เรือประมง
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหา การทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (ไอยูยู) ว่า ได้สั่งการให้เพิ่มวันทำประมงให้กับชาวประมงพาณิชย์ สำหรับปีทำการประมง 2561 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2562 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ และลดผลกระทบแก่ชาวประมงเนื่องจากเรือประมงที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมง ไม่ได้ออกทำการประมงหรือขอเพิกถอนใบอนุญาต จึงยังเหลือปริมาณสัตว์น้ำที่ได้จัดสรรไว้แต่ไม่ได้นำมาประโยชน์ โดยประมงพาณิชย์ที่จับสัตว์น้ำในฝั่งอ่าวไทย ที่ใช้เครื่องมือประเภทอวนลาก ปรับเพิ่มวันทำประมงเป็น 264 วัน จากเดิม 240 วัน, เรือที่ติดเครื่องมืออวนล้อมจับ เพิ่มวันเป็น 365 วัน จากเดิม 240 วัน และเรือติดเครื่องมืออวนล้อมจับปลากระตัก เพิ่มเป็น 365 วัน จากเดิม 255 วัน พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า สำหรับเรือประมงที่จับสัตว์น้ำในฝั่งอันดามัน เครื่องมือประเภทอวนลาก เพิ่มวันทำประมงเป็น 365 วัน จากเดิม 270 วัน, เรือติดเครื่องมืออวนล้อมจับ เพิ่มวันเป็น 365 วัน จากเดิม 255 วัน และเรือติดเครื่องมืออวนล้อมจับปลากระตัก เพิ่มเป็น 365 วัน จากเดิม 225 วัน นายอดิศร พร้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมประมงได้ชี้เเจงต่อประเด็นอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ.1982 เป็นกฎหมายสากลที่เกี่ยวข้องกับทะเลไว้หมด มีบทบัญญัติทั้งสิ้น 320 ข้อ กับอีก 9 ผนวก โดยครอบคลุมเรื่อง ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง เรือ การเดินเรือ และช่องแคบ รัฐหมู่เกาะ เขตเศรษฐกิจจำเพาะ ไหล่ทวีป ทะเลหลวง การบริหารและอนุรักษ์สิ่งที่มีชีวิตในทะเลหลวง การแสวงประโยชน์ในพื้นที่ก้นทะเลระหว่างประเทศ การสำรวจทางวิทยาศาสตร์ในทะเล และการระงับกรณีพิพาทระหว่างประเทศเกี่ยวกับทะเล เป็นต้น และการเข้าเป็นภาคีของรัฐจะต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติทั้งหมดโดยไม่มีข้อสงวน ซึ่งประเทศไทยได้มีการดำเนินการก่อนหน้าที่จะมีการให้สัตยาบันในหลายส่วน เช่น การประกาศทะเลอาณาเขตออกเป็น 12 ไมล์ทะเล การประกาศเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (ปี 2524) และประเทศไทยได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2554 โดยรัฐบาลต้องปรับกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับบทบัญญัติตามอนุสัญญาดังกล่าวภายใต้อนุสัญญาฯ ได้มีการกำหนดเกี่ยวกับสัญชาติของเรือที่รัฐต้องดำเนินการ ดังนี้ “รัฐจะกำหนดเงื่อนไขในการให้สัญชาติของตนแก่เรือ ในการจดทะเบียนเรือในอาณาเขตของตน และในก
ชาวประมง ทนไม่ไหว ยื่น 8 ประเด็นปัญหา ให้รัฐบาลแก้ 1 ส.ค.นี้ หากไม่ได้รับคำตอบภายใน 7 วัน หยุดเรือออกหาปลาทั้ง 22 จังหวัดชายทะเล ไม่ต่ำกว่า 7 วัน เร่งอธิบดีกรมประมง ใช้มาตรา 83 กวาดเก็บแรงงานผิดกฎหมายในประเทศอีกรอบ รับแรงงานขาดหนักกว่า 4 หมื่นคน รายงานข่าวจาก สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมประมงจังหวัดชายทะเล 22 จังหวัด ที่ประสบความเดือดร้อนมานานกว่า 3 ปี จากการที่รัฐบาลได้ออกกฎหมายการประมง ระเบียบวิธีปฏิบัติของชาวประมง เพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU Fishing) ภายหลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศให้ใบเหลืองไทย เมื่อเดือน เม.ย. พ.ศ. 2558 แม้ตัวแทนชาวประมงจะประชุมหารือถึงแนวทางแก้ไขความเดือดร้อนกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ได้รับการแก้ไขปัญหาน้อยมาก จึงได้ทำหนังสือถึงสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยเปิดประชุมวิสามัญขึ้นในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเสนอ 8 ประเด็นปัญหา ให้รัฐบาลแก้ไขโดยเร่งด่วน โดยที่ประชุมมีมติให้ผู้บริหารสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นำโดย นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคม พร้อมนายกสมาคมประมง 22 จังหวัดชายทะ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ทีทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ปัญหาเรื่องวิทยุของเรือประมงที่ไม่ถูกกฎหมายว่า ไม่มีการพูดคุย โดยชาวประมงขอยกเว้นการเสียค่าธรรมเรียมในการขึ้นทะเบียนจำนวน 5000 บาท ต่อ 1 เครื่อง ซึ่งกสช.รับปากว่าจะยกเว้นในเรื่องนี้ให้ ขณะเดียวกันกสทช.ได้ออกกติมาว่า ใครที่มีวิทยุต้องไปขึ้นทะเบียนภายใน 60 วัน ซึ่งขณะนี้ได้เลยเวลามาแล้วจึงให้กสช. ไปขยายเวลาเป็น 180 วัน โดยจะครบกำหนดในวันที่ 22 เมษายนนี้ ส่วนกรณีตู้เอทีเอ็มไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวประมง กระทรวงแรงงานได้เรียกประชุม 7 ธนาคาร ให้มาช่วยกัน โดยขณะนี้ได้มีการติดตั้งไปแล้วกว่า 80 เครื่อง จาก 30 ปีโป้ ทั้งนี้อาจจะติดขัดในเรื่องของภาษาที่ใช้โดยจะต้องมีทั้งหมดสามภาษาของประเทศเพื่อนบ้านกระทรวงแรงงานจะต้องปรับแก้ในส่วนนี้
“บิ๊กป้อม” ไฟเขียวของขวัญปีใหม่ แก้ประมงผิดกฎหมาย จ่อชง ครม.ซื้อเรือประมงคืน 1,900 ลำ เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ประกอบด้วย 1.เห็นชอบในหลักการในการรับซื้อเรือประมงคืน จากข้อเสนอของสมาคมประมงฯ โดยมีเรือประมงที่จะไม่ทำการประมงต่อไปประมาณ 1,900 ลำ จึงเสนอให้รัฐบาลรับซื้อคืน ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อของบประมาณในการซื้อเรือประมง โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับการควบรวมใบอนุญาตการทำประมง ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้เร่งรัดเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แก่ชาวประมง โดยจะประกาศดำเนินการได้ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ และเมื่อเรือประมงได้ลดจำนวนลง จากการซื้อคืนของรัฐพร้อมกับมีการควบรวมใบอนุญาต ก็จะทำให้เรือในท้องทะเลอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และเชื่อว่าจะสามารถยืดระยะเวลาการทำประมงจากเดิมที่ให้ 120 วัน ใ
แหล่งข่าวจากกรมประมง เปิดเผยว่า หลังจากผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการประมงและทะเล (DG-MARE) จากสหภาพยุโรป (อียู) เดินมาทางมาตรวจการนำเข้าสัตว์น้ำผิดกฎหมาย ไม่รายงาน และไร้การควบคุม หรือไอยูยู เรื่องระบบตรวจสอบย้อนกลับไทยเมื่อวันที่ 7-15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยอียูต้องการให้ไทยเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ.2558 และเร่งรัดการดำเนินคดีให้มากขึ้น รวมทั้งชี้แจงข้อมูลเรื่องกลุ่มเรือเล็กที่ถูกทำลายหรือจม ให้ชัดเจนว่าปัจจุบันมีอยู่จำนวนเท่าไหร่ และเร่งพัฒนาระบบไอทีในระบบศูนย์เฝ้าระวังการทำประมง (FMC) ทางอียูขอให้ไทยสรุปข้อมูลทั้งหมดส่งกลับไปให้ผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการประมงพิจารณาในเดือนวันที่ 5 ธันวาคม 2560 ก่อนคณะผู้แทนจากประเทศไทยจะเดินทางไปหารือในวันที่ 18-19 ธันวาคม 2560 ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม สำหรับเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย อียูขอให้ไทยกำหนดกระบวนการพิจารณามาตรทางการปกครอง และระยะเวลาในการพิจารณาที่ชัดเจน เนื่องจากอียูเห็นว่าจำนวนคดีและความสำเร็จของการตัดสินใจคดีที่เกิดจากการบังคับใช้กฎหมายในกลุ่มเรือประมงนอกน่านน้ำของไทยยังอยู่ในระดับที่ต่ำมาก ซ
ที่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี นายเสนาะ พันธ์น้อย อายุ 59 ปี ชาวต.บ้านกล้วย อ.บ้านหมี่ ได้สืบทอดวิธีการทำเรือผีหลอก มาจากรุ่นปู่ รุ่นพ่อ เดิมเป็นเรือไม้ แต่ปัจจุบันได้พัฒนาดัดแปลง และประยุกต์ให้เป็นเรือสเตนเลส ความยาวเรือ ยาว 32 ศอก พร้อมอุปกรณ์สำคัญในการหลอกปลาและสัตว์น้ำ คือ กระดานไม้ ทาด้วยสีขาวประมาณ 60 เซนติเมตร ปล่อยลงข้างลำเรือเพื่อหลอกปลาให้ตกใจแล้วกระโดดขึ้นมาบนเรือ และมีตาข่ายกันปลากระโดดข้ามเรือ คนหาปลาจึงหันแผ่นไม้สีขาวเข้าหาตลิ่ง ก็ได้ปลากลับบ้านเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นภูมิปัญญาอย่างหนึ่งที่หาดูได้ยากแล้ว วิธีการหาปลาแบบเรือผีหลอก โดยคุณเสนาะล่องเรือไปตามแนวตลิ่งของลำน้ำ ในคลองชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษ ก็ได้ปลาน้อยใหญ่กลับมาเต็มลำเรือ เพราะเมื่อเรือวิ่งผ่านไปตามแนวตลิ่ง ปลาก็จะพากันกระโดดขึ้นลำเรือเอง ก่อนจะไปชนตาข่ายด้านข้างอีกฝังของเรือและตกลงมาในท้องเรือ เขาเผยว่าในคืนหนึ่งจะได้ปลากลับมากว่า 100 กิโลกรัม มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทต่อวันที่ออกหาปลา โดยจะนำไปวางจำหน่ายในช่วงเช้า บริเวณสะพานบ้านกล้วย ริมคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก เป็นอาชีพเสริมนอกจากการ
เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งเรื่องการบรรเทาความเสียหายให้แก่ประชาชนในกรณี ปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดล่วงล้ำลำน้ำ พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 สาระสำคัญคือให้ขยาย เวลาการจดแจ้งการครอบครองและ ยกเว้นการลงโทษ ตั้งแต่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ยังมีประเด็นที่ยังคลุมเครือว่าชุมชนชายฝั่งและบ้านเรือนที่อยู่อาศัยจะมีกระบวนการตามกฎหมายอย่างไร หรือเป็นไปตามข้อเสนอของเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจาก พ.ร.บ.การเดินเรือฯหรือไม่อย่างไร หลังจากสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายชุมชนต่างๆ ในนาม เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้แก้ไข ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆตามลำดับ ทำให้สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ได้เรียกประชุมเพื่อการผลักดันให้เกิดการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ไม่ให้เกิดผลกระทบ ต่อชุมชนชาวประมงพื้นบ้านและชายฝั่ง โดยเร่งด่วน ในวันที่ 15-18 กรกฎาคม 2560 ณ มูลนิธิเพื่อการ พัฒนาที่ยั่งยืน นายบรรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะ
ปิดอ่าว 3 เดือน ให้ปลาวางไข่ได้ผล ปลาทูโผล่เต็มอ่าวไทย หลังเรือประมงพาณิชย์ขยายตาอวนทุกชนิดเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาไอยูยู ขณะที่อวนจม อวนลอยของเรือประมงพื้นบ้านที่ยังจับได้ช่วงฤดูวางไข่เพิ่มขนาดตาอวนเป็น 2 นิ้ว “อดิศร” เผยกำลังหารือปิดอ่าวตอนในรูปตัว ก. เป็น 2 ช่วง เพื่อฟื้นฟูปลาในทะเลแต่ละช่วงของวัยให้มากขึ้น นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงผลการฟื้นฟูทรัพยากรปลาทูในอ่าวไทย ว่า จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ออกประกาศ เรื่องกำหนดการห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในฤดูปลามีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560-15 พฤษภาคม 2560 รวม 3 เดือน ครอบคลุมพื้นที่ 26,400 ตารางกิโลเมตร พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไขประกาศในบางข้อเพื่อให้เหมาะสมกับเครื่องมือจับปลาที่มีศักยภาพสูงขึ้นและทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำมากขึ้น ทั้งอวนลาก อวนล้อม การห้ามเครื่องมืออวนทุกชนิดที่ใช้ประกอบเรือกลทำการประมง ยกเว้นการใช้อวนติดตาจับปลาที่มีช่องตาอวนตั้งแต่ 23 นิ้วขึ้นไป ที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกร
อียูบีบกรมประมงจับเรือประมงนอกน่านน้ำไทย 4 ลำจับปลาโอ ทั้งที่กรมยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ เผยล่าสุดไทยประกาศร่วมเป็นภาคีซิโอฟ่า พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนดการจัดการทรัพยากรประมงของประเทศสมาชิก คาดกองเรือไทยสามารถเข้าทำประมงถูกกฎหมายในพื้นที่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย มีผลตั้งแต่ 23 พ.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการที่กรมประมงเรียกประมงนอกน่านน้ำของไทย 14 ลำกลับจากการจับปลาในมหาสมุทรอินเดียเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU) ว่า นอกจากเรือประมงทั้ง 14 ลำจะเสียหายเบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาทในการเดินทางกลับก่อนกำหนด ยังไม่ได้รวมความเสียหายที่ต้องหยุดจับปลาที่ยังคิดมูลค่าไม่ได้แล้ว ทางกรมประมงยังส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความกล่าวหาจับปลาโอในมหาสมุทรอินเดียโดยพลการต่อสถานีตำรวจบางเขนจำนวน 4 ลำด้วย ทำให้เจ้าของเรือประมงนอกน่านน้ำของไทยสับสนกับเรื่องนี้มาก เพราะก่อนหน้านี้กรมประมงก็ไม่มีความชัดเจนว่าสามารถจับปลาโอที่ไม่ใช่ปลาทูน่าในมหาสมุทรอินเดียได้หรือไม่ ทราบแต่เพียงว่า