ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก “จังหวัดชายแดนภาคใต้” อย่างผิวเผิน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในที่นี้หมายถึง 5 จังหวัดใต้สุดของประเทศไทย ที่มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศมาเลเซีย แม้จังหวัดปัตตานีจะเป็นจังหวัดเดียวที่ไม่มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศมาเลเซีย แต่จัดว่าเป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้เช่นเดียวกัน เพราะประเพณี วัฒนธรรม ของคนใน 5 จังหวัดนี้จะคล้ายๆ กัน ประชาชนจะมีการเคลื่อนย้ายไปมาใน 5 จังหวัด และมีการออกไปประกอบอาชีพติดต่อสื่อสาร ไปมาหาสู่กับประชาชนในประเทศมาเลเซียเหมือนๆ กัน จึงได้รวมจังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย วิถีชีวิตชายแดนใต้ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ที่มีลักษณะทางสังคมของประชาชน หลายๆ อย่างแตกต่างไปจากสภาพในภาคอื่นๆ มีความละเอียดอ่อนในเรื่องของศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรม ประชาชนส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม และจะเคร่งครัดในการปฏิบัติศาสนกิจ มีความละเอียดอ่อนเปราะบาง และเกิดปัญหาได้ง่าย หากเจ้าหน้าที่หรือส่วนราชการที่ไม่เข้าใจประเพณีและวัฒนธรรมของประชาชนที่นี่เข้าไปปฏิบัติงานได้อย่างยากลำบาก สภาพเศรษฐกิจทั่วไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ประชาชนส่วนใหญ่จะมีฐานะค่อนข้างยากจน วัดจากตัว
ธุรกิจสมุนไพรและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ที่เคยสร้างรายได้สะพัดวันละแสน หลังเจอปัญหาวิกฤตทางการเมือง ปี 2554 สินค้าขายไม่ออก ขาดทุนสะสมจนกลายเป็นหนี้ก้อนโต แต่ “ศุภธิดา ศรีชารัตน์” ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค เธอปรับตัวสู้ชีวิตใหม่อีกครั้ง โดยน้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต จนสามารถปลดหนี้เงินล้านได้สำเร็จภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี ศุภธิดา เกิดและเติบโตในครอบครัวเกษตรกร ในหมู่บ้านหนองกอง หมู่ที่ 3 อำเภอโดด อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ เธอเห็นพ่อแม่ทำนามาตลอดชีวิตแต่ไม่รวยสักที หลังเรียนจบมัธยมจึงตัดสินใจไปทำธุรกิจค้าขายที่กรุงเทพฯ โดยเปิดร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ที่ห้างเซ็นทรัล สาขาบางนา และที่อิมพีเรียล สำโรง ระยะแรกธุรกิจเติบโตดีมาก สร้างรายได้สูงถึงวัน 100,000- 200,000 บาท แต่การใช้ชีวิตในสังคมเมืองหลวงมีภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ทั้งค่ากินอยู่ ค่าเช่าที่ ค่าจ้างคนงาน ฯลฯ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วแทบไม่เหลือผลกำไร ต่อมาเกิดวิกฤตทางการเมือง สินค้าขายไม่ดี เกิดหนี้สินก้อนโตกว่าล้านบาท ช่วงปลายปี
อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เป็นอำเภอที่มีแม่น้ำสายบุรี หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตความเป็นชนบท การดำนา ปลูกข้าว ยังคงมีให้เห็นในทุกพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่ในภาคใต้ ปลายด้ามขวานทอง ที่บางโอกาสถูกมองว่าอยู่ห่างไกลความเจริญ แท้จริงแล้ว ความห่างไกลเหล่านี้เป็นสิ่งกระตุ้นเตือนไม่ให้ลืมรากเหง้าการดำรงชีวิตของบรรพบุรุษไม่ให้สูญหายไป เกษตรกรรม ก็เช่นกัน การปลูกฝังผ่านเยาวชนเป็นแนวคิดที่มีมาเนิ่นนาน แม้จะประเมินไม่ได้ชัดว่าประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็เป็นช่องทางที่ได้ปลูกฝังให้เยาวชนสำนึกรักในบ้านเกิด โรงเรียนบ้านป่าทุ่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลบางเก่า อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี มี คุณสุวิทย์ หวัดแท่น ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดการเรียนการสอนในระดับอนุบาลถึงระดับประถมศึกษา ด้วยพื้นที่อยู่ห่างไกล จึงรองรับนักเรียนบริเวณใกล้เคียงทั้งหมด และสภาพสังคมปัจจุบันปัญหาเด็กด้อยโอกาสมีสูง โรงเรียนจึงเป็นแหล่งพักพิงที่ดีที่สุด ครูจึงมีความสำคัญกับนักเรียนมาก ซึ่งการป้อนความรู้นอกเหนือจากวิชาเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถดำรงชีวิตได้เองจึงเป็นสิ่งสำคัญ โรงเรียนจึงตั้งเป้าให้ความสำคัญกับการเกษตร เพราะเป็
นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาที่ดิน ได้พัฒนา โดยนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ร่วมกับระบบเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ ผ่านเครือข่าย Big Data เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการพัฒนาการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่ปรับเปลี่ยนทั้งในสถานการณ์ปกติและสถานการณ์ที่วิกฤติ อีกทั้งยังได้เชื่อมโยงข้อมูลการเกษตรทฤษฎีใหม่ การทำเกษตรผสมผสาน เพื่อเสริมสร้างการพึ่งพาตนเองของเกษตรกร มีข้อมูลการรับรองมาตรฐาน GAP เพื่อพัฒนาคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตร ข้อมูลพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ และ Zoning by Agri-Map เพื่อสร้างความยั่งยืนในการผลิตสินค้าเกษตร รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Information Center : AIC) ของทุกจังหวัด เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพของสินค้าเกษตรให้เพียงพอ และสอดคล้องกับความต้องการของตลาดร่วมกัน นอกจากนี้ ยังเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการพัฒนาทรัพยากรดินของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน ภูมิปัญญาและ
เมื่อเร็วๆ นี้ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง และ พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ พร้อม นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมถึงเยี่ยมชมและติดตามผลสัมฤทธิ์จากการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริของโครงการอ่างเก็บน้ำพระปรงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลช่องกุ่ม อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว โอกาสนี้ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เปิดเผยภายหลังรับฟังการสรุปผลการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง และการสนองพระราชดำริในเขตพื้นที่จังหวัดสระแก้วว่า จังหวัดสระแก้วมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากถึง 104 โครงการ โดยมีโครงการพัฒนาแหล่งน้ำถึง 82 โครงการ ทั้งเล็กและใหญ่ ซึ่งอ่างเก็บน้ำพระปรงฯ เป็นโครงการที่ดำเนินการมาหลายปีแล้ว ปัจจุบันก็มีการพัฒนาเพิ่มเติมให้การเก็บกักน้ำ
นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวในระหว่างเป็นประธานเปิดงาน “ต่อยอด ชีวิตวิถีใหม่ ไปกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ” ว่า ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นสถานที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันสำคัญ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เคยเสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่อง และได้พระราชทานแนวพระราชดำริให้จัดตั้งสถานที่นี้ขึ้นเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้นเป็นแห่งแรก โดยได้ทรงวางแนวทางให้เป็นสถานที่ศึกษาและแสดงตัวอย่างแห่งความสำเร็จ ที่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปสามารถนำไปเป็นแบบอย่างเพื่อปฏิบัติตามได้อย่างเหมาะสม “ตลอดระยะเวลา 41 ปีที่ผ่านมา เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าทรงให้ความสำคัญกับงานพัฒนา เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องสร้างสรรค์ไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้เ
นายสิทธิพร ปานใจ ผู้อำนวยการกลุ่มจัดตั้งและส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ จัดโครงการสัมมนาการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยนำผู้แทนสหกรณ์ในเขตกรุงเทพฯ ที่อยู่ในการดูแล จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์เคหสถานคลองลัดภาชีร่วมพัฒนา จำกัด สหกรณ์เคหสถานศิรินทร์และเพื่อน จำกัด สหกรณ์การเกษตรภาษีเจริญ จำกัด สหกรณ์บริการอิสลามเนียะมะตุลลอฮ์ จำกัด และสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัด เดินทางไปเยี่ยมชมการดำเนินงานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสารภี อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อศึกษาเรียนรู้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อส่งเสริมให้ผู้แทนสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ได้ นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษาดูงานครั้งนี้กลับไปวางแผนการประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงทั้งระดับองค์กรและถ่ายทอดให้กับสมาชิกของตนเอง ทั้งนี้ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสารภี ก่อตั้งโดย นายสุชล สุขเกษม ซึ่งใช้เนื้อที่เพียง 1 ไร่ และรู้จักวางแผนการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างคุ้มค่า สร้างทุกสิ่งให้มีคุณค่า
ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ มอบหมาย สศก. ขยายผลโครงการแรงงานคืนถิ่น พลิกฟื้นผืนดิน ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นำต้นแบบ จังหวัดศรีสะเกษ ขยายผลทั่วประเทศ สืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานเกษตรทฤษฎีใหม่ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นำโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ร่วมสร้างอาชีพเกษตร ช่วยผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ก้าวสู่ Smart Farmer ยุคดิจิทัล ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า เดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือน มหามงคลของปวงชนชาวไทย ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2563 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย สศก. นำโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ขับเคลื่อนโครงการแรงงานคืนถิ่น พลิกฟื้นผืนดิน ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้โครงการ พัฒนาศักยภาพเศรษฐกิจการเกษตรอาสาประจำศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยอบรมและสาธิตการทำการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการบริหารจัดการสินค้าเกษตรผลผลิตทางการเกษตร ผ่านเศรษฐกิจการ
เพื่อนบ้านบอกสองผัวเมียปลูกทุเรียนบนดินทรายเป็นบ้า แต่เวลาผ่านไปไม่กี่ปี ต้องเปลี่ยนความคิด เมื่อทุเรียนออกผลสร้างรายได้ให้ปีละหลายแสนบาท ภาครัฐเข้าหนุนสร้างช่องทางทำกินให้ชาวบ้านในละแวกเดียวกัน วันนี้ จะพาไปชมสวนทุเรียนที่เดียวในอีสาน หรือในประเทศก็ว่าได้ที่ปลูกต้นทุเรียนราชาแห่งผลไม้ในดินทราย โดยเริ่มแรก คุณสมัย หรือเพื่อนบ้านเรียก พ่อสมัย สายเสน อายุ 63 ปี เกษตรกรชาวนา หมู่บ้านโคกใหม่พัฒนา หมู่ ที่ 10 ตำบลโนนกลาง อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี เบื่ออาชีพทำนาปลูกข้าว ที่ยึดมาตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นแม่ เพราะผืนนาเป็นนาโคก และพื้นดินยังเป็นดินทรายปนดินเหนียว ปีหนึ่งๆ ต้องรอฟ้าฝน เพื่อเอาน้ำมาปลูกข้าวได้เพียงปีละครั้ง และไม่มีความแน่นอนเรื่องผลผลิตข้าวด้วย ในช่วงวัยหนุ่ม พ่อสมัย นอกจากทำนาปลูกข้าว ยังตระเวนไปรับจ้างเป็นคนงานตามสวนผลไม้แถวภาคใต้ มีครอบครัวก็กลับมาทำอาชีพขายรองเท้าตามตลาดนัดกับภรรยา และปลูกข้าวปีละครั้ง พอมีรายได้เลี้ยงครอบครัวและมีข้าวไว้กินในแต่ละปี แต่เมื่ออายุสูงขึ้น ก็เริ่มมีปัญหาด้านสุขภาพที่เสื่อมถอย การขับรถตระเวนไปขายรองเท้าตามตลาดนัดก็เริ่มมีอุปสรรค ตาฝ้าฟางกลัววันไห
กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร แก้ไขปัญหาความอดอยากหิวโหย (Zero Hunger) ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เนื่องจากมีประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งคนไทยในต่างแดนเข้าร่วมโครงการปลูกผักสวนครัวกับ พช. กันอย่างคึกคัก “เทคโนโลยีชาวบ้าน” มีโอกาสนั่งพูดคุยกับ คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของแนวคิด ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มาร่วมค้นหาคำตอบได้ในบทสัมภาษณ์พิเศษนี้ไปพร้อมๆ กัน… ปลูกผักพึ่งพาตัวเอง สู้วิกฤต โควิด-19 ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องอาหาร การปลูกพืชผักสวนครัวเป็นคำตอบที่บรรพบุรุษเราสอนไว้นานมากแล้วด้วยการทำให้ดู ประเทศไทยมีรากฐานมาจากสังคมเกษตรกรรม สมัยก่อน ปู่ ย่า ตา ยาย จะปลูกผักสวนครัวกันทุกบ้าน หากวันนี้ทุกคนช่วยกันปลูกผักสวนครัวให้มากชนิดทุกบ้าน เสริมด้วยการเลี้ยงไก่ เลี้ยงกบ คนไทยจะมีอาหารปลอดภัย ประหยัดเงินในกระเป๋า ไม่ต้องซื้อกิน ใช้อาหา