ราคาข้าว
ฮือฮาโรงสี-ส่งออกข้าว แปลงร่างเข้าประมูลสต๊อกข้าวรัฐที่มิใช่อาหารคน มาหมดทั้ง “กลุ่มแสงฟ้า-สิงห์โตทอง” ขอใบ รง.4 ตั้งโรงงานอาหารสัตว์-ปุ๋ย ลุ้นรัฐเคาะขาย 2.12 ล้านตัน ให้เอกชน 16 ราย มูลค่า 11,000 ล้านบาท นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศเปิดให้เอกชนยื่นซองราคาเสนอซื้อข้าวสารในสต๊อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนครั้งที่ 2/2560 ปรากฏมีผู้มายื่นเสนอราคาซื้อสูงสุด 16 ราย จากที่ยื่นเสนอราคาทั้งหมด 21 ราย รวมปริมาณข้าว 2.12 ล้านตัน หรือคิดเป็น 96.36% ของข้าวสารทั้งหมดที่นำมาเปิดประมูล 2.2 ล้านตัน มูลค่ารวม 11,465.7 ล้านบาท “ผู้เข้าประมูลยื่นระดับราคาเสนอซื้อตั้งแต่ตันละ 2,000 บาทไปจนถึง 6,730 บาท หรือเฉลี่ยตันละ 4,000-5,000 บาท สูงกว่าการประมูลข้าวชนิดนี้ในรอบที่ผ่านมา หลังจากนี้กรมจะเสนอผลสรุปการพิจารณาต่อที่ประชุมคณะทำงานระบายข้าวกับคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ก่อนเสนอประธานคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าวพิจารณาอนุมัติต่อไป” นายกีรติกล่าว แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวตั้
แหล่งข่าวจากสมาคมโรงสีข้าวไทยเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาข้าวเปลือกเหนียวในฤดูกาลผลิตนาปรัง ปี 2560 (ณ 12 มิ.ย.) เกี่ยวสดปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ตันละ 6,600-6,700 บาท ข้าวแห้งตันละ 9,200 บาทจากปีก่อนที่ราคา 14,000-14,500 บาท ส่วนราคาข้าวสารเหนียว 10% อยู่ที่ตันละ 15,500-17,500 บาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่ต่ำมากเทียบเท่ากับราคาปลายข้าวเหนียว เอวันเลิศของปีนี้ จากปกติราคาข้าวเหนียวจะสูงกว่าปลายข้าว และต่ำกว่าราคาช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ตันละ 27,000-28,000 บาท หรือลดลงตันละ 10,500-11,500 บาท และราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ตันละ 490 เหรียญสหรัฐ จากปีก่อนที่ 550 เหรียญสหรัฐ “สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากปีก่อนราคาข้าวเหนียวเพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ชาวนาภาคอีสานปลูกเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ผลผลิตที่ออกมาจึงมีราคาต่ำลงในปีนี้ น่าห่วงว่าราคาข้าวเหนียว กข.6 หรือข้าวเหนียวนาปีที่จะออกช่วงปลายปีจะลดลงตามหรือไม่ โดยปัจจุบันราคาข้าวเหนียว กข.6 ยังทรงตัวที่ตันละ 21,000-22,000 บาท ดังนั้นรัฐบาลอาจต้องมีมาตรการมาดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวซึ่งเป็นข้าวชนิดเดียวที่ปรับตัวลดลงสวนทางกับข้าวอื่นๆ̶
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั่วประเทศ พบว่า ขณะนี้ในภาคกลางมีการเพาะปลูกไปทั้งสิ้นประมาณ 15% ของพื้นที่ทั้งหมดและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) เพาะปลูกเพียง 5% ของพื้นที่ทั้งหมดจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าทั้งปีผลผลิตจะออกมาตามเป้าหมายคือ 29.5 ตันข้าวเปลือก ทั้งนี้การออกสำรวจพื้นที่เพราะปลูกตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจาก กระทรวงเกษตรหวั่นว่าช่วงปลายปีผลผลิตภาคกลางและภาคอีสานจะออกมาชนกันประมาณ 14 ตันข้าวเปลือก ซึ่งอาจจะกระทบต่อราคาผลผลิตเหมือนช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา น.ส.ชุติมา กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ผลผลิตการเพาะปลูกในปี 2560/61 ราคาตลาดข้าวโดยรวมน่าจะดีกว่าปี 2559/60 เนื่องจากปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาข้าวทั้งในเรื่องสถานการณ์ตลาดโลกที่ผลผลิตในปีนี้คาดว่าจะไม่เกินความต้องการบริโภคทั่วโลก ส่งผลให้สต็อกของทั่วโลก ไม่มากจนส่งผลกระทบให้ราคาข้าวตกต่ำอย่างปีที่ผ่านๆมา ส่วนสถานการณ์ธรรมชาติในเรื่องฝนแล้งหรือน้ำท่วมในเบื้องต้นปีนี้แมสปริมาณฝนจะมีมากกว่าปีก่อนหน้าแต่จากนี้ต่อไปฝนทิ้งช่วงและหากเป็นการทำนารอบต่อๆไปอาจไม่สามา
นับเป็นระยะเวลา 3 ปีมาแล้วที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องแบกภาระสต๊อกข้าวสารจากโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ด้วยปริมาณสต๊อกที่สูงถึง 18 ล้านตัน หรือเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของปริมาณการค้าข้าวในตลาดโลกในแต่ละปีที่มีปริมาณอยู่ระหว่าง 40-41 ล้านตัน โดยสต๊อกข้าวไทยดังกล่าวไม่เพียงสร้างภาระงบประมาณในการเก็บรักษาข้าวเดือนละ 1,000 ล้านบาทให้กับรัฐบาล แต่ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดข้าวในโลกมาอย่างต่อเนื่องด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้พยายามระบายข้าวในสต๊อกออกมาอย่างต่อเนื่อง จนขณะนี้สามารถระบายข้าวออกไปได้ประมาณ 13 ล้านตัน คงเหลือข้าวในสต๊อกอยู่ระหว่าง 5-6 ล้านตันเท่านั้น ส่งผลให้ทิศทางราคาข้าวในตลาดโลกเริ่มปรับตัวดีขึ้น สต๊อกข้าวจำนำใกล้หมด ที่ประชุม“ThailandRice Convention 2017” (TRC 2017) เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงอนาคตของข้าวไทยด้วยการให้มองภาพว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดนี้ได้มุ่งเน้นการระบายสต๊อกข้าวออกไปได้มากถึง 13 ล้านตัน มูลค่า 100,000 ล้านบาท จากจำนวนสต๊อกโครงการรับจำนำข้าวที่รับมาจากรัฐบา
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมชลประทาน ร่วมกับกรมการข้าว เร่งสำรวจผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมและฝนตกชุกในช่วงนี้ อาจกระทบต่อผลผลิตมากกว่าที่เคยประมาณการไว้ ปี 2560/61 จะมีปริมาณข้าวออกสู่ตลาดประมาณ 29 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งหากมีปริมาณน้ำฝนในปีนี้มีมาก ส่งผลให้ผลผลิตมีมากกว่าประมาณการ อาจกระทบต่อการบริหารจัดการในช่วงปลายฤดูกาล และในวันที่ 2 มิถุนายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ในฐานะอนุกรรมการกำกับติดตามแผนการผลิตและตลาดข้าวครบวงจร ได้เชิญประชุม เพื่อประเมินสถานการณ์ผลผลิตข้าวทั้งปี ซึ่งจะร่วมกันประเมินสถานการณ์ข้าวก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานต่อไป แหล่งข่าวจากกรมการข้าวกล่าวว่า ผลผลิตข้าวปี 2560/61 คาดว่ามีการปลูกข้าว 66.69 ล้านไร่ ผลผลิต 29.50 ล้านตันข้าวเปลือก เป็นข้าวหอมมะลิ 23.68 ล้านไร่ ผลผลิต 8.07 ล้านตัน ข้าวหอมจังหวัด 3.29 ล้านไร่ ผลผลิต 1.39 ล้านตัน ข้าวหอมปทุม 1.46 ล้านไร่ ผลผลิต1 ล้านตัน ข้าวเจ้า 20.55 ล้านไร่ ผลผลิต 12.20 ล้านตัน ข้า
นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้เสนอผลการพิจารณาระบายข้าวกลุ่ม 3 หรือข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มิใช่คนและสัตว์บริโภค ซึ่งเปิดประมูลไปเมื่อวันที่ ให้กับประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาและได้อนุมัติขายให้กับเอกชนจำนวน 10 ราย ใน 81 คลัง ปริมาณ 5 แสนตัน จากทั้งหมดที่นำมาเปิดประมูล 1.03 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1,523 ล้านบาท ทั้งนี้ การอนุมัติขายข้าวเสื่อมเข้าสู่อุตสาหกรรม เนื่องจากทางคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ซึ่งมีน.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานพิจารณาแล้ว และได้กำหนดเกณฑ์ราคาที่จะอนุมัติขายให้กับผู้เสนอซื้อในราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 2,000 บาท เพราะการเสนอซื้อข้าวเสื่อมรอบนี้ มีการเสนอซื้อหลากหลายราคา โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ตันละ 500 บาท จึงต้องกำหนดเกณฑ์ขึ้นมา ส่วนที่เสนอต่ำกว่าก็ไม่อนุมัติขาย อย่างไรก็ตาม หากนับรวมการอนุมัติขายข้าวเสื่อมเข้าสู่อุตสาหกรรมรอบนี้ จะทำให้ตั้งแต่ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศในช่วง 3 ปี สามารถระบายสต๊อกรัฐบาลออกไปได้แล้ว 12.74 ล้านตัน มูลค่า 1.14 แสนล้านบาท สำหรับการ
พาณิชย์มั่นใจราคาข้าวปีนี้ดีขึ้นแน่นอน ส่วนจะถึง 1 หมื่นบาท/ตัน หรือไม่ต้องดูหลายปัจจัย แต่เชื่อว่าดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน พาณิชย์พร้อมช่วยหาตลาดและคุยกับกระทรวงเกษตรฯ หาทางลดต้นทุนทั้งเรื่องปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชาวนาอีกทาง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวในงาน “ตัดสินและมอบรางวัลการประกวดข้าวหอมมะลิของประเทศ การประกวดข้าวตราคุณภาพดีเด่น ประจำปี 2560 และการประกาศเกียรติคุณข้าวหอมมะลิบรรจุถุงที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ” ว่า ทิศทางราคาข้าวในปีนี้พาณิชย์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่จะถึง 10,000 บาท ต่อตัน หรือไม่นั้นต้องดูจากหลายปัจจัย แต่เชื่อว่าแนวโน้มและทิศทางน่าจะดีขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้พาณิชย์หารือกับกระทรวงเกษตรฯ และสหกรณ์หาช่องทางในการลดต้นทุนการปลูกข้าว ทั้งเรื่องปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ หรือผู้ประกอบการต่างๆ ลดราคาสินค้าเพื่อลดต้นทุนการเพาะปลูกข้าวได้ ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ก็จะหาแนวทางหรือมาตรการผลักดันราคาข้าวให้ปรับสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ดูเรื่องของตลาด หรือความต้องการของผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว แต่ต้องหามาตรการที่จะช
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีนโยบายยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรสู่ความยั่งยืนโดยกำหนดให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรผ่านการดำเนินงาน 3 โครงการหลักต่อเนื่องกัน 5 ปี (2560-2564) งบประมาณรวม 25,871.14 ล้านบาท คือ โครงการส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี โครงการส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ และโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ในปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ส่งเสริมระบบเกษตรแปลงใหญ่ทั่วประเทศ โดยมีเกษตรแปลงใหญ่ที่ปลูกข้าวรวม 425 แปลงเนื้อที่ 1.05 ล้านไร่ และส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิได้ดำเนินแล้วใน 21 จังหวัด ครอบคลุมเกษตรกรกว่า 64,000 ครัวเรือน ๆ ละไม่เกิน 125 กิโลกรัม (กก.) ส่วนการปลูกข้าวอินทรีย์มีแหล่งผลิตข้าวที่ได้รับการรับรองแล้วใน 47 จังหวัด จำนวน 5,362 แปลง พื้นที่รวม 60,056 ไร่ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งรัดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ในปี 2560 โดยเพิ่มพื้นที่เป็น 750 แปลง เนื้อที่เพิ่มขึ้นอีก 0.75 ล้านไร่ พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพดีใน 21 จังหวัด พ
ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศและเป็นอาชีพหลักที่สำคัญของเกษตรกรไทย รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้มีนโยบายในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวและรายได้ของชาวนาไทย โดยจัดทำแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการการผลิตข้าวของชุมชน ให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลปยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงเกษตรฯจึงได้จัดทำแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปี 2560/61ขึ้น ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้มีมติเห็นชอบไปเมื่อเร็วๆนี้ โดยแผนดังกล่าวประกอบด้วยรวม 3 โครงการ โดยมีระยะดำเนินการ 5 ปี (2560-2564) เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 25,871 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี ปี 2560 โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเกษตรกรในพื้นที่ 21 จังหวัด ซึ่งเป็นเกษตรที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์) ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีจาก
ส.เซอร์เวเยอร์โอด ติดบ่วงจำนำข้าวเจอปัญหา 3 เด้ง รัฐบี้ฟ้องอาญาพ่วงคดีแพ่งนับ 10,000 คดี เตรียมไล่เบี้ยค่าเสียหายจำนำข้าว-ค่าส่วนต่างขายข้าวขาดทุนนับ 1 แสนล้าน ด้าน อคส. และ อ.ต.ก.ปัดจ่ายค่าจ้าง 2 ปี แบงก์ตัดเครดิตจ่อเจ๊งรมยาไม่ได้ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2560 นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ระบุว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบคดีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว 986 คดี และลงนามคำสั่งส่งรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาให้หน่วยงานในสังกัด ทั้งในส่วนขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เบื้องต้น รวม 158 คน และภาคเอกชน 144 คน ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของคลังที่รับผิดชอบในโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/2557 และกลุ่มเซอร์เวเยอร์ที่รับผิดชอบในโครงการรับจำนำข้าวเก่าปี 2556/2557 รวม 302 คน หลังจากนี้ยังมีการตรวจสอบขยายผลเพิ่มก่อนสรุปในเดือนมิถุนายนคาดว่าคดีนี้มีมูลค่าความเสียหาย 115,000 ล้านบาท นางมณฑาทิพย์ ไวยวรรณะ นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบสินค้าเกษตรไทย (เซอร์เวเยอร์) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาคมได้ก่อตั้งมาเป็น