เอสซีจี
สยามคูโบต้า โดย นายจูนจิ โอตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วย นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส และ นายได วาตานาเบ้ Director and Executive Vice President คูโบต้า คอร์ปอเรชั่น ญี่ปุ่น ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ในภาคการเกษตร กับ นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นางจันทนิดา สาริกะภูติ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การเงินและการลงทุน เอสซีจี เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนของธุรกิจและภาคเกษตรกรรมไทย ผ่าน 3 โซลูชัน Green Energy ศึกษาการใช้เทคโนโลยีระดับสูงและพลังงานทางเลือกในกระบวนการผลิต Green Innovative Product พัฒนานวัตกรรมสินค้าและโซลูชันการทำเกษตร และ Green Farming พัฒนาโซลูชันการเพาะปลูกไปจนถึงการจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อส่งเสริมเกษตรกรรมไทยสู่เกษตรคาร์บอนต่ำ เพิ่มการเข้าถึงทรัพยากรและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอน ตลอดจนลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้จาก Agri Waste เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น จากซ้ายไปขวา 1. นางจันทนิดา สาริกะภูติ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การเงินและการลงทุน เ
‘ก้าวสู่ปีที่ 15 ทุกเรื่องการทำบ้าน เริ่มที่ SCG HOME Experience’ จัดงานฉลองวาระครบรอบตอกย้ำความเป็นผู้นำเรื่องการทำบ้านและที่อยู่อาศัย ด้วยความเชี่ยวชาญในเรื่องวัสดุศาสตร์ และสามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี ตลอดจนมีสินค้าและบริการเรื่องบ้านที่ให้บริการลูกค้ามั่นใจได้ในคุณภาพ ด้านผู้บริหาร ธัญญ์กวิน บุดดีมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด เชิญชวนคนรักบ้านร่วมเดินทางชมความสำเร็จตลอด 14 ปีที่ชาวเอสซีจี โฮม เอ็กซพีเรียนซ์ มุ่งมั่นและตั้งใจให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาเรื่องบ้านด้วยประสบการณ์ที่อัดแน่น ฉลองวาระครบรอบผ่านกิจกรรม ‘เปลี่ยนบ้านให้เป็นคาเฟ่ by SIRI’ พร้อมร่วมกิจกรรมสุดพิเศษกับการพูดคุยกันอย่างเปิดอกเรื่องบ้านและที่อยู่อาศัยใน Living Expert Talk ทุกวันเสาร์ เวลา 14.00-15.30 น. ตลอด 1 เดือนเต็ม กับหัวข้อสุดเทรนด์ อาทิ Better Living Better Life อยู่ดี กินดี สุขภาพดี, ทำสวนดูแลง่ายงบไม่บานปลาย, ปรับพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อเอื้อต่อการฝึก ให้เข้ากับพันธุ์ของสัตว์เลี้ยง, รีโนเวตบ้าน ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันบ้านจัดสรร บ้านเดี่ยว ตึกแถว ทาวน์เฮาส์ เ
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ร่วมกับ บริษัท เอสซีจี บิลดิ้ง แอนด์ ลีฟวิ่งแคร์คอนซัลติ้ง จำกัด (ฺฺฺBLC) บริษัทที่ปรึกษาในด้านการพัฒนาอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และบริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) ผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการก่อสร้าง ภายใต้ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการพัฒนาอาคารเขียว นวัตกรรมการก่อสร้าง อาคารและฟาร์มประหยัดพลังงาน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน” นำร่อง 3 โครงการสร้างสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร เป็นมิตรกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ พิธีลงนามความร่วมมือในวันนี้ (22 มีนาคม 2566) เป็นความร่วมมือของทุกฝ่ายที่มีความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน โดยร่วมกันกำหนดแนวทางพัฒนาโครงการอาคารเขียวและการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบและการก่อสร้างอาคารและโรงงานในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร เพื่อขอรับรองมาตรฐานอาคารเขียวให้ได้ตามแผนงานที่กำหนด และพัฒนาการก่อสร้างโครงสร้างต่าง ๆ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยมี นายพี
คุณศุภแมน มรรคา (คนซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะออร์แกไนเซอร์จัดงานสถาปนิก’66 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน พร้อมด้วย คุณวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ (คนขวา) Vice President-Housing Products and Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ผู้นำด้านนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างครบวงจรของไทย ประกาศพร้อมขนทัพนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง และโซลูชั่นสมาร์ท ลิฟวิ่ง มาร่วมจัดแสดงภายในงาน สถาปนิก’66 ภายใต้แนวคิด “ตำถาด : Time of Togetherness” เพื่อช่วยเติมเต็มดีไซน์ให้กับงานด้านสถาปัตยกรรม ตอบโจทย์ทุกการออกแบบและก่อสร้าง โดยงาน สถาปนิก’66 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ArchitectExpo.com
เอสซีจี แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 เร่งสู้วิกฤตต้นทุนพลังงานพุ่ง วัฏจักรปิโตรเคมีขาลงต่ำสุด พลิกเกมรุกเข้าสู่ 3 ธุรกิจเทรนด์โลก พลังงานหมุนเวียน ธุรกิจโลจิสติกส์ครบวงจรรายใหญ่ในอาเซียน และ Smart Living คุมเข้มการลงทุน มั่นใจการเงินแข็งแกร่ง เอสซีจี เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2565 ยอดขายและกำไรลดลง จากวิกฤตต้นทุนพลังงานทั่วโลกพุ่งสูงและผันผวนอย่างมาก ซึ่งเป็นผลจากความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจจีนยังคงชะลอตัวจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ รวมทั้งวัฏจักรปิโตรเคมีขาลงถึงจุดต่ำสุดในรอบ 20 ปี SCGC กระทบหนักจากต้นทุนวัตถุดิบสูงและกำลังการผลิตใหม่เกินความต้องการตลาด ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างเจอพิษต้นทุนพลังงานพุ่ง ส่วน SCGP ยังไปได้ดี แม้เจอความผันผวนพลังงาน ภาพรวมเอสซีจีมีสถานะการเงินแข็งแกร่ง จากการคุมเข้มสภาพคล่อง เน้นลงทุนอย่างรอบคอบในธุรกิจศักยภาพสูงและยั่งยืน พลิกเกมเชิงรุกเข้าสู่ 3 ธุรกิจใหม่ 1. พลังงานหมุนเวียน 2. ธุรกิจโลจิสติกส์ ครบวงจรรายใหญ่ในอาเซียน 3. ธุรกิจ Smart Living มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวก คุ้
เรียกได้ว่างานที่ฮอตสุดในตอนนี้ หนีไม่พ้น Sustainability Expo 2022 หรือ SX 2022 มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่สุดในอาเซียน จัดระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2565 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร ของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ SX 2022 จัดขึ้นด้วยแนวคิด “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy-SEP) ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มาเป็นแนวทางในการจัดงาน ซึ่งสอดคล้องกับ SDGs ขององค์การสหประชาชาติ นอกจากจัดเต็มองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านความยั่งยืน รวมทั้งเวทีเสวนาน่าสนใจ จากพันธมิตรองค์กรในไทยและต่างประเทศกว่า 100 แห่ง และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญอีกกว่า 150 รายทั่วโลกแล้ว SX 2022 ยังอลังการด้วยโซน SX Food Festival พิกัดฮอลล์ 5-6 ชั้น LG ที่แค่โซนนี้โซนเดียวก็กินพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร รวบรวมร้านเด็ดร้านดังกว่า 100 ร้านมาให้ชิมกัน
เพราะอาหารที่มีคุณภาพ คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ในงาน Sustainability Expo 2022 หรือ SX 2022 มหกรรมด้านความยั่งยืนสุดยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน ระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 2 ตุลาคมนี้ ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีไฮไลต์ที่พลาดไม่ได้คือ SX Food Festival โซนอาหารนานาชาติ ที่รวบรวมเมนูเด็ดมาไว้ในที่เดียว บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตรของชั้น LG โดยมีเชฟชื่อดังมาสาธิตเมนูพิเศษให้ได้ลองชิมกัน หนึ่งในนั้นคือ เชฟไก่ – ธนัญญา ไข่แก้ว เชฟกระทะเหล็ก ผู้ไม่เพียงช่ำชองด้านขนมหวาน แต่ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารทุกรูปแบบ เชฟไก่ เผยว่า รู้สึกยินดีที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมงานนี้ เนื่องจากกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ประเด็นความยั่งยืนมีความสำคัญต่อแวดวงอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ จากวันที่ผู้คนไม่ได้สนใจมากนัก และอาจใช้วัตถุดิบแบบทิ้งขว้าง แต่ปัจจุบันผู้เข้าแข่งขันรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ยึดมั่นว่าต้องใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่า รวมทั้งต้องเลือกของจากแหล่งที่เลี้ยงดูตามวิถีธรรมชาติเท่านั้น หากเป็นปลาต้องเป็นปลาที่ชาวประมงไปจับมา ไม่ใช่ปลาที่เลี้ยงในฟาร์มและใช้สารเร่งให้เติบโต “เมื่อก่อนเราเป
เวลาวัดความเจริญของแต่ละประเทศ ผู้คนมักนึกถึงเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมว่าล้ำแค่ไหน ทั้งที่จริงแล้ว เรื่องการบริหารจัดการพื้นที่สีเขียวอย่างมีประสิทธิภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน ล่าสุดในงาน Sustainability Expo 2022 หรือ SX 2022 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 26 กันยายน ถึง 2 ตุลาคมนี้ กลุ่ม บิ๊กทรีส์ หรือ BIGTrees Project ที่รณรงค์เรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าใช้พื้นที่ใน SX 2022 และในสวนเบญจกิติ ชวนทุกคนสนใจพื้นที่สีเขียวมากขึ้น เพื่อนำสู่ความยั่งยืนในอนาคต เพราะปัจจุบัน ประเทศไทยมีพื้นที่ป่า สวนหย่อม และสวนสาธารณะ รวมกันประมาณ 38 ล้านตารางเมตร คิดเป็นร้อยละ 2.4 ของพื้นที่ทั้งหมด ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในอาเซียน ส่วนเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครก็มีเพียงร้อยละ 2.6 เท่านั้น แม้ไส้ในของตัวเลขเหล่านี้จะเติบโตขึ้นทุกวัน แต่ก็อาจยังไม่พ้นขีดอันตราย อรยา สูตะบุตร หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มบิ๊กทรีส์ เล่าว่า 12 ปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มทำงานอย่างแข็งขันเพราะเห็นประโยชน์ของการมีปอดในเมือง และยังเป็นกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนให้อาชีพ “รุกขกร” หรือผู้ดูแลตัดแต่งต้นไม้ มีบ
แม้โควิด-19 ในไทยจะเริ่มคลี่คลาย แต่ก็ทิ้งบาดแผลที่ยังไม่หายดีให้สังคมไทยไม่น้อย หลายธุรกิจต้องปิดกิจการ ผู้คนตกงาน ขาดรายได้ ต้องกลับถิ่นฐานไปทำการเกษตร แต่กลับเจอปัญหาภัยแล้งซ้ำซ้อน อีกทั้งนักเรียนนักศึกษาต้องออกจากระบบการศึกษากลางคัน เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมสูงขึ้น เมื่อการสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งและยั่งยืน ไม่ใช่การเติบโตเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องสร้างสมดุลให้ทุกฝ่ายก้าวไปด้วยกัน แนวคิด ESG หรือการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล จึงได้รับความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่เพียงสร้างความสำเร็จให้ธุรกิจได้จริง แต่ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ด้วย เช่นเดียวกับเอสซีจี ที่ต้องการประคับประคองสังคมให้ก้าวไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง จึงดำเนินธุรกิจตามแนวคิด ESG อย่างต่อเนื่องและจริงจัง พร้อมนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ ที่มี ไปช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านการเกษตร การสร้างอาชีพ เสริมทักษะ ตั้งเป้าช่วย 20,000 คนให้ได้ภายใน 4 ปี #SCG #เอสซีจี #ESG ติดตามภารกิจเดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำของเอสซีจี ได้จากคลิปนี้
“การพัฒนานวัตกรรม” รับมือความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อโลกธุรกิจ ถือเป็น “เรื่องหลัก” ที่องค์กรทั่วโลกต่างหันมาให้ความสำคัญ เพราะนวัตกรรมที่โดนใจผู้บริโภคจะเป็น “ทางรอด” นำพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืน ไม่ซวนเซไปตามคลื่นความเปลี่ยนแปลงที่ถาโถม เช่น การระบาดของโควิด 19 ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เปลี่ยนผ่านผู้คนและโลกธุรกิจเข้ายุคดิจิทัล (Digital Transformation) ทว่า หลายคนมองเห็นตรงกันว่า “การคิดค้นนวัตกรรม” นั้นไม่ง่าย แต่สำหรับ 3 นวัตกร (Innovator) ของเอสซีจี ที่เป็นทีมคิดค้นนวัตกรรมป้องกันโควิด 19 ต่างเห็นตรงกันว่า เมื่อนิยามของนวัตกรรมคือ “ความใหม่” แน่นอนว่า ระหว่างทางย่อมพบปัญหา อุปสรรค และข้อผิดพลาด เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งจะประสบความสำเร็จได้นั้น สิ่งสำคัญประการแรกคือ ต้อง “ไม่กลัวความผิดพลาดล้มเหลว” แต่ขอให้นำข้อผิดพลาดมาแก้ไขต่อยอดจนผลิตภัณฑ์เหล่านั้นตอบโจทย์การใช้งาน สร้างประโยชน์ให้กับผู้คนและสังคมให้ได้ การทำนวัตกรรมให้สำเร็จ เกิดจากการ “เกาถูกที่คัน’ ศุภธิดา รัตนสวัสดิ์ Medical and Wellbeing Business Manager ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ทีมพัฒนาแคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความ