เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
ข่าววันนี้

แห่ค้านรัฐ ขึ้นค่ารถเมล์ ทีเดียว 1-7 บาท !! ศรีสุวรรณลั่น ฟ้องศาลปกครอง!

แห่ค้านรัฐ ขึ้นค่ารถเมล์ ทีเดียว 1-7 บาท !! ศรีสุวรรณ ลั่น สร้างภาระให้ประชาชน เตรียมฟ้องศาลปกครอง!

เมื่อวันที่ 18 เม.ย.นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2561 อนุมัติให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร รถโดยสารประจำทางสาธารณะ ทั้งรถใหม่ รถเก่า ในหลายหมวด ในอัตราตั้งแต่ 1 – 7 บาท โดยจะมีผลในวันที่ 22 เม.ย.นี้

ซึ่งสมาคมฯได้ขอให้นายกรัฐมนตรีและกระทรวงคมนาคม สั่งการให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ทบทวนมติดังกล่าว เพื่อเป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่ไทย แต่ผู้มีอำนาจยังไม่ตอบรับในเรื่องนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุว่าในที่ประชุมของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางจะปรับโครงสร้างราคาใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดยอาจจะกำหนดค่าโดยสารใหม่ที่แพงขึ้นกว่าเดิม

สำหรับรถเมล์ใหม่ที่ได้มาตรฐานกรมการขนส่งทางบก ไม่ว่าจะเป็นรถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หรือผู้ประกอบการรถเอกชนร่วมบริการ (รถร่วม) แต่หากเป็นรถเมล์เก่า ก็จะให้คิดค่าโดยสารเท่าเดิม หรือรัฐบาลอาจใช้รูปแบบการอุดหนุนค่าโดยสารแบบในต่างประเทศ แต่เมื่อถึงเวลานี้กลับมีมติให้ขึ้นค่าโดยสารทั้งรถโดยสารเก่าและใหม่ไปพร้อมๆ กันโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สมาคมฯ ร่วมกับชาวกทม.และปริมณฑล ที่หาเช้ากินค่ำจะร่วมกันยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ ในวันศุกร์ที่ 19 เม.ย.เวลา 10.00 น. เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้เพิกถอนหรือระงับการขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ทั้งระบบ

เนื่องจากเป็นการสร้างภาระให้เกิดขึ้นกับประชาชนมากเกินไป ตามมาตรา 9(1) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ 2542 และคำขอให้ศาลไต่สวนเพื่อคุ้มครองชั่วคราวเป็นการฉุกเฉิน เนื่องจากวันจันทร์ที่ 22 เม.ย.นี้ รถโดยสารทั้งระบบจะขึ้นราคากันหมดแล้ว

Related Posts

ทัพ 'แบรนด์ไทย' บุกยูนนาน นำเสนอของกินของใช้ คว้าใจผู้บริโภคชาวจีน
ไปรษณีย์ไทย ผนึกกำลัง กรมการค้าภายใน หนุนเกษตรกรไทยกระจายผลไม้คุณภาพแจกกล่อง-จัดส่ง EMS ส่งด่วนผลไม้ฟรี ถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ
โอกาสของผู้ประกอบการไทย “ชาไทย” กลับมาฮิตในจีนอีกครั้ง