ปลาไหลนา สัตว์น้ำพื้นบ้าน…สู่ดาวรุ่งในตลาดเกษตรยุคใหม่
กลางผืนนาและแหล่งน้ำธรรมชาติของไทย ปลาไหลนาเคยเป็นเพียงสัตว์น้ำพื้นบ้านที่อยู่ในฐานะแหล่งโปรตีนพื้นถิ่น แต่วันที่กระแสเกษตรมูลค่าสูงและการแสวงหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ขยายตัวสู่ทุกชุมชน “ปลาไหลนา” กลับถูกจับตามองในฐานะสัตว์เศรษฐกิจที่มีศักยภาพซ่อนอยู่

ปลาไหลนาเป็นสัตว์ที่มีความอึดทนต่อสภาพแวดล้อมใช้พื้นที่เลี้ยงน้อย และไม่เพียงเหมาะกับวิถีเกษตรผสมผสานเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ต้องการสูงในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มร้านอาหารที่ต้องการปลาไหลนาเป็นวัตถุดิบให้กับลูกค้า

คุณนัท-มนัสศักดิ์ จันประดับ ได้เล็งเห็นช่องทางการสร้างรายได้เปลี่ยน “สัตว์พื้นบ้าน” ให้กลายเป็น “อาชีพทางเลือกใหม่” ที่สร้างรายได้อย่างมั่นคง พร้อมแนวโน้มตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต จึงได้ศึกษาในเรื่องของการทำตลาดว่าสามารถส่งจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศได้ พร้อมทั้งเรียนรู้การทำฟาร์มให้ได้มาตรฐาน เน้นการเลี้ยงที่มีความสะอาดโดยไม่ให้ปลาไหลอยู่โคลนเหมือนเช่นแต่ก่อน
ใช้เวลาว่างจากงานประจำ
ศึกษาการเลี้ยงปลาไหลนาเป็น “อาชีพเสริม”
คุณนัท เล่าให้ฟังว่า สนใจและต้องการจะหาอาชีพเสริมที่เกี่ยวกับการเกษตร มาทำควบคู่กับการทำงานประจำ โดยสนใจการเลี้ยงปลาไหลเพราะมองว่าปัจจุบันในธรรมชาติเริ่มมีจำนวนลดลง ช่วงแรกนำสายพันธุ์ปลาไหลจากตลาดทั่วไปมาลองผิดลองถูก แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จมากนักเพราะปลาไหลตายอยู่หลายรอบ แต่ด้วยที่เป็นคนชอบกินปลาไหลจึงได้พยายามศึกษาการเลี้ยงใหม่ ศึกษากับอาจารย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรงทำจนสำเร็จ และเปิดฟาร์มเลี้ยงสร้างรายได้มาจนถึงปัจจุบัน

“พอผมได้ศึกษาอย่างจริงจังและทำฟาร์มเองในเวลาต่อมา พร้อมกับรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ เพื่อนำความรูัมาแชร์กัน ในขณะนั้นตัวผมเองก็มีโอกาสได้ไปดูงานที่เวียดนาม อยากไปดูเรื่องการเลี้ยงและการทำตลาดของที่นั้น ก็ถือว่าคุ้มค่าที่ได้ไปดูการเลี้ยง การเพาะพันธุ์ ตลอดจนถึงการทำตลาด ทำให้ผมสามารถนำมาปรับใช้กับฟาร์มของผมได้ดีเลยครับ”
ปลาไหลนาเลี้ยงในระบบน้ำสะอาด
การเลี้ยงได้มาตรฐานความปลอดภัย
สำหรับสายพันธุ์ปลาไหลนาที่นำมาเลี้ยงภายในฟาร์ม คุณนัทคัดจากสายพันธุ์ปลาไหลนาที่มีอยู่ในประเทศ โดยเลือกที่มีทรงดีทรงสวยมาผสมพันธุ์จนกว่าจะได้รุ่นลูกที่ดีที่สุด ซึ่งสายพันธุ์ปลาไหลนาที่นำมาผสมนั้นมีด้วยกันหลายภาคของประเทศ การผสมพันธุ์ให้หลากหลายจะช่วยป้องกันเลือดชิดได้ และปลาไหลนาสายพันธุ์ที่เกิดจากการพัฒนาก็สามารนำมาเลี้ยงในระบบฟาร์มในน้ำใสสะอาดได้ผลดี
การเพาะพันธุ์ปลาไหลนาจะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ที่มีอายุ 8 เดือนถึง 1 ปี ในบ่อขนาด 2×10 เมตร สูง 70 เซนติเมตร อัตราการปล่อยตัวผู้ 2 ตัวต่อตัวเมีย 3 ตัว ซึ่งใน 1 บ่อ จะมีพ่อแม่พันธุ์ประมาณ 100 ตัว พร้อมกับสร้างสภาพแวดล้อมในบ่อเรียนแบบธรรมชาติ เพื่อให้พ่อแม่พันธุ์สามารถวางไข่ได้ดี

“สภาพบ่อจะทำให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด หลักการผสมพันธุ์ก็คือปลาไหลนา ในตัวเดียวกันจะเป็น 2 เพศ เราจะกำหนดปลาไหลตัวที่มีขนาดน้ำหนักมากกว่า 250 กรัมขึ้นไป จะฉีดฮอร์โมนกำหนดให้เป็นตัวผู้ ส่วนตัวที่น้ำหนักน้อยกว่า 180 กรัมก็จะเป็นตัวเมีย หลังจากนั้นไม่นานปลาไหลก็จะมีไข่ออกมา ปล่อยทิ้งไว้ให้ไข่แก่อีกประมาณ 3 วัน จากเห็นเป็นสีเหลืองๆ ก็จะเป็นสีส้มๆ ออกมา จากนั้นค่อยตัดออกมาฟักในบ่อถัดไป”
ฟักไข่ 7 วัน พร้อมกับอนุบาล 3 ระยะ
ปลาได้ขนาดไซซ์ตลาดเนื้อ-ตลาดพ่อแม่พันธุ์
คุณนัท บอกว่า การฟักไข่ของปลาไหลนาจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน ดูแลในช่วงนี้ไปอีกสักระยะจนลูกปลาไหลมีขนาดเท่ากับไม้จิ้มฟัน สีตัวเริ่มดำ จึงเริ่มทำการอนุบาล 1 เลี้ยงด้วยอาหารผงที่มีโปรตีนสูง 50 เปอร์เซ็นต์ ให้กินเช้าและเย็นประมาณ 45 วัน จากนั้นเข้าสู่การอนุบาล 2 ด้วยอาหารเม็ดจิ๋วที่มีเปอร์เซ็นต์โปรตีน 46 เปอร์เซ็นต์ ให้กินอยู่อีกประมาณ 30 วัน หลังจากนั้นเข้าสู่การอนุบาล 3 เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดเล็กโปรตีน 44 เปอร์เซ็นต์อีกประมาณ 30 วัน

เมื่อลูกปลาไหลนาเข้าสู่อายุได้ 4 เดือน ทางฟาร์มจะทำการคัดแยกไซซ์ โดยแบ่งเลี้ยงทำ 2 ตลาด คือ ตลาดปลาไหลสำหรับทำพ่อแม่พันธุ์ จะขุนอาหารวันละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ให้ปลาไหลมีขนาดตัวที่ไม่ใหญ่เกินไป และตลาดเนื้อการเลี้ยงขุนจะต้องให้อาหารเช้า กลางวัน และเย็น ซึ่งขนาดของอาหารก็จะปรับไปตามขนาดของปลาไหลที่โตขึ้น
“สำหรับปลาไหลนาที่เลี้ยงขุนใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 10-12 เดือน ก็จะได้ไซซ์ขนาดที่ตลาดต้องการ ส่วนพ่อแม่พันธุ์อายุ 8 เดือนขึ้น ก็จะเริ่มทำการฉีดฮอร์โมน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับขยายพันธุ์ต่อไป เฉลี่ยแล้วปลาไหลนาในฟาร์มหลังครบกำหนดเลี้ยง น้ำหนักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4-5 ตัวต่อกิโลกรัม ส่วนโรคก็จะป้องกันไปตามฤดูกาลต่างๆ ที่แตกต่างกันไป การเลี้ยงปลาไหลนาความสะอาดถือว่ามีความสำคัญมาก หากจัดการดีมีระบบปลาจะปลอดภัย”

ปลาไหลนาที่เป็นปลาเนื้อขุน
ขายได้ราคา 100-350 บาทต่อกิโกรัม
ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายปลาไหลนา คุณนัท บอกว่า ตลาดส่วนใหญ่ยังเน้นจำหน่ายภายในประเทศ โดยมีพ่อค้าคนกลางเข้ามาซื้อถึงหน้าฟาร์ม นอกจากนี้ ทางฟาร์มได้มีการรวมกลุ่มกับเพื่อนเกษตรกรอื่นๆ เพื่อทำการแปรรูปให้ได้มากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในต่างประเทศ

การทำตลาดหลักของการจำหน่ายปลาไหลนา จะเน้นผลิตเป็นตลาดพ่อแม่พันธุ์และผลิตลูกพันธุ์เพื่อให้ลูกค้าซื้อไปเลี้ยงขุนทำตลาดต่อไป โดยราคาปลาไหลนาขุนเนื้อ จำหน่ายปลีกอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-350 บาท ราคาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดตัวของปลา และถ้าเป็นพ่อแม่พันธุ์ อายุ 8 เดือนขึ้นไป จำหน่ายอยู่ที่ตัวละ 100 บาท

“การทำตลาดถ้าอยากให้ฟาร์มเป็นที่รู้จัก การสร้างตัวตนในช่องทางออนไลน์ถือว่าสำคัญมาก ผมก็จะนำเสนอฟาร์มเข้าไปในทุกแพลตฟอร์มของสื่อออนไลน์ ก็จะช่วยให้การขายของฟาร์มขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น ก็อยากจะแนะนำว่าใครที่อยากจะเลี้ยงปลาไหลนาเป็นอาชีพ อยากให้มองในเรื่องของการแปรรูปต่อยอดเข้ามาเสริมด้วย การขายมันจะไม่ได้อยู่แค่ในประเทศเท่านั้น แต่มันสามารถต่อยอดไปถึงการทำตลาดต่างประเทศได้อีกด้วย”

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือสอบถามรายละเอียดติดต่อได้ที่ คุณนัท-มนัสศักดิ์ จันประดับ ณ ฟาร์มปลาไหลนาวากิว ตั้งอยู่ที่ตำบลมะเกลือเก่า อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา หมายเลขโทรศัพท์ 093-441-8964
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก 21 พ.ค. 2025