มะม่วงน้ำดอกไม้
มะม่วง เป็นผลไม้ที่สามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย สําหรับภาคกลางนิยมปลูกในจังหวัดราชบุรี นครปฐม อ่างทอง และสุพรรณบุรี ปัจจุบันการส่งเสริมการปลูกมะม่วงในเชิงธุรกิจนั้น ได้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออก สวนมะม่วงของผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวจะมีใบ GAP รับรองความปลอดภัยของสินค้าเกษตร มะม่วงที่นิยมปลูก ได้แก่ พันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง เขียวเสวย มันเดือนเก้า และโชคอนันต์ โดยเฉพาะมะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ปลูกเป็นอย่างดี สร้างรายได้ปีละหลายแสนบาท คุณสุนทร สมาธิมงคล ได้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านเพื่อลดต้นทุนการผลิตในการซื้อปุ๋ยเคมีและสารเคมีป้องกัน กําจัดศัตรูพืช สําหรับสวนมะม่วง ดังนี้ การปลูกมะม่วง คุณสุนทร เล่าว่า ตนเองนั้นได้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านทําปุ๋ย หมักโดยผสมกับน้ำหมักชีวภาพจากผลไม้ เพื่อทดแทนการใช้ ปุ๋ยเคมีในสวนมะม่วง ซึ่งจะใส่ปุ๋ยหมักรองก้นหลุมก่อนปลูก ประมาณ 200 กรัม เมื่อนํากิ่งพันธุ์ปลูกแล้วรดน้ำทันที จากนั้นให้รดน้ำประมาณ 4-5 วันต่อครั้ง โดยการทําปุ๋ยหมักจะใช้น้ำหมักจากผลไม้มาผสมด้วยเพื่อเร่งการย่อย สลาย
คุณสุวิทย์ คุณาวุฒิ มีอาชีพทำสวนมะม่วงมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ ที่อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อมาปี 2528 ได้เข้ามาซื้อที่ทำสวนมะม่วงจำนวน 35 ไร่ ที่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 9 ตำบลหัวสำโรง อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา โทร. 089-834-3299 หลังจากนั้นได้มีการขยายสวนจนถึงปัจจุบันมีพื้นที่ประมาณ 250 ไร่ และเข้าสู่ระบบ GAP ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 “ทำมะม่วงมาตั้งแต่เกิด รุ่นที่สองแล้ว พ่อแม่ทำมาก่อน เกิดมาก็อยู่กับมะม่วงเลย” คุณสุวิทย์ บอก ใจจริงคุณสุวิทย์อยากขยายสวนมากกว่านี้แต่ภรรยาห้ามไว้ก่อน ที่สวนนี้ปลูกมะม่วงหลายพันธุ์ แต่จะปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เป็นส่วนใหญ่ ประมาณ 150 ไร่ ส่วนพื้นที่เหลือก็ปลูกมะม่วงสายพันธุ์อื่นๆ คละเคล้ากันไป “ถ้าพูดถึงเรื่องพันธุ์มะม่วง คุณสุวิทย์บอกว่า ตอนนี้ที่มาแนวหน้า สำหรับตลาดส่งออก ต้องเป็นน้ำดอกไม้สีทอง ส่วนตลาดภายในมะม่วงขายตึก” คุณสุวิทย์ กล่าว ราดสารเมื่อไหร่ ที่สวนคุณสุวิทย์ จะเริ่มราดสารช่วงเดือนพฤษภาคม ใส่ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่ง ตามลำดับ โดยจะไม่ทำทั้งหมด จะใช้วิธีทะยอยทำ โดยตั้งเป้าหมายไว้กี่ไร่ ก็ราดสารเท่านั้น ราดสารตามอัตราที่มีแนะนำและบวกเพิ่มตามสูตรของตัว
กรมการค้าภายในลงพื้นที่ติดตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 เกาะติดการรับซื้อมะม่วง พบราคาปีนี้ดีมาก ดีสุดเป็นประวัติการณ์ มะม่วงน้ำดอกไม้ เฉลี่ย 25-40 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ และมีการเข้าซื้อต่อเนื่อง วันที่ 28 มีนาคม 2567 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2567 ขณะนี้เข้าสู่ฤดูกาลผลิต พบว่า สถานการณ์ด้านราคาปีนี้ดีมาก ถือว่าราคาดีสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าผลผลิตในภาพรวมจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีปริมาณ 1.3 ล้านตัน เนื่องจากมีความต้องการซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ผลผลิต 1.3 ล้านตัน ปลูกในพื้นที่ภาคเหนือประมาณ 6 แสนตัน หรือคิดเป็น 50% ของผลผลิตทั้งหมด อีก 5 แสนตันปลูกในภาคอีสาน และอีก 2 แสนตันปลูกในภาคใต้ ซึ่งผลผลิตส่วนใหญ่เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ และเมืองหลวงของมะม่วงน้ำดอกไม้อยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีปริมาณประมาณ 10% ของผลผลิตในภาพรวม มะม่วงราคาดี-ดีมาก ส่วนสถานการณ์ด้านราคามะม่วงน้ำดอกไม้ ปีที่แล้วเกรด A ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 25-30 บ
“มะม่วงน้ำดอกไม้” นับเป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ของจังหวัดสระแก้ว ซึ่งมะม่วงน้ำดอกไม้ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เมื่อปี 2561 จำนวน 2 สายพันธุ์ คือ น้ำดอกไม้เบอร์ 4 และน้ำดอกไม้สีทอง มะม่วงน้ำดอกไม้สระแก้ว ที่ได้รับ GI ทั้ง 2 สายพันธุ์ ปี 2565 (ข้อมูลจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ปี 2564) มีเนื้อที่ยืนต้น 3,424 ไร่ เกษตรกรได้รับการขึ้นทะเบียน GI จำนวน 72 ราย โดยพื้นที่ปลูกครอบคลุม 6 อำเภอ ได้แก่ วังสมบูรณ์ วังน้ำเย็น วัฒนานคร เขาฉกรรจ์ เมือง และอรัญประเทศ โดยมะม่วงน้ำดอกไม้ GI จะเริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 3 และเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 30 ปี ผลผลิตออกสู่ตลาดมากช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ของทุกปี การพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมมะม่วงน้ำดอกไม้ GI ของจังหวัดสระแก้ว เพื่อลดต้นทุนการผลิต เกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่และวิสาหกิจชุมชนมะม่วงน้ำดอกไม้ จำนวน 30 ราย ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม แอร์บัส (Air blast) สำหรับใช้ฉีดพ่นสารเคมี ยาป้องกันกำจัดโรคและแมลง ฮอร์โมนและสารเร่งที่มีความจำเป็นต่อพืช ส่งผลให้ประหยัดเวลา ทำงานได้รวดเร็ว สะดวก ง่ายต่อเกษตรกรในการใช้งาน ลดแร
จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ปลูกมะม่วงที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศมีความเหมาะสม สภาพดินมีความอุดมสมบูรณ์ การระบายน้ำดี สภาพอากาศเย็นตลอดทั้งปี ทำให้มะม่วงมีคุณภาพดี สีสวย รสชาติดี อีกทั้งยังสุกล่าช้ากว่าพื้นที่ภาคอื่นๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผลผลิตมะม่วงของภาคอื่นๆ หมดไปแล้ว ทำให้ผลผลิตมะม่วงในจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ต้องการของผู้ค้าและผู้ส่งออก จึงเป็นโอกาสทองของเกษตรกรชาวสวนมะม่วงที่จังหวัดเชียงใหม่ จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ทราบว่า มีพื้นที่ปลูกมะม่วง ประมาณ 78,000 ไร่ เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง 16,375 ราย โดยมีพื้นที่ปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออก ประมาณ 45,000 ไร่ กระจายอยู่ใน 15 อำเภอ ปริมาณผลผลิตเพื่อการส่งออกกว่า 35,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 300-600 ล้านบาท เกษตรกรได้รวมกันเป็นเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมดำเนินการผลิต การควบคุมคุณภาพผลผลิตของสมาชิก และร่วมกันทำการตลาดกับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ โดยมีกลุ่มเกษตรกรชาวสวนมะม่วง รวม 15 กลุ่ม เพื่อทำกิจกรรมช่วยเหลือสมาชิกในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีการรวมต
“เมื่อตลาดมะม่วงเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่คนชอบรับประทานผลไม้ มีรายได้จากลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทั้งใส่ใจทุกขั้นตอนรายละเอียด ทำให้กลุ่มลูกค้ามีความพึงพอใจ และเน้นคุณภาพความเป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค” คุณธิดาพร ศรีพูล แม่ค้าหน้าใส เล่าถึงงานขายมะม่วง คุณธิดาพร มีร้านจำหน่ายมะม่วง ตั้งอยู่เลขที่ 232/60 หมู่ที่ 12 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เล่าถึงแรงจูงใจ ก่อนที่จะประสบความสำเร็จ เริ่มแรกมีอาชีพเป็นชาวสวน ซึ่งก็เป็นสวนมะม่วงอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์ บนเนื้อที่กว่า 250 ไร่ ส่วนใหญ่จำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการราคาขายส่ง สำหรับความพิเศษของร้านขายมะม่วงที่นี่จะแตกต่างจากร้านทั่วๆ ไป เนื่องจากมะม่วงของทางร้านจะมีวางจำหน่ายตลอดทั้งปี ถึงแม้บางครั้งอาจจะไม่มีผลผลิตจากทางสวนก็ตาม แต่สามารถนำมะม่วงจากสวนที่รู้จักกัน ซึ่งอยู่ในรูปแบบของเครือข่ายสัมพันธ์กัน มาจากการทำงานร่วมกันยาวนานกว่า 20-30 ปี มาวางขายที่ร้าน และสายพันธุ์หลักที่ได้วางขายส่วนใหญ่แล้วเป็นมะม่วงสายพันธุ์น้ำดอกไม้ ที่มีการแบ่งไปตามเกรด ไปจนถึงเกรดเฉพาะที่สำหรับส่งออกไปยังนอกประเทศอีกด้ว
มะม่วงน้ำดอกไม้ (GI) คลองมิตรสัมพันธ์ จ.สระแก้ว มาตรฐาน GAP การันตีคุณภาพและความอร่อยสู่ผู้บริโภค นายเทพ มุ้งแก้วกลาง ประธานกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงคลองมิตรสัมพันธ์ อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า เกษตรกรในพื้นที่บ้านคลองมิตรสัมพันธ์ หมู่ 15 ต.หนองหว้า อ. เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว แต่ก่อนประกอบอาชีพเพาะปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง เป็นหลัก แต่เนื่องจากประสบปัญหาโรคแมลงศัตรูพืชระบาด ผลผลิตต่อไร่ต่ำ และปัญหาราคาผลผลิตไม่แน่นอน ขายผลผลิตได้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน จึงปรับเปลี่ยนจากทำพืชไร่มาเป็นสวนมะม่วงแทน ในปี 2563 ได้มีการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่มะม่วงคลองมิตรสัมพันธ์ อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว สมาชิกจำนวน 30 ราย พื้นที่การปลูกจำนวน 750 ไร่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อรองทางตลาด ปัจจุบันมีการพัฒนาผลผลิตให้ได้รับมาตรฐาน GAP แล้วจำนวน 20 ราย โดยปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สระแก้ว ซึ่งเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของสระแก้ว จำนวน 17 ราย เนื่องจากลักษณะดินในพื้นที่การปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สระแก้วจะเป็นดินร่วนเหนียวปนกรวดลูกรัง หรือดินเหนียวปนกรวดลูกรัง มี
คุณสุวิทย์ คุณาวุฒิ มีอาชีพทำสวนมะม่วงมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ ที่อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อมาปี 2528 ได้เข้ามาซื้อที่ทำสวนมะม่วง จำนวน 35 ไร่ ที่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 9 ตำบลหัวสำโรง อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากนั้นได้มีการขยายสวนจนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ประมาณ 250 ไร่ และเข้าสู่ระบบ GAP ตั้งแต่ พ.ศ. 2547 “ทำมะม่วงมาตั้งแต่เกิด รุ่นที่สองแล้ว พ่อแม่ทำมาก่อน เกิดมาก็อยู่กับมะม่วงเลย” คุณสุวิทย์ บอก ใจจริงคุณสุวิทย์อยากขยายสวนมากกว่านี้ แต่ภรรยาห้ามไว้ก่อน ที่สวนนี้ปลูกมะม่วงหลายพันธุ์ แต่จะปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเป็นส่วนใหญ่ ประมาณ 150 ไร่ ส่วนพื้นที่เหลือก็ปลูกมะม่วงสายพันธุ์อื่นๆ คละเคล้ากันไป “ถ้าพูดถึงเรื่องพันธุ์มะม่วง คุณสุวิทย์ บอกว่า ตอนนี้ที่มาแนวหน้า สำหรับตลาดส่งออก ต้องเป็นน้ำดอกไม้สีทอง ส่วนตลาดภายใน มะม่วงขายตึก” คุณสุวิทย์ กล่าว ราดสารเมื่อไร ที่สวนคุณสุวิทย์ จะเริ่มราดสารช่วงเดือนพฤษภาคม ใส่ปุ๋ย ตัดแต่งกิ่ง ตามลำดับ โดยจะไม่ทำทั้งหมด จะใช้วิธีทยอยทำ โดยตั้งเป้าหมายไว้กี่ไร่ ก็ราดสารเท่านั้น ราดสารตามอัตราที่มีแนะนำและบวกเพิ่มตามสูตรของตัวเองอีกนิดหน่อย วิ
จังหวัดฉะเชิงเทราหรือเมืองแปดริ้ว มีวัดหลวงพ่อโสธรที่โด่งดังเป็นที่นับถือสักการะของผู้คนทั่วประเทศแล้ว เมืองแปดริ้วยังมีชื่อเสียงด้านการผลิตมะม่วงที่มีคุณภาพ ด้วยรสชาติที่หวานหอมและเนื้อนุ่ม ทั้งมะม่วงสุกหรือดิบ ทำให้ครองใจตลาดผู้บริโภคมาช้านาน แถมยังส่งไปขายต่างประเทศได้ในปริมาณที่สูงอีกด้วย หลายคนสงสัยว่า “ทำไม…มะม่วงแปดริ้ว จึงมีชื่อเสียงและขายได้” ก่อนอื่นควรรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับภาพรวมการผลิตมะม่วงของไทยเสียก่อน มะม่วงน้ำดอกไม้ ไทยมีมะม่วงพันธุ์ดีมากมาย ประเทศไทยมีมะม่วงหลากหลายสายพันธุ์ทั้งเก่าและใหม่ ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษก็ปลูกมะม่วง พันธุ์อกร่อง พิมเสน ขายตึก ซึ่งสายพันธุ์เหล่านี้ในปัจจุบันได้รับความนิยมน้อยลง และบางพันธุ์หายไป หรือบางพันธุ์มีการนำมาปรับปรุงใหม่ เช่น พันธุ์ขายตึก หรืออย่างพันธุ์อกร่องที่พยายามนำกลับมาทำใหม่เพื่อให้ออกนอกฤดู แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมะม่วงในฤดูมีปริมาณมาก ทำให้ราคาตก อย่างไรก็ตาม หากสามารถทำได้ก็จะประสบความสำเร็จเรื่องราคา เพราะเป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว มะม่วงสายพันธุ์ยอดนิยมคือ น้ำดอกไม้ ยังคงครองแชมป์ทั้งขายภายในและส่งออกไปต่างประ
นางเพ็ญศิริ วงษ์วาท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 3 อุดรธานี (สศท.3) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันจังหวัดอุดรธานีเป็นแหล่งผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองส่งออกอันดับ 1 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีพื้นที่ปลูกจำนวนมาก มีระบบการปลูกที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ส่งผลให้มะม่วงมีคุณภาพสูง เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น เกาหลี จีน ลาว มาเลเซีย เวียดนาม เมียนมา และกัมพูชา คาดการณ์ปี 2564 ส่งออกผลผลิตประมาณ 1,800 ตัน/ปี จึงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดที่ต้องเร่งการขยายตลาดส่งออกให้เพิ่มมากขึ้น จากการติดตามสถานการณ์การผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง จังหวัดอุดรธานี พบว่า มีพื้นที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองประมาณ 6,300 ไร่ ให้ผลผลิตรวม 6,000 ตัน/ปี ผลผลิตเฉลี่ย 900 – 1,000 กิโลกรัม/ไร่ แหล่งผลิตสำคัญอยู่ในอำเภอหนองวัวซอ และกระจายอยู่ในอำเภอน้ำโสม วังสามหมอ กุมภวาปี ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ปลูก 658 ราย ส่วนใหญ่มีการรวมกลุ่มผลิตในรูปแบบแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกร ราคาต้นพันธุ์อยู่ที่ 30 – 60 บาท/ต้น เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกมะม่วงนอกฤดูเพื่อส่งออก เนื่