แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
คุณอัญชลี สุวจิตตานนท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการขับเคลื่อนภาคการเกษตรด้วย BCG Model ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาภาคการเกษตร สู่ 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูง มาตรฐานสูง และรายได้สูง โดย กรมส่งเสริมการเกษตร ได้บูรณาการกระบวนการส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่ เข้ากับแนวทางการพัฒนาการเกษตรด้วย BCG Model โดยส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio) – เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular) – เศรษฐกิจสีเขียว (Green) หรือ BCG เพื่อยกระดับภาคการเกษตรของไทยให้สามารถบริหารจัดการการเกษตร การท่องเที่ยวเชิงเกษตร วิสาหกิจชุมชน สินค้าเกษตร ฯลฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐานตามหลักสากล สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแนวทางดังกล่าวเป็นแนวโน้มที่หลายประเทศจะกำหนดให้เป็นเงื่อนไขทางการค้าสำหรับสินค้านำเข้าในอนาคตด้วย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สวนสะละลุงถัน หมู่ที่ 5 ตำบลหนองธง อ
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี เตรียมจัดงาน “สานต่องานแม่” ระหว่างวันที่ 6 – 7 สิงหาคม 2565 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายในงานมีการจัดนิทรรศการองค์ความรู้ทางด้านเกษตร การอบรมวิชาของแผ่นดินจากเกษตรกรผู้ปฏิบัติจริง รวมถึงการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ จ.ปทุมธานีพลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปิดเผยว่า “…การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 90 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2565 พร้อมเปิดอบรมวิชาของแผ่นดิน และการอบรมเชิงปฏิบัติการ สร้างอาชีพ สร้างรายได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายและกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย” ชมนิทรรศการ “จากเส้นด้าย สู่ลายผ้า”ผ่านพิพิธภัณฑ์เสมือนจริง (Virtual Museum) ที่ถ่ายทอดหัตถกรรมโบราณจากเส้นด้ายผ่านกี่ทอ ร้อยเรียงเป็นลายผ้า
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 สำนักงานเกษตรจังหวัดสระบุรี นำโดย ดร.รุจีพัชร บุญจริง เกษตรจังหวัดสระบุรี กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ และกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร จัดโครงการ สื่อมวลชนสัญจรเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานส่งเสริมการปลูก “อะโวคาโดและอินทผลัม ” เป็นพืชทางเลือก สร้างรายได้ของเกษตรกร และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ดร.รุจีพัชร บุญจริง เกษตรจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดสระบุรี มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการปลูก “อะโวคาโดและอินทผลัม” เป็นพืชทางเลือกให้แก่เกษตรกร โดยให้องค์ความรู้เรื่องการผลิตพืชให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน GAP ส่งเสริมการใช้สารชีวภัณฑ์ การเลี้ยงแมลงศัตรูธรรมชาติ ในการป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรูพืช ประสานหาช่องทางการจำหน่ายผลผลิต ทั้งตลาดเกษตรกรจังหวัดสระบุรี Facebook ช่องทางการจำหน่ายออนไลน์ต่างๆ ตลอดจนส่งเสริมการยกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่อำเภอมวกเหล็ก เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือน พัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น อะโวคาโด เป็นผลไม้ขายดีเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ เนื่
“สวนนงนุชพัทยา” ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รวบรวมพืชพันธุ์เขตร้อนที่งดงาม มีสวนสวย (Beautiful Garden) ประเภทสวนกระบองเพชร สวนลอยฟ้า สวนสับปะรดสี สวนปาล์มโลก สวนปรง สวนเฟื่องฟ้า สวนเฮลิโคเนีย ฯลฯ ภายในสวนตระการตาไปด้วยดอกไม้ประดับกว่าร้อยชนิด จนได้รับความนิยมระดับแนวหน้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และระดับโลก มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมวันละกว่า 5,000 คน นอกจากจะเป็นแหล่งสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับประชาชนในท้องถิ่นแล้ว สวนนงนุชพัทยา ยังเปรียบเสมือนแม่เหล็กตัวใหญ่ที่ดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ปีละมหาศาล คุณพานิชย์ ยศปัญญา บรรณาธิการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน นำทีมผู้สื่อข่าวไปสัมภาษณ์พิเศษ คุณโต้ง หรือ คุณกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา เกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการสร้างอาณาจักรพรรณไม้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ เปรียบเสมือน “สวรรค์บนดิน” สำหรับคนรักธรรมชาติ และ ติด 1 ใน 10 “สวนพฤกษศาสตร์” ที่สวยที่สุดของโลกในวันนี้ พื้นฐานครอบครัวตันสัจจา คุณโต้ง เล่าว่า ครอบครัวผมทำกิจการโรงภาพยนตร์มาก่อน ที่รู้จักกันดี ได้แก่ สกาล่า สยาม ลิโด้ เ
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ที่พระราชทานให้คนไทยเมื่อ 30 กว่าปีก่อน มีความทันสมัยและใช้ได้ผลดีตลอดเวลา เพราะการดำเนินชีวิตโดยยึดหลักทางสายกลางและความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ช่วยให้คนไทยก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้เขียนมีโอกาสติดตาม คุณวันชัย นิลวงศ์ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คุณวิจิตร คงสงฆ์ เกษตรอำเภอบางสะพาน คุณเบญจพร ตั้งวิชัย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และ คุณธนนันท์ สนสาขา นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไปเยี่ยมชมกิจการสวนเกษตรผสมผสานของ คุณประเสริฐ ยุวกาฬกุล ที่ทำรายได้ทะลุหลักล้านได้ไม่ยาก แค่ใช้หลัก “การตลาดนำการผลิต” คุณวันชัย นิลวงศ์ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า คุณประเสริฐ ยุวกาฬกุล เกษตรกรต้นแบบด้านเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบัน เขาเป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้าที่มีจิตสาธา
สวนนงนุชพัทยา 1 ใน 10 สวนสวยที่สุดในโลก ไม่หวั่นพิษเศรษฐกิจขาลง ยังคงเดินหน้าลงทุนพัฒนาสวนสวยแห่งใหม่อย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง เช่น สนามฝึกสอนมวยไทยเพื่อการศึกษา, สวนโชว์ตระกูลไม้ภายใน, ตัวอย่างหินในประเทศไทย, โรงเรือนวิจัยและพัฒนากัญชงและกัญชา, พิพิธภัณฑ์หัวโขน และโครงการก่อสร้างไดโนเสาร์ตัวใหญ่ที่สุดในโลก ฯลฯ เนิร์สเซอรี่สวนบอนไซ หนึ่งในสวนสวย ที่สวนนงนุชพัทยา ภาคภูมิใจนำเสนอคือ เนิร์สเซอรี่สวนบอนไซ ที่สวนนงนุชพัทยาใช้เวลาดูแลรักษามานานกว่า 15 ปี ได้อวดโฉมสวนสวยรูปแบบใหม่ เพื่อเป็นแนวทางในการปลูกบอนไซของนักท่องเที่ยวต่อไป “เนิร์สเซอรี่สวนบอนไซ” เป็นงานหัตถศิลป์ที่ต้องใช้ความทะนุถนอมและการเฝ้ามองดูการเจริญเติบโตของกิ่งก้าน และรูปทรงต่างๆ ทั้งใบและราก พร้อมการดัดการจัดให้เกิดขึ้นตามจินตนาการเพื่อให้ได้รูปแบบที่สวยงาม ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ สวนนงนุชพัทยา “ทำได้” เกินกว่า คำว่า “อัศจรรย์” โซนสวนสวยแห่งใหม่นี้ เป็นส่วนขยายเพิ่มบนเส้นทางนั่งรถชมวิวเท่านั้นถึงจะเห็น ซึ่งเป็นสวนเดียวในโลกที่สามารถนั่งรถชมวิว ชมเนิร์สเซอรี่ต้นไม้ต่างๆ ในสวนได้ ซึ่งมีระยะทางไป-กลับ เกือบ 7 กิโลเมตร รับรองว่าสวยง
หากพูดถึงผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง เจริญเติบโตได้ดีในภูมิภาคที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งแบบทะเลทราย อย่าง อินทผลัม และได้เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อวงการผลไม้ในประเทศไทยได้ประมาณ กว่า 10 ปีแล้ว เกษตรกรมากมายต่างให้ความสนใจเนื่องจากเป็นพืชกระแสมาแรงในขณะนั้น อีกทั้งมีราคาที่หอมหวาน กิโลละไม่ต่ำกว่า 600-700 บาท นำไปสู่การสร้างรายได้ให้ผู้ปลูกเป็นอย่างดี ผู้ปลูกอินทผลัมในระยะแรกยังมีไม่มาก แต่เมื่อภายหลังตลาดเริ่มมีความชัดเจนขึ้นและมีราคาขายที่ไม่สู้ดีนัก จึงเป็นเหตุให้เกษตรกรหลายรายต่างหันมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม จากแทนที่จะเป็นสวนอินทผลัมเพียงอย่างเดียว ก็ปรับปรุงทำให้เป็นสวนผสมผสาน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรไปในตัวเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่จากนักท่องเที่ยว คุณภีมพัฒน์ ภาณุพลเพชรรัตน์ หรือ พี่แจ็ค เจ้าของ เทพสถิต สวนอินทผลัม ตั้งอยู่เลขที่ 212 หมู่ที่ 12 ตำบลวะตะแบก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ อดีตทำธุรกิจทัวร์ ผันตัวเองเป็นเกษตรกรทำสวนผสมผสานบนพื้นที่ 16 ไร่ โดยมีอินทผลัมเป็นพืชหลัก สร้างรายได้จำนวน 150 ต้น และปลูกไม้ผลผสมผสาน เพื่อสร้างความหล
เขตทุ่งครุ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ “บางมด” นอกจากมีส้มบางมดที่เลื่องชื่อ เป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในย่านนี้แล้ว เขตทุ่งครุ ยังมีของดีที่ขึ้นชื่อไม่แพ้ส้มบางมดอีกสิ่งหนึ่ง นั่นคือ “แพะ” ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ชาวชุมชนทุ่งครุนิยมเลี้ยง เนื่องจากในพื้นที่แห่งนี้ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ซึ่งหลักศาสนาอิสลามมีความเชื่อว่า เด็กที่เกิดใหม่ต้องจัดพิธีรับขวัญโดยแจกทานเนื้อแพะ เกษตรกรในเขตทุ่งครุจึงนิยมเลี้ยงทั้งแพะนมและแพะเนื้อเป็นสัตว์เศรษฐกิจ โดยจำหน่ายแพะและน้ำนมแพะนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนนี้อย่างมาก เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะในซอยพุทธบูชา 36 เขตทุ่งครุ ได้รวมตัวกันตั้งเป็น “กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ทุ่งครุ” เพื่อเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ให้แก่ผู้สนใจอาชีพเลี้ยงแพะ การพัฒนาสายพันธุ์แพะ รวมถึงการจัดจำหน่าย ต่อมาในปี 2554 ได้มีการรวมกลุ่มสมาชิก 35 คน ในนามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนดารุ้ลอิบาดะห์ เพื่อพัฒนาและต่อยอดแปรรูปผลิตภัณฑ์จากนมแพะอีกหลายชนิด เช่น สบู่ ครีมอาบน้ำ โลชั่นบำรุงผิว นมแพะพาสเจอไรซ์ โยเกิร์ตนมแพะ คุกกี้นมแพะ และทองม
“อินทผลัม” เป็นหนึ่งในผลไม้ทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้รักสุขภาพ ราคาขายผลสด 400-500 บาท ต่อกิโลกรัม อินทผลัมแม้เป็นไม้ผลต่างถิ่นที่นำเข้ามาปลูกในไทย แต่เกษตรกรไทยมีฝีมือด้านการปลูก สามารถปรับการปลูกให้มีผลผลิตที่มีคุณภาพได้ไม่ยาก ซึ่ง “คุณครองจักร งามมีศรี” เป็นหนึ่งในเกษตรกรคนเก่ง ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการผลผลิตอินทผลัมได้เป็นอย่างดี และสำนักงานเกษตรจังหวัดลพบุรีคัดเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพทำสวน ปี 2564 ของจังหวัดลพบุรี ครูเกษียณ สนใจปลูกอินทผลัม คุณครองจักร งามมีศรี เป็นอดีตข้าราชการครู ที่เกษียณอายุเมื่อปี พ.ศ. 2555 เนื่องจากมีนิสัยรักการปลูกต้นไม้ จึงสนใจปลูกไม้ยืนต้นเพื่อสร้างป่าให้กับชุมชน บนพื้นที่ 58 ไร่ แต่ด้วยประสบการณ์ด้านการปลูกต้นไม้มีน้อย ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกตายไปประมาณ 50% ต่อมาปี พ.ศ. 2556 ลูกชายซื้ออินทผลัมผลสดจากประเทศบาห์เรนมาให้ลองรับประทาน ก็รู้สึกติดใจในรสชาติและประโยชน์ของอินทผลัม คุณครูครองจักรจึงได้ทดลองนำเมล็ดไปเพาะในกระถาง ปรากฏว่าเมล็ดสามารถงอกได้ จึงสนใจศึกษาการปลูกอินทผลัมอย่างจริงจัง ปี พ.ศ. 2557 คุณครูคร
อินทผลัม คุณภาพดี หลากหลายสายพันธุ์ ปัจจุบันถือเป็นของดีอย่างหนึ่งอำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี ด้วยการบริหารจัดการที่ดี ของ คุณครองจักร งามมีศรี รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลชอนสารเดช จังหวัดลพบุรี และเป็นเจ้าของ “สวนอินทผาลัมชอนสารเดช” ตั้งอยู่บ้านเลขที่ เลขที่ 96/1 หมู่ที่ 4 บ้านชอนสารเดช ตำบลชอนสารเดช อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี โทร. (085) 909-7445, (099) 275-6444 คุณครองจักร เริ่มต้นปลูกอินทผลัมโดยนำเมล็ดที่ซื้อผลมาจากต่างประเทศ เพื่อรับประทานไปปลูกในกระถางต้นชวนชม ปรากฏว่า ผ่านไปเดือนกว่ามีการงอกของเมล็ด จึงนำไปปลูกในแปลง ผ่านไป 1 ปีต้นอินทผลัมเจริญเติบโตดี เลยสนใจและหันมาศึกษาเรื่องการปลูกเพิ่มเติม จนทราบว่าการปลูกจากเมล็ดใช้เวลานานกว่าจะได้ผลผลิต เลยตัดสินใจสั่งพันธุ์เนื้อเยื่อจากต่างประเทศมาปลูก จนเต็มเนื้อที่กว่า 20 ไร่ โดยปลูกอินทผลัมจำนวน 500 ต้น ก่อนหน้านี้ คุณครองจักรปลูกไม้ผลหลายชนิดแต่กลับยืนต้นตาย ทั้งๆ ที่มีระบบน้ำหยดทุกต้น เนื่องจากสวนแห่งนี้ มีหน้าดินตื้นแค่ 50 เซนติเมตร ลึกลงไปเป็นดินขาว เป็นเม็ดกรวดและเป็นดินดานแข็ง รากพืชไม่สามารถแทงลงไปได้ แต่อินทผลัมเป็นไม้ผลชนิดเ