จังหวัดนครศรีธรรมราช
วันที่ 8 กันยายน 2565 ที่ศาลาประชาคม อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เป็นประธาน แถลงข่าวการศึกษาโครงการ “จัดตั้งพื้นที่บริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ” หรือ SECri หรือ Southern Economic Corridor of Rubber Innovation: SECri ตั้งอยู่ในขอบเขตการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC เพื่อสร้างโอกาสการพัฒนาพื้นที่ศักยภาพ รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา ไปพร้อมกับการสร้างประโยชน์แก่ชาวเกษตรสวนยาง คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบนและตอนกลาง นายณกรณ์ กล่าวว่า การยางแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการศึกษาพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขนาดพื้นที่ 38,520 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ในการกำกับดูแลของ กยท. ภายใต้โครงการ “จัดตั้งพื้นที่บริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ” หรือ SECri หรือ Southern Economic Corridor of Rubber Innovation: SECri ตั้งอยู่ในขอบเขตการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราในภาคใต้ตอนบนและตอนกลางได้ โดยแบ่งเป็น พื้นที่ 3,500 ไร่ ณ อำเภอช้างกลาง ศึกษาโอกาสการพัฒนาพื้นที่รองรับการทำธุรกิจ อุตสาหกรรมยางพ
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 ที่ห้องประชุม อาคารข่าวสด นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) นายวิชัย ไตรสุรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและนายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการสายการผลิต บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงความพร้อมจัด “งานมหกรรมยางพารา 2564 ภายใต้แนวคิด “นครฯ แห่งนวัตกรรมยางพารา” ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2565 ณ สนามการยางแห่งประเทศไทย เขตภาคใต้ตอนกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราชนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า การจัดงาน “มหกรรมยางพารา 2564 : นครฯ แห่งนวัตกรรม” กยท.มีวัตถุประสงค์สำคัญคือ มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีการแปรรูปยางพารา เพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณภาพ มาตรฐาน การวิจัย และแนวคิดการต่อยอดพัฒนานวัตกรรมให้เกิดความหลากหลายในการใช้ยางพาราในภาคอุตสาหกรรมไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบกิจการยางพารามีช่องทางการจำหน่าย และแสวงหาพันธมิตรคู่ค้าใหม่ในต
ผู้ตรวจราชการ ส.ป.ก. เขต 5, 6, 7 ร่วมประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามแผนการตรวจราชการและการขับเคลื่อนแบบบูรณาการในระดับพื้นที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีงบประมาณ 2565 รอบที่ 1 จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 นายอรุณชัย พุทธเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 5 เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามแผนการตรวจราชการและการขับเคลื่อนแบบบูรณาการในระดับพื้นที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 รอบที่ 1 จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี นางสาวธัญพร แพมงคล ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม เขตตรวจราชการที่ 5 ในฐานะผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นางเทพอารีย์ บุตรแขก นิติกรชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย รักษาราชการแทนปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมประชุมผ่านระบบออนไลน์ทางไกล Application Zoom Meeting การประชุมครั้งนี้ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามแผนการตรวจราชการและการขับเคลื่อนแบบบูรณาการในระดับพื้นที่ของผู้ตรวจราชก
คณะทำงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจตำบลแบบบูรณาการ (U2T) มหาวิทยาลัยสู่ตำบลสร้างรากแก้วให้ประเทศ ตำบลขนอม อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช (U2T ตำบลขนอม) ภายใต้การดูแลของ วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช พื้นที่ขนอม โดย อาจารย์วาจิศา จันทรักษ์ (หัวหน้าโครงการ) อาจารย์น้ำฝน จันทร์นวล อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ พร้อมด้วยคณะทำงาน จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการเกษตรแบบยั่งยืน เพื่อชีวิตพอเพียง ประดิษฐ์กระถางแก้มลิง ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมี คุณจันทิมา เชยกาญจน์ คุณครูประจำศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อำเภอท่าศาลา (กศน.อำเภอท่าศาลา) เป็นวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ประดิษฐ์กระถางแก้มลิง คุณจันทิมา กล่าวว่า ความโดดเด่นของ “กระถางแก้มลิง” สามารถปลูกพืชได้ในพื้นที่จำกัดดูแลง่าย รดน้ำครั้งเดียวก็ทำให้ต้นไม้อยู่ได้เกือบเดือนโดยไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการประดิษฐ์ก็สามารถหาได้ง่าย ประกอบด้วย ถังน้ำ ขนาด 14 ลิตร, กระถาง ขนาด 4 นิ้ว, ท่อ PVC ยา
วิสาหกิจชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชิงเกษตร หมู่ที่ 4 ตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย พื้นที่ขนอม จัดกิจกรรมการสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน ตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายใต้โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) ตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการขับเคลื่อนกิจกรรม โดยมี อาจารย์ทวีศักดิ์ ศรีภูงา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ กล่าวต้อนรับประธาน แขกผู้มีเกียรติ ผู้เข้าร่วมงาน และได้รับเกียรติจาก คุณสุนทร โพชสาลี ปลัดอำเภอขนอม เป็นประธานในการกล่าวเปิดโครงการ อาจารย์จุฑามาศ พรหมมา อาจารย์ผู้รับผิดชอบโครงการ ในนามตัวแทนคณะทำงาน U2T ตำบลควนทอง กล่าวว่า โครงการ U2T วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย พื้นที่ขนอม การสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน ตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศ
เมื่อวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ผศ. อภิญญา วณิชพันธุ์ คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร มทร.ศรีวิชัย ได้รับเชิญจากสำนักงานเกษตรอำเภอทุ่งสง เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “การพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐาน Primary GMP ในโครงการยกระดับศักยภาพเกษตรกรรุ่นใหม่และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนในการผลิตสินค้าชุมชน : กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชน กิจกรรมย่อย : ส่งเสริมและพัฒนากิจการวิสาหกิจชุมชน” โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มี คุณนิกร ชิดเชื้อ เกษตรอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนได้มีการพัฒนาศักยภาพในการดำเนินกิจการสามารถสร้างรายได้จากการประกอบกิจการเพิ่มขึ้นให้กับเกษตรกรผู้ผลิตน้ำผึ้งชันโรง และเครื่องแกงชาววัง จำนวน 20 คน จัดขึ้น ณ ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผึ้งร่มไทร ตำบลควนกรด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช จากการเข้าร่วมกิจกรรม ทางประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งโพรงธรรมชาติบ้านไทรห้อง คุณสมใจ รัตนบุรี และประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเครื่องชาววัง คุณจีระยุทธ ไข่นุ่น กล่าวว่า ทางกลุ่มได้รับความรู้ในเรื่องการเตรียมความพร
วิสาหกิจชุมชนนวัตกรรมสมุนไพรและเทคโนโลยีการเกษตร ตำบลเขาขาว อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นวิสาหกิจชุมชนที่ทำการเพาะปลูกขมิ้นด้วงเพื่อนำมาผลิตเป็นอาหารเสริมเพื่อการจำหน่าย แต่การปลูกขมิ้นด้วงในแปลงเพาะปลูกทั่วไปจะมีศัตรูพืชทำลายคุณภาพของขมิ้น อีกทั้งการปลูกในแปลงเพาะปลูกสามารถปลูกได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น เพื่อเป็นการพักดินสำหรับการเพาะปลูกในครั้งถัดไป ทำให้ในรอบปีในพื้นที่แปลงเดิมไม่สามารถเพาะปลูกขมิ้นได้อย่างต่อเนื่อง นางสาวพัชรี คงแก้ว นางสาวสุภาวดี มูณีย์ และ นางสาว อนุสรา มาสุข นักศึกษาหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มทร.ศรีวิชัย พร้อมด้วย อาจารย์สราญพงศ์ หนูยิ้มซ้าย อาจารย์ที่ปรึกษาร่วมกับคณาจารย์ในหลักสูตร ได้มีแนวคิดในการพัฒนาระบบโรงเรือนเพาะปลูกขมิ้นที่ควบคุมสภาวะแวดล้อมภายในโรงเรือนแบบอัตโนมัติโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ การทำงานของระบบสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ให้ทำงานโดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ ได้แก่ ทำงานอัตโนมัติตามค่าอุณหภูมิ ค่าความชื้นอากาศ และค่าความชื้นในดิน ระบบทำงานอัตโนมัติตามเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้ ในส่วนของการควบคุมและการตั้งค
ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากสมุนไพรกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่มีความปลอดภัยและมาจากธรรมชาติ ทำให้ขณะนี้มีชุมชนหรือผู้ประกอบการจำนวนมากหันมาแปรรูปผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสมุนไพร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากขมิ้น ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรตำบลถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกลุ่มเพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องสำอางจากขมิ้นผง พบปัญหาในขั้นตอนการล้างขมิ้นที่มีจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้เวลาในการล้างมากส่งผลให้การผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จากปัญหาดังกล่าว นายอมเรศร์ ชูพงศ์ นายวิชา บรรดาศักดิ์ และ นายนันทวัฒน์ แป้นเหลือ นักศึกษาหลักสูตรเทคโนโลยีอุตสาหการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ศรีวิชัย โดยมี อาจารย์ศุภเวทย์ สงคง และ ผศ. พงษพันธ์ ราชภักดี เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา มีแนวคิดในพัฒนาเครื่องล้างขัดผิวขมิ้นสำหรับการผลิตระดับชุมชน ล้างขมิ้นได้ครั้งละ 10 กิโลกรัม สามารถล้างขมิ้นได้เฉลี่ย 300 กิโลกรัม ต่อชั่วโมง มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ย 2.44 บาท ต่อชั่วโมง ซึ่งปัจจ
ภาคใต้ จัดเป็นพื้นที่จำพวกแถบร้อนฝนชุกตกมากตลอดปี จนได้ฉายาว่าเป็นภาค “ฝนแปดแดดสี่” นั่นคือ มีฝนตกถึงแปดเดือน และมีแดดเพียงสี่เดือน แต่ใครจะคาดคิดว่าชุมชนบ้านถ้ำใหญ่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช กลับต้องประสบกับปัญหา “ภัยแล้ง” ต้นไม้แห้งตายเกือบทั้งหมด แม้แต่บ้านที่อยู่ริมคลองก็ยังไม่มีน้ำใช้ ปลุกให้ผู้คนในชุมชนเริ่มตระหนักและปรับเปลี่ยนความคิด หันมาร่วมกันรักษาป่าต้นน้ำและเรียนรู้การจัดการน้ำ พลิกชีวิตสร้างรายได้จากการทำเกษตรผสมผสาน สามารถก้าวข้ามปัญหาสู่เลิกแล้ง เลิกจนอย่างยั่งยืน สารเคมีทำลายสุขภาพ จุดเปลี่ยนยอมทิ้งรายได้วันละหมื่น จุรีพร อยู่พัฒน์ หรือ “เจี๊ยบ” ตัวแทนจากชุมชนบ้านถ้ำใหญ่ ที่ตัดสินใจทิ้งอาชีพแม่ค้าขายส่งผักในตลาดศรีเมือง จังหวัดราชบุรี ทำกำไรสูงถึงวันละหลักหมื่นบาท กลับไปใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรที่บ้านเกิด เล่าว่า จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจทิ้งกิจการค้าขายที่กำลังรุ่งเรืองคือ สัญญาณอันตรายต่อสุขภาพจากสารเคมีที่ติดมากับผัก หลังจากไปทำบัตรประชาชนใบใหม่แล้วพบว่า ลายนิ้วมือหายไป เป็นผลมาจากการสัมผัสผักที่มีสารเคมีจำนวนมากทุกวัน จึงเริ่มกังวล และฉุกคิดว่าสุขภาพ
การเป็น “หนี้” ไม่ใช่ความล้มเหลวของชีวิต อาจเป็นเรื่องที่ทำพลาด แต่ไม่ใช่เรื่องที่ทำผิด ที่สำคัญต้องเป็นหนี้แบบมีวัน “จบ” และไม่ท้อ พร้อมลุกขึ้น “สู้” หาทางแก้หนี้ด้วยการหาความรู้เพิ่มเติม ลงมือสร้างโอกาสพลิกสถานการณ์เพื่อปลดล็อกชีวิตหนี้ “สายชล รักกำเหนิด” เคยติดกับดัก “ชีวิตหนี้” ที่แทบล้มทั้งยืน เพราะถูกโกงแชร์และคิดการใหญ่ลงทุนเกินตัว จนหนี้ท่วมมืดแปดด้านหาทางออกไม่เจอ จากหนี้แค่หลักแสนเบ่งบานกลายเป็นหนี้ก้อนโตถึง 3 ล้านบาท แต่ด้วยความไม่ยอมแพ้ พยายามวิ่งหาทุกโอกาสที่จะทำให้กลับมายืนได้ขึ้นอีกครั้ง จนวันนี้สามารถปลดล็อกหลุดจากกับดักก้าวสู่วิถีชีวิตใหม่ที่ “ปลอดหนี้” จุดเปลี่ยนจากมนุษย์เงินเดือนสู่ชาวสวนยาง สร้างหนี้หวังรวย เส้นทางชีวิตของ “สายชล” พลิกผันจากมนุษย์เงินเดือน ทำงานเป็นพนักงานด้านการเงินบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ใน จังหวัดภูเก็ต เรียกได้ว่าฐานะดีมีรายได้มั่นคงและมีชีวิตที่สุขสบาย ก้าวสู่การเป็นเกษตรกรสวนยางพารา เพราะต้องกลับบ้านที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อทำหน้าที่ดูแลคุณแม่ที่อายุมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในการเปลี่ยนชีวิตต้องปรับตัวและเริ่มต้นเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด จากที