เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
ข่าววันนี้

กลุ่มยางพารา วอน ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่านค้านช่วยเหลือเกษตรกรจริงจัง

กลุ่มยางพาราวอนทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่านค้านหยุดเล่นเกมการเมือง หันช่วยเหลือเกษตรกรจริงจัง

เกษตรกรกลุ่มยางพารา ไม่เห็นด้วยกับมาตรการประกันราคายาง แถมสูตรคำนวณต้นทุนสวนทางกับความเป็นจริง วอนขอให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ หยุดปั่นกระแส 3 สาร หนุนนายทุน สร้างภาระและความยากจนให้เกษตรกร

นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากการประชุมโครงการประกันราคาเกษตรกรชาวสวนยาง ประสบปัญหาล้มเหลว เนื่องจากสูตรคำนวณต้นทุนการผลิตเกษตรกรสวนยางของปีนี้ แจ้งว่า ต้นทุนการผลิตต่อกิโลกรัมอยู่ที่ 55 บาท ซึ่งขัดแย้งกับความเป็นจริง ต้นทุนการผลิตต่อกิโลกรัมอยู่ที่ 65.65 บาท ซึ่งเป็นการประเมินเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2557) ดังนั้น ต้นทุนการผลิตไม่มีทางลดลงเหลือ 55 บาทอย่างแน่นอน ด้วยการเพิ่มขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจากนโยบาย ภาวะเงินเฟ้อ ราคาปัจจัยการผลิตต่างๆ ดังนั้น มาตรการประกันราคายางที่ราคา 60 บาทต่อกิโลกรัม จึงไม่สะท้อนราคาที่แท้จริง

ขณะเดียวกัน คลางแคลงใจกับนโยบายพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ทุกพรรคต่างประกาศสงครามกับความจน ยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ให้ประชาชนและเกษตรกรส่วนใหญ่ของประเทศ แต่กลับเอื้อกลุ่มนายทุน โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม การปั่นกระแสข่าวการแบน 3 สารเคมีกำจัดศัตรูพืช พาราควอต ไกลโฟเซต คลอร์ไพรีฟอส เพื่อเปิดทางให้สารเคมีของนายทุนพรรคการเมือง กลูโฟซิเนต ที่ราคาแพงและมีอันตรายเหมือนกัน เป็นที่น่าสังเกตอย่างยิ่ง หากภาครัฐต้องการเลิกใช้สารเคมีจริงๆ ทำไมจึงห้ามใช้สารเคมีตัวหนึ่ง และแนะนำสารเคมีอีกตัวหนึ่งให้เกษตรกรแทน แบบนี้ควรแบนสารเคมีให้หมดทุกตัว จะได้ไม่มีวาทกรรมแผ่นดินอาบสารพิษ จากกลุ่มต่อต้านการใช้สารเคมี ที่มากดดันเกษตรกร

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศแบน 3 สารเคมี ส่งผลให้เกิดการลักลอบนำเข้าปุ๋ย-สารเคมีกำจัดศัตรูพืชผิดกฎหมายและไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศมาตามชายแดนไทย-ลาว พม่า กัมพูชา โดยภาครัฐไม่สามารถควบคุมได้

“แนวทางการจัดการที่เหมาะสมที่สุด คือ การวางแผนและจัดการเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ใช่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ โดยไม่มีการวางแผนหรือไตร่ตรองไว้อย่างรอบคอบถึงผลกระทบในทุกมิติ รวมทั้ง ประเด็น 3 สารเคมีที่ชอบบอกว่า มีพิษสูง ทำให้อวัยวะภายใน ตับ ไต ล้มเหลว นั่นก็เพราะมีคนเอาไปกินใช่หรือไม่ แบบนี้เอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ใช่หรือไม่ เพราะสารเคมีเกษตร พาราควอตมีไว้กำจัดหญ้า ถ้าจะมีปัญหาสุขภาพนั่นก็ต้องไปดูว่ามีการใช้อย่างไร ถูกต้องไหม อย่าเหมารวม เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่มีประสบการณ์ใช้มายาวนาน ไม่ได้มีปัญหาอย่างที่เป็นข่าว และหากแนะนำสารเคมีตัวใหม่ และเกิดมีข้อกล่าวหาด้านสุขภาพอีก รมว. รมช. เกษตรฯ และคุณหมอ จะมารับผิดชอบต่อผลเสียหายที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรไหม” นายอุทัย กล่าวสรุป

Related Posts

'อัยยะ ปักษ์ใต้ 2 FLY 2 SOUTH NOW FESTIVAL II' ชวนชาวกรุงสัมผัสเสน่ห์แดนใต้ใจกลางเมือง
ทรานฟอร์มธุรกิจร้านโชห่วยแบบเดิมสู่ “SMART โชห่วย” เปลี่ยนอย่างไรเพื่อรอดในโลกยุคดิจิทัล
บอกลาปัญหาแบตฯ เสื่อม ยืดอายุการใช้งานให้รถคู่ใจ ด้วย CTEK
ไทยเทพรส จัดโครงการ "ครัวทำเงิน กับซอสคู่ใจ By ไทยเทพรส" ปั้นเมนูสตรีตฟู้ด สร้างรายได้สู่สังคม
MK Restaurants ฉลองยอดขายโตต่อเนื่อง 42% ขยายโปรบุฟเฟต์