News
มีข่าวดีมาบอก กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ขอเชิญผู้ประกอบการเกษตรนวัตกรรมและผู้ที่สนใจเข้าร่วมส่งผลงานประกวดเกษตรนวัตกรรม Agri Plus Award 2025 🏆 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 💰เงินรางวัลรวมกว่า 150,000 บาท 🎯 ฟรี.. ไม่มีค่าใช้จ่าย รับสมัครถึง 6 พฤษภาคม 2568 กดอ่านรายละเอียดได้เลยนะคะ ⬇️ https://qr.me-qr.com/th/data/image-pack/NmCiefPA
หมอนทองเลิฟเวอร์ห้ามพลาด! “ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” พร้อมเสิร์ฟ “Durian Decadent Afternoon Tea” ชวนจิบอาฟเตอร์นูนทีระดับไฮเอนด์และลิ้มรสเมนูพิเศษที่รังสรรค์จาก “ราชาผลไม้” สัมผัสอาฟเตอร์นูนทีสุดพิเศษในธีมทุเรียนเฉพาะซัมเมอร์นี้เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2568 เมื่อซัมเมอร์มาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง หลายคนคงตั้งตารอคอย “ทุเรียน” ราชาแห่งผลไม้เมืองร้อนกับรสชาติหอมหวานมันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกอกถูกใจทั้งคนไทยและคนทั่วโลก และในปีนี้ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญ Durian Decadent Afternoon Tea หลังได้รับเสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน โดยจับมือกับ Toby’s Farm สวนทุเรียนคุณภาพระดับพรีเมียมจากจังหวัดจันทบุรี ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง นำเสนอประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายที่ผสานความหรูหราเข้ากับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนหมอนทอง พร้อมยกระดับ “ความโลคอล” ด้วยการนำเสนอแบบ “โกลบอล” ระดับห้าดาว โดยเซตอาฟเตอร์นูนทีในธีมทุเรียนหมอนทองสุดพิเศษนี้ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเฉพาะฤดูกาลทุเรียนตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน – 31 พฤษภา
ในการตกแต่งสวน สิ่งที่ละเลยไม่นำมาเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างพื้นสนามหญ้าก็อาจทำให้สวนแห่งนั้นขาดความสมบูรณ์แลดูไม่สวยงาม หากผ่านตามร้านขายต้นไม้หลายแห่งจะพบว่ามีหญ้าเป็นแผ่นตั้งกองไว้หน้าร้านเพื่อจำหน่ายควบคู่ไปกับพันธุ์ไม้หลายชนิด อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้หญ้าแต่ละชนิดต้องพิจารณาให้เหมาะสมตรงกับเจตนาของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้งหรือแดดรำไร แต่ทราบหรือไม่ว่าเส้นทางของการผลิตหญ้ากว่าจะมาสร้างความสวยงามให้แก่สวนของคุณมีความเป็นมาอย่างไร ในอดีตหากต้องการใช้หญ้าเพื่อจัดสวนมักรู้กันดีว่าแหล่งสำคัญคือที่มีนบุรี เพราะปลูกหญ้าได้คุณภาพจนเรียกติดปากว่า “หญ้ามีน” ถึงแม้ในปัจจุบันแหล่งปลูกหญ้าจะเพิ่มหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดปทุมธานี กำแพงเพชรหรือแม้แต่นครนายก แต่ชาวบ้านที่มีนบุรียังคงรักษาวิถีอาชีพปลูกหญ้าดั้งเดิมสร้างรายได้เพื่อคงเอกลักษณ์ไว้ คุณสมชาย เจ๊มะหะหมัด กรรมการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรมีนบุรีและประธานกลุ่มผู้ปลูกหญ้าแปลงใหญ่ เป็นผู้ที่คร่ำหวอดกับวงการปลูกหญ้าสนามมาตั้งแต่เด็กให้ข้อมูลว่า ที่มีนบุรีถือเป็นพื้นที่ปลูกหญ้าแห่งแรก โดยเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา คุณสุดใจ วงศ์อารี อดีตรอ
“กั้ง” สัตว์น้ำทะเลมีเปลือก มีปล้องตระกูล ครัสเตเซียน (Crustaceans) เช่นเดียวกับกุ้ง ปู พบบริเวณหน้าดินเลน หรือชายฝั่งดินทรายแถบจังหวัดชายทะเลทั่วๆ ไป ทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้ มีลักษณะเปลือกหนา คม เป็นปล้องๆ คล้ายๆ กุ้ง เดิมไม่นิยมรับประทานและแทบไม่มีคนรู้จัก แถมราคาถูกชนิดให้ฟรีที่ท่าเรือได้ แต่ด้วยรสชาติของความอร่อยของเนื้อกั้งคล้ายเนื้อกุ้งผสมปู ทำให้เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมู่นักนิยมอาหารทะเลซีฟู้ดทั้งตลาดภายในและตลาดต่างประเทศอย่างจีน ไต้หวัน กั้งจึงเป็นอาหารทะเลมูลค่าสูง ราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 500-2,000 บาท ที่จังหวัดตราดเมืองท่องเที่ยว อบต.หนองคันทรง ได้จัดงาน ”เทศกาลเหยียบกั้ง ครั้งที่ 2“ ขึ้นเมื่อวันที่ 4-6 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มีกิจกรรมครบวงจร ตั้งแต่แข่งขันเหยียบกั้ง ตัดสินกันด้วยน้ำหนักและราคากั้ง การประกวดแกะกั้ง เมนูต้มยำกั้ง เพื่อสร้างกระแสให้เห็นความสำคัญของ ”กั้ง” ที่เป็นอาหารทะเล เอกลักษณ์ของจังหวัดตราด ที่หายากและมีมูลค่าสูง เป็นที่นิยมบริโภคทั้งในและต่างประเทศ กั้งที่จังหวัดตราด…เนื้อแน่น เด้ง หวาน หอม “ตราด” เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีกั้งจำนวนมาก และว่ากันว่ากั้ง
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยความคืบหน้าการเปิดทางสะดวกส่งออกทุเรียนไทยไปจีน หลัง “นภินทร” นำทีมสำรวจเส้นทางโลจิสติกส์และอำนวยความสะดวกทางการค้าผลไม้ไทย ล่าสุดทูตพาณิชย์คุนหมิงได้เข้าพบบริษัท Yunnan Nongfa Agriculture ศูนย์กระจายและค้าส่งแห่งใหม่ จีนนำเข้าทุเรียนไทยเพิ่ม เบื้องต้นคาด 20-30 ตู้ต่อวัน พร้อมขอให้ช่วยกระจายไปยังมณฑลใกล้เคียงด้วย นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบาย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจาก นายณัฐ วิมลจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงผลการดำเนินการต่อเนื่อง ภายหลัง นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เดินทางไปสำรวจเส้นทางโลจิสติกส์และอำนวยความสะดวกทางการค้าสำหรับการส่งออกทุเรียนไทยไปจีนในช่วงฤดูกาลผลไม้ที่กำลัง
ในเรื่องของการส่งออกข้าวจำหน่ายตลาดต่างประเทศ ไทยยังคงเป็นผู้ส่งออกข้าวเป็นอันดับ 2 ของโลก เท่ากับปริมาณการส่งออกของเวียดนามที่ 7.5 ล้านตันเช่นกัน และอินเดียยังคงเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลกที่ปริมาณ 16.5 ล้านตัน จึงเป็นความเสี่ยงของไทยที่จะต้องรักษาอันดับ การเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของโลก นอกจากนี้ เวียดนามยังมีโอกาสที่จะส่งออกข้าวแซงไทยที่เป็นไปได้สูง เพราะเริ่มเห็นตัวเลขการส่งออกข้าวเวียดนามเพิ่มขึ้น จากปกติการส่งออกเฉลี่ยเพียง 6 ล้านตันต่อปีเท่านั้น แต่เห็นชัดเจนขึ้นจากปี 2566 เวียดนามสามารถส่งออกได้ถึง 8.1 ล้านตัน และประมาณต้นปี 2567 เวียดนามสามารถประมูลข้าวจากอินโดนีเซียได้ถึง 4 แสนตัน จากการประมูลทั้งสิ้น 5 แสนตัน ส่วนที่เหลือเป็นของปากีสถานและเมียนมา ส่วนประเทศไทยไม่ได้เพราะราคาข้าวแพงกว่า ข้าวคาร์บอนต่ำ ทางรอดของเกษตรไทย นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการปรับตัวของผู้ผลิตและผู้ประกอบการ เพื่อเป็นการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันการผลิตและการค้าขายทางภาคการเกษตรข
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีการเพาะปลูกข้าวเป็นหลัก ในแต่ละปีมีการผลิตและส่งออกข้าวจำหน่ายในปริมาณสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก การอนุรักษ์สายพันธุ์ดั้งเดิมของข้าวพื้นเมืองเอาไว้ โดยนำมาผลิตเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำพวกสาโทนั่นเอง จากเครื่องดื่มพื้นบ้าน มีปัจจัยอะไรบ้างที่จะประกอบร่างสร้างให้กลายเป็นสินค้าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่มีดีทั้งคุณภาพและรูปลักษณ์ ยกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจขึ้นสู่ของดีประจำชาติ และยังสร้างรายได้มหาศาลกลับคืนสู่ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชน การส่งเสริมแบรนดิ้งให้แข็งแรง ให้คุณค่ากับความเฉพาะตัวของวัตถุดิบพื้นถิ่น ใส่ใจในการออกแบบหน้าตาบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยเพื่อเพิ่มสุนทรียะในการดื่มชิม คือตัวอย่างองค์ประกอบที่จะพาให้เครื่องดื่มพื้นบ้านไปไกลได้ทั้งในไทยและต่างแดน ความโดดเด่นทางภูมิศาสตร์และสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยส่งผลให้แต่ละภูมิภาคมีการเพาะปลูกพืชพันธุ์ที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะมีจุดร่วมคือภูมิปัญญาหมักดองถนอมอาหารแต่การแปรรูปข้าว พืชผลไม้พื้นถิ่น สมุนไพรเหล่านี้ก็ยังต้องอาศัยภูมิปัญญาของชุมชนปราชญ์ ชาวบ้านที่ศึกษาและลงลึกในการหยิบจับส่วนผสมต่างๆ มาทดลองหมักบ่มผ่
ผักกรอบไม่ง้อเคมี! ด้วย “สูตรน้ำหมักถั่วเหลือง” ฮอร์โมนถั่วเหลือง จะช่วยเร่งต้น เร่งใบ ทำให้ผักอ่อนกรอบ ลำต้นไม่แคระแกร็น ผักสมบูรณ์แข็งแรง และช่วยบำรุงดิน ทำให้ดินดี มีธาตุอาหารมากขึ้น 🔴วัตถุดิบ ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม (ที่ใช้ทำน้ำเต้าหู้) ผงกลูโคส 1 กระป๋อง (ปริมาณ 400 กรัม) น้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม โยเกิร์ต (รสธรรมชาติ) 2 ถ้วย หรือ ยาคูลท์ 2 ขวด น้ำส้มสายชู 1/2 ขวด (ขนาดขวดน้ำปลา) มะพร้าว 4 ลูก กลูโคส 400 กรัม น้ำเปล่า 8 ลิตร 🪴ขั้นตอนการทำ ล้างถั่วเหลืองด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด นำไปแช่ในน้ำอุ่นทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นเทน้ำทิ้งแล้วล้างให้สะอาดอีกครั้ง นำถั่วเหลืองที่ล้างแล้วผสมกับน้ำสะอาด 8 ลิตรปั่นให้ละเอียด กรองกากถั่วเหลืองครั้งแรกด้วยกระชอน แล้วกรองซ้ำอีกครั้งด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นเทใส่ถังที่เตรียมไว้ ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตามลงไปในถัง คนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วปิดฝา หมักทิ้งไว้ 1 เดือน 🍀วิธีใช้ ผสมน้ำหมักถั่วเหลือง 2-3 ช้อนลงในน้ำเปล่าประมาณ 5 ลิตร ใช้รดผักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ช่วยให้ผักเติบโตได้ดี ลำต้นแข็งแรง และทำให้ผักกรอบอร่อย ✨เคล็ดลับ หากใช้ยาคูลท์หมักทิ้งไว้ 1 เดือน หากใ
ประเทศไทยในยุคโลกรวน เสี่ยงเจอภาวะอาการแปรปรวนได้ตลอดเวลา หากในช่วงเช้าฟ้าครึ้มผิดปกติ เมฆหนา ไม่มีแดด แม้จะเป็นช่วงเวลา 06.00-09.00 น. ซึ่งตามปกติต้องมีแสงแดดที่เป็นตัวกลางสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์แสง จะพบว่า ปลาว่ายน้ำรวมตัวเป็นฝูง ลอยหัวเหนือผิวน้ำ ซึ่งเป็นลักษณะอาการปลาขาดอากาศ ส่งผลให้สุขภาพปลาอ่อนแอ กินอาหารน้อยลง การเจริญเติบโตช้า หากปริมาณออกซิเจนในน้ำต่ำเกินค่ามาตรฐาน ปลาที่เลี้ยงในบ่อ อาจลอยตายได้ หากเกิดกรณีดังกล่าว สำนักงานประมงจังหวัดอุบลราชธานี ให้คำแนะนำว่า เกษตรกรควรเพิ่มออกซิเจนในน้ำ เช่น ใช้เครื่องตีน้ำหรือเครื่องมือที่ทำให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำ ให้ออกซิเจนในชั้นบรรยากาศละลายผสมกับน้ำ เพื่อให้ออกซิเจนละลายในน้ำเพียงพอต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของปลา ทั้งนี้ อุณหภูมิของสภาพแวดล้อมมีผลต่ออุณหภูมิภายในร่างกายของปลา เนื่องจากปลาเป็นสัตว์เลือดเย็น การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันโรคจะเป็นปกติเมื่ออุณหภูมิน้ำอยู่ในช่วงเดียวกับอุณหภูมิทางสรีระ (physiological range) ปลาจะมีอัตราการเผาผลาญของร่างกาย (metabolic rates) เพิ่มขึ้นถ้าน้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้น ปลาส่วนใหญ่ถ้าอุณหภูมิข
คุณวรเชษฐ์ วังพลากร เจ้าของสวนวังพลากร อยู่ที่ตำบลรวมไทย อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องอะโวคาโดคนหนึ่งของเมืองไทย คุณวรเชษฐ์ อธิบายถึงอะโวคาโดสายพันธุ์พบพระ08 ว่า เป็นพันธุ์พื้นเมือง ที่คัดแล้วว่า 1. ทนต่อโรค โดยเฉพาะโรคไฟทอปทอร่า หรือโรคใบไหม้ ซึ่งเป็นเชื้อราที่ทำลายตั้งแต่ยอดลงระบบราก แล้วทำให้รากเน่า โคนเน่า 2. ให้ผลผลิตสูง 3. เนื้อคุณภาพดี เนื้อเหนียวแห้งไม่ฉ่ำน้ำเหมือนพันธุ์พื้นเมืองทั่วๆ ไป มีกลิ่นหอมของอะโวคาโดชัดเจน ผลสุกดูง่าย จากผลสีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ 4. เป็นพันธุ์เบา มีระยะเวลาเลี้ยงลูกที่สั้นกว่า และเริ่มให้ผลผลิตได้เร็วกว่าพันธุ์หนัก พันธุ์เบาจึงมีเวลาฟื้นฟูสภาพต้นได้มากกว่า 5. ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI เรียบร้อยแล้ว ตอบโจทย์สำหรับการปลูกเพื่อสร้างรายได้ การปลูก สำหรับการปลูกและการดูแลอะโวคาโดพบพระ08 จะคล้ายกับสายพันธุ์ทั่วไป เหมาะกับการปลูกในพื้นที่ดินร่วน ทำให้เกิดโรคน้อย และใช้น้ำน้อยเมื่อเทียบกับผลไม้ตัวอื่นๆ มีความทนทานต่อสภาพอากาศ ต้านทานโรค ผลผลิตดก ต้นอายุ 5 ปีขึ้นไป ให้ผลผลิตถึง 300 กิโลกรัมต่อต้น “ตอนนี้เกษตรกรในพื้นที่หลายสวนเริ่มตัดสายพั