เส้นทางเศรษฐีออนไลน์
นักท่องเที่ยวใช้จ่ายในไทยเฉลี่ย 47,000 บาทต่อคน ในขณะที่ญี่ปุ่น มีการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 58,000 บาท คาดการณ์ปี 68 หดตัว 2.8% เหตุเพราะราคาสินค้า-บริการไทย ปรับตัวสูงขึ้นกว่าหลายประเทศ ดูเหมือนว่าในปี 2568 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ แม้ว่าในช่วงต้นปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 12.9 ล้านคน ตั้งแต่ 1 มกราคม – 11 พฤษภาคม 2568 แต่ตัวเลขนี้กลับลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการหดตัวที่น่ากังวล ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินสถานการณ์โดยรวมว่า ปัจจัยลบหลายประการที่ยังคงอยู่และอาจทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของไทยที่ลดลง พฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้อย่างปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ล้วนส่งผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี 2568 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยอาจหดตัวถึง 2.8% หรือเหลือเพียง 34.5 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลง 3% จากปี 25
ท่ามกลางกระแสโลกที่ให้ความสำคัญกับความงามในหลากหลายมิติ ไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังรวมถึงพลังและความมั่นใจที่เปล่งประกายจากภายใน แนวคิดเรื่อง “ความงามจากภายใน” จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความงามยุคใหม่ อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงาม มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย โดยในปี 2567 ธุรกิจเครื่องสำอาง มีมูลค่าตลาดรวมถึง 2.81 แสนล้านบาท เนื่องจากกระแสความนิยมในการใส่ใจสุขภาพและความงาม และตลาดอีคอมเมิร์ซได้เข้ามา มีบทบาทในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทย ยังคงประสบกับปัญหาในการสร้างภาพลักษณ์ให้โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ไม่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเท่าที่ควร การพัฒนาผลิตภัณฑ์และควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อสำรวจและเจาะลึกถึงแนวทางการสร้างแบรนด์ไทยร่วมสมัยที่ผสานพลังแห่งความงามภายในได้อย่างลงตัว เวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “ประทิน-ตัวตน-ความกล้า : สร้างพลังความงามภายในสู่แบรนด์ไทยร่วมสมัย” ไ
โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหารที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล คำนึงถึงสถานการณ์ความปลอดภัยในอาหารและการบริโภคของคนไทย ตลอดจนผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่เป็นผู้สร้างสรรค์วัตถุดิบเป็นอาหารรสเลิศ เสิร์ฟจนถึงมือผู้บริโภค ดังเช่นกรณีพบการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในภาคอีสานของไทยที่ส่งผลกระทบการความมั่นใจในการบริโภคเนื้อวัว โก โฮลเซลล์ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้มั่นใจว่า เรามีมาตรการควบคุมคุณภาพ การคัดเลือกซัพพลายเออร์ เกษตรกร ผู้เลี้ยงโค โรงชำแหละ และกระบวนการเคลื่อนย้ายอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมกับซัพพลายเออร์หาแนวทางร่วมกัน ในการรับรองและยืนยันว่า ผลิตภัณฑ์จากเนื้อวัวที่ส่งจำหน่ายให้กับ โก โฮลเซลล์ ปลอดโรคแอนแทรกซ์ รวมถึงมีคุณภาพ และความปลอดภัยต่อผู้บริโภค นอกเหนือจากกระบวนการปกติ ซึ่งประกอบไปด้วย 1. สินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ต้องผ่านมาตรฐานการรับรองฟาร์มเพาะเลี้ยงจากกรมปศุสัตว์ 2. สถานที่ผลิตต้องผ่านการประเมินด้านสุขลักษณะอาหารจากกระทรวงสาธารณสุข 3. สินค้าต้องผ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เดินหน้าสร้าง Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทย หนุนผลักดัน Soft Power แฟชั่นไทย ผ่าน “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามไทย” ด้วยการพัฒนาทักษะในการสร้างภาพลักษณ์ ให้คำปรึกษาเชิงลึก ยกระดับภูมิปัญญาสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ตอบโจทย์ความต้องการตลาด พร้อมปั้น Hero Brand สู่แบรนด์ระดับสากล ที่ทันสมัย แตกต่าง และมีคุณค่า ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 62 ล้านบาท นางดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทั้งในด้านมูลค่าการส่งออก การจ้างงาน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับสาขาอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงาม ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย โดยในปี 2567 ธุรกิจเครื่องสำอาง มีมูลค่าตลาดรวมถึง 2.81 แสนล้านบาท เนื่องจากกระแสความนิยมในการใส่ใจสุขภาพและความงาม และตลาดอีคอมเมิร์ซได้เข้ามา มีบทบาทใ
บริษัท อินโนเวทีฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ โฮลดิ้ง จำกัด ยกขบวนเครื่องดื่มแบรนด์ดังระดับโลกบุกงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 บูธเลขที่ 1-MM15 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในวันที่ 27-31 พ.ค. นี้ บริษัท อินโนเวทีฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อีฟ (IF) และ อินโนโคโค่ (INNOCOCO) ด้วยเทคโนโลยี Cold Aseptic Technology ที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เข้าร่วมงานแสดงสินค้า THAIFEX – Anuga Asia 2025 เป็นปีที่ 8 เพื่อตอกย้ำภาพผู้นำตลาดเครื่องดื่มระดับโลก ภายในงานจะได้พบกับขบวนสินค้าในเครือ อาทิ อีฟ (IF) ที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์หลักน้ำมะพร้าว และ ผลิตภัณฑ์ใหม่ในธีม Thai Street Drink Series อย่างชาไทย และ นมชมพู รวมถึง Fruit Tea series ที่ได้รสชาติของชาและผลไม้แท้ๆ อินโนโคโค่ (INNOCOCO) อีกหนึ่งแบรนด์น้ำมะพร้าวที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพและสนใจการออกกำลังกาย รวมถึง Plant-based Snack ขนมทางเลือกเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค อีกทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่ที่จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ ขอเชิญร่วมสัมผัสเครื่องดื่มและขนมทางเลือกเพื่อสุขภาพจากแบรนด์ระดับโลก ณ ชาเลนเจอร์
ไม่มีใครวางแผนที่จะเป็นหนี้ และไม่มีใครที่อยากจะเริ่มต้นใหม่ตอนอายุเกือบ 50 แต่บางครั้งชีวิตก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้เรามีเวลาตั้งตัวเสมอไป สำหรับบางคน วันที่ไม่มีงาน ไม่มีเงิน และไม่มีใครให้พึ่งพิง คือวันที่พวกเขาต้องเลือกว่าจะ “ยอมแพ้” หรือ “ลุกขึ้น” แต่สำหรับเจ้าของเรื่องราวครั้งนี้ เขาเลือกที่จะลุกขึ้น แม้ไม่มีอะไรอยู่ในมือเลยก็ตาม นอกจากความตั้งใจและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ คุณฮาท-พงษ์ศักดิ์ คันธโชติ คนขับ GrabFood วัย 50 ปี จากโคราช ปัจจุบันอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ คือหัวหน้าครอบครัวที่เคยต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่หนักหนาในชีวิต โดยก่อนหน้านี้ เคยทำงานต่างประเทศ ทั้งลาวและเกาหลีใต้ มีรายได้ประมาณ 45,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเพียงพอสำหรับการเลี้ยงดูครอบครัวได้ไม่ลำบาก แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ในปี 2563 รายได้ที่เคยมีกลับหยุดชะงัก ในช่วงเวลาที่ต้องการใช้เงินมากที่สุดในชีวิต กับการส่งลูกสาวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงไม่ใช่น้อย “ตอนนั้นเครียดมาก รายได้หายไปหมด ไม่มีเงินเข้ามาเลย ในขณะที่รายจ่ายยังรออยู่เต็มไปหมด ตอนนั้นคิดแค่ว่า จะทำอะไรก็ได้ให้มีรายได้เข้ามาก่อน” ด้วยเหตุนี้ เ
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน และตัวแทนผู้ประกอบการบนถนนบรรทัดทอง ตามคำเชิญของสมาคมผู้ประกอบการถนนบรรทัดทอง ว่า ที่มาวันนี้ เพราะได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา จึงอยากมาเห็นว่าปัญหาอยู่ตรงไหน สามารถจะแก้ไขและพัฒนาให้ยั่งยืนได้หรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่า บางประเด็น หลายฝ่ายไม่ได้ประสานงานกัน จึงคิดว่าสิ่งที่พยายามเข้ามาจัดการนี้จะทำให้หลายอย่างดีขึ้น เพราะพวกเราเสียโอกาสกันไปเยอะแล้ว “สตรีตฟู้ดเมืองไทย เป็นที่ขึ้นชื่อในหมู่ชาวต่างชาติ และยังช่วยส่งเสริการการท่องเที่ยวได้ดีมาก แถมมีเสน่ห์อย่างแรง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าของค้าขายในย่านใจกลางเมือง มักมีราคาแพงเหมือนกันหมด แต่ถ้ายังมีถนนสายอาหารที่ราคาจับต้องได้ บรรทัดทอง จะกลายเป็นเสน่ห์กลางเมืองตอบโจทย์การท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี” นายพิเชษฐ์ กล่าว และว่า ถ้าสามารถร่วมแรงร่วมใจกัน สร้างความเข้าใจกันระหว่างเจ้าของพื้นที่ เขต และฝ่า
ถนนบรรทัดทอง เมื่อสมัยก่อนย้อนไปหลายสิบปี เดิมเป็นย่านเชียงกง หรือแหล่งขายอะไหล่รถเก่า เสื้อผ้า-เครื่องกีฬา ส่วนร้านอาหารนั้น มีแทรกอยู่บ้างแต่ไม่โดดเด่นอะไร กระทั่งปี 2563 หลังสถานการณ์โควิด-19 ได้ถูกพัฒนาเป็นย่านสตรีตฟู้ดยามค่ำคืนสุดคึกคัก เป็นแหล่งรวมร้านอาหารสารพัดความอร่อย บรรดานักท่องเที่ยวทั้งไทย-เทศ โดยเฉพาะโซนเอเชียให้ความนิยมกันมาก กระทั่งหลายคนให้ฉายา เป็น ‘เยาวราช 2’ กันไปเลย แต่แล้วในราวต้นปี 2568 หมุดหมายหนึ่งของนักชิมจำนวนมหาศาล กลับเกิดข่าวว่าร้านค้าขนาดเล็กจำนวนไม่น้อย ที่เคยมาเซ้งพื้นที่จากผู้ประกอบการเก่าแก่เปิดเป็นร้านอาหาร ต่างพากันประกาศปิดตัวบ้าง ย้ายร้านออกจากพื้นที่บ้าง จนเกิดข้อสงสัยอย่างกว้างขวาง “เกิดอะไรขึ้น” กับหนึ่งในย่านการค้าสำคัญของเมืองหลวงแห่งนี้ … “บรรทัดทอง ตั้งต้นจากการไม่พึ่งพิงนักท่องเที่ยวยุโรป แต่ดังในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนและเอเชีย ช่วงพีกมีนักท่องเที่ยววันหนึ่งนับหมื่น ซึ่งประเมินว่า นักท่องเที่ยว 1 คนน่าจะมีการจับจ่ายราว 250-500 บาท” คุณนพ-สิทธิฉันท์ วุฒิพรกุล เจน 2 เจ้าของกิจการ “รสดีเด็ด” ร้านดังแห่งตำนานสยามสแควร์ ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมผู้ป
ช่วงนี้ข่าวการปิดกิจการของร้านอาหารมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็ก ร้านใหญ่ หรือแม้แต่ร้านที่มีชื่อเสียง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงในธุรกิจร้านอาหารของประเทศไทย ว่าจะเสี่ยงเกิดฟองสบู่ร้านอาหารแตกหรือไม่ ด้านคุณสรเทพ สตีฟ ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมโฮสเทล (ประเทศไทย) ได้ออกมาสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้พร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะหากไม่ได้รับการจัดการอย่างทันท่วงที อาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม โดยรายละเอียดที่ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารได้สรุปมาดังนี้ ทำไมถึงสาหัสกว่ามาดูกัน – ช่วงโควิด รัฐบาลตอนนั้นออกมาตรการต่างๆ มาช่วยพยุง ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ประกันสังคม มาตรการภาษีที่ให้คนเก็บใบกำกับภาษีจากร้านอาหารไปลดหย่อนภาษีได้ – การอัดเงินเข้าระบบแบบตรงจุดตรงเป้า ด้วยโครงการคนละครึ่ง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนทั่วไปแถมรักษากำลังซื้อไว้ได้ประมาณหนึ่ง – มาตรการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ออกมาอย่างทันเวลาสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวภา
ไม่เพียงแต่กระแแส “White Lotus” ที่ทำให้กระแสท่องเที่ยวของเมืองไทยบูม ทำโซเชียลทั่วโลกกล่าวถึง “ไทย” มากกว่า 775 ล้านครั้ง ขณะที่ททท. มีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Ease of Traveling มาตรการวีซ่าฟรี และประกาศให้ปี 2568 เป็น “ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา” เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นตัวเร่งสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งใน Key Element ที่ช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยที่สำคัญช่วง 1-2 ปีมานี้ คือกลุ่มครีเอเตอร์ที่หลากหลาย ทั้งครีเอเตอร์ไทย-เทศ หรือครีเอเตอร์สองภาษาที่อาศัยในประเทศไทย หรือธุรกิจท้องถิ่นที่ถ่ายทอดวัฒนธรรม อาหารและวิถีชีวิตในมุมใหม่ๆ ที่คนไทยอาจไม่เคยเห็นสู่สายตาชาวโลกบนแพลตฟอร์ม TikTok อะไรที่ทำให้ครีเอเตอร์ต่างชาติและครีเอเตอร์สองภาษาเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ความนิยมของครีเอเตอร์ต่างชาติและครีเอเตอร์สองภาษาบน TikTok เกิดจากการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างมุมมองที่แปลกใหม่และความเข้าใจในวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง การนำเสนอประเทศไทยผ่านเลนส์ที่คุ้นเคยและแปลกตา การทำให้คอนเทนต์มีความน่าเชื่อถ