ปราชญ์ชาวบ้าน
ผลกระทบจากวิกฤตโลกร้อนทำให้เกิดปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี พื้นที่การเกษตรจำนวนมากเสี่ยงเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำทำการเกษตร เกษตรกรจึงควรสร้างแหล่งน้ำในไร่นาเพื่อให้มีแหล่งน้ำพอเพียงสำหรับดูแลรักษาพื้นที่เพาะปลูกพืชตลอดทั้งปี ลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งในระยะยาวอย่างยั่งยืน ลุงทองปาน เผ่าโสภา ปราชญ์ชาวบ้านหนองกุลา ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชุมชน หมู่ที่ 14 ตำบลหนองกุลา อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ริเริ่มแนวคิดการทำธนาคารน้ำใต้ดิน สำหรับใช้เพาะปลูกพืชในฤดูแล้งตั้งแต่เมื่อ 20 กว่าปีก่อนจนกลายเป็นต้นแบบให้ภาครัฐ นำแนวคิดดังกล่าวไปขยายผลเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งทั่วประเทศ ลุงทองปานเล่าถึงที่มาของแนวคิดการสร้าง “ธนาคารน้ำใต้ดิน” หรือเรียกว่า “แก้มลิงที่มองไม่เห็น” ว่า ตนเองได้นำองค์ความรู้ที่ได้จากข้อมูลข่าวสารของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผสมผสานกับภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยใช้วิธีการสังเกตบ่อบาดาลที่ขุดเจาะไว้ในช่วงฤดูแล้งพบว่า เมื่อสูบน้ำไปได้ระยะหนึ่งน้ำก็จะแห้ง ไม่สามารถสูบได้อีก และช่วงฤดูฝนน้ำที่ท่วมขังบริเวณบ่อ จะแห้งเร็วกว่าบริเวณอื่นๆ ซึ่งจากการสังเกตดังกล่าวจึงได้ทดลองขุด
ลุงนิล ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้กำเนิดแนวคิด ‘เกษตรคอนโดฯ 9 ชั้น’ ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ คุณสมบูรณ์ ศรีสุบัติ หรือ ลุงนิล เป็นเกษตรกรต้นแบบ อยู่ที่ตำบลช่องไม้แก้ว อำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร ซึ่งพืชผลทางการเกษตรที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็นทุเรียน มีมากกว่า 700 ต้น อยู่ในสวนลุงนิล เป็นที่รู้จักของคนในจังหวัดชุมพรค่อนข้างมาก ลุงนิล เป็นที่รู้จักในนามของเกษตรกรผู้คิดค้น “เกษตรคอนโดฯ 9 ชั้น” ซึ่งจุดเด่นของลุงนิลคือ การได้รับความสนใจจากผู้ไปศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องเกษตรผสมผสานและเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่เน้นใช้พื้นที่ของตนเองที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการปลูกพืชผักสวนครัวต่างๆ และพืชแซม พร้อมกับการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจไปในตัว และนอกจากจุดเด่นของลุงนิลจะอยู่ที่การทำสวนแล้ว ลุงนิลยังเป็นหนึ่งในผู้ที่ดูแลโครงการธนาคารต้นไม้ของจังหวัดชุมพรอีกด้วย เศรษฐกิจพอเพียง กู้วิกฤตชีวิตลุงนิล ลุงนิล เผยถึงแนวคิดการทำเกษตรแบบผสมผสาน 9 ชั้น ว่า ในอดีตลุงนิลเคยทำอาชีพค้าขายมาเป็นเวลานาน แล้วก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่ลุงนิลในตอนนั้น ต้องการที่จะมีรายได้ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ด้วยความอยากรวย จึงมี
“จน เครียด กินเหล้า” เป็นช่วงต่ำสุดของชีวิต พ่อคำเดื่อง ภาษี ปราชญ์ชาวบ้านแห่งจังหวัดบุรีรัมย์ สุดยอดคนเกษตรแห่งแดนอีสาน ในอดีต พ่อคำเดื่องปลูกพืชเชิงเดี่ยวอย่างปอ มันสำปะหลัง ถั่วลิสง อ้อย ยาสูบ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่ยิ่งทำมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นหนี้เป็นสินมากขึ้นเท่านั้น เพราะเครียดจากความล้มเหลวทางการเกษตร จึงหันหน้าไปหาเหล้ายาจนชีวิตเกือบพังไม่เป็นท่า โชคดีพ่อคำเดื่องได้สติยั้งคิดว่านี่ไม่ใช่ทางออกของปัญหา หันมาเรียนรู้การพึ่งพาตัวเองโดยนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในชีวิต ยึดหลักความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี ออมน้ำ ออมดิน ออมต้นไม้ ให้สภาพแวดล้อมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ปลูกทุกอย่างที่กิน กินทุกอย่างที่ปลูก ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกพันธุ์ไม้นับหมื่นต้นพลิกฟื้นผืนดินให้อุดมสมบูรณ์ เติบโตอย่างมั่นคงในวิถีเกษตรกรรมธรรมชาติ จนสามารถปลดหนี้สินได้ภายใน 4 ปี ยึดหลักวิถีเกษตรกรรมธรรมชาติ พ่อคำเดื่องค้นพบวิถีทางที่คนและสัตว์อยู่ร่วมกันโดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี เพราะธรรมชาติได้จัดสรรให้แมลงศัตรูพืชแต่ละ
มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน! SUSTAINABILITY EXPO 2022 SX2022 : GOOD BALANCE, BETTER WORLD สมดุลที่ดี เพื่อโลกที่ดีกว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน2565 ได้จัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “เปลี่ยนชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง”ดำเนินรายการโดย นายประพจน์ ภู่ทองคำ รายการสารคดีสภาชาวบ้าน และผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย พ่อคำเดื่อง ภาษี ศูนย์ปราชญ์ชุมชนพ่อคำเดื่อง ตำบลหัวฝาย อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ และ คุณสุพจน์ โคมณี ประธานศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งตัวแทนปราชญ์ชาวบ้านทั้งสองท่านสนับสนุนให้คนไทยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ สร้างอาชีพ-แก้จน นำไปสู่การพึ่งพาตนเองและการพัฒนาอย่างยั่งยืน “พ่อคำเดื่อง” ปลูกต้นไม้ทุกวัน ชีวิตจึงร่ำรวยธรรมชาติ พ่อคำเดื่อง ภาษี สุดยอดคนเกษตรแห่งแดนอีสาน ในอดีตเคยทำการเกษตรเชิงเดี่ยว ช่วงแรกปลูกปอขายได้ราคาดี จึงกู้เงินมาขยายการลงทุนออกไปเรื่อยๆ ต่อมาเกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาดจนขาดทุน จึงกู้ยืมเงิน ธ.ก.ส. มาลงทุนปลูกอ้อยและมันสำปะหลัง จนเป็นหนี้สินมากมาย พ่อคำเดื่อง เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาชีวิตโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเ
มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมพื้นที่โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ณ บางเบิด จังหวัดชุมพร คุณสมบูรณ์ ศรีสุบัติ หรือ ลุงนิล เป็นเกษตรกรต้นแบบ อยู่ที่ตำบลช่องไม้แก้ว อำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร ซึ่งพืชผลทางการเกษตรที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็นทุเรียน มีมากกว่า 700 ต้น อยู่ในสวนลุงนิล เป็นที่รู้จักของคนในจังหวัดชุมพรค่อนข้างมาก คุณสมบูรณ์ ศรีสุบัติ หรือ ลุงนิล เจ้าของสวน ลุงนิล เป็นที่รู้จักในนามของเกษตรกรผู้คิดค้น “เกษตรคอนโดฯ 9 ชั้น” ซึ่งจุดเด่นของลุงนิลคือ การได้รับความสนใจจากผู้ไปศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องเกษตรผสมผสานและเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่เน้นใช้พื้นที่ของตนเองที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการปลูกพืชผักสวนครัวต่างๆ และพืชแซม พร้อมกับการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจไปในตัว และนอกจากจุดเด่นของลุงนิลจะอยู่ที่การทำสวนแล้ว ลุงนิลยังเป็นหนึ่งในผู้ที่ดูแลโครงการธนาคารต้นไม้ของจังหวัดชุมพรอีกด้วย เศรษฐกิจพอเพียง กู้วิกฤตชีวิตลุงนิล ลุงนิล เผยถึงแนวคิดการทำเกษตรแบบผสมผสาน 9 ชั้น ว่า ในอดีตลุงนิลเคยทำอาชีพค้าขายมาเป็นเวลานาน แล้วก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ด้วยความที่ลุ
ต้นจาก พืชตระกูลปาล์มที่เก่าแก่ ชอบขึ้นอยู่บริเวณริมแม่น้ำที่มีสภาพน้ำกร่อย เช่นเดียวกับริมฝั่งแม่น้ำตรัง เริ่มตั้งแต่ ตำบลย่านซื่อ ตำบลบางหมาก ตำบลคลองลุ ตำบลบางเป้า ตำบลบ่อน้ำร้อน ตำบลกันตังใต้ และตำบลวังวน เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นจาก มีพื้นที่นับหมื่นไร่ เป็นพืชอเนกประสงค์ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายส่วน นำมาประกอบอาหาร-เครื่องดื่ม สิ่งประดิษฐ์ เครื่องหัตถกรรม ภาชนะใช้สอย รวมทั้งช่วยรักษาระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ เดิมทีเกษตรกรปลูกจากเพื่อนำใบอ่อนจากมาผลิตใบจากแห้งสำหรับมวนบุหรี่ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดสูง โดยเฉพาะทางภาคใต้ และจากภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้นได้นำเศษส่วนที่เหลือมาทำเสวียนหม้อ (เครื่องจักสาน) ติหมาใบจาก (ใช้ตักน้ำ) เพื่อใช้ในครัวเรือน ปัจจุบันการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น ใบจาก จึงมีความน่าสนใจ ทำให้เกิดแนวคิดในการขับเคลื่อนงานแบบมีส่วนร่วมในรูปแบบการส่งเสริมเกษตรตามระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่เพื่อจะพัฒนาผลิตภัณฑ์จากต้นจาก ซึ่งแต่เดิมที่ใช้เพื่อมวนบุหรี่มาเป็นภาชนะทดแทนพลาสติกและพัฒนาการผลิตน้ำตาลจา
ปัญหา หนอนหัวดำ แมลงดำหนาม ด้วงแรด ด้วงงวง ล้วนแล้วแต่เป็นแมลงศัตรูมะพร้าวที่เกษตรกรชาวสวนมะพร้าวไม่ต้องการให้เกิดขึ้นทั้งในสวนของตนเองและสวนของเพื่อนบ้าน เพราะเมื่อพบแล้ว ปัญหาการระบาดของแมลงศัตรูพืชเหล่านี้จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หากไม่มีการควบคุมหรือกำจัดที่ดีพอ คุณวิชาญ บำรุงยา เกษตรกรชาวสวนมะพร้าวในพื้นที่ตำบลโป่ง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ผู้ที่เคยได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่น ประจำปี 2558 ในสาขาอาชีพทำสวน และเราให้คำจำกัดความเขาว่า “ปราชญ์ชาวบ้าน” ในมุมของเกษตรกรทำสวนมะพร้าว มุมมองของ คุณวิชาญ คือ การแก้ปัญหาแมลงศัตรูพืชทุกอย่างด้วยการงดใช้สารเคมี หรือใช้สารเคมีให้น้อยที่สุดในกรณีที่จำเป็น เพื่อไม่ให้เกิดการตกค้างไปถึงผู้บริโภค แม้สารเคมีบางชนิดที่ได้รับการประเมินปริมาณในการใช้แล้วว่า ไม่ตกค้างจนก่อให้เกิดโทษต่อผู้บริโภคก็ตาม “หนอนหัวดำ และแมลงดำหนาม เป็นแมลงศัตรูพืชที่ในอดีตไม่เคยมี เกษตรกรของไทยไม่เคยประสบ กระทั่งปีที่เกิดการระบาดในภาคใต้ และไม่นานก็แพร่ระบาดมาถึงภูมิภาคอื่นๆ การแก้ปัญหาที่ภาครัฐแนะนำขณะนั้นคือ การใช้สารเคมีกำจัด เพราะต้องการให้การแพร่ระบาดหมดไปโดยเร็ว อีกทั้งเ
นายคำพันธ์ เหล่าวงษี ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2559 อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 2 บ้านดอนแตง ตำบลศรีสุข อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ขยายพันธุ์มะละกอโดยการตอน สามารถเก็บผลผลิตได้หลังปลูกเพียง 2 เดือน เท่านั้น นายคำพันธ์ บอกข้อดีของการตอนมะละกอ ดังนี้ ได้ผลผลิตไม่กลายพันธุ์ ต้นเตี้ย เก็บเกี่ยว ดูแลรักษาง่าย ต้นแข็งแรง ต้นไม่สูง ไม่หักโค่นง่าย แตกกิ่งก้านมากขึ้น ได้ผลผลิตมากขึ้น ให้ผลผลิตเร็ว หลังจากปลูกด้วยกิ่งตอน 2 เดือน อุปกรณ์ในการตอน ประกอบด้วย…ขุยมะพร้าว ถุงพลาสติก มีดตอน เชือกฟาง “เลือกกิ่งที่ไม่แก่ไม่อ่อนเกินไป นับจากยอดลงมา 25-30 เซนติเมตร ใช้มีดปาดกิ่งมะละกอเฉียงขึ้นไป แล้วใช้เศษไม้หรือหินคั่นรอยปาดไม่ให้สนิทกันอย่างเดิม หุ้มด้วยตุ้มตอน ที่ทำให้พอเหมาะกับขนาดของกิ่ง มัดด้วยเชือกฟาง…ราว 25 วัน กิ่งมะละกอเริ่มออกราก นับตั้งแต่วันตอนถึงตัดกิ่ง ใช้เวลา 45 วัน แล้วตัดชำอีก 15 วัน จึงนำลงปลูกได้ ช่วงนี้ทางผมศึกษาการปลูกในวงบ่อ โดยใช้กิ่งตอน…มะละกอ เมื่อเราตอน จะแตกกิ่งใหม่ออกมาให้ตอนเรื่อยๆ อายุของต้นที่ปลูกด้วยกิ่งตอน อยู่ได้ 3 ปี” นายคำพันธ์ แ
โดยทั่วไป เมื่อเกษตรกรสูบน้ำจากแม่น้ำมากักเก็บไว้ เวลาที่น้ำไหลเข้าไปในบ่อหรือนาข้าว มักจะพัดพาเศษดินตะกอนเข้ามาด้วย ทำให้บ่อน้ำหรือนาข้าวเกิดปัญหาตื้นเขิน ต้องเสียเงินขุดลอกบ่อยๆ หากต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แนะนำให้ลองนำวิธีของ ครูประทุม สุริยา ปราชญ์ชาวบ้าน ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่เจ้าของ “สวนชีวนิเวศน์ชีวบำบัด” ที่ประยุกต์หลักการทำงานของฝายแม้ว มาใช้ดักตะกอนดินอย่างมีประสิทธิภาพสวนแห่งนี้ แม้สูบน้ำจากแม่น้ำมาใช้แต่ไม่เคยเสียเงินขุดลอกนาเลย เพราะมีระบบการดักดินตะกอนและสารเคมีที่ปะปนมากับน้ำได้อย่างดีเยี่ยม ครูประทุม ได้สังเกตหลักการทำงานของฝายแม้วพบว่า น้ำจะกระเด็นลงไปในหลุม เวลาที่น้ำมาจะตกลงไปในหลุม น้ำจะมีตะกอน ทำให้หลุมตื้นขึ้น เวลาน้ำไหลไปก็จะสะอาด ครูประทุม จึงประยุกต์หลักการจัดการน้ำที่สูบมาจากแม่น้ำ ในรูปแบบใหม่คือ ทำหลุมดักดินตะกอนไว้ตลอดทางทุกระยะ 8 เมตร จะขุดหลุมลึกไว้ 1 ช่อง มีความลึกประมาณครึ่งเมตร เมื่อน้ำไหลเข้าถึงหลุมช่องที่ 20-21 ปริมาณตะกอนก็จะลดลง ครูประทุม จัดการน้ำด้วยเทคนิคดังกล่าวติดต่อกันนานกว่าสิบปีแล้ว ปรากฎว่าไม่เคยต้องเสียเงินลอกท้องนาเลยเพราะดินตะ
โรงเรียนบ้านหนองไผ่ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาที่ให้ความสำคัญกับพัฒนาทักษะชีวิต สอนให้นักเรียนทำเป็น คิดเป็น และอยู่ได้ด้วยตัวเองในสังคม ด้วยการสอนให้นักเรียนรู้จักกับ “อาชีพเกษตรกรรม” ได้ริเริ่มน้อมนำหลัก “เศรษฐกิจพอเพียง” เข้ามาเป็นเครื่องมือสร้าง “เกษตรกรน้อย” ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภายใต้ “กลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนบ้านหนองไผ่” โรงเรียนให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะชีวิต สอนให้นักเรียน ทำเป็น คิดเป็น และอยู่ได้ด้วยตัวเองในสังคมด้วย อาชีพเกษตรกรรม โดยในปี 2546 โรงเรียนได้ริเริ่มน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง เข้ามาเป็นเครื่องมือสร้างยุวเกษตรกรน้อย (ประถมศึกษาปีที่ 4 – มัธยมศึกษาปีที่ 3) ภายใต้ กลุ่มยุวเกษตรกรโรงเรียนบ้านหนองไผ่ โรงเรียนบ้านหนองไผ่ มีบุคลากรน้อย และต่อยอดมาจากโรงเรียนประถมศึกษา ขาดแคลนครูที่รู้ในงานอาชีพที่หลากหลาย จึงพิจารณาจากหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เห็นว่า เรื่องการเลี้ยงสัตว์เป็นอาหารท้องถิ่น เช่น กบ แย้ อึ่งอ่า ตะพาบ ปลาน้ำจืด เป็นต้น เมื่อวิเคราะห์แล้วเห็นว่า การเลี้ยงกบน่าจะเป็นไปได้มากที่ส