นวัตกรรมงานวิจัย
ไวรัสโควิด-19 และฝุ่น PM 2.5 เป็นวิกฤตสุขภาพของผู้คนในเวลานี้ “หน้ากากอนามัย” เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดยศูนย์วิจัยวัสดุนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนประสบความสำเร็จในการผลิตหน้ากากอนามัย “NANO GUARD หน้ากากชั้นกรองโครงข่ายเส้นใยนาโนพอลิเมอร์ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกัน COVID-19 และ PM2.5” ได้ดีเยี่ยม นวัตกรรมดังกล่าว เป็นผลงานของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณัฐกานต์ สร้อยกาบแก้ว หัวหน้าศูนย์วิจัยวัสดุนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ได้ศึกษาค้นคว้าและพบคำตอบเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว จุดเด่นของหน้ากากอนามัยชิ้นนี้คือ ผลิตด้วยนวัตกรรม “NANO GUARD หน้ากากชั้นกรองโครงข่ายเส้นใยนาโนพอลิเมอร์เพื่อป้องกัน COVID-19 และ PM2.5” หน้ากากมีชั้นกรองหรือรูกรองขนาดเล็กกว่า 125 นาโนเมตร ดักจับไวรัสโควิด-19 ได้ รวมทั้งมีอนุภาค Nano Silver เคลือบอยู่ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสได้ ทั้งมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
“บีเอ็นเอ็น อินโนเวชั่น” นำ “ซิลเวอร์ นาโน” นวัตกรรมชิ้นโบว์แดงของนักวิจัยไทย มาเป็นหัวหอกขายตรง ดูแลสุขภาพคนไทย หวังดึงเศรษฐกิจปากท้องคนไทยปรับดีขึ้น จ่าเอกวรพัทธ์ พันธ์ญาชนะภัย หนึ่งในทีมที่ปรึกษาบริษัทบีเอ็นเอ็น อินโนเวชั่น จำกัด ในเครือทีวีไดเร็ค กล่าวว่า บริษัทได้รับลิขสิทธิ์เป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์นวัตกรรมซิลเวอร์ นาโน ภายใต้แบรนด์ “นาโนไนท์” ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของ รองศาสตราจารย์ ดร.ระพีพันธ์ แดงตันกี คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ “ ปัจจุบัน สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถดูแลป้องกันได้ด้วยผลงานนวัตกรรมของนักวิจัยไทย ได้แก่ 1. แอลกอฮอลล์ 2. น้ำกรด 3. ผงซักฟอก และ 4. ซิลเวอร์ นาโน ซึ่งนวัตกรรม 3 ตัวแรก เพียงแค่ฉีดพ่นให้ระเหิดที่ตัวประมาณ 5 – 10 นาที ส่วนนวัตกรรมซิลเวอร์ นาโน สามารถใช้งานป้องกันไวรัสได้นานถึง 14 วัน ” จ่าเอกวรพัทธ์ กล่าว จ่าเอกวรพัทธ์นำนวัตกรรมซิลเวอร์ นาโน มาเปิดตลาดขายตรง ตามนโยบายบริษัทแม่ คือ บริษัทมอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) และ บริษัทเมิร์ค915 ซึ่งเป็นกิจการในเครือทีวีไดเร็ค จำกัด(มหาชน) โดยจ่าเอกวรพัทธ์ขึ้นแท่นเป็นนัก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตรวจเยี่ยมสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พร้อมมอบนโยบายและเยี่ยมชมนิทรรศผลงานวิจัยกว่า 70 ผลงาน ที่ตอบโจทย์รัฐบาล มุ่งพัฒนาภาคสังคม สุขภาพ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและภาคเกษตร เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตรวจเยี่ยมสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และเยี่ยมชมนิทรรศการงานตามนโยบายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) อันเป็นผลการดำเนินงานการบริหารทุนวิจัยและนวัตกรรม และกิจกรรมตามภารกิจของ วช. พร้อมทั้งมอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่ วช. โดยมี ดร. วิภารัตน์ ดีอ่อง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ วช. และคณะนักวิจัยให้การต้อนรับ หลังเยี่ยมชมนิทรรศการและมอบนโยบายแก่ วช. แล้ว ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงเรื่องของขวัญปีใหม่ ที่ อว.จะมอบให้แก่คนไทย โดยในส่วนของ วช. นั้นจะมอบเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศระบบเซ็นเซอร์ (Dust Boy) จำนวน 500 เครื่อง เพื่อให้คนไท
วช. สนับสนุน “มทร. กรุงเทพ” พัฒนานวัตกรรมผ้าขาวม้า สร้างอัตลักษณ์ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในจังหวัดราชบุรี สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้จัดคณะสื่อมวลชนสัญจร ภายใต้การนำของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อริศร์ เทียนประเสริฐ ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อติดตามผลงานวิจัยการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านผ้าไทย และการท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรี เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของประเทศกลุ่มเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่ผ่านมา วช. ได้สนับสนุนการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อชุมชน สังคม เพื่อดำเนินการพัฒนาชุมชนนวัตกรรมต้นแบบในพื้นที่ภาคกลาง : กลุ่มหัตถกรรมสิ่งทอแก่ ดร.พีรยา สระมาลา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ โดยดำเนินการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าให้มีคุณภาพ สามารถเพิ่มมูลค่า และช่องทางการตลาด ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจของชุมชนดีขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดราชบุรี มีความหลากหลายทางเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ วัฒนธรรม และประเพณี อันเป็นลักษณะเด่นของท้องถิ่นสืบทอดมาแต่โบราณกาล ทีมนักวิจัยจึงได้นำองค์ความรู้ด้านการทอ การย้อม การออกแบบลวดลายมาพัฒนาสินค้า
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ แถลงข่าวการจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 (Thailand Research Expo 2020)” ครั้งที่ 15 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไลเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 (Thailand Research Expo 2020)” เป็นเวทีระดับชาติที่นำเสนอผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีคุณภาพกว่า 300 ผลงาน โดยมุ่งเน้นเชื่อมโยงบูรณาการองค์ความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ ทั้งในมิติเชิงวิชาการ นโยบาย สังคม/ชุมชน และพาณิชย์/อุตสาหกรรม ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มงานวิจัยได้แก่ งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนากำลังคนและสถาบันความรู้ งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายของสังคม งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ และงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อน BCG Economy Model ในปีนี้ ได้
กอ.รมน. ประชุมหารือและเยี่ยมชม วช. ในงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและนวัตกรรม ด้านความมั่นคง ภายใต้กรอบบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง วช. และ กอ.รมน. วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง กอ.รมน. (สนย.กอ.รมน.) นำโดย พลโท สวัสดิ์ ชนะจิตราสกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคง กอ.รมน. และคณะ ได้เข้าเยี่ยม วช.และหารือแนวทางความร่วมมือในงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและนวัตกรรม ด้านความมั่นคง ภายใต้กรอบบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง วช. และ กอ.รมน. ในเรื่องการใช้ประโยชน์องค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ : ชุมชนเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม ที่ได้มีการลงนาม เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2562 ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้กล่าวต้อนรับ และนำเสนอผลงานภาพรวมของ วช. ในเรื่องภารกิจ หน้าที่และอำนาจของ วช. ตลอดจนแนวทางการบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมในประเด็นสำคัญของประเทศ ต่อมา พลโท สวัสดิ์ ชนะจิตราสกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์คว
วช. จับมือ พม. MOU ขับเคลื่อนงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ นำนวัตกรรมเสริมพลังกลุ่มเปราะบางก้าวเข้าสู่วิถีชีวิตแบบ New Normal วันนี้ (26 มิ.ย. 63) 13.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อขับเคลื่อนงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีสาหรับคนพิการและผู้สูงอายุ ระหว่างสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังตกอยู่ในสภาวะความท้าทายจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และทำให้สังคมไทยก้าวเข้าสู่ยุคการใช้วิถีชีวิตแบบ New Normal หรือ “ความปกติใหม่” รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดมาตรการในการฝ่าวิกฤต COVID-19 โดยยึดมั่นในหลักการ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” (Leave no one behind) มุ่งก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ขณะนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังและหามาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานที่และบริเวณต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงและมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 สาเหตุของการก่อโรค ซึ่งหนึ่งในมาตรการป้องกันโรค คือ การทำความสะอาด ฉีดพ่นกำจัดเชื้อไวรัส เชื้อโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส ทั้งภายในอาคารผู้โดยสารสนามบิน โรงแรมที่พัก รถขนส่งสาธารณะ และสถานที่จัดประชุมต่างๆ ที่มีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ผลิตภัณฑ์ คีนน์ เจิม คิลเลอร์ บลัด สเกล แอนด์ ออยล์ รีมูฟเวอร์ (KEEEN Germ Killer Blood, Scale & Oil Remover) หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ ผสมสารสกัดจากธรรมชาติ (Natural Disinfectant) จาก บริษัท คีนน์ (KEEEN) จำกัด คือผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีความสามารถในการฆ่าเชื้อโรค ทั้ง แบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส โดยผ่านการรับรองมาตรฐานในระดับสากล และเป็นหนึ่งใน ‘ผลิตภัณฑ์ในบัญชีนวัตกรรมไทย’ ซึ่งมี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหน่วยงานดูแลรับผิดชอบ ล่าสุด บริษัท เอเชีย คลีนนิ่ง จำก
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มมวลชน ปราชญ์เพื่อความมั่นคงและภาคประชาชนทั่วประเทศ โดยมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต เสริมสร้างอาชีพและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยนวัตกรรมงานวิจัย เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2563 กอ.รมน.และ วช. ร่วมจัดกิจกรรม Kick-off เปิดตัว “โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลุ่มมวลชน โดยการยกระดับศักยภาพความเข้มแข็งของชุมชนด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ครั้งที่ 3 ณ อาคารอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพราน อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง กิจกรรมครั้งนี้ดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการใช้ประโยชน์องค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ : ชุมชนเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและชุมชน พันเอก ณัฐพงศ์ วานิกร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใต้จังหวัดอ่างทองให้เกียรติกล่าวต้อนรับ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ทั้งนี้ ศาสตราจารย์นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)ร่วมเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มมวลชน ปราชญ์เพื่อความมั่นคงและภาคประชาชนทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิต เสริมสร้างอาชีพและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม กอ.รมน.และ วช.ร่วมจัดกิจกรรม Kick-off เปิดตัว “โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งกลุ่มมวลชน โดยการยกระดับศักยภาพความเข้มแข็งของชุมชนด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 มีนาคม 2563 ณ ศาลาการเปรียญ วัดมาบแฟบ ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการใช้ประโยชน์องค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ : ชุมชนเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและชุมชน ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรให้เกียรติกล่าวต้อนรับ โดยศาสตราจารย์นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในการเปิดกิจกรรม Kick-off ครั้งที่ 2 ร่วมกับ พลตรีก