วช.
วันที่ 22 กรกฎาคม 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในการประชุมเรื่อง การอนุรักษ์พันธุกรรมพืชตามแนวพระราชดำริ : ประโยชน์แท้แก่มหาชน ในงาน อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน และมี แพทย์หญิง เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานบอร์ด สกสว. และ ศ.กิตติคุณ นายแพทย์ สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ผู้ทรงคุณวุฒิ วช. เข้าร่วมการประชุม โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวต้อนรับ ณ ห้องประชุม MR 209 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร นางสาวศุภมาส กล่าวว่า โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชตามแนวพระราชดำริ มีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความเข้าใจและเห็นคุณค่าของพันธุกรรมพืชของไทย สู่การนำไปใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ซึ่ง วช. เป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี ผ่านการสนับสนุนการวิจัยพัฒนาพันธุ์พืช การสำรวจพืชท้องถิ่น และส่งเสริมและสนับสนุนทุ
ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ และเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ในปี 2565 สถานการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างแรงงาน อันมีผลต่อรายได้ในอนาคต เนื่องจากแรงงานที่เกษียณอายุไม่มีรายได้ ต้องพึ่งพาลูกหลาน ส่งผลให้คนทำงานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าต้องมีภาระเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยังมีผู้สูงอายุอีกจำนวนมากขาดบุตรหลานพึ่งพิงและไม่มีเงินออมเพียงพอจะใช้ในการดำรงชีวิตบั้นปลาย ส่งผลต่อการใช้ชีวิต กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าว จึงมอบหมายภารกิจตามนโยบายสำคัญของ อว. ในยุทธศาสตร์ Quick Wins เรื่อง “เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง” ให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ดำเนินการสร้างกลไกการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมสูงอายุของประเทศไทย โดยคนเกษียณหรือผู้สูงอายุควรได้รับโอกาสและสร้างแรงจูงใจในการเข้าสู่สังคมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาทักษะที่จำเป็นและพัฒนาศักยภาพในการทำงานที่เป็นที่ต้องการของตลาดงานในภาครัฐและภาคเอกชน หรือความต้องการในการทำงานให้ได้มีโอกาสเป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักง
วช. ตอบโจทย์สังคมสูงวัย ยกรางวัลการวิจัยแห่งชาติ ปี 67 ให้ “เครื่องคัดกรองผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพิ่มประสิทธิภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์” เครื่องคัดกรองผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพิ่มประสิทธิภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ ตอบโจทย์สังคมสูงวัย ตัวช่วยคัดกรองผู้ป่วยกระดูกพรุนในท้องถิ่น ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายสาธารณสุขของประเทศ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดแถลงข่าว “NRCT Talk : รางวัลการวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2567 ครั้งที่ 5” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนางานผลงานประดิษฐ์คิดค้น และเชิดชูเกียรตินักวิจัยไทย ในสาขาวิชาการต่าง ๆ ของประเทศชาติ ซึ่งครั้งนี้ ได้เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องคัดกรองผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนเพิ่มประสิทธิภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานการแถลงข่าวฯ ณ ศูนย์จัดการความรู้การวิจัย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. จัดกิจกรรม “NRCT Talk รางวัลการวิจัยแห่งชาติ รางวัลสิ่งประดิษฐ์คิดค้น ประจำปี 2567 ครั้งที่ 5” เพื่อเชิดชูผลงานที่มีความโ
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานโครงการบ่มเพาะวิศวกรสังคมด้วยวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ณ อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ได้สนับสนุนทุนวิจัย แก่มหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่งทั่วประเทศ ในการบ่มเพาะวิศวกรสังคมด้วยกระบวนการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อแก้โจทย์ปัญหาเชิงพื้นที่ โดยอาศัยแนวทางกระบวนการ “วิศวกรสังคม” โดย วช. สนับสนุนให้มีกระบวนการนำวิศวกรสังคมที่ผ่านการบ่มเพาะนำความรู้ไปพัฒนาพื้นที่ด้วยวิจัยและนวัตกรรม โดย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ได้เลือกประเด็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วยทักษะกระบวนการวิศวกรสังคมเพื่อนำความรู้มาพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยวิศวกรสังคมเข้ามามีส่วนร่วมกันพัฒนาโจทย์และการปฏิบัติงานร่วมกับท้องถิ่นได้อย่างมีส่วนร่วม เป็นต้นแบบที่ดีในการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ให้เกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไป ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ดำรงค์พันธ์ ใจห้าว วีระพงศ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช กล
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดการเสวนา เรื่อง “รู้ทันฝุ่น PM 2.5 เพื่อสุขภาพ ด้วยวิจัยและนวัตกรรม” โดย ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ (Hub of Talents on Air Pollution and Climate – HTAPC) ร่วมกับ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม (Hub of Environmental Health) ภายใต้โครงการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ณ ศูนย์สารสนเทศกลางด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อาคาร วช. 8 ดร.วิภารัตน์ กล่าวว่า เนื่องด้วยปัจจุบันปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจและรู้ทันต่อเหตุการณ์ วช. จึงได้นำองค์ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม ได้แก่ 1. การพยากรณ์/คาดการณ์ปริมาณ PM 2.5 2. การลด PM 2.5 จากแหล่งกำเนิด 3. การบรรเทาปัญหา PM 2.5 ทั้งด้านเศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศและสุขภาพอนามัย 4. การสร้างความรับรู้ข
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ หน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดงานฟอรั่มไม้มีค่า “สร้างเสน่ห์ชุมชนสีเขียว: Enchanting Green Community” เพื่อผลักดันให้เกิดการนำผลงานโครงการชุมชนไม้มีค่าไปสู่การใช้ประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมนี้ คณะผู้บริหาร วช. และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ให้การต้อนรับ และร่วมรับฟังบรรยายพิเศษ เรื่อง “ชุมชนไม้มีค่า เพิ่มป่า เพิ่มรายได้ให้ชุมชน” โดย ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนชุมชนไม้มีค่า และมีผู้บริหารจากหน่วยงานและสถาบันการศึกษาต่างๆ ผู้นำชุมชน นิสิต นักศึกษา และสื่อมวลชน ให้ความสนใจเข้าร่วมงานดังกล่าวจำนวนมาก ณ ห้อง World Ballroom ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวง อว. ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้แก่ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ มอบหมายให้ นายธีรวัฒน์ บุญสม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม, นายสมบูรณ์ วงศ์กาด ผู้ตรวจสอบทางวิชาการ วช. และกลุ่มสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เยี่ยมชมความก้าวหน้าโครงการวิจัย เรื่อง “การถ่ายทอดเทคโนโลยีการแปรรูปโคเนื้อเพื่อเพิ่มรายได้กลุ่มเกษตรกรต้นแบบชายแดนใต้” ดำเนินการโดย ดร.รุ่ง แก้วแดง ประธานมูลนิธิสุข–แก้ว แก้วแดง ระหว่างวันที่ 15 – 16 มิถุนายน 2566 โดยมี รศ.ดร.ก้าน จันทร์พรหมา ประธานเครือข่ายวิจัยภูมิภาค : ภาคใต้ พร้อมด้วยคณะนักวิจัย ให้การต้อนรับ ณ จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส นายธีรวัฒน์ บุญสม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม วช. กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวง อว. โดย เครือข่ายวิจัยภูมิภาค : ภาคใต้ ได้สนับสนุนให้มูลนิธิสุข-แก้ว แก้วแดง ทำการศึกษาวิจัยและทดลองเลี้ยงโควากิว ซึ่งเป็นโคเนื้อระดับพรีเมียมในระบบฟาร์ม ในชื่อ “ยะลาวากิวฟาร
วช.หนุนทีมวิจัยจาก สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในการสำรวจพฤติกรรมการใช้สื่อและเกมในเด็กและเยาวชน ในช่วงสถานการณ์การโควิด-19 ซึ่งมีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปแบบ ( New normal ) เด็กถูกจำกัดอยู่กับบ้าน ไม่สามารถมีกิจกรรมนอกบ้าน และที่สำคัญการเรียนออนไลน์ อาจส่งผลให้เด็กคลุกคลีกับเกมออนไลน์มากขึ้น รวมถึงการศึกษาพฤติกรรมและการทำหน้าที่ครอบครัวในช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด ผลวิจัยพบว่าเด็กจะมีพฤติกรรมการอยู่หน้าจอที่มากขึ้น มีความสัมพันธ์กับการเสพติดเกม และพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงในเด็กกลุ่มที่ครอบครัวมีการทำหน้าที่ไม่เหมาะสม ซึ่งสถาบันครอบครัวจะต้องเข้ามีบทบาทในการเฝ้าระวังดูแลบุตรหลานของตัวเองก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาทางสังคม ดร. วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่าในฐานะที่เป็นองค์กรสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรม โดยบูรณาการร่วมมือกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อประโยชน์ทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 มีผล งานการวิจัยมากมายที่สามารถนำไปต
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ดำเนินโครงการ “ถ่ายทอดเทคโนโลยีโครงการแผนการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับชุมชนกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับด้วยนวัตกรรมเกษตร ด้วยแนวทางมาลัยวิทยสถาน อว.” ชี้ผลสำเร็จพัฒนาชุดข้อมูลพื้นฐานไม้ดอกไม้ประดับอัตลักษณ์ประจำถิ่นเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ สามารถนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม (วทน.) สร้างรายได้ให้เกษตรกร/ผู้ประกอบการ มีรายได้เพิ่มมากกว่า 60% ลดต้นทุนการผลิต สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน หนุนใช้ผลสำเร็จงานวิจัยเป็นพื้นที่ต้นแบบสู่การเรียนรู้เชื่อมโยงไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ของประเทศอย่างยั่งยืน นายสายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. กล่าวว่า จากการที่ วว. ได้ดำเนินงานโครงการ “ถ่ายทอดเทคโนโลยีโครงการแผนการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับชุมชนกลุ่มไม้ดอกไม้ประดับด้วยนวัตกรรมเกษตร ด้วยแนวทางมาลัยวิทยสถาน อว.” มาตั้งแต่ปี 2564 “การดำเนินงานโครงการดังกล่าวส่งผลให้เกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเ
วว./วช. มอบผลิตภัณฑ์นวัตกรรม “บาล์มตะไคร้ อว.” จำนวน 3,000 ขวด ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีมอบผลิตภัณฑ์จากผลงานวิจัยและนวัตกรรม “บาล์มตะไคร้ อว.” จำนวน 3,000 ขวด มีประสิทธิภาพ ความปลอดภัยในการรักษาโรคน้ำกัดเท้า และสามารถรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราอื่นๆ ด้วย เช่น กลาก เกลื้อน ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยและพัฒนาของ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยการสนับสนุนทุนวิจัยจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา ลาดบัวหลวง ท่าเรือ เสนา บางบาล มหาราช บางปะหัน และอำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี โอกาสนี้ ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการและโฆษกกระทรวง อว. ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. นายสายันต์ ตันพานิช รองผู้ว่าการอุตสาหกรรมชีวภาพ วว. ผู้บริห