“จิตร์นิยม” สวนผลไม้ชื่อดังของจังหวัดปราจีนบุรี ที่ได้เป็นสวนออร์แกนิกดีเด่นระดับประเทศจากกรมวิชาการเกษตร ประจำปี 2556 มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยรุ่นอาเหล่ากงบุกเบิกทำเป็นสวนเกษตรอินทรีย์เป็นที่แรกของอำเภอศรีมหาโพธิ จนเริ่มเป็นที่รู้จักในยุคคุณสมพร อุดมสิน ในชื่อสวนจิตร์นิยม และได้รับการเฝ้าดูจนมาถึงรุ่นคุณเกรียงศักดิ์ อุดมสิน เจ้าของสวนคนปัจจุบัน ผู้ทำการตลาดส่งออกผลไม้และติดต่อขายกับ 24 Shopping ในรูปแบบ E-Commerce และห้างสรรพสินค้า Central จนมาถึงรุ่นที่ 4 ซึ่งได้มีการวางแผนลงทุนและต่อยอดต่อไป
ปัจจุบันที่สวนก็ยังยืนหยัดที่จะทำเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงมีการขยับขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมพื้นที่ 20 ไร่ จนถึงปัจจุบันขยายพื้นที่ไปถึง 500 ไร่ นับได้ว่าเป็นอีกสวนเกษตรผสมผสานแบบอินทรีย์ที่มากคุณค่า มากเรื่องราว และน่าค้นหาเป็นอย่างมาก
คุณบุณยกร อุดมสิน หรือ คุณเนียร์ อยู่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรง ในวัย 23 ปี ที่กำลังจะกลับมาสานต่อกิจการทำสวนของที่บ้าน อยู่ในช่วงระหว่างการเปลี่ยนรุ่นการดูแล โดยได้มีการวางแผนเตรียมการนำเทคโนโลยีเข้ามาควบคุมการรดน้ำ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยนับวันเกี่ยวผลผลิตทุเรียนเพื่อให้เกิดความแม่นยำสูง รวมถึงเทคนิคการดูแลบำรุงต่างๆ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“กบชายน้ำ”
สุดยอดทุเรียนโบราณ
อยากกินต้องจองข้ามปี
คุณเนียร์เล่าถึงประวัติความเป็นมาของทุเรียนกบชายน้ำของที่สวนให้ฟังว่า ทุเรียนกบชายน้ำ ที่สวนเริ่มปลูกมาตั้งแต่สมัยอาเหล่ากง ในสมัยนั้นจะมีการหาพันธุ์พืชมาปลูก อย่างเช่น ทุเรียนที่มีจุดเด่นในสมัยนั้นคือ “ทุเรียนเมืองนนท์” จะใช้วิธีขนส่งพันธุ์ขึ้นเรือเมล์แดง มาจากนนทบุรีแล้วร่องผ่านแม่น้ำบางปะกงมาลงที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีการตอนกิ่ง ทาบกิ่ง เหมือนในสมัยปัจจุบัน เพื่อรักษาพันธุ์ไว้ให้คงเดิม เพราะฉะนั้นสมัยนั้นจะใช้วิธีการเพาะเมล็ดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการเพาะเมล็ดนั้นค่อนข้างจะมีโอกาสกลายพันธุ์ค่อนข้างสูง แต่ที่สวนโชคดีที่การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นกลับได้พันธุ์ที่ดียิ่งขึ้น ถือว่าเป็นโชคของเรา
ส่วนที่มาของชื่อทุเรียนกบชายน้ำนั้น มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมที่จังหวัดนนทบุรี โดยต้นแม่จะขึ้นอยู่ตามริมสระน้ำ จึงถูกเรียกว่า “ทุเรียนกบชายน้ำ” และมีความทนต่อโรคไส้ซึม น้ำหนักเฉลี่ยต่อผล 1.5-2 กิโลกรัม ลักษณะทรงผลกลมรี พูเต็มเสมอกัน มีตั้งแต่ 5-6 พูขึ้นไป เนื้อมีความเนียนนุ่ม ไม่มีเส้นใย รสชาติหวานมัน มีกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ป่าเป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนพันธุ์กบ ถึงแม้ว่าผลจะสุกแล้วกลิ่นก็ไม่ฉุน สามารถวางไว้ในห้องแอร์ได้ และอีกจุดเด่นของทุเรียนกบชายน้ำคือ สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานโดยที่ไม่เสีย ปล่อยไว้จนก้นปริ แล้วกลับมากินเนื้อก็จะไม่เละ ไม่เป็นปลาร้า ถือเป็นทุเรียนอีกหนึ่งพันธุ์ที่ทรงคุณค่ามากๆ แต่ละต้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 40-50 ปีขึ้นไป

“กบชายน้ำ” ทุเรียนระดับตำนาน
ราคาลูกละแสน! หวานนุ่ม ละมุนลิ้น
เชื่อว่าหลายท่านคงสงสัยว่า ทุเรียนอะไรราคาลูกละเป็นแสน เจ้าของได้อธิบายว่า เนื่องจากทุเรียนกบชายน้ำที่มีการซื้อขายในราคาลูกละเป็นแสนนั้น เรียกว่าทุเรียนนางพญา จะออกมาเป็นลูกแรกของต้น และมีขนาดผลที่ใหญ่ที่สุดในปีนั้นๆ จากไซซ์ปกติอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 กิโลกรัม น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3-4 กิโลกรัม อันนี้คือจุดเด่นเลย ซึ่งในแต่ละต้นจะมีแค่เพียงลูกเดียวเท่านั้น ทำให้เป็นที่สุดของที่สุด ราคาจึงแพง ซึ่งราคาลูกละแสนนี้ไม่ได้เกิดมาจากการประมูล แต่เป็นราคาที่ลูกค้าเสนอมาให้เอง เริ่มต้นเมื่อประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว มีกลุ่มลูกค้าเป็นนักธุรกิจต้องจองกันข้ามปี อย่างเช่นเมื่อหลายปีก่อนมีลูกค้าซื้อไปถวาย สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) และในสมัยตอนที่อากงยังมีชีวิตอยู่ ก็จะมีทีมงานของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำไปถวายท่านทุกๆ ปี สวนจิตร์นิยมเริ่มสะสมชื่อเสียงตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน
ส่วนวิธีการดูแลนั้น หลายท่านคงคิดว่าต้องมีการประคบประหงมเหมือนลูกน้อย แต่ในทางกลับกันนั้น ทุเรียนนางพญาลูกแรกของต้นแทบไม่ต้องดูแลอะไรเลย เนื่องจากมีความเชื่อที่ต่อกันมาว่า มีรุกขเทวดาช่วยดูแล ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะจากการสังเกตมานั้น ทุเรียนนางพญานี้จะเป็นอะไรที่ไม่ต้องดูแล ไม่ต้องห่อผลเหมือนลูกอื่นๆ มดและแมลงไม่มารบกวน นับเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง และนอกเหนือจากทุเรียนลูกละแสนแล้ว ยังมีทุเรียนกบชายน้ำจำหน่ายในราคาเริ่มต้น ตั้งแต่ลูกละ 11,000-100,000 บาท อีกด้วย โดยกระแสความนิยมยังมีเหมือนเดิมไม่มีตก ลูกค้ายังให้ความสนใจสั่งจองล่วงหน้ากันแบบข้ามปี และทำการตลาดโดยเน้นการโปรโมตในช่องทางออนไลน์ทั้งเพจเฟซบุ๊ก : สวนจิตร์นิยม และการจำหน่ายผ่าน 24 Shopping ในรูปแบบ E-Commerce

ฝากถึงคนรุ่นใหม่
ทำเกษตรอย่างไรให้ยั่งยืน
“การทำเกษตรที่ยั่งยืนเป็นอะไรที่ทำได้ค่อนข้างยากเพราะจำเป็นต้องดูแลทั้งเรื่องสุขภาพต้นไม้และสุขภาพของตัวเอง โดยเฉพาะถ้าหากเป็นเรื่องของการใช้สารเคมีควรศึกษาการใช้อย่างเคร่งครัด เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว อีกทั้งยังต้องมีการเตรียมการในการลงทุนที่ค่อนข้างเยอะ ในขณะที่ราคาผลผลิตบางชนิดอาจจะไม่ได้สูงมากพอเท่าทุนที่เราลงทุนไป โดยอาจจะทำได้ทั้งตลาดที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่มและกลุ่มลูกค้าทั่วไปควบคู่กัน และความพิเศษของการทำเกษตรในทุกๆ ประเภทคือการเป็นนายของตัวเอง” คุณบุณยกรกล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสนใจติดต่อเข้าเยี่ยมชมสวนจิตร์นิยม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 080-837-1931