กยท. จับมือ ส.ป.ก. เตรียม Kick Off “โฉนดต้นไม้–ต้นยางพารา” สุดยิ่งใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 14 พ.ค. นี้ ปลุกพลังเศรษฐกิจสีเขียว มอบสิทธิเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากต้นไม้และต้นยางพารา เพิ่มโอกาสสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตในอนาคต หวังยกระดับชีวิตเกษตรกร ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 68 การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกับ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จัดงานแถลงข่าว “Kick Off การมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา” พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ มอบสิทธิเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากต้นไม้และต้นยางพารา เพื่อยกระดับความมั่นคงในการถือครองที่ดินของเกษตรกร เป็นการเปิดประตูให้ต้นไม้และต้นยางพารา กลายเป็นทรัพย์สินที่ใช้การได้ ทั้งในฐานะหลักทรัพย์เพื่อขอสินเชื่อ หรือทรัพย์ที่มีมูลค่าในระบบเศรษฐกิจไทย และเป็นนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน รวมไปถึงคาร์บอนเครดิต การสร้างรายได้เสริมจากเนื้อไม้


นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เล็งเห็นว่า ต้นไม้ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทำกินของเกษตรกรเอง โดยเฉพาะต้นยางพารามีศักยภาพมากกว่าแค่การให้ผลผลิต แต่ยังสามารถกลายเป็นทรัพย์สินที่นำไปใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ งานแถลงข่าวในวันนี้จึงถือเป็นการขับเคลื่อนนโยบายเร่งรัดจัดที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ เตรียม “Kick Off การมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา” ขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการนำนโยบายด้านการเกษตรไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะแนวคิด “โฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา” ซึ่งเป็นการพลิกบทบาทของต้นไม้จากทรัพยากรธรรมชาติให้กลายเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ สามารถใช้เป็นหลักประกันทางการเงินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นับเป็นครั้งแรกที่ต้นไม้ที่เกษตรกรปลูกเองจะสามารถนำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ทางเศรษฐกิจได้จริง โดยไม่จำเป็นต้องขายที่ดินหรือโค่นต้นไม้เหล่านั้น นอกจากจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและลดภาระหนี้นอกระบบแล้ว ยังช่วยเปิดประตูสู่โอกาสทางการเงินรูปแบบใหม่ให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวกขึ้น โครงการนี้ยังสอดรับกับแนวทางเศรษฐกิจสีเขียวในระดับสากล โดยสนับสนุนให้เกษตรกรสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตของต้นไม้ และการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินจากพื้นที่เพาะปลูกอย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นการวางรากฐานข้อมูลต้นไม้ที่สามารถนำไปใช้วางแผนพัฒนานโยบายในระยะยาว ถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย ด้วยแนวทางที่ทันสมัย เชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และการเข้าถึงโอกาสทางการเงินในรูปแบบใหม่อย่างแท้จริง
นายสุขทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กยท. มุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตและโอกาสทางเศรษฐกิจของเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศ โดยภายในงานดังกล่าวจะมีการนำเสนอ “กระบวนการออกโฉนดต้นยางพารา” อย่างละเอียด ครอบคลุมขั้นตอนการขึ้นทะเบียน การประเมินมูลค่า และแนวทางการใช้โฉนดต้นยางพาราเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนของเกษตรกร อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญ คือ “การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)” ระหว่าง กยท. และ ส.ป.ก. เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนโครงการในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเปิดโอกาสให้โฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารากลายเป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายเนื้อไม้ กิจกรรมคาร์บอนเครดิต การลดภาษี หรือเพิ่มมูลค่าที่ดินในอนาคต ไฮไลท์ของงาน คือ การมอบโฉนดต้นยางพารา จำนวน 20 ฉบับ แก่เกษตรกรชาวสวนยางที่เข้าร่วมโครงการบนเวที เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กยท. ในการขับเคลื่อนโครงการนี้ให้เกิดผลจริงอย่างยั่งยืน กยท. ขอเชิญชวนสื่อมวลชน พี่น้องเกษตรกร และประชาชนทั่วไปร่วมติดตามงาน “Kick Off การมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา” ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับภาคเกษตรไทย และสร้างความมั่นคงในอาชีพแก่ชาวสวนยางทั่วประเทศ

ด้านนายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มอบหมายให้ นายสุรชัย ยุทธชนะ รองเลขาธิการ (ส.ป.ก.) เป็นผู้แทนในการแถลงข่าวถึงความสำคัญของโครงการ “โฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา” ว่า “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาของเกษตรกรเป็นอย่างมากตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษ ของการก่อตั้ง ส.ป.ก. มีนโยบายที่หลากหลาย ซึ่งล้วนมีความท้าทาย ต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันนโยบายสำคัญคือ เรื่องโฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญ คือ การเพิ่มมูลค่าที่ดิน และพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการต่อยอดนโยบาย ซึ่ง ส.ป.ก. เป็นผู้รับผิดชอบในส่วนโฉนดต้นไม้มีเป้าหมายเพื่อใช้ต้นไม้เป็นหลักประกันสินเชื่อ หนุนเสริมกิจกรรมการประกอบเนื้อไม้และกิจกรรมคาร์บอนเครดิต เป็นต้น โดย ส.ป.ก. ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงาน ที่สำคัญ 4 เรื่อง คือ1) การออกโฉนดต้นไม้ ซึ่งมีเป้าหมายในพื้นที่การส่งเสริมวนเกษตร พื้นที่การส่งเสริมปลูกไม้มีค่า พื้นที่การส่งเสริมการปลูกไม้ผล และที่เกษตรกรมีการปลูกไม้มีค่าด้วยตนเอง 2) ส่งเสริมการนำโฉนดต้นไม้มาเป็นหลักประกันสินเชื่อกับกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และสถาบันการเงินอื่น 3) การส่งเสริมการปลูกต้นไม้เพื่อเตรียมออกโฉนดต้นไม้ 4) การใช้โฉนดต้นไม้เพิ่มมูลค่าที่ดินกรณีที่ ส.ป.ก. ต้องจ่ายค่าทดแทนให้กับเกษตรกร”
จากการดำเนินการในระยะแรกนี้ สิ่งสำคัญ ที่ ส.ป.ก. ได้ค้นพบ คือการเกิดฐานข้อมูลในเรื่องปริมาณ และชนิดของต้นไม้ในเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญของการนำข้อมูลเหล่านั้น มากำหนดเป็นแผนพัฒนาในแต่ละชนิดต้นไม้ พื้นที่และเครือข่ายของเกษตรกรที่มีการปลูกต้นไม้ ต่อไปในอนาคต ส.ป.ก. จะเดินหน้าร่วมกับทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนนโยบายโฉนดต้นไม้ ให้ครอบคลุมในเขตปฏิรูปที่ดิน และขยายผลต่อหน่วยงานหรือบุคคลอื่นที่สนใจต่อไป

ส.ป.ก. และ กยท. ขอเชิญร่วมงาน “Kick Off การมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพารา” ที่จัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย ส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากต้นไม้เศรษฐกิจเป็นทรัพย์สินที่สามารถใช้เป็นหลักประกันได้จริง งานจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเสริมนอกภาคการเกษตร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ พิธีมอบโฉนดต้นไม้และโฉนดต้นยางพาราให้แก่เกษตรกร การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กยท. และ ส.ป.ก. ในการขับเคลื่อนโฉนดต้นไม้ในเขตปฏิรูปที่ดิน รวมถึงกิจกรรมมอบกล้าพันธุ์ไม้เพื่อส่งเสริมการปลูกต้นไม้เศรษฐกิจในพื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ขอเชิญเกษตรกร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจเข้าร่วมงาน เพื่อร่วมเรียนรู้แนวนโยบาย โอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับภาคเกษตรกรรมไทยในอนาคต