สถานการณ์น้ำ
สทนช. ชี้ 2 สัปดาห์แรกของเดือน ต.ค. 67 ฝนภาคเหนือและอีสานจะลดลง ขยับลงมาตกในพื้นที่ภาคกลางและใต้ เร่งวางแผนทุกลุ่มน้ำเพิ่มพื้นที่รองรับฝนปลายฤดู พร้อมยังคงต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงในการเกิดพายุช่วงฤดูฝนนี้อีก 1 ลูก เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 67 นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน การประปานครหลวง สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นต้น เข้าร่วมการประชุม ณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการน้ำแห่งชาติ สทนช. เปิดเผยผลการประชุมว่า จากการประเมินสถานการณ์ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและ สสน. พบว่าในช่วง 2-3 ต.ค.67 ยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และเชียงราย จึงต้องเฝ้าระวังอย่า
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ หรือ สสน. ในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำ ผ่านทางเว็บไซต์คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ www.thaiwater.net และ ThaiWater Mobile Application โดยขอให้ประชาชนยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง 22-25 ก.ย.67 เนื่องจาก ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่าน มีฝนตกหนัก ในพื้นที่ภาค เหนือ กลาง อีสาน ตะวันออก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ท่วมขังในเมือง และน้ำล้นตลิ่ง จากฝนที่ตกสะสม ในขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( สทนช. ) ได้คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้าระหว่างวันที่ 21 – 23 ก.ย. 67 สทนช. ประเมินพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า 7 วัน พบว่ามีพื้นที่เสี่ยง จำนวน 47 จังหวัด ได้แก่ พื้นที่ภาคเหนือ – จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน) จ.ลำพูน (อ.ลี้) จ.ลำปาง (อ.เถิน และแม่พริก) จ.ตาก (อ.สามเงา)จ.สุโขทัย (อ.เมืองสุโขทัย กงไกรลาศ ศรีสำโรง ทุ่งเสลี่ยม สวรรคโลก ศรีสัชนาลัย บ้านด่านลานหอย และศรีนคร) จ.อุตรดิตถ์ (อ.น้ำปาด ท่าปลา ทองแสนขัน และพิชัย) จ.พิษณุโลก (อ.เมืองพิษณุโลก นครไทย พรหมพิราม ชาติตระการ
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงาน “รู้น้ำ รู้อากาศ รู้ทันภัยพิบัติ ผ่าน ThaiWater: เรียนรู้การติดตามสถานการณ์น้ำเพื่อการสื่อสาร” จัดโดย กระทรวง อว. เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะให้แก่สื่อมวลชนในการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยตนเอง เพื่อการรายงานข่าวสารและแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารพระจอมเกล้า กระทรวง อว. น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง กระทรวง อว. ตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติดังกล่าว จึงได้จัดตั้ง ‘ศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์น้ำท่วม อว.’ ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการวางแผน ประสานงาน และสั่งการ โดยนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างมีประสิทธิภาพ “หัวใจสำคัญของการรับมือกับภัยพิบัติคือ การมีข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และทันต่อเหตุการณ์ ทางกระทรวง อว. โ
สทนช. บูรณาการวางแผนเชิงรุกรับมือฤดูฝนลุ่มน้ำเจ้าพระยาพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เผยปรากฏการณ์ลานีญาเริ่มชัดเจนมากขึ้น คาดฝนตกหนักช่วงปลายฤดูเดือนสิงหาคม-กันยายน เตรียมจัดจราจรการระบายน้ำ ใช้พื้นที่บางระกำ บึงราชนก และบึงบอระเพ็ด เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด พร้อมดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมบริหารจัดการน้ำและสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะโฆษก สทนช. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาว่า หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศให้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา สถานการณ์ฝนได้ตกเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง ในพื้นภาคเหนือซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำของ 4 เขื่อนใหญ่ (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ยังมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนไม่มากนัก น้อยกว่าปริมาณน้ำที่ระบายออก เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ปริมาณความชื้นในดินยังไม่อิ่มตัว ฝนที่ตกลงมาจะซึมลงในดินเกือบทั้งหมด ทำให้มีปริมาณน้ำท่าที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำยังน้อยก
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ออกประกาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ในช่วงวันที่ 18-25 พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ จากการติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน ประเทศเมียนมา และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น จะทำให้ด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมาก สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำ จากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทันเพิ่มเติม ในช่วงวันที่ 22-26 พฤษภาคม 2567 ดังนี้ 1. ภาคเหนือ จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สรวย พาน เทิง เชียงของ และเวียงป่าเป้า) จังหว
สทนช. พบไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อนจนถึง 30 มีนาคมนี้ ก่อนฝนจะกลับมาช่วยลดร้อนอีกครั้งช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน 2567 ด้านสถานการณ์ระดับน้ำโขงเปลี่ยนแปลงฉับพลันจากการระบายน้ำของเขื่อนจิ่งหง ขณะนี้ยังไม่พบผู้ได้รับผลกระทบ แต่จะติดตามเฝ้าระวังใกล้ชิด เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยผลการประชุมประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ว่า ในระยะนี้ประเทศไทยมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน โดยเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 มีฝนตกมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหลังจากนี้ยังมีโอกาสจะเกิดฝนในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ด้วย อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนดังกล่าวจะค่อยๆ ลดลงในวันที่ 30 มีนาคม 67 ก่อนจะมีแนวโน้มที่ฝนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนเมษายน ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะสามารถช่วยลดอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ปริมาณฝนจะเริ่มตกมากตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 แต่คาดว่าอาจจะเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงได้ประมาณเดือนกรกฎาคม 2567 ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่ง สทนช. และหน่วยง
กอนช. ถกเข้มแผนบริหารจัดการน้ำปี 67 เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้งแบบเชิงรุก คาดครึ่งปีแรกฝนน้อยจากอิทธิพลเอลนีโญ สั่งเกาะติดฝนรายเดือนพร้อมปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ย้ำทุกหน่วยอย่าประมาทสงวนน้ำให้มากที่สุด ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า จากอิทธิพลของสถานการณ์เอลนีโญทำให้ประเทศไทยมีภาพรวมปริมาณฝนทั้งประเทศต่ำกว่าค่าปกติอยู่มาก และคาดการณ์ในครึ่งปีแรกจะมีปริมาณฝนน้อยกว่าค่าปกติค่อนข้างมาก โดยมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่ต้องเฝ้าระวังน้ำน้อยอยู่ 98 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือถึง 40 แห่ง ภาคเหนือ 25 แห่ง ภาคตะวันออก 13 แห่ง ภาคตะวันตก 9 แห่ง ภาคกลาง 7 แห่ง รวมถึงภาคใต้ที่แม้ในภาพรวมจะมีปริมาณฝนค่อนข้างมาก แต่เนื่องจากภาคใต้ตอนบนและตอนกลางยังคงมีฝนตกน้อย ทำให้มีแหล่งน้ำเฝ้าระวังน้ำน้อย 4 แห่ง โดยขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/67 ทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้มีการรักษาปริมาณน้ำต้นทุนไว้ให้มากที่สุดโดยไม่ป
กรมชลประทาน เดินหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำ ในพื้นที่จังหวัดตาก ชู 5 โครงการสำคัญในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอสามเงา อำเภอบ้านตาก และอำเภอแม่สอด หวังบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ และเพิ่มความสามารถการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บ่ายวันนี้ (7 ตุลาคม 2566) ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสามเงา อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายชูชาติ รักจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดตาก พร้อมรับฟังปัญหาและมอบถุงยังชีพ จำนวน 500 ถุง ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยมี นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้วางแผนพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดตากมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการที่ได้ดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 34 แห่ง ปัจจุบันอยู่ระ
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์น้ำและแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในลุ่มเจ้าพระยา เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฝนที่ตกหนัก และปรากฏการณ์เอลนีโญ ในการนี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำ ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน และสื่อมวลชน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร บินตรวจสภาพน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา จากศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะแวะลงจอดที่บริเวณเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา จากนั้นได้ร่วมกับ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าว ถึงแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในช่วงที่ฝนตกหนัก ควบคู่ไปกับการรับมือปรากฏการณ์เอลนีโญ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ตอนบนของประเทศ ส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและน้ำท่าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับขณะนี้เข้า
รมว.เกษตรฯ “ธรรมนัส” เข้ม…ย้ำชลประทานบริหารน้ำ ลดผลกระทบประชาชนให้มากที่สุด (21 กันยายน 2566) ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ถนนสามเสน กรุงเทพฯ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ผ่านทางระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และสำนักเครื่องจักรกล โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีฝ่ายบำรุงรักษา นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีฝ่ายบริหาร นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังส่งผลกระทบในปัจจุบัน ทำให้มีฝนตกน้อยกว่าค่าปกติ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝน ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนด สู่ 6 แนวทางปฏิบัติของกรมชลประทานอย่างเคร่