อสค
กรุงเทพฯ พฤศจิกายน 2563 – เครือเบทาโกร ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการในการส่งเสริมกิจการด้านโคนมเพื่อสร้างความร่วมมือทางวิชาการ ยกระดับมาตรฐานและพัฒนาประสิทธิภาพด้านโคนม ตลอดจนสร้างความร่วมมือทางวิชาการตามโครงการต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรโคนมให้เติบโตอย่างยั่งยืน นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร เครือเบทาโกร (ที่ 1 จากขวา) และ นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) (ที่ 1 จากซ้าย) ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือทางวิชาการในการส่งเสริมกิจการด้านโคนม เพื่อยกระดับมาตรฐาน และพัฒนาพัฒนาประสิทธิภาพงานด้านโคนม ตลอดจนสร้างความร่วมมือทางวิชาการตามโครงการต่อเนื่อง โดยมี นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ ประธานกรรมการ อ.ส.ค. (ที่ 2 จากซ้าย) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ณ ห้องประชุม 3 สำนักงานองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย นายวนัส กล่าวว่า “เครือเบทาโกรยินดีที่ได้มีโอกาสร่วมมือทางวิชาการกับ อ.ส.ค. โดยความร่วมมือในครั้งนี้เครือเบทาโกรจะนำประสบการณ์และองค์ความรู้มาสนับสนุน และช่วยเหลือเกษตรกรไทย เพื่อสร้างควา
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เดินหน้าพันธกิจส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนมให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนการใช้ TMRและขยายศูนย์ผลิตอาหาร Feed Centerเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำนมดิบและลดต้นทุนการเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกรหวังสร้าง Smart Farmer ตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อันเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยถึง แนวทางการดำเนินงานในภาคส่วนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมว่า “เนื่องจากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมียุทธศาสตร์ที่มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร, เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินค้าเกษตรตลอดโซ่อุปทาน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม อีกทั้งยังมีความประสงค์ที่จะสร้างSmart Farmerเกษตรกรที่ทำการเกษตรด้วยองค์ความรู้อย่างชาญฉลาด เพื่อที่จะเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ชาติ ไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน อ.ส.ค. เองก็มีพันธกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งเ
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ตั้งเป้ารายได้หมื่นล้านเร่งขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ทุ่มงบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ โดยขยายรายผลิตที่โรงงานนม อ.ส.ค. ภาคเหนือตอนบน ต.ห้วยแก้ว จ.เชียงใหม่ เพื่อรุกขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า ในปี 2562 อ.ส.ค. ตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากปีงบประมาณ 61 ที่ทำรายได้ 9,560 ล้านบาท อ.ส.ค.ทุ่มงบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมเย็นที่โรงงานนม อ.ส.ค. ภาคเหนือตอนบน โดยนำไปปรับปรุงในส่วนของโรงงาน ระบบการผลิต และเครื่องจักรใหม่ ซึ่งในปัจจุบันการผลิตผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมเย็นมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การลงทุนในการปรับปรุงและการขยายไลน์ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมเย็นที่โรงงานนม อ.ส.ค. จังหวัดเชียงใหม่ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อจะผลักดันให้ อ.ส.ค. สำนั
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ได้จัดกิจกรรม CSR ภายใต้โครงการแบ่งฝัน ปันรักกับนมไทย-เดนมาร์ค ครั้งที่ 4 โดยอ.ส.ค.เล็งเห็นความสำคัญด้านการรณรงค์และส่งเสริมการบริโภคนมเพื่อสุขภาพให้แก่ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย รวมถึงส่งเสริมการดื่มนมในผู้สูงอายุด้วย ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “การจัดกิจกรรมโครงการแบ่งฝัน ปันรักกับนมไทย-เดนมาร์ค 2019 (ครั้งที่ 4) ที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์ จ.เชียงใหม่ ในครั้งนี้ ทางอ.ส.ค. ได้ให้ความสำคัญในการรณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยหันมาบริโภคนมโคสดแท้100%ไม่ผสมนมผงอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมภายใต้แบรนด์นมไทย-เดนมาร์ค รู้สึกภูมิใจมาก ที่ได้มีโอกาสจัดกิจกรรมที่ดีเช่นนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคนมแก่ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยให้หันมาใส่ใจการดื่มนมเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ซึ่ง“นม” มีคุณค่าทางสารอาหารสูงมากมาย ทั้งโปรตีน แคลเซียม วิตามิน กรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ และมีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ การดื่มนมทุกวัน ย่อมทำให้สุขภาพร่างกายดี กระ
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ให้การสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรและสหกรณ์โคนมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่เกษตรกรและสหกรณ์ฟาร์มโคนมไทย ทั้งการให้ความรู้การจัดตั้งฟาร์มโคนม การเลี้ยงโคนม การดูแลและบริหารจัดการกิจการฟาร์มโคนมแก่เกษตรกรทุกด้าน ทั้งด้านการจัดการฟาร์ม ด้านการจัดการอาหารที่เพียงพอต่อโคนมในฟาร์มของเกษตรกร รวมถึงการจัดการฟาร์ม และยังพัฒนาพันธุ์โคนมให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในประเทศไทยที่มีอากาศร้อน ในขณะเดียวกันโคนมก็ยังสามารถผลิตน้ำนมได้มากขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรได้ผลผลิตน้ำนมดิบเพิ่มและทำกำไรให้แก่เกษตรกรมากขึ้น ดร. ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า การเลี้ยงโคนมให้มีกำไรสามารถทำได้โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคนม สำหรับในประเทศไทยเรื่องที่ต้องมีการปรับปรุง พัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคนม มี 3 เรื่องหลักๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการจัดการฟาร์ม คือ 1. การบริหารจัดการอาหาร 2. การบริหารจัดการฟาร์มที่ต้องควบคุมอุณหภูมิคอกพัก 3. บริหารจัดการคอกโคนมให้ปลอดโปร่ง ไม่ร้อนชื้น พื้นไม่เปียกแฉะ โดย 3 ปัจจ
นายณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า อ.ส.ค. จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู (MOU) ซื้อขายน้ำนมโค ปี 2561/62 กับสหกรณ์โคนมและศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบในเขตพื้นที่ส่งเสริมของ อ.ส.ค. ทุกภูมิภาคจำนวน 44 สหกรณ์/ศูนย์ ปริมาณน้ำนมดิบรวม 735 ตัน/วัน ได้แก่ พื้นที่ภาคกลาง จำนวน 17 สหกรณ์ ปริมาณน้ำนมดิบที่ร่วม MOU จำนวน 357 ตัน/วัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 สหกรณ์ น้ำนมดิบ 153 ตัน/วัน ภาคใต้ 8 สหกรณ์ น้ำนมดิบ 90 ตัน/วัน ภาคเหนือตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง รวม 11 สหกรณ์ น้ำนมดิบ 135 ตัน/วัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ประมาณ 7-10% ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำนมดิบล่วงหน้า เนื่องจากปริมาณนมดิบของสหกรณ์โคนม/ศูนย์ฯ และสมาชิกในเขตพื้นที่ส่งเสริมของ อ.ส.ค. ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะบางช่วงอาจมีน้ำนมดิบส่วนเกินเพื่อป้องกันไม่ให้กระทบต่อผู้เลี้ยงโคนม และไลน์ผลิตของโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คทุกโรงงาน ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรเครือข่ายของอ.ส.ค. ด้วยว่า มีตลาดรองรับผลผลิตน้ำนมดิบที่แ
นายณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)เปิดเผยว่า อ.ส.ค. ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านโคนมและอุตสาหกรรมการแปรรูปนม (MOU)ระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณะวิทยาศาสตร์ เพื่อร่วมมือกันวิจัยและพัฒนาด้านวิชาการ อีกทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ทางด้านวิชาการ และการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของทั้งสองฝ่าย ขณะเดียวกันยังรวมถึงการฝึกอบรมให้ความรู้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของการผลิตโคนม และประการสำคัญก่อให้เกิดความมั่นคงทางด้านอาหารของประเทศอีกด้วย ทั้งนี้อ.ส.ค.มีแนวทางในการสืบสาน รักษา ต่อยอด อาชีการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรให้มีความมั่นคงยั่งยืน และผลัดกันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ และการวิจัยด้านอุตสาหกรรมโคนมในภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาศักยภาพการส่งออกผลิตภัณฑ์นมยังตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับอ.ส.ค. จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งที่จะสามารถขับเคลื่อนการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโคนมของไทยทั้งระบบ ให้ขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมโคนมของภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้อ.ส.
กรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมแสดงนิทรรศการในงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ปี 2561 ระหว่างวันที่ 30 ม.ค. – 5 ก.พ. นี้ ณ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย จังหวัดสระบุรี นำเสนอความก้าวหน้าธุรกิจสหกรณ์โคนมทั่วประเทศ พร้อมสานต่ออาชีพการเลี้ยงโคนม พัฒนาห่วงโซ่การผลิตจนถึงการตลาด ตั้งแต่การสนับสนุนปรับปรุงมาตรฐานฟาร์มโคนม สู่ระบบ GAP การพัฒนาศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบและโรงงานแปรรูปนมของสหกรณ์ เพิ่มความหลากหลายผลิตภัณฑ์นม เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค เตรียมขยายตลาดนมสหกรณ์สู่ประเทศเพื่อนบ้าน นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันที่ 17 มกราคมของทุกปีเป็นวันโคนมแห่งชาติ ซึ่งนับเป็นวันสำคัญยิ่งต่ออาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งชาติ (อสค.) ได้จัดงานเทศกาลโคนมแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระผู้พระราชทานและพระผู้สืบสานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่ปวงชนชาวไทย ตลอดจนเป็นการพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ด้านกิจการโคนมระ
อ.ส.ค. ตั้งเป้าปี 2561 กวาดรายได้ขายนมเกือบ 9,000 ล้าน เล็งส่งออกประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มอีก 10% “ณรงค์ฤทธิ์” ยอมรับยอดขายไตรมาส 1 พลาดเป้า เหตุเจอโรคปากและเท้าเปื่อยระบาดหนัก นายณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แผนการดำเนินงานในปี 2561 (ต.ค. 2560-ก.ย. 2561) ตั้งเป้าหมายรายได้เกือบ 9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เนื่องจากปริมาณผลผลิตน้ำนมดิบของเกษตรกรเพิ่มขึ้นเช่นกัน แยกเป็น รายได้จากนมโรงเรียน 1,000 ล้านบาท การส่งออกผลิตภัณฑ์นมไปประเทศเพื่อนบ้าน 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ที่เหลือ 6,000 กว่าล้านบาท เป็นการขายนมเชิงพาณิชย์ในประเทศปี 2561 อ.ส.ค.รับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรทั่วประเทศเฉลี่ยวันละ 650 ตัน แต่ในไตรมาสแรก (ต.ค. 2560-ธ.ค. 2560) ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท แต่ทำรายได้เพียง 80% เนื่องจากโรคปากและเท้าเปื่อยระบาดหนักในช่วงเดือน ส.ค. 2560 เป็นต้นมา ทำให้ อ.ส.ค.รับซื้อน้ำนมดิบลดลงไปมาก เหลือวันละประมาณ 500 กว่าตัน น้ำนมดิบหายไปวันละประมาณ 100 ตัน แต่ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น รับซื้อได้วันละเกือบ 600 ตันแล้ว คาดว
ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) ให้การต้อนรับ Mr. Rolf Stangle CEO และคณะผู้บริหารจาก บริษัท เอส ไอ จี คอมบิบล็อค จำกัด พร้อมทั้งนำเยี่ยมชมโรงงานผลิตนมไทย-เดนมาร์ค และเครื่องจักร (High-Speed) ณ สำนักงาน อ.ส.ค.ภาคกลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี