JobsDB เปิดอินไซต์การจ้างงาน ปี 67 บริษัทรักษาพนักงาน โดยเพิ่มเงินเดือน และปรับสวัสดิการใหม่
JobsDB by SEEK เปิดผลรายงานการจ้างงาน ค่าตอบแทน และสวัสดิการประจำปี 2567 ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลจาก 685 บริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรมและตำแหน่งงานในประเทศไทย จากการสำรวจและพบว่าแนวโน้มการจ้างงานในปี 2567 ยังคงอยู่ในเทรนด์ชีวิตแบบวิถีใหม่ หรือนิวนอร์มอล ที่เน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน รวมถึงการทำงานระยะไกล โดยร้อยละ 54 ของผู้ประกอบการมั่นใจว่าในครึ่งปีแรกตลาดงานจะมีความคึกคัก อันเนื่องมาจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจ และการหางานเชิงรุกของผู้สมัครงาน
ปี 67 องค์กรร้อยละ 51 จ้างงานเพิ่ม
ในปี 2567 ผลการสำรวจพบว่า บริษัททุกขนาดร้อยละ 51 มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนพนักงาน โดยพนักงานตามสัญญาจ้างและพนักงานชั่วคราวยังคงมีความสำคัญ และเป็นที่ต้องการควบคู่ไปกับพนักงานประจำ แต่ละองค์กรคำนึงถึงเป้าหมายทางธุรกิจเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการขยายธุรกิจ การจัดการจำนวนพนักงานอย่างเหมาะสม รวมถึงการลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับพนักงาน
ส่วนบริษัทขนาดเล็กร้อยละ 54 ตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนพนักงาน เนื่องจากมีความมั่นใจในโอกาสการเติบโตและตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดกลาง ร้อยละ 59 แม้จะไม่มีแนวโน้มเพิ่มพนักงาน แต่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาพนักงาน เพื่อดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยไม่ลดขนาดหรือหยุดชะงัก
อิทธิพลส่งผลพนักงานอยู่ต่อ
ค่าจ้างเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพนักงาน ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อส่งผลต่อกลยุทธ์การจ่ายค่าตอบแทนและสวัสดิการพนักงาน แต่ผู้ประกอบการร้อยละ 56 ก็ใช้ตัวชี้วัดด้านเงินเดือนในการรักษาพนักงานไว้
ตามมาด้วยการเพิ่มหรือปรับสวัสดิการใหม่ที่ร้อยละ 52 รวมถึงการประเมินแนวทางหรือนโยบายการจ่ายเงิน การเปรียบเทียบสวัสดิการ การพัฒนาหรือปรับปรุงโครงสร้างการจ่ายเงินเดือน การใช้อัตราเงินเฟ้อในการคำนวณปรับเงินเดือน
ซี่งจากการสำรวจพบจุดที่น่าสนใจว่า ร้อยละ 24 ของผู้ประกอบการคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อในการคำนวณส่วนเพิ่ม และผู้ประกอบการเกือบทุกรายอ้างว่าอัตราที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นสอดคล้องหรือสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ
พนักงานได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น
จากการฟื้นตัวต่อเนื่องหลังสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทส่วนใหญ่ขึ้นเงินเดือนให้พนักงานเฉลี่ยที่ร้อยละ 6.69 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอัตราเงินเฟ้อของประเทศในปี 2565 ทำให้พนักงานได้เงินเดือนครอบคลุมในส่วนที่ต้องเสียไปและยังได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
ส่วนการประเมินโบนัสตามผลการปฏิบัติงานในปี 2566 มีค่าเฉลี่ยการจ่ายโบนัสอยู่ที่ 1.5 เดือน โดยร้อยละ 72 ของบริษัทมีการอธิบายวิธีการคำนวณการจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้ประกอบการและพนักงานในการเปิดเผยอย่างโปร่งใส ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจและอนาคตที่ดีกำลังเกิดขึ้นในตลาดแรงงานของไทย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ