ราคาข้าว
ธ.ก.ส.ใกล้ปิด “จำนำยุ้งฉาง” ข้าวไหลเข้าโครงการแค่ 1 ล้านตันข้าวเปลือกเชื่อชาวนาไถ่ถอนกว่า 7 แสนตัน วงการค้าข้าวชี้ราคาข้าวอยู่ช่วงขาลง เหตุข้าวเวียดนามออกสู่ตลาดส่งผลข้าวไทยแข่งราคาหนัก หลังรัฐเปิดประมูลขายข้าว 2.8 ล้านตัน ผู้ส่งออกเสนอราคาซื้อต่ำมาก ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รายงาน ครม. เพื่อรับทราบความคืบหน้าการดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 2559/2560 ณ เดือนมกราคม 2560 ในส่วนสถานการณ์ด้านการตลาดปรากฏ มาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกที่ความชื้น 15% (30 ม.ค. 2560) ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนดำเนินโครงการ (15 พ.ย. 2559) โดยข้าวหอมมะลิ เพิ่มขึ้น 500-1,700 บาท/ตัน, ข้าวหอมมะลิ เพิ่มขึ้น 1,000-1,200 บาท/ตัน, ข้าวเหนียวคละ 1,100-2,000 บาท/ตัน, ข้าวเจ้า 5% 100-500 บาท/ตัน และข้าวปทุมธานี 200-400 บาท/ตัน เป็นผลมาจากการดำเนินโครงการ 4 โครงการ สามารถดึงอุปทาน (ปริมาณ) ข้าวเปลือกออกไปแล้ว ประมาณ 5.099 ล้านตัน หรือคิดเป็น 37.77% จากเป้าหมาย 13.5 ล้านตัน แบ่งเป็น 1) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้
กระทรวงเกษตรฯ คาดปีนี้ข้าวราคาใกล้เคียงกับปีที่แล้วเพราะผลิตใกล้เคียงหรืออาจมากกว่าปีที่แล้ว เฉพาะนาปรังเกินเป้าถึง 1 ล้านไร่ ชี้ซ้ำรอยปีที่แล้วอาจราคาตกจนชาวนาต้องขายข้าวเอง พร้อมประสานพาณิชย์เร่งหาตลาดรองรับ พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อเดินหน้าวางแผนการทำตลาดข้าว โดยให้กระทรวงพาณิชย์มุ่งหาตลาดส่งออกข้าวเพิ่ม เพื่อรับมือผลผลิตข้าวล้นตลาดส่งผลให้ราคาตกต่ำอีกปี หลังจากสำรวจพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังทั่วประเทศ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 พบพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังลุ่มเจ้าพระยาและลุ่มแม่กลอง จำนวน 6.57 ล้านไร่ สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2.57 ล้านไร่ แต่พื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศมีประมาณ 8 ล้านไร่ จากเป้าหมายที่วางไว้ 6.93 ล้านไร่ หรือสูงกว่าเป้า 1 ล้านไร่ “พื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศในฤดูนาปรัง น่าจะเป็นสัญญาณให้เห็นว่า ข้าวผลผลิตปี 2560/61 ที่จะถึงน่าจะมีผลผลิตใกล้เคียงปีก่อน ที่ผลผลิตออกมามากจนทำให้ชาวนาต้องออกมาขายข้าวเองเพราะราคาตกต่ำ แต่กระทรวงเกษตรฯ จะพยายามรักษาเป้าหมายให้ใกล้เคียงปีก่อน ซึ่งการปลูกข้าวขอ
โรงสีขาดสภาพคล่องหนัก ถูกแบงก์กรุงไทยเข้มงวดปล่อยเงินกู้แพ็กกิ้งสต๊อก-ตั๋ว P/N หลังพบ NPL พุ่ง จากวงเงิน 70,000 ล้านบาท หวั่นขาดเงินซื้อข้าวนาปรังที่จะออกสู่ตลาด 3 เดือนนี้อีก 9 ล้านตันข้าวเปลือก ด้านนายก ส.โรงสีข้าว ดิ้นทำหนังสือถึงพาณิชย์-คลัง ขอให้ช่วยแก้ปัญหา หากแบงก์ยังไม่ปล่อยกู้ หนี้ดีที่มีอยู่ก็จะกลายเป็นหนี้เสียทั้งหมด โรงสีข้าว หนึ่งในกลไกสำคัญของอุตสาหกรรมข้าวครบวงจรในประเทศ กำลังตกอยู่ในสถานะลำบาก เมื่อสถาบันการเงินในประเทศหันมาใช้มาตรการเข้มงวดในการปล่อยกู้ ส่งผลให้โรงสีขาดสภาพคล่องในการซื้อข้าวเปลือกนาปรังและมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบถึงราคาข้าวเปลือก โรงสีขาดสภาพคล่อง นายเกรียงศักดิ์ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาคมได้ประสานกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ขอทราบความชัดเจนหลัง สมาคมโรงสีได้ทำหนังสือถึง น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ขอให้ช่วยแก้ปัญหาธนาคารกรุงไทยปรับเปลี่ยนนโยบายการให้และใช้วงเงินชนิดตั๋วระยะสั้น (ตั๋ว P/N) หรือแพ็กกิ้งสต๊อก (ตั๋ว P/N) ที่เคยให้กับผู้ประกอบการโรงสีข้าว “ลดลง” โดยไม่แจ้
ถึงแม้ว่า “ปากีสถาน” จะเป็นหนึ่งในประเทศผู้ส่งออกข้าวเช่นเดียวกับหลาย ๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ภัยธรรมชาติที่ผ่านมาทั้ง “อุทกภัย” และ “ภัยแล้ง” ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างอยู่ไม่น้อย ไม่เพียงแต่สร้างความเดือดร้อนต่อรายได้จากการส่งออกที่ลดลงแล้ว ยังลุกลามไปถึงผู้บริโภคในประเทศด้วย เดอะ นิวส์ สำนักข่าวท้องถิ่นของปากีสถานรายงานว่า ก่อนหน้านี้ รัฐบาลปากีสถานตั้งเป้าส่งออกข้าวประจำปี 2016-2017 เพิ่มเป็น 4.5 ล้านตัน ซึ่งคาดหวังว่าจะทำรายได้ให้กับประเทศได้ถึง 2,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำสั่งซื้อจากประเทศซาอุดีอาระเบียและอาเซอร์ไบจาน โดยปีที่ผ่านมารัฐบาลซาอุฯ ได้นำเข้าข้าวจากปากีสถานที่ 1.6 ล้านตัน ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมข้าวของปากีสถาน คาดการณ์ว่าปีนี้ยอดการสั่งข้าวจากประเทศอิหร่าน ไนจีเรีย และบังกลาเทศ อาจลดลงเพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตามตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา ยังถือว่าเป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญต่อปากีสถาน รวมทั้งผู้ส่งออกอื่น ๆ อย่างประเทศไทย เวียดนาม และอินเดีย สำนักงานสถิติแห่งชาติปากีสถาน (PBS) เผยว่าช่วงเดือน ก.ค.
ปี 2559 ถือเป็นปีที่หนักหนาสาหัสของชาวนาอีกครั้ง เมื่อราคาข้าวหอมมะลิทรุดฮวบในรอบ 10 ปี ราคาข้าวเปลือกบางแห่งเหลืออยู่เพียงกิโลกรัมละ 5 บาทเท่านั้น จากเดิมที่เคยขายกิโลกรัมละ 9-10 บาท แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ฤดูการผลิต 2559 ถึง 2560 รวมถึงข้าวหอมมะลิ โดย ธ.ก.ส.รับจำนำตันละ 9,500 บาท รวมกับค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพตันละ 2,000 บาท และค่าขึ้นยุ้งเก็บรักษาตันละ 1,500 บาท รวมเป็น 13,000 บาท ก็ถือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราวเท่านั้น ปีนี้จึงเกิดปรากฏการณ์ชาวนาออกมาดิ้นรนขายข้าวตรงถึงมือผู้บริโภคเองจำนวนมากจากเดิมที่ขายข้าวเปลือกให้กับพ่อค้าหรือโรงสีก็หันมาสีข้าวขายเองโดยใช้โรงสีชุมชนโดยเดินสายเข้ากรุงเทพฯตระเวนขายตามจุดต่าง ๆ ที่ภาครัฐและเอกชนจัดขึ้น ครั้งแรกสีข้าวขายตรงคนกรุง ทีมข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” สำรวจจุดจำหน่ายข้าวสารที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดขึ้น ในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่าชาวนาส่วนใหญ่มาจากภาคอีสาน บรรทุกข้าวหอมมะลิจากหลายจังหวัด เช่น สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และภาคอื่น ๆ
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่ จ.ชัยนาท หลายรายเร่งทำการเก็บเกี่ยวข้าวในนาเพื่อส่งขายเข้าโรงสี ที่ในสัปดาห์นี้มีการปรับราคารับซื้อขึ้น ทำให้รถเกี่ยวข้าวแต่ละรายมีชาวนาจองคิวเกี่ยวข้าวเต็มตลอดสัปดาห์ โดยเมื่อตรวจสอบราคารับซื้อข้าวกับโรงสีหลายแห่งพบว่าได้มีการปรับราคารับซื้อขึ้น จากเดิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรับซื้อที่ตันละ 6,200 บาท ในสัปดาห์นี้ประกาศราคารับซื้อข้าวเปลือกความชื้นไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นอยู่ที่ 7,700 บาทต่อตัน เจ้าหน้าที่รับซื้อข้าวเปลือกของโรงสีธนสรรไรซ์ ใน ต.คุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้ข้าวเปลือกของชาวนาเริ่มมีปริมาณที่ป้อนเข้าโรงสีน้อยลง ทำให้ราคามีการปรับขึ้นตามกลไกตลาด หรือดีมานด์ซัพพลาย ประกอบกับความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวของรัฐบาลเริ่มมีออกมาชัดเจนมากขึ้น ทำให้โรงสีกล้าที่จะรับซื้อข้าวเปลือกในราคาที่สูงขึ้นได้ ประกอบกับระยะนี้ไม่มีฝนตกลงมาทำให้คุณภาพข้าวอยู่ในเกณฑ์ที่จะรับซื้อราคาสูงได้ ซึ่งในราคาปัจจุบัน ถ้าความชื้นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ไม่มากนัก ก็จะได้รับเงินค่าข้าวประมาณตันละ 7,200-7,500 บาท ส
วันที่ 17 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนันต์ มหัจฉริยพันธุ์ สหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดรับซื้อข้าวเปลือกของสหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด เพื่อติดตามผลการรวบรวมรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกของสหกรณ์ เพื่อหารือแนวทางการเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือชาวนาจังหวัดพิษณุโลก และโครงการตลาดนัดข้าวเปลือกปีการผลิต 2559/60 ณ สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด (สาขาที่ 1) หมู่ที่ 4 ตำบลหอกลอง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก นายอนันต์ กล่าวว่า สหกรณ์การเกษตรพรหมพิราม จำกัด เป็นสหกรณ์ที่มีศักยภาพสูงในการรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือกจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป โดยสหกรณ์มีแผนการรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือก ปีการผลิต 2559/60 (1 เมษายน 2559- 31 มีนาคม 2560 ) จำนวน 10,000 ตัน มีปริมาณการรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือก เดือนพฤศจิกายน 2559 จำนวน 199.97 ตัน ซึ่งที่ผ่านมา สหกรณ์มีนโยบายด้านการส่งเสริมให้เกษตรกรสมาชิกปลูกข้าวคุณภาพและรับซื้อผลผลิตข้าวเปลือกในราคาที่เป็นธรรม เพื่อสร้างกลไกตลาดรับซื้อข้าวเปลือกให้กับเกษตรกรสมาชิก ให้ได้รับความเป็นธรรมไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง ซึ่งในขณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ได้มีเกษตรกรทย
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่กระทรวงแรงงาน พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังรับส่งมอบข้าวสารจากชาวนาถึงผู้ประกอบการว่า ตามที่กระทรวงแรงงานจัดโครงการ “จากชาวนาถึงแรงงาน” โดยได้ขอความร่วมมือสถานประกอบการรับซื้อข้าวจากชาวนาเพื่อเป็นสวัสดิการแก่ลูกจ้างนั้น ล่าสุดกระทรวงมีการส่งมอบข้าวจากกลุ่มเกษตรกรให้กับสถานประกอบกิจการที่ร่วมโครงการโดยตรง จำนวน 46.8 ตัน รวมเป็นเงิน 1,547,345 บาท แบ่งเป็นข้าวจากกลุ่มสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตร (ธกส.) ศรีสะเกษ 35,400 กิโลกรัม เป็นเงิน 920,400 บาท เพื่อให้สถานประกอบการใน จ.ระยอง สมุทรปราการ และข้าวจากกลุ่มสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินบ้านดอกบัว จ.พะเยา 11,399 กิโลกรัม เป็นเงิน 626,945 บาท เพื่อให้สถานประกอบการใน จ.ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา และสมุทรปราการ “จากการดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 2-14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ประสานให้ชาวนาขายข้าวได้แล้วทั้งหมด 220 ตัน นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างประสานข้อมูลปริมาณข้าวจากกลุ่มเกษตรที่จะจำหน่าย 133 กลุ่ม ทั้งนี้หากเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรต้องการขายข้าวอีกขอให้ประสานมาได้ที่สำนักงาน
วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.อ.สวราชย์ แสงผล ผบ.กกล.รส.จ.หนองบัวลำภู พ.อ.ธนาวีนร์ วิชาชัย รอง ผบ.กกล.รส.จ.หนองบัวลำภู ได้นำกำลังทหาร จาก กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน จ.หนองบัวลำภู และกำลังทหารจาก ร.8 ขอนแก่น จำนวน 30 นาย มาช่วย นางละออ โอษฐสัตย์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ที่ 5 บ้านห้วยลึก ต.ลำภู อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ในการเก็บข้าวที่เกี่ยวแล้วจมน้ำลึกกว่าหนึ่งเมตร จนไม่เห็นยอดข้าว ซึ่งกำลังพลทหารได้นำเอาเรือท้องแบนออกไปลำเลียงข้าวพร้อมทั้งมัดฟ่อนข้าวขึ้นเรือ นำมาขึ้นกองไว้บนถนน เพื่อที่จะรอนำไปตากให้แห้งและสีต่อไป นางละออ กล่าวว่า เกี่ยวข้าวทิ้งไว้รอมัดและเก็บกองไว้รอสี แต่ไม่คิดว่าจะมีฝนตกและน้ำมาแรงขนาดนี้ จนท่วมนาข้าวมองไม่เห็นแม้กระทั่งยอดข้าวที่ยังไม่เกี่ยว ซึ่งมีที่นาอยู่ 13 ไร่ เกี่ยวไปแล้ว 10 ไร่ ถูกน้ำท่วมทั้งหมด ปีนี้ลงทุนไปประมาณ 20,000 กว่าบาท ราคาข้าวไม่ดี แต่ก็รู้สึกดีใจ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้ออกมาช่วยเหลือดูเก็บข้าวที่แช่น้ำในวันนี้และไม่ทอดทิ้งประชาชนที่กำลังลำบากจนทำอะไรไม่ถูก รู้สึกดีใจจนพูดอะไรไม่ถูก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พ.ต.อ.ร
ที่ จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 10.00 น.วันที่ 7 พ.ย.นี้ นายสุวัฒน์ พรมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดขายข้าวจากชาวนาสู่ผู้บริโภคโดยตรง ณ ตลาดทุ่งเกวียน ริมถนนพหลโยธินสายลำปาง-เชียงใหม่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยข้าวซื้อ3 แพค มีสิทธ์จับรางวัล ตู้เย็น พัดลม หม้อหุงข้าว ได้ด้วย นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ให้ชาวนารวมกลุ่ม ผลิตข้าว ประชารัฐหาลูกค้า หรือออเดอร์ให้ ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ขายได้ขอแบ่งปันกำไร 2-5 เปอร์เซ็นต์ ชาวนาลำปางขายตรงให้คนลำปาง ที่เหลือค่อยขายตามตลาด จับแมทชิ่งคนซื้อคนขาย เหมือนพาณิชย์เอาสินค้าไปโรดโชว์จัดตลาดผู้ซื้อผู้ขายใน จ.ลำปาง จะมีการขายข้าวโดยตรงจากชาวนาถึงมือประขาชนโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ส่วนการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปสิ่งที่ต้องรู้ คือจำนวนกลุ่มที่ผลิตข้าวขาย ประเภทข้าวที่จะขาย ปริมาณข้าวที่จะมีขาย ราคาที่อยากขาย หน่วยงานไหนรับผิดชอบ นอกจากนั้น ภาครัฐ เอกชน โรงงาน ตลอดจนข้าราชการ พนักงาน ขอข้อมูล จำนวนข้าวที่ต้องการ ประเภทข้าว ราคาที่ซื้อ ส่งถึงที่หรือไปรับเอง เป็นต้น จะได้จำหน่ายขายข้าวตามต้องการ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวต่อไปว่า ให้ประชารัฐ