สูตรปุ๋ย
วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน บอกหมดเปลือก เคล็ดไม่ลับ “สูตรน้ำหมักปลา” เป็นแหล่งสารอาหารสำหรับจุลินทรีย์ดิน บำรุงต้น ช่วยให้ออกดอกเร็ว บำรุงต้นก่อนออกดอกช่วยให้ออกดอกเร็ว เก็บผลผลิตได้เร็ว ซึ่งการใส่น้ำหมักปลาลงดินจะช่วยให้จุลินทรีย์ในดินย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ได้เร็วยิ่งขึ้น ทำให้ปลดปล่อยธาตุอาหารที่มีประโยชน์ต่อพืชมากขึ้น ได้ผลผลิตปริมาณที่มากขึ้นและมีคุณภาพดี ช่วยให้ช่อดอกมีความยาวเพิ่มขึ้นและช่วยในการแตกยอดใหม่ของพืช แต่ถ้าใช้ในอัตราเข้มข้นก็จะทำหน้าที่ปราบศัตรูพืชได้ รวมถึงพืชสามารถใช้กรดอะมิโนในการผลิตฮอร์โมนพืชในกลุ่มออกซินได้ วิธีสังเกตว่าจะนำน้ำหมักมาใช้ได้ ระยะที่ 1 สังเกตน้ำหมักจะออกเข้มข้นเป็นฟองใหญ่ไม่แตกง่าย ระยะที่ 2 ฟองจะค่อยๆ เล็กและแตกง่ายจะมีกลิ่นหอม ระยะที่ 3 ฟองจะค่อยๆ เล็กลงมากมีกลิ่นน้ำส้มคล้ายกลิ่นแอลกอฮอล์และฟองจะละเอียดมากขึ้น วิธีใช้ : พ่นทางใบ ใช้ปุ๋ยน้ำ 1 ลิตรต่อน้ำ 100-150 ลิตร ปริมาณการพ่น 7-10 วันต่อครั้ง และใช้ราดลงดิน ราดโคน ใช้ปุ๋ยน้ำ 1 ลิตรต่อน้ำ 50 ลิตร ปริมาณการใช้อย่างน้อยปีละ 3-4 ครั้ง หรือ 30-40 วันต่อครั้ง ข้อแนะนำ : กรณีใช้ปลาทะเล ก่อนหมักให้ล้างปลาด
วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน รวมสูตรน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมักชนิดต่างๆ ที่สายเกษตรปลูกผักทำสวนไม่ควรพลาด สามารถนำไปทำตามกันได้ง่ายๆ วัตถุดิบหาได้ไม่ยาก แถมมีประโยชน์กับการปลูกพืชผักชนิดต่างๆ อีกด้วย จัดหนัก จัดเต็มทั้ง 13 สูตร สามารถนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่บอกหมดเปลือกตั้งแต่อุปกรณ์วัตถุดิบ ขั้นตอนการทำ รวมไปถึงวิธีการนำมาใช้ จะมีสูตรไหนกันบ้างไปดูกันเลย เคล็ดไม่ลับ “สูตรน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง” กำจัดแมลงที่ชอบมากัดกินใบทำให้เป็นรู และเหี่ยวแห้ง แต่ไม่อยากใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ไร้สารตกค้าง เรียกได้ว่าวัตถุดิบวันนี้หาได้ง่ายๆ สมุนไพรล้วนๆ ที่มีรสเผ็ดร้อนและมีกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย ไม่มีสารเคมีปลอดภัยแน่นอน ซึ่งแต่ละชนิดล้วนมีสรรพคุณช่วยขัดขวางการดูดกินอาหารและยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลงหลายชนิด และทำให้ไข่แมลงฝ่อ รวมถึงช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุโรคพืชได้ วิธีใช้ : นำน้ำสกัดสมุนไพรที่กรองได้ทั้งหมด มาผสมกับน้ำ 10 ลิตร ใช้ฉีดพ่นต้นผักในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดดทุก 7-10 วัน เพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืช แต่หากมีแมลงระบาดมากให้ฉีดพ่นทุก 3-5 วัน ข้อแนะนำ : น้ำหมักสูตรนี้ไม่ค
ผักกรอบไม่ง้อเคมี! ด้วย “สูตรน้ำหมักถั่วเหลือง” ฮอร์โมนถั่วเหลือง จะช่วยเร่งต้น เร่งใบ ทำให้ผักอ่อนกรอบ ลำต้นไม่แคระแกร็น ผักสมบูรณ์แข็งแรง และช่วยบำรุงดิน ทำให้ดินดี มีธาตุอาหารมากขึ้น 🔴วัตถุดิบ ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม (ที่ใช้ทำน้ำเต้าหู้) ผงกลูโคส 1 กระป๋อง (ปริมาณ 400 กรัม) น้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม โยเกิร์ต (รสธรรมชาติ) 2 ถ้วย หรือ ยาคูลท์ 2 ขวด น้ำส้มสายชู 1/2 ขวด (ขนาดขวดน้ำปลา) มะพร้าว 4 ลูก กลูโคส 400 กรัม น้ำเปล่า 8 ลิตร 🪴ขั้นตอนการทำ ล้างถั่วเหลืองด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด นำไปแช่ในน้ำอุ่นทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นเทน้ำทิ้งแล้วล้างให้สะอาดอีกครั้ง นำถั่วเหลืองที่ล้างแล้วผสมกับน้ำสะอาด 8 ลิตรปั่นให้ละเอียด กรองกากถั่วเหลืองครั้งแรกด้วยกระชอน แล้วกรองซ้ำอีกครั้งด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นเทใส่ถังที่เตรียมไว้ ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตามลงไปในถัง คนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วปิดฝา หมักทิ้งไว้ 1 เดือน 🍀วิธีใช้ ผสมน้ำหมักถั่วเหลือง 2-3 ช้อนลงในน้ำเปล่าประมาณ 5 ลิตร ใช้รดผักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ช่วยให้ผักเติบโตได้ดี ลำต้นแข็งแรง และทำให้ผักกรอบอร่อย ✨เคล็ดลับ หากใช้ยาคูลท์หมักทิ้งไว้ 1 เดือน หากใ
หลายๆ คนอาจจะสงสัย “จิบเบอเรลลิน” คืออะไร ก่อนอื่นวันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านจะพาทุกคนไปทำความรู้จักก่อน จิบเบอเรลลิน (Gibberellin) เป็นฮอร์โมนพืชที่มีโครงสร้างโมเลกุลขนาดใหญ่ ควบคุมการเจริญเติบโตและมีอิทธิพลต่อกระบวนการทางพัฒนาการ รวมทั้งการยืดของข้อ การงอก การพักตัว การออกดอก การแสดงเพศ การชักนำการสร้างเอนไซม์ รวมทั้งการชราของดอกและผล บางคนอาจจะทราบราคาค่อนข้างแรง วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านเลยมีสูตรการทำจิบเบอเรลลินจากหัวไชเท้า ที่ช่วยกระตุ้นพืชแตกยอด ที่สามารถทำไว้ใช้เองได้ ช่วยประหยัดไปได้ส่วนหนึ่ง ใครพร้อมแล้วไปดูสูตรกันได้เลย วัสดุอุปกรณ์ หัวไชเท้า 1/2 กิโลกรัม น้ำตาลกลูโคส 4 กิโลกรัม น้ำมะพร้าวอ่อน 1 ลูก เครื่องดื่มชูกำลัง 1/2 ขวด วิธีทำ ปอกเปลือกหัวไชเท้า แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำหัวไชเท้า ผสมกับน้ำตาลกลูโคส น้ำมะพร้าวอ่อน และเครื่องดื่มชูกำลัง คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน การนำไปใช้ นำส่วนผสมที่ได้ 50-100 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นพืชผักทุก 3-7 วัน สูตรนี้เป็นสูตรเร่งด่วนคือทำแล้วต้องใช้ให้หมด ถ้าไม่หมดสามารถเก็บในตู้เย็นได้ไม่เกิน 1 อาทิตย์ แต่ถ้าจะให้ได้ผลด
ในน้ำมะพร้าวจะมีสารไซโตไคนิน น้ำตาล วิตามิน เกลือแร่ และแร่ธาตุอีกหลายชนิด จึงมีประโยชน์ต่อพืช สามารถนำมาใช้เลี้ยงและขยายเชื้อจุลินทรีย์ได้ดี 🪴ขั้นตอนการทำ 1.หั่นมะพร้าวให้เป็นชิ้นเล็กๆ ห่อด้วยมุ้งไนลอน และใส่ลงในถังหมัก 2.เติมน้ำสะอาดลงไป 3.ปิดฝาถังหมักทิ้งไว้ 20 วัน หรือจนกว่าเนื้อมะพร้าวจะย่อยสลาย 4.เติมน้ำหน่อกล้วยลงไป หมักต่ออีก 10 วัน เพื่อเลี้ยงจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง หมายเหตุ : เหลือพื้นที่ให้มีอากาศเพื่อให้จุลินทรีย์หายใจ 10% ของพื้นที่ 🪴วัตถุดิบ เนื้อมะพร้าว 1 กิโลกรัม น้ำสะอาด 5 ลิตร น้ำหน่อกล้วย 1 ลิตร ✨วิธีการนำไปใช้ น้ำเนื้อมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำ 20 ลิตร ใช้รด ราด หรือฉีดพ่นทางใบ จะช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช 🌱ขอบคุณสูตรจาก : อาจารย์ปรีชา บุญท้วม04 #เทคโนโลยีชาวบ้าน #technologychaoban #สูตรปุ๋ย #สูตรน้ำหมัก #มะพร้าว #น้ำสกัดเนื้อมะพร้าว
สูตรน้ำหมักที่จะช่วยเร่งพัฒนาการของตาดอกให้เจริญเร็ว ช่วยในการติดดอกและออกดอกดก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับไม้ตัดดอก เช่น ดาวเรือง มะลิ กุหลาบ ทำง่าย ประหยัด และไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อตัวผู้ใช้และธรรมชาติ สูตรนี้จะช่วยกระตุ้นการแตกตาดอกและพัฒนาการของดอกได้ดี เหมาะสำหรับใช้กับไม้ตัดดอกทั่วไป และไม้ผลระยะออกดอกบางชนิด 🪴วิธีการ สับชมพู่ให้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปใส่ในถังหมัก เติมกากน้ำตาล พด.2 และน้ำเปล่าลงไปในถัง คนให้เข้ากัน หมักไว้นานประมาณ 6 เดือน โดยระหว่างหมักให้แบ่งใส่รำละเอียดลงในถังหมัก อาทิตย์ละครั้ง ครั้งละประมาณ 1 กิโลกรัม แล้วคนรำละเอียดให้เข้ากันกับน้ำหมักไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบเวลาที่กำหนด เมื่อครบกำหนดก็สามารถนำน้ำหมักที่ได้ไปใช้ได้ทันที 🪴วัตถุดิบ ชมพู่ จำนวน 30 กิโลกรัม พด.2 จำนวน 2 ซอง กากน้ำตาล จำนวน 30 กิโลกรัม น้ำเปล่า จำนวน 30 ลิตร รำละเอียด จำนวน 30 กิโลกรัม ✨วิธีการนำไปใช้ ใช้น้ำหมัก 20 ซีซีต่อน้ำ 25 ลิตร ฉีดในช่วงเช้าหรือเย็น ขณะไม่มีแดด หรือช่วงพืชแตกตาดอก 🌱ขอบคุณสูตรจาก : ประสิทธิ์ โสภี. เกษตรกรบ้านเขาดิน 🌐ขอบคุณข้อมูลจาก : rakbankerd.com #เทคโนโลยีชาวบ้าน #technologychaoban
ในปัจจุบันวิธีทำปุ๋ยบำรุงต้นไม้ มีหลากหลายวิธี แต่ที่ง่ายที่สุดคือการนำเปลือกกล้วยหอม เปลือกกล้วยน้ำว้า ที่กินเสร็จอย่าเพิ่งทิ้ง! เพราะมีประโยชน์ต่อต้นไม้หลายอย่าง เปลือกกล้วยอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตของต้นไม้ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส ที่สามารถช่วยป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชได้อีกด้วย สารอาหารที่อยู่ในเปลือกกล้วย 1. โพแทสเซียม : หนึ่งในธาตุอาหารหลักที่พืชต้องการ ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของราก ใบ หากใช้ในผักกินใบ จะทำให้ใบกรอบ สีเขียวสวย น่ากิน ซึ่งปกติเราอาจต้องซื้อปุ๋ยโพแทสเซียมเสริม แต่เราสามารถทดแทนได้ง่ายๆ ด้วยเปลือกกล้วย 2. ฟอสฟอรัส : ในเปลือกกล้วยมีปริมาณฟอสฟอรัสมากพอสำหรับพืช ช่วยเรื่องการออกดอกและติดผล ทำให้ไม้ดอกไม้ประดับออกดอกสวย สีสันงดงาม มาลงมือทำปุ๋ยกันเถอะ โดยจะเริ่มใช้ในช่วงที่ระยะติดดอก ออกผล ซึ่งสูตรนี้มีประโยชน์ค่อนข้างดีในการที่ช่วยทำให้ติดดอก ออกผล เร่งการแตกยอด ไม่ว่าจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผล พืชผักสวนครัวก็สามารถนำไปฉีดพ่นได้ วัตถุดิบ – เปลือกกล้วย – น้ำ – โหลแบบมีฝาปิด วิธีทำ 1. ใช้เปลือกกล้วยจากกล้วยที่สุกแล้
ใครที่กินสับปะรดแล้ว อย่า อย่า❗️เพิ่งนำเปลือกไปทิ้ง สามารถเอาไปทำประโยชน์ได้ เป็นจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในตาและเปลือกของสับปะรด นำมาทำจุลินทรีย์น้ำหมักสับปะรดได้ เพื่อบำรุงการเจริญเติบโตของต้นพืช และยังมีสรรพคุณช่วยปรับสภาพดินจากดินแข็ง ดินเหนียว ดินดาน ทำให้ดินมีความร่วนซุยมากขึ้น 🪴วิธีการ 1. ฉีกหรือสับเปลือกสับปะรดให้มีขนาดเล็กลง ยิ่งเล็กก็ยิ่งทำให้การนำไปใช้ประโยชน์และการย่อยสลายง่ายขึ้น จากนั้นนำไปใส่ถังหมัก 2. เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยในขวดบรรจุกากน้ำตาล เพื่อทำการละลายกากน้ำตาล เมื่อกากน้ำตาลละลายแล้ว ให้เติมลงไปในถังหมัก 3. เติมน้ำเปล่าให้พอท่วมเปลือกสับปะรด 4. คนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นปิดฝา 🪴วัตถุดิบ – เปลือกสับปะรด จำนวน 1 กิโลกรัม – กากน้ำตาล จำนวน 100 มิลลิลิตร – น้ำเปล่า – ถังหมักพร้อมฝาปิด ✨วิธีการนำไปใช้ – นำไปรดพืชผัก ใช้อัตราส่วน 20 ซีซี : น้ำ 20 ลิตร มีประโยชน์ช่วยในการปรับสภาพดินและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของราก เมื่อรากพืชเดินได้ดี ต้นพืชของเราก็จะเจริญงอกงาม – รองพื้นก้นหลุมหรือใช้ปรับสภาพดิน อัตราส่วน 100 ซีซี : น้
วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน บอกหมดเปลือก เคล็ดไม่ลับ “สูตรน้ำหมักสมุนไพรกำจัดเพลี้ยชนิดต่างๆ” เพลี้ยแป้ง หรือเพลี้ยชนิดต่างๆ เป็นศัตรูพืชชนิดหนึ่ง จะอยู่ในดินตามบริเวณรากพืช แล้วขับถ่ายออกมามีลักษณะเหมือนน้ำหวาน มดจึงเข้าไปกิน หลังจากนั้นมดจะคาบเพลี้ยแป้งไปไว้ตามยอดไม้ หรือยอดอ่อนของใบ ตามต้น หรือดอกไม้ ชอบดูดกินน้ำหวานจนต้นไม้ขาดสารอาหาร และทำให้การเจริญเติบโตของต้นต้องหยุดชะงัก อีกทั้งยังสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็ว จึงต้องป้องกันการระบาดให้ดี เพื่อไม่ให้พืชผลได้รับผลกระทบ ✨วิธีใช้ : ใช้น้ำหมักจำนวน 10-20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ถ้าเห็นว่าเพลี้ยตายหมดไม่มีเกาะตามใบ หรือต้นพืชแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฉีดซ้ำ จะฉีดน้ำหมักก็ต่อเมื่อมีเพลี้ยมาเกาะกินน้ำเลี้ยงพืชเท่านั้น อาจจะฉีดติดต่อกันประมาณ 3 วันเพื่อเป็นการป้องกัน 📌ข้อแนะนำ : ถ้าพบเพลี้ยแป้งเป็นจำนวนน้อยเกาะอยู่ตามใบ หรือส่วนที่ตัดทิ้งได้ ให้ตัดทิ้งไปก่อน 💡ประโยชน์ : เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟจะตาย ถ้าต้องการให้ตายมาก ให้เอาข่าแก่ๆ ทุบให้แตก ตะไคร้หอมตัดให้ยาวประมาณ 4-5 นิ้ว ทุบให้แตก พริกขี้หนูแก่ โขลกให้ละเอียด อย่างละ 1กิโลกรัม ผสมหมักลงไปอีกเพิ่มน
วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน บอกหมดเปลือก เคล็ดไม่ลับ “สูตรน้ำหมักชีวภาพ จากนม” มีกรดแลกติกที่ช่วยทำให้ดินร่วนซุย มีสารส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชกลุ่มออกซิน ไซโตไคนิน ปริมาณธาตุอาหารหลัก และธาตุอาหารรอง ที่ช่วยบำรุงต้น และกระตุ้นยอดอ่อนของพืช ✨วิธีใช้ : ใช้เป็นน้ำยาเร่งราก ตัดชิ้นไขที่เกิดด้านบน 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำ 10 ลิตร ผสมให้เข้ากัน แล้วนำกิ่งพันธุ์พืชแช่ไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงนำไปปลูกในถุงปักชำ ถ้าใช้ในการบำรุงต้น กระตุ้นยอดอ่อน ใช้น้ำหมักฯ ที่เป็นชั้นน้ำใสด้านล่าง อัตรา 10-20 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นต้นพืช สัปดาห์ละครั้ง 👍🏻ประโยชน์ 1. ช่วยให้พืชเจริญเติบโต สมบูรณ์แข็งแรง เพราะในน้ำนมมีสารอาหารโปรตีนสูง อย่าง เคซีน โกลบูมิน อัลบูมิน และกรดอะมิโน ที่เมื่อถูกจุลินทรีย์ย่อยสลายแล้ว จะกลายเป็นธาตุไนโตรเจน จึงมีส่วนช่วยให้พืชเจริญเติบโต สมบูรณ์ แข็งแรง เร่งต้น เร่งใบ ให้โตเร็วยิ่งขึ้น 2. เพิ่มความหวานกรอบให้กับผลผลิต การฉีดรดพืชทางใบด้วยฮอร์โมนนมสด สามารถเพิ่มความหวานกรอบให้กับผลผลิตได้ ไม่ว่าจะเป็นผักสลัดและผักกินใบชนิดต่างๆ 📌ข้อแนะนำ : น้ำหมักชีวภาพจากนม ที่พร้อมใช้งานแล้วจะสังเกตได้จ