เมล็ดพันธุ์
นครสวรรค์ ถือเป็นแหล่งปลูกผักชีฝรั่งที่ใหญ่และสำคัญมากในประเทศ มีพื้นที่หลายตำบล และหลายหมู่บ้านที่ยึดอาชีพนี้ อาทิ เขตพื้นที่ ตำบลวัดไทร, ตำบลบางม่วง และตำบลตะเคียนเลื่อน ลักษณะการปลูกผักชีฝรั่งในแต่ละครัวเรือนไม่เท่ากัน มีจำนวนเนื้อที่ปลูกตั้งแต่น้อย สัก 1 ไร่ขึ้นไปจนกระทั่งไปถึงจำนวนหลายสิบไร่ เกษตรกรบางรายมักปลูกร่วมกับพืชอายุสั้นชนิดอื่น แต่บางรายอาจปลูกเพียงอย่างเดียว ผักชีฝรั่ง หรือที่ชาวบ้านบางรายเรียกกันว่า ผักชีใบยาวบ้าง ผักชีหนามบ้าง เป็นพืชอายุสั้น ใช้เวลาปลูกประมาณ 4 เดือน เก็บผลผลิตขายได้แล้ว เกษตรกรหลายรายต่างก็ยืนยันว่ามีรายได้มากกว่าการปลูกพืชหลายชนิด แม้จะต้องลงทุนมากในช่วงการเริ่มต้นครั้งแรก แต่หลังจากเวลาผ่านไปสามารถได้คืนทุน ตำบลท่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เป็นอีกแห่งที่ชาวบ้านปลูกผักชีฝรั่งหารายได้ เกษตรกรอย่างคุณสมพร กลิ่นนิ่มนวล อยู่บ้านเลขที่19 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ โทรศัพท์ (089) 639-9189 เป็นอีกคนที่ทำอาชีพนี้เช่นกัน และทำมาหลายปีแล้ว ซื้อเมล็ดพันธุ์เพียงครั้งแรกเท่านั้น ครั้งต่อไปจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูก คุณสมพร ปลูกผักชีฝ
เจียไต๋ขานรับ IGNITE THAILAND ร่วมขับเคลื่อนไทยสู่ศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน กรุงเทพฯ 17 มิถุนายน 2567 – เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ร่วมนำเสนอปัจจัยการผลิตคุณภาพสูงอย่างเมล็ดพันธุ์พืชที่ผ่านการวิจัยและปรับปรุงสายพันธุ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ทนทานต่อสภาพอากาศ พร้อมสร้างความหลากหลายของชนิดพืช พร้อมด้วยปุ๋ยตรากระต่าย ผลิตภัณฑ์อารักขาพืชเจียไต๋ และผลิตผลสดเจียไต๋ฟาร์ม ตอบรับแนวทางยุทธศาสตร์ IGNITE all rummy apps ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และส่งเสริมการเกษตรยั่งยืน ในโครงการสืบสาน รักษา ต่อยอด ศูนย์เรียนรู้การผลิตพืชตามแนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 55 พรรษา กรมวิชาการเกษตร
เจียไต๋ ส่งตัวแทนผู้นำรุ่นใหม่ ร่วมหาโซลูชั่นเพื่อโลกที่ยั่งยืน บนเวที One Young World Summit 2023 กรุงเทพฯ 12 ตุลาคม 2566 – บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย สนับสนุนพลังของผู้นำรุ่นใหม่ ร่วมส่ง 2 ตัวแทนเจียไต๋เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก “One Young World Summit 2023” พร้อมกับเยาวชนจาก 190 ประเทศทั่วโลก เพื่อร่วมเสวนาและเสาะหาวิธีการรับมือกับประเด็นวาระเร่งด่วนของโลก ระหว่างวันที่ 2-5 ตุลาคม 2566 ณ เมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ โดยตัวแทนเจียไต๋ทั้ง 2 ท่าน ได้แก่ คุณปาริชาติ แก้วด้วง และ คุณภวัต หาญภักดี ได้เข้าร่วมการประชุมโดยมุ่งเน้นประเด็นเรื่องวิกฤตการณ์ทางอาหาร (Food Crisis) ซึ่งเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับด้านการเกษตร และสั่นคลอนถึงความมั่นคงทางอาหารที่ทั่วโลกกำลังประสบ คุณมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวถึง One Young World Summit 2023 ว่า “ที่เจียไต๋ เราได้มอบพื้นที่แห่งโอกาสให้กับพนักงานทุกคนได้เรียนรู้ พัฒนาทักษะ และเติบโตในสายงานของตน เพื่อเป็นคนเก่งคนดีร่วมผลักดันองค์กรสู่เป้าหมาย พร้อมๆ กับสามา
หลายสิบปีมาแล้วที่ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด เห็นถึงความยากลำบากของเกษตรกรรายย่อยที่เผชิญหน้ากับความเสี่ยงในการทำเกษตรบางปีแทบไม่เหลือเงินติดมือ ขณะที่เขาเหล่านั้นเป็นหัวใจของภาคเกษตรไทย และมีศักยภาพในการพัฒนา บริษัทจึงเข้าไปส่งเสริมให้มีอาชีพเพาะเมล็ดพันธุ์คุณภาพนอกเหนือจากการปลูกข้าวหรือพืชผักอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มรายได้ และยกระดับศักยภาพของเกษตรกรไทย โดยแนวทางดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปักธงการส่งออกเมล็ดพันธุ์มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านเมล็ดพันธุ์ผักในระดับโลก (World Leader of Tropical Seed) ตามที่ได้ประกาศไว้ในที่ประชุม Asian Seed Congress 2022 หลายฝ่ายทราบดีว่าเป้าหมายนี้ไม่ง่ายที่จะไปให้ถึง แต่ก็ไม่ยากเกินฝัน หากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมืออย่างแข็งขันที่จะประสานการทำงาน ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง พร้อมกับการเติบโตของอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์อย่างยั่งยืน และแน่นอนว่าเกษตรกรผู้ปลูกเมล็ดพันธุ์คือ อีกส่วนสำคัญในความสำเร็จ ภายใต้วิสัยทัศน์และแนวคิด “ทุกคนมีสุขภาพดี และไม่ขาดแคลนอาหาร” (Health for all, Hunger
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวภายหลังการประชุมสรุปปิดการดำเนินงานโครงการเพิ่มศักยภาพและปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์ปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงพี่น้องชาวนาไทย โดยเฉพาะเรื่องความต้องการเมล็ดพันธุ์ดีสำหรับใช้เพาะปลูก จึงได้อนุมัติงบประมาณและมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวนาให้มีเมล็ดพันธุ์ดีเพียงพอต่อความต้องการ กรมการข้าวในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านข้าว จึงได้ดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพและปรับปรุงเครื่องจักรอุปกรณ์ปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 เพิ่มเติมชุดเครื่องชั่งบรรจุ พร้อมระบบจัดเรียงแบบอัตโนมัติ ประจำโรงงานปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ โรงงานเพิ่มศักยภาพ (โรงงาน A2) จำนวน 20 ชุด ดำเนินงานในศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา ลำปาง ลพบุรี พัทลุง เชียงใหม่ พะเยา กำแพงเพชร อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อุดรธานี กาฬสินธุ์ แ
ปัญหาของการส่งออกข้าวไทยที่นับวันจะถดถอยลงทั้งปริมาณและมูลค่า ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ประเทศผู้นำเข้าต้องการข้าว “พื้นนุ่ม” มากกว่าเพิ่มขึ้น ขณะที่ข้าวที่ประเทศไทยมีการปลูกข้าวพื้นนุ่มน้อย แม้ว่าที่ผ่านมาประเทศไทยได้พัฒนาพันธุ์ข้าวพื้นนุ่มออกมาและให้การรับรองแล้วหลายพันธุ์ เช่น กข 39, กข 43, กข 53, กข 77 และ กข 79 แต่ยังไม่นิยมปลูกเป็นที่แพร่หลายมากนัก เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างเวียดนามที่มีสายพันธุ์ที่หลากหลายกว่า ทำให้ผู้ซื้อหันไปซื้อข้าวพื้นนุ่มกับคู่แข่งมากขึ้น ไทยจึงสูญเสียส่วนแบ่งตลาดนี้ให้คู่แข่งอย่างเวียดนามไปอย่างน่าเสียดาย โดยเวียดนามเป็นประเทศที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวอย่างมาก โดยจัดสรรงบประมาณกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,000 ล้านบาท เพื่อวิจัยและพัฒนา โดยนำพันธุ์ข้าวที่ดีในตลาดมาพัฒนาเป็นพันธุ์ข้าวใหม่เพื่อทำตลาด มีระยะเพาะปลูกที่สั้น 90-95 วัน ปลูกได้ปีละ 3 ครั้ง ขณะที่ประเทศไทยรัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กับการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเพียง 100 ล้านบาท/ปีเท่านั้น แม้ว่าจะขาดแคลนงบประมาณด้านงานวิจัย แต่สถาบันการศึกษาอย่าง มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี โดย รศ
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการแถลงข่าวเปิดตัว “โครงการตู้เย็นข้างบ้านต้านภัย COVID-19” ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่ารัฐบาลรวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรและประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ทั้งภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ภาคธุรกิจ รวมถึงภาคการเกษตรของประเทศ ซึ่งไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ เกิดภาวะการว่างงาน และทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้น จึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรที่มีบทบาทภารกิจในการช่วยเหลือดูแลเกษตรกร จัดทำ “โครงการตู้เย็นข้างบ้านต้านภัย COVID-19” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร กับ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด เป็นการนำร่องเพื่อสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวที่มีลักษณะเติบโตเร็ว อายุสั้นถึงอายุปานกลาง ให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจทำการเกษตรในการปลูกพืชผักสวนครัว และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเปิดลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ของกรม
เดิมอาหารของคน โดยเฉพาะโปรตีนจากสัตว์ ต้องออกล่าตามป่า เมื่อบ้านเมืองเจริญขึ้น จำเป็นต้องเลี้ยงสัตว์ในระดับอุตสาหกรรม สิ่งหนึ่งที่ต้องพัฒนาคู่ขนานกันมาคือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เมื่อก่อน หากต้องการเพิ่มผลผลิตข้าวโพดในประเทศ สามารถทำได้โดยขยายพื้นที่ปลูก แต่ปัจจุบันทำไม่ได้แล้ว แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องบันดาลให้ผลผลิตข้าวโพดเท่าเดิมหรือไม่ก็เพิ่มขึ้น ขณะที่พื้นที่ปลูกลดลง โดยการพัฒนาพันธุ์ บริษัท แปซิฟิคเมล็ดพันธุ์ จำกัด คือตำนานบทหนึ่ง ที่มีส่วนขับเคลื่อนวงการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไทยให้ก้าวหน้า มีผลผลิตพอใช้ นอกจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แล้ว ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ยังสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง เช่น ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดข้าวเหนียว ข้าวโพดฝักอ่อน ทานตะวัน และข้าวฟ่างแดง บริษัท แปซิฟิคฯ ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 13 ถนนพหลโยธิน ตำบลพระพุทธบาท อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เมื่อเอ่ยถึง บริษัท แปซิฟิคฯ นอกจากผู้บริหาร นักวิจัย และพนักงานท่านอื่นๆ ที่อัธยาศัยไมตรีอันดียิ่งแล้ว ดร.ยงค์ยุทธ ปานสูง กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ เป็นแม่ทัพที่ขับเคลื่อนงานข้าวโพดมาต่อเน
สถานการณ์กักกันบริเวณอันเนื่องมาจากความพยายามจำกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ส่งผลกระทบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมนุษย์เกือบทุกด้าน แน่นอนนะครับว่า การระบาดระดับเขย่าโลกครั้งนี้ย่อมทำให้โลกไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ในเรื่องอาหาร โดยเฉพาะพืชผัก เราเริ่มเห็นการออกมาให้ความรู้ คำแนะนำเกี่ยวกับการปลูกพืชสวนครัวกินเองในพื้นที่แบบต่างๆ โดยหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชน ตลอดจนมูลนิธิต่างๆ ทั้งโครงการแบบเร่งด่วนระยะสั้น 3 เดือน ซึ่งคาดว่ายังเป็นช่วงระบาดหนักของโรค ทั้งโครงการระยะยาว ที่พยายามคว้าโอกาสนี้โน้มน้าวผู้คนให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อหา เก็บอาหาร ให้เหมาะสมสอดคล้องกับวิถีการบริโภคอย่างเป็นธรรมและปลอดภัยในโลกสมัยใหม่ ภาวะวิกฤตคับขันส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมมนุษย์เสมอ ครั้งนี้ก็คงเช่นกัน อย่างไรก็ดี ใช่ว่าการปลูกผักกินเอง แม้ในพื้นที่เมืองใหญ่ระดับมหานคร ที่แออัดไปด้วยการอยู่อาศัยของผู้คนจำนวนมากจะไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทยนะครับ การได้อยู่บ้านช่วงนี้ ทำให้ผมได้พลิกอ่านหนังสือเล่มโตของมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) คือ “ดอกไม้ในสวนผักคนเมือง” อันเป็นงานที่รวมความเป็นรูป
วันที่ 21 เมษายน 2563 เวลา 13.00 น. กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดพิธีรับมอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวจากบริษัท เจียไต๋ จำกัด โดยมี นายชัยพันธ์ ลิมปิวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เป็นผู้แทนบริษัทส่งมอบให้กรมการพัฒนาชุมชน โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้รับมอบ ทั้งนี้ มีเมล็ดพันธุ์ผักหลากหลายชนิดจำนวน 500,000 ซอง เพื่อสนับสนุนแผนปฏิบัติการ 90 วัน “ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” และช่วยเหลือประชาชนในการลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงการระบาดของโควิด-19 ด้วยการปลูกผักบริโภคเอง นายชัยพันธ์ ลิมปิวรรณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจเมล็ดพันธุ์ บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศในวงกว้างและหลายมิติ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหา เจียไต๋ ในฐานะที่เป็นบริษัทเกษตรครบวงจรที่ตั้งมา 99 ปีแล้ว ก็พร้อมที่จะร่วมฝ่าฟันวิกฤตครั้งไปกับทุกฝ่าย จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการตอบแทนสังคมโดยมอบเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัวคุณภาพจำนวน 500,000 ซอง ผ่านกรมการพัฒนาชุมชนเพื่อกระจายสู่พี่น้องประชาชนทั้ง 76 จังหวัด ตามแผนปฏิบัติ