระยะยาว นายประยงค์ รักทองอิน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรสะบ้าย้อย จำกัด จังหวัดสงขลา กล่าวถึงการเปิดจุดรับซื้อและรวบรวมผลผลิตลองกองจากเกษตรกรในจังหวัดสงขลา โดยจะเริ่มวันแรกในวันที่ 25 ส.ค. นี้ ว่าหลังจากประชุมร่วมกับเครือข่ายกับผู้ปลูกลองกองในจังหวัดสงขลา เพื่อหารือแนวทางการจำหน่ายผลผลิตลองกองคุณภาพออกสู่ตลาด ได้ข้อสรุปว่า จะสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสภาเกษตรอำเภอจังหวัดสงขลา สำนักงานเกษตรจังหวัด และกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดจุดรับซื้อลองกอง เพื่อช่วยพยุงราคาและช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลองกองในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อยเป็นวันแรก จากทั้งหมด 14 โซน เพื่อกระจายออกสู่ตลาดและผู้บริโภคทั่วประเทศ โดยในเบื้องต้นผลผลิตล็อตแรกจะส่งให้พ่อค้าที่ประเทศสิงคโปร์ปริมาณ 2 ตัน ก่อนจะกระจายสู่ผู้บริโภคผ่านเครือข่ายสหกร