อาชีพทำเงิน
ปลูกดอกไม้กินได้ สร้างรายได้ครึ่งแสน ด้วยพื้นที่เพียง 30 ตารางวา “ดอกไม้กินได้” เป็นอีกหนึ่งผลผลิตทางการเกษตรที่ปัจจุบันตลาดกำลังไปได้กว้าง เพราะในกลุ่มลูกค้าร้านอาหารและคาเฟ่ ไม่ได้รังสรรค์อาหารที่รสชาติดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังใส่ใจในเรื่องของรูปลักษณ์และความสวยงามมากขึ้น จึงทำให้ทุกเมนูไม่เพียงมีความอร่อยเพียงเท่านั้น แต่ยังถูกถ่ายทอดด้วยสีสันสวยงาม และถูกลูกค้าถ่ายภาพพร้อมกับลงผ่านทางช่องออนไลน์ออกไปในช่องทางต่างๆ ช่วยให้ความสวยงามของดอกไม้กินได้ที่นำมาประดับตกแต่งนั้น เป็นตัวช่วยชั้นดีที่เพิ่มสีสันจึงเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง คุณเม-เมชญา นาควิสุทธิ์ ได้เล็งเห็นโอกาสจากการสร้างรายได้จากการปลูกดอกไม้เพียงไม้เพื่อผ่อนคลายเท่านั้น และเมื่อมีลูกค้าติดต่อเข้ามาขอซื้ออยู่เสมอ จึงใช้พื้นที่รอบบ้านเพียง 30 ตารางวา ปลูกดอกไม้หลากหลายชนิด พร้อมเรียนรู้การทำตลาดออนไลน์ จนทุกวันนี้นอกจากทำตลาดจำหน่ายในพื้นที่แล้วยังส่งไปทั่วประเทศอีกด้วย ดอกไม้ นอกจากความสวย ยังช่วยผ่อนคลาย จนเกิดรายได้ คุณเม เล่าย้อนกลับไปเมื่อครั้งโควิด-19 เข้ามาระบาดในประเทศไทยว่า ช่วงนั้นทำงานรับออกแบบ ทำให้งา
“ตะไคร้” หนึ่งในพืชสวนครัวที่มักจะต้องมีปลูกกันทุกบ้าน ตะไคร้ จัดเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณสมบัติลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ลดระดับคลอเลสเตอรอล ฯลฯ ตะไคร้นำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารนานาชนิด ทั้งพวกต้มยำ ยำ แกง เป็นส่วนผสมในน้ำพริกหรือพริกแกงต่างๆ ปัจจุบัน การบริโภคหรือการนำตะไคร้ไปใช้หลากหลายขึ้น ทั้งธุรกิจสปา มีการนำไปทำลูกประคบ ผลิตชาจากต้นและใบตะไคร้ สกัดน้ำมันหอมระเหย ฯลฯ นอกจากนั้น ยังมีตลาดรับซื้อจากโรงงานอุตสาหกรรมพริกแกง น้ำพริก ตั้งแต่อุตสาหกรรมในครัวเรือนถึงโรงงานขนาดใหญ่ ปริมาณของการใช้ตะไคร้จึงเกิดความต้องการอย่างต่อเนื่อง อาชีพการปลูกตะไคร้จึงมีการขยายพื้นที่ปลูกมากขึ้นตามความต้องการของตลาด คุณกุหลาบ ทรายแก้ว อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 9 ตำบลเทพนคร อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นเกษตรกรอีกรายหนึ่งที่ปลูกตะไคร้มานานกว่า 10 ปี ในพื้นที่กว่า 4 ไร่ ปลูกตะไคร้ เป็นพืชแซมทำรายได้ คุณกุหลาบ เล่าว่า การปลูกตะไคร้ของที่นี่ จะปลูก “ตะไคร้หยวก” คือลำต้นอวบอ้วน เนื้อมาก มีกลิ่นฉุนพอประมาณ ผลผลิตต่อไร่สูง ประมาณ 4-5 ตัน ใช้เวลาปลูกจนเก็บเกี่ยวได้ ประมาณ 7 เดือน และโดยพื้นที่แถบนี
สองสามีภรรยาไอเดียสุดเจ๋ง! ทำการเกษตรปลูกกล้วย-แซมด้วยใบเตยหอม พื้นที่ใช้ประโยชน์สุดคุ้มค่า ขายสร้างรายได้ดี เดือนละหมื่นห้า หลายคนบอกทึ่งในความคิด!!! แทบไม่พอขาย แม่ค้ามารับซื้อถึงที่ รับเงินเต็มสบายๆ หลายคนคิดจะเอาอย่าง เพราะเห็นเม็ดเงินแล้วน่าอิจฉา ดีกว่าอยู่โรงงาน อาทิตย์ละ 4,000 เห็นตัวเลขแล้วหายเหนื่อย! นายแก้ว และ นางวิไล ภูเดช สองสามี-ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 2 ตำบลกรอกสมบูรณ์ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ขยันทำมาหากินรายได้พอเลี้ยงชีพ ตอนแรกทั้งสองคิดจะปลูกใบเตยหอม เพื่อตัดใบขายให้กับแม่ค้าพ่อค้าที่ตลาด โดยครั้งแรกปลูกใบเตยแบบกลางแจ้ง ผลปรากฏใบจะไม่สวยสีไม่เขียว จึงมีความคิดว่าน่าจะปลูกใบเตยในร่ม น่าจะได้ผล จึงตัดสินใจปลูกใบเตย นำมาปลูกในที่ดิน 2 แปลง 5 ไร่ การปลูกเตย ต้องใกล้น้ำ ค่อนข้างแฉะ มีน้ำหมุนเวียนตลอดปี จัดให้มีร่มเงารำไร โดยนำซาแรนมากางให้ต้นเตยหอมที่ปลูก ไม่โดนแสงแดดโดยตรง หลังจากนำต้นใบเตยหอมมาปลูก ในระยะห่าง 3×3 เมตร เพื่อให้ที่ว่างสามารถปลูกกล้วยได้ด้วยพร้อมๆ กัน โดยการเตรียมต้นพันธุ์เตยที่แข็งแรงที่มีรากปักลงในแปลง โดยทำเหมือนการดำนา จากนั้นดูแลระบบถ่
“อาชีพการเพาะกล้าไม้” เป็นหนึ่งในอาชีพน่าสนใจในยุคนี้ เพราะสังคมยุคปัจจุบัน ผู้คนโหยหาธรรมชาติมากขึ้น ปลูกต้นไม้เพิ่มสีเขียวในบ้าน ปลูกต้นไม้ลดโลกร้อน ลดฝุ่นจิ๋วกันมากขึ้นนั่นเอง พันธุ์ไม้ขายดีที่ตลาดต้องการ การเพาะพันธุ์กล้าไม้ที่จำหน่ายเชิงการค้า แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ได้ดังนี้ คือ 1. ไม้มีค่า ไม้ป่าเศรษฐกิจ ไม้ป่าหายาก เช่น พะยูง แคนา ไม้สัก มะฮอกกานี ไม้มะค่า ต้นยางนา ต้นมะริด ต้นกันเกรา ประดู่แดง จิกทะเล จิกเศรษฐี สำหรับเพจ “มนทรีสวนป่า” เผยสินค้าขายดีประจำร้าน มีกล้าไม้อยู่ 5 ชนิด คือ สักทอง พะยูง ยางนา มะฮอกกานี และประดู่ป่า 2. พืชผักสวนครัว พันธุ์ไม้ขายดี เช่น มะนาว พริก ผักหวานป่า 3. ไม้ผล พันธุ์ไม้ขายดี เช่น มะม่วง ทุเรียน ชมพู่ ขนุน มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว ส้มโอขาวใหญ่อัมพวา ฯลฯ 4. ไม้ดอกไม้ประดับ พันธุ์ไม้มงคล สำหรับพันธุ์ไม้ดอกล้มลุกที่ขายดี ได้แก่ เทียนฝรั่ง พิทูเนีย และซัลเวีย ส่วนไม้ดอกหลายฤดู ได้แก่ พลับพลึงตีนเป็ด กลุ่มผู้ซื้อที่อาศัยในทาวน์เฮาส์ และคอนโดมีเนียม นิยมซื้อไม้กระถาง ประเภทไม้ใบประดับ และไม้ฟอกอากาศ สินค้าขายดี เช่น “มอนสเตอร่า” ราชินีแห่งไม้ใบ “โกศล” เป็นไม้ประ
วันที่ 21 ธันวาคม 2566 นายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอหาดสำราญพาสื่อมวลชนเดินทางไปดูอาชีพดำน้ำเก็บสาหร่ายขนนกของชาวบ้าน บริเวณท่าเรือปากคลองบ้านควนล้อน หมู่ที่ 9 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ชาวบ้านกำลังดำน้ำเก็บสาหร่ายขนนกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตามแนวป่าโกงกางบนพื้นที่ กว่า 200 ไร่ นับได้ว่าเป็นป่าโกงกางที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด ทั้งนี้พื้นที่อำเภอหาดสำราญ เป็นอำเภอเดียวของจังหวัดตรัง ที่ไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม และเป็นพื้นที่ที่มีอากาศดีที่สุดของจังหวัด ส่งผลให้สภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งระบบนิเวศทางทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ทำให้ สาหร่ายขนนก เจริญเติบโตได้ดี สามารถเพิ่มปริมาณเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของอาชีพดำน้ำเก็บสาหร่ายออกขาย สร้างรายได้หลักแสน หลักล้านต่อครอบครัวต่อปี สาหร่ายขนนกสามารถเก็บเกี่ยวได้ปีละ 8 เดือน ตั้งแต่ช่วงเดือน พฤศจิกายน จนถึงเดือนมิถุนายน ของทุกปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฝนฟ้าอากาศด้วย หากปีไหนฝนตกเยอะ ชาวบ้านสามารถเก็บสาหร่ายได้ 6 เดือนเท่านั้น โดยทั่วไป ชาวบ้านจะใช้เรือพลีส (เรือท้องแบนขนาดเล็กหัวเรือเรียวแหลม)เป็นพาหนะในการเดินทางไปดำน้ำเก็บสาหร่ายที่งอกขึ้นมาใหม่ ซึ่
หากใครอยากเลี้ยงชันโรงเป็นอาชีพเสริม สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ปลูกพืชผัก ผลไม้ ดอกไม้ที่ปลูกดูแลแบบเกษตรอินทรีย์ หรืออยู่ใกล้ป่าธรรมชาติ ที่มีต้นไม้นานาชนิดให้เป็นแหล่งอาหารของชันโรง ทั้งนี้ จากการศึกษาของศูนย์วิจัยฯ พบว่า พืชอาหารที่ถูกใจชันโรง ถือเป็นอาหารเกรด เอ ที่มีคุณค่าทางยามากที่สุดคือ “ดอกดาวกระจาย” เพราะมีสรรพคุณทางยาสูง โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบสูงถึง 97-98 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ “ดอกเสี้ยวป่า” ซึ่งมีสรรพคุณทางยา ให้สารต้านการอักเสบสูงถึง 95 เปอร์เซ็นต์ นอกจากพืชอาหารจะมีความสำคัญต่อคุณภาพน้ำผึ้งชันโรงแล้ว เรื่องการเก็บผลผลิตและการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ก่อนเก็บน้ำผึ้งควรปล่อยให้จุลินทรีย์และเอนไซม์ทำงานเต็มที่ เพราะน้ำผึ้งที่มีคุณภาพสูงจะต้องมีความชื้นเหลืออยู่ที่ 22-21 เปอร์เซ็นต์ หลังชันโรงเก็บน้ำหวานจากดอกไม้ที่มีคุณสมบัติทางยา เมื่อเป็นน้ำผึ้งจะเข้มข้นขึ้น ตั้งแต่ 10-100 เท่า เมื่อผสานกับนวัตกรรมการบ่มน้ำผึ้งที่ให้จุลินทรีย์และเอนไซม์ของศูนย์วิจัยฯ ยิ่งทำให้น้ำผึ้งมีความเป็นยามากขึ้น #เทคโนโลยีชาวบ้าน #technologychaoban #ชันโรง #ผึ้
ลุงเสงี่ยม สีสันต์ อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 6 ตำบลบุเปือย อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี อาชีพหลักสมัยก่อนโน้น ที่ลุ่มแบ่งทำนา สูงขึ้นมาหน่อยปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ก่อนปี 2535 มีคนชวนลุงเสงี่ยมไปเป็นเพื่อนเพื่อซื้อเงาะจากจังหวัดจันทบุรีมาขาย ลุงชอบ เพราะได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ เรื่องเงินทองรายได้ไม่ได้คิด หลายครั้งหลายหนที่ไปเห็นต้นเงาะของชาวสวนเมืองจันท์สุกแดงเต็มต้น จึงอยากปลูก ที่อยากปลูกเนื่องจากท้องถิ่นอำเภอน้ำยืน อยู่ชายแดนติดกับกัมพูชา ดินดี ฝนตกดี ที่สำคัญ ลุงมีความขยันหมั่นเพียร ความรู้ และวิธีการปลูกน่าจะหาทางศึกษาได้ ลุงเสงี่ยม มีประสบการณ์เรื่องราคาข้าวโพด ช่วงเก็บผลผลิตขาย บางปีพออยู่ได้ แต่บางปีขาดทุน เมื่อไปเห็นเขาปลูกเงาะที่เมืองจันท์ จึงตัดสินใจปลูกเงาะโรงเรียนบนที่เนินใกล้บ้าน ทางเจ้าหน้าที่เกษตรแนะนำว่า งานปลูกไม้ผลควรขุดหลุมให้ลึก แล้วรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก ขี้วัว ขี้ควายเก่าๆ ลุงตัดสินใจปลูกเมื่อปี 2535 ช่วงนั้นการทำนายังใช้ควายตัวเป็นๆ ยังไม่ใช้ควายเหล็ก ปุ๋ยคอกจึงหาได้ง่าย สำหรับระยะปลูก ระหว่างต้นระหว่างแถว 8 คูณ 8 เมตร พื้นที่ไร่หนึ่งจึงปลูกได้ 25 ต้น พืชอื่นที่ปลู
ผมคิดของผมเองว่า ต่อให้เราเป็นคนที่สนใจกับข้าวกับปลาอาหาร ขนมนมเนยต่างๆ ขนาดไหน เวลาไปเดินดูของตามตลาด เราก็มักเห็นแต่สิ่งที่เราสนใจ ซึ่งแม้ไม่น่าแปลก แต่ครั้นมีใครมาชี้ให้เห็น บางทีก็น่าประหลาดใจอยู่ ที่เราดันไม่เห็นมันมาได้ตั้งแสนนาน แต่เมื่อเห็นเข้าแล้ว ทีนี้จะเห็นตลอดไปทีเดียว เช่นเมื่อเดือนที่แล้ว ผมชวนน้องสาวไปเดินตลาดเช้าวันศุกร์ ในวัดสว่างสามัคคี อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นนัดใหญ่ประจำสัปดาห์ของคน “บ้านกลาง” เมื่อเราซื้อข้าวของได้ครบ จนกลับมาถึงบ้าน น้องสาวจึงพูดขึ้นว่า ไม่ได้เห็นแผงขายพุทรากวนยิ่งใหญ่อลังการแบบที่เห็นเมื่อครู่นี้มานานแล้ว ทำให้ผมแปลกใจมาก เพราะผมเดินตลาดนี้มานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยสังเกตเห็นแผงพุทราที่ว่าเลย มันคงเป็นเพราะน้องสาวผมนั้นชอบกินพุทราทุกรูปแบบมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนผมไม่ชอบ เราจึงเห็นของไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ดี หลังจากวันนั้น ผมก็ได้อุดหนุนพุทรากวนแผงนั้นไปฝากคนนั้นคนนี้ ได้พูดคุยทั้งกับแม่ค้า ทั้งคนชอบพุทราระดับ “พุทราเลิฟเวอร์” ที่ต่างแวะเวียนมาถามซื้อที่แผง จนพลอยรู้สึกทึ่งกับเรื่องพุทราลูกเล็กๆ นี้เป็นอันมาก แล้วพอชักเริ่มคุ้นเคยอัธยาศัยขอ
หากใครกำลังมองหาอาชีพใหม่ หรืออาชีพเสริมรายได้ ที่สร้างอาชีพได้ง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนเยอะ คุณนีม หรือ คุณณิชนันทน์ หะยีลาเต๊ะ เจ้าของฟาร์มรัก – FARM RAK นนทบุรี ชวนเลี้ยงไส้เดือน อาชีพสุดปัง ทำง่าย ได้เงินจริง! รู้จัก FARM RAK นนทบุรี คุณนีม-ณิชนันทน์ หะยีลาเต๊ะ บัณฑิตปริญญาโทแห่งรั้วธรรมศาสตร์ สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต้องการทำฟาร์มเกษตรโดยไม่พึ่งสารเคมี เพื่อผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยสู่ผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ซึ่งการทำเกษตรให้ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มต้นจากดินคุณภาพดี จึงเป็นที่มาของการทำฟาร์มไส้เดือนแห่งนี้ คุณนีมใช้เวลาทดลองเลี้ยงไส้เดือนกว่า 1 ปี จนเกิดความมั่นใจจึงลงทุนเปิดกิจการในชื่อ ฟาร์มรัก FARM RAK นนทบุรี สายพันธุ์ไส้เดือน คุณนีมเลี้ยงไส้เดือน 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์แอฟริกัน (AF : African Night Crawler) และ พันธุ์บลูเวิร์ม (Blue worm) ข้อดีของการเลี้ยงไส้เดือนสายพันธุ์ AF คือ ผลิตปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดีจากธรรมชาติ ปรับปรุงสภาพดินให้ร่วนซุย ช่วยเพิ่มและแพร่กระจายจุลินทรีย์ในดิน เป็นประโยชน์ต่อพืช ช่วยกำจัดขยะอินทรีย์ เหมาะเป็นอาหารสัตว์และเป็นเหยื่อสำหร
หนึ่งชีวิตกับลมหายใจที่มีอยู่ เส้นทางชีวิตของใครคนนั้นเป็นผู้กำหนดด้วยตัวเอง หากต้องการที่จะก้าวไปบนเส้นทาง เดินห่าง…จากความจน ให้ได้ชนิดสมบูรณ์แบบ ชีวิตนั้นไม่ได้เกิดจากบุญอุ้มสม หรือฟ้าช่วยลิขิต ทุกอย่างล้วนก่อเกิดขึ้นมาจากวิถีทางของผู้ที่มีไม่ท้อแท้บนเส้นทาง ก้าวไปอย่างมุ่งมั่นพร้อมนำความขยันและความอดทน มาร่วมเป็นเพื่อนก้าวเดินไปด้วยกัน เพราะทุกคนคือนักเดินทางผู้สู้ชีวิต ชีวิตนี้จึงมีแต่สู้ สู้ และสู้ๆๆๆ จนถึงเวลาสุดท้ายของชีวิต เจ้าของชีวิตจำเป็นต้องกล้าใช้ชีวิตตัวเอง อย่ากลัวชีวิต ก้าวหนึ่งที่เราเคยหกล้มลงจะสอนให้รู้ว่าก้าวต่อไปอย่างไร เพราะทุกก้าวล้วนมีรอยเท้าประทับไว้เสมอ ขอให้ทุกคนเรียกรอยเท้าเช่นนั้นว่าประสบการณ์นะครับ สวัสดีครับแฟนๆ ที่เคารพรักทุกท่าน ก่อนอื่นขอกราบขอบพระคุณแฟนๆ อย่างมากๆ จากนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านและผู้เขียน ที่ได้ให้แรงใจตลอดมา เนื่องจากจะได้รับการส่งเสียงไปหาที่โทร. 081-846-0652 หรือในเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อ สมยศ ศรีสุโร หรือ ID Line. Janyos ชนิดไม่ขาดหาย ที่ผู้เขียนย้ำเสมอว่าปลื้มเป็นอย่างมากๆ คือบอกไปว่าชอบทุกเรื่องราวที่นำมาเสนอ สนุก ไม่เครียด ขอขอบคุณ