ส่งออกข้าว
นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาและการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้ว่า มีทิศทางที่ดี โดยราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้มีการขยับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยพบว่า ราคาในช่วง 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2567) ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ เฉลี่ยตันละ 14,813 บาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 4.09 ข้าวเปลือกเจ้าพันธุ์ปทุมธานี 1 เฉลี่ยตันละ 12,486 บาท สูงขึ้นร้อยละ 7.35 ข้าวเปลือกเหนียว เฉลี่ยตันละ 12,038 บาท สูงขึ้นร้อยละ 2.98 และ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% เฉลี่ยตันละ 10,908 บาท สูงขึ้นร้อยละ 3.87 สำหรับการส่งออกข้าวในช่วง 7 เดือน (มกราคม-กรกฎาคม 2567) มีทิศทางที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 เช่นกัน โดยไทยส่งออกข้าวปริมาณ 5.68 ล้านตัน มูลค่า 132,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 21.96 และร้อยละ 50.97 ตามลำดับ เมื่อแยกเป็นรายชนิดข้าว พบว่า ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ มีปริมาณการส่งออก 0.93 ล้านตัน มูลค่า 29,503 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2566 ร้อยละ 8.44 แ
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่บริโภคข้าวเป็นหลักมาตั้งแต่แรกเกิดก็ว่าได้ แต่ไม่เคยทราบว่า ข้าวเปลือก 1 เกวียน เมื่อนำมาสีเป็นข้าวสารแล้วจะได้ข้าวสารกี่กิโลกรัม และอีกคำถามหนึ่ง ผมอยากทราบว่า ข้าวนึ่งที่ส่งออกไปขายต่างประเทศนั้น เป็นข้าวนึ่งเหมือนกับที่เรารับประทานกับลาบส้มตำหรือไม่ ขอคำอธิบายด้วยครับ ขอแสดงความนับถืออย่างสูง นิวัฒน์ มงคลกิตติพงษ์ นครสวรรค์ ตอบ คุณนิวัฒน์ มงคลกิตติพงษ์ ข้าวไทย เป็นข้าวเมล็ดยาว จัดเป็นชนิดอินดิกา (Indica Type) ซึ่งต่างกับข้าว ชนิดจาโปนิกา (Japonica Type) ซึ่งเป็นชนิดเมล็ดป้อม และสั้น มีปลูกมากในเขตอบอุ่น เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน ทางตอนเหนือบางมณฑล ข้าวไทย เป็นข้าวชนิดเมล็ดยาวเรียว เมื่อผ่านกระบวนการขัดสี จะได้ต้นข้าวเพียง 66 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ตามข้อมูลของกรมส่งเสริมสหกรณ์ รายงานไว้ว่า ข้าว 1 เกวียน หรือข้าวเปลือก 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน นำมาแปรรูปแล้วได้เนื้อข้าว เฉลี่ย 660 กิโลกรัม นอกจากนั้น เป็นรำข้าวขาว รำข้าวกล้อง และแกลบ ในปริมาณ 80, 30 และ 230 กิโลกรัม ตามลำดับ ส่วนข้าวชนิดจาโปนิกา แปรรูปแล้วจะได้ต้นข้าวมากถึง 80
การส่งออกข้าวของประเทศไทยในปี 2561 ได้เกิดการแข่งขันกันอย่างดุเดือดเดือดโดยเฉพาะ กลุ่มผู้ส่งออกข้าวหน้าใหม่ที่พัฒนามาจาก”โรงสีข้าว” สามารถ คว้ายอดส่งออกข้าวไปเกือบล้านตัน ชิงเค้กเจ้าตลาดส่งออกข้าวกับ 3 ทหารเสือ “เอเซีย โกลเด้น ไรซ์-นครหลวงฯ-ธนสรรไรซ์” ที่ครองตลาดส่งออกมาอย่างยาวนาน สำหรับการส่งออกข้าวในปี 2561 ภาพรวมประเทศไทยสามารถส่งออกได้ 11.08 ล้านตันหรือลดลง 5% จากปีก่อนที่ส่งข้าวออกได้ 11.67 ล้านตัน แต่มูลค่าการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น 8.3% หรือ 5,619 ล้านเหรียญสหรัฐจากปี 2560 ส่งออกคิดเป็นมูลค่า 5,187 ล้านเหรียญ โดยการส่งออกที่ลดลงเป็นผลมาจากตลาดหลักของ “ข้าวเก่า” ซึ่งเป็นสต๊อกของรัฐบาลโดยเฉพาะตลาดแอฟริกาลดลง เนื่องจากรัฐบาลระบายสต๊อกข้าวเก่าหมดแล้วไทยจึงไม่มีข้าวไปแข่ง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ผู้ส่งออกข้าวของไทยก็มีการแข่งขันราคากันเองอย่างรุนแรง ระหว่างผู้ส่งออกข้าวหน้าใหม่ ที่พัฒนาขึ้นมาจากโรงสีซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น กับผู้ส่งออกข้าวรายเดิม จากข้อมูลการส่งออกข้าวรายบริษัทที่ส่งออกสูงสุด 10 อันดับแรก (ดูตารางประกอบ) จะเห็นว่า ผู้ส่งออกรายเก่าหลายรายมียอดการส่งออกข้าวลดลง ยกตัวอย่าง
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า เดือน พ.ย.นี้ ได้ตกลงขายข้าวให้ทั้งรัฐบาลจีน และฟิลิปปินส์ ปริมาณรวม 180,000 ตัน เมื่อ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา แบ่งเป็นจีน 100,000 ตัน เป็นข้าวขาว 5% ส่งมอบปลาย พ.ย.-ธ.ค.นี้ และ 28 พ.ย. กรมฯชนะการประมูลนำ เข้าข้าวขาว 25% ฤดูกาลผลิตใหม่ ของหน่วยงาน National Food Authority (NFA) รัฐบาลสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ปริมาณ 80,000 ตัน กำหนด ส่งมอบข้าวภายในเดือน ธ.ค.2561 รวมทั้งผู้ส่งออกข้าวไทย 2 ราย ชนะการประมูลด้วย 144,000 ตัน รวมทั้งหมด 324,000 ตัน ถือเป็นข่าวดี อย่างยิ่งส่งท้ายปีสำหรับชาวนาและตลาดข้าวไทย เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศปริมาณมากมารองรับผลผลิตข้าวนาปีที่กำลังออกสู่ตลาดใน ช่วงสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา NFA ได้เปิดประมูลนำเข้าข้าวเป็นการทั่วไปหรือประมูลของเอกชน เป็นข้าวขาว 25% ปริมาณ 500,000 ตัน ผลปรากฏว่า ผู้ส่งออกข้าวไทย 2 ราย ชนะการประมูลรวม 144,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 28 ของปริมาณที่เปิดประมูล โดยมีกำหนดส่งมอบเดือนธ .ค. 2561 – ม.ค. 2562 ดังนั้น ไทยจะต้องเตรียมส่งออกข้าวทั้งของรัฐบาลและเอกชน ปริมาณรว
เล็งโละสต๊อกข้าวเพื่ออุตสาหกรรมลอตสุดท้าย 2 ล้านตัน พาณิชย์ปลื้ม ส่งออกข้าวสดใส 4 เดือนแรกขึ้นแท่นเบอร์ 1 โลก มั่นใจทั้งปีได้ตามเป้า 10 ล้านตัน นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเตรียมดำเนินการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ยังคงเหลือ 2 ล้านตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวสำหรับระบายเข้าสู่อุตสาหกรรม ซึ่งจะเร่งดำเนินการระบายตามแนวทางและแผนการระบายข้าวคงเหลือในสต๊อกของรัฐที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ในปริมาณและช่วงเวลาที่เหมาะสมในปี 2561 เพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของรัฐ ตัดภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐในการเก็บรักษาข้าว และจำเป็นต้องมีมาตรการกำกับดูแลติดตามไม่ให้รั่วไหลไปสู่ระบบการค้าข้าวปกติอย่างเคร่งครัด ส่วนการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลช่วงตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2557-25 เม.ย. 2561 ไปแล้ว ปริมาณ 14.84 ล้านตัน จากสต๊อกทั้งหมด 17-18 ล้านตัน มูลค่า 135,120 ล้านบาท ปัจจุบันคงเหลือข้าวในสต๊อกของรัฐประมาณ2 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่เป็นข้าวที่รอการระบายเข้าสู่อุตสาหกรรมที่มีมาตรการกำกับดูแลติดตามไม่ให้รั่วไหลไปสู่ระบบการค้าข้าวปกติอย่างเคร่งครัด กระทรวงพาณิช
สมาคมผู้ส่งออกข้าวฯหวั่นข้าวไทยเสียส่วนแบ่งตลาด หลัง “เวียดนาม” ส่งข้าวขาวพันธุ์ใหม่ 5451 คุณภาพดี-นุ่ม-ราคาถูกกว่าไทยตันละเกือบ 500 เหรียญสหรัฐ ถล่มชิงแชร์ตลาดจีน ดันยอดส่งออกหอมมะลิเวียดนามพุ่ง 1,991% ในช่วง 10 ปี จี้กระทรวงเกษตรฯพัฒนาต่อยอดพันธุ์ กข 53-กข 21 คุณภาพใกล้เคียงสู้ ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงทิศทางการส่งออกข้าวในปี 2561 ว่า สมาคมประเมินการส่งออกไว้ที่ 9.5 ล้านตัน ลดลงจากปี 2560 ที่ส่งออกข้าวได้ 11.6 ล้านตันมูลค่าส่งออก 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐโดยการส่งออกที่ลดลงมาจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทและภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดส่งออกข้าวขาวคู่แข่งสำคัญคือเวียดนามได้พัฒนาและทำตลาดข้าวขาวชนิดใหม่เป็นข้าวขาวพื้นนิ่มพันธุ์ 5451 คุณภาพดีและราคาต่ำมาแข่งขันในตลาดเดียวกับไทยคือ ตลาดข้าวจีน เวียดนามต้องการข้าวไทย จากปกติจีนนำเข้าข้าวขาวปีละ 5 ล้านตัน โดยจะนำเข้าจากไทย 3 ล้านตันเวียดนาม 600,000 ตัน และจากแหล่งผลิตอื่น ๆ เช่น กัมพูชา เมียนมา ส่วนตลาดอื่นที่มีการนำเข้าข้าวขาวนอกจากจีน มีตลาดฟิลิปปินส์-อินโดนีเซีย-มาเลเซีย ก็เริ่มนิยมบริโภคข้าวขาวพื้นนิ่มขอ
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 6/2560 ว่า สถานการณ์ผลผลิตข้าวโลกปี 2560 จาก 483.8 ล้านตัน ลดลง 3.3 ล้านตัน สถานการณ์การส่งออกข้าวโลก จาก 40 ล้านตัน เพิ่มขึ้นเป็น 44 ล้านตัน สำหรับการส่งออกของไทยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคมส่งออกไปแล้ว 9.22 ล้านตัน นับเป็นการปริมาณการส่งออกที่ดีที่สุดในโลก โดยมีอินเดียเป็นอันดับ 2 คาดว่า Quarter ที่ 4 ปริมาณและราคาการส่งออกจะไปได้ดีต่อเนื่อง ซึ่งแนวโน้มการส่งออกในตลาดโลกปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วทุกรายการ ยกเว้นข้าวเหนียว โดยข้าวหอมมะลิไทยจากราคาเฉลี่ยต่อปี 715 เหรียญต่อตันเพิ่มขึ้นเป็น 953 เหรียญต่อตัน สาเหตุเพราะความต้องการสูงและได้ตลาดกลับมาเพิ่มขึ้น ขณะที่ข้าวหอมมะลิเวียดนามราคาเพียง 950 เหรียญต่อตัน สำหรับสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับประเทศจีน (ข้าวขาว 100%) ประมาณ 1 แสนตัน และบังคลาเทศ (ข้าวนึ่ง 5%) ประมาณ 1.5 แสนตัน ญี่ปุ่น (ข้าวสู่อุตสาหกรรม) 2.5 หมื่นตัน นอกจากนี้ยังมี MOU ของเอกชนไทยกับฟิลิปปินส์และฮ่องกง (ข้าวหอมมะลิ) ประมาณ 8 หมื่นตัน แ
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ดึงผู้นำเข้าฮ่องกง 20 รายลงพื้นที่ จ.อุบลฯ สำรวจข้าวเปลือกนาปี 60/61 มั่นใจดันส่งออกทั้งปีทะลุ 11 ล้านตัน ดึงราคาข้าวเปลือก พร้อมเทงบฯ 10 ล้านบาทช่วยลดต้นทุนชาวนา ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจะนำคณะลงพื้นที่สำรวจผลผลิตข้าวนาปี ปีการผลิต 2560/2561 ระหว่างวันที่ 1-3 พฤศจิกายนนี้ ที่ จ.อุบลราชธานี จะนำคณะผู้นำเข้าจากฮ่องกง 20 รายลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผลผลิตข้าวนาปีด้วย เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้นำเข้า โดยคาดการณ์ว่าภาพรวมผลผลิตข้าวทั้งปี 2560 น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากผลผลิตในปีที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณฝนดี ทำให้ผลผลิตข้าวดี โดยเฉพาะผลผลิตข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ดีขึ้น แต่อาจจะเก็บเกี่ยวล่าช้าจากปกติ 1-2 สัปดาห์ “แนวโน้มราคาข้าวหอมมะลิปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณสต๊อกข้าวของโรงสีไม่มีเหลือแล้ว จึงน่าจะมีความต้องการซื้อข้าวมากขึ้น” ขณะที่ความต้องการข้าวในตลาดโลกมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดข้าวแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) เช่น บังคลาเทศมีคำสั่งซื้อข้าวนึ่ง 1.5 แสนตัน และมีกา
นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงสถานการณ์ผลผลิตข้าวของไทยในปีนี้ว่า ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกข้าว ทำให้พื้นที่บางส่วนได้รับความเสียหาย แต่ตามปกติหากมีน้ำท่วมพื้นที่ดอนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือผลผลิตจะออกมามาก โดย เชื่อว่าจะส่งผลให้ผลผลิตข้าวปีนี้เพิ่มขึ้น 10% โดยคาดว่าผลผลิตปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อนคือ 32 ล้านตัน แต่ก็ไม่มีปัญหาในการทำการตลาดโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ เพราะตลาดมีความต้องการสูง อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเดือนพ.ย. สมาคมจะลงพื้นที่สำรวจปริมาณผลผลิตข้าวที่ชัดเจนเพื่อวางแผนทำการตลาดต่อไป ขณะนี้การส่งออกข้าวจนถึงเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา สามารถส่งออกได้แล้วกว่า 8 ล้านตัน ซึ่งหากเฉลี่ย 3 เดือนสุดท้าย สามารถส่งออกได้เฉลี่ยประมาณ 9 แสนตันต่อเดือน ก็จะทำให้ปีนี้ ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวได้ถึง 10.8 ล้านตัน หรืออาจถึง 11 ล้านตัน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการผลักดันให้ส่งออกข้าวได้ถึง 11 ล้านตันเช่นกัน ขณะที่ราคาข้าวโดยเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยขณะนี้ข้าวหอมมะลิราคาอยู่ที่ต
กรมการค้าต่างประเทศเผย ฟิลิปปินส์มีแผนนำเข้าข้าวปีนี้เพิ่มขึ้น 1-1.3 ล้านตัน เพื่อความมั่นคงทางอาหาร และจะเน้นการนำเข้าข้าวคุณภาพมากขึ้น ระบุเป็นโอกาสดีต่อการส่งออกข้าวไทย นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมฯ ได้ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเดินทางเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์เพื่อหารือกับองค์การอาหารแห่งชาติของฟิลิปปินส์ (National Food Authority: NFA) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่นำเข้าข้าว และผู้นำเข้าข้าวภาคเอกชน ซึ่งผลจากการหารือกับประธาน NFA ทราบว่า ในปีนี้ NFA มีแผนจะนำเข้าข้าวจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิม 4.5 แสนตัน ในปี 2559 เป็น 1-1.3 ล้านตัน ในปี 2560 เพื่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ “ในช่วงที่ผ่านๆ มา NFA เปิดประมูลนำเข้าข้าวเป็นชนิดข้าวขาว 25% แต่ในปีนี้ จะพิจารณาเปิดประมูลเพื่อนำเข้าข้าวคุณภาพดีขึ้น เช่น ข้าวขาว 5%, 10% และ 15% ในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งการที่ NFA นำเข้าข้าวคุณภาพดีเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลดีต่อการส่งออกข้าวของไทยทั้งในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) หรือเอกชนต่อเอกชน เพราะจะทำให้มีตลาดขนาดใหญ่มารองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ และเป็