เกษตรพื้นที่น้อย
การทำเกษตรในพื้นที่น้อยปัจจุบันกำลังได้รับนิยมมากขึ้น เพราะนอกจากจะควบคุมในเรื่องคุณภาพของผลผลิตได้แล้ว ยังทำให้สามารถจำหน่ายได้ราคาสูงตามไปด้วย ซึ่งการทำเกษตรในลักษณะนี้สามารถทำได้หลากหลาย ตั้งแต่ในเรื่องของการปลูกพืชไปจนถึงการเพาะเห็ดที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ อย่างเช่น เห็ดมิลกี้ เห็ดที่มีขนาดใหญ่เป็นสายพันธุ์มาจากประเทศอินเดีย มีลักษณะดอกใหญ่และเนื้อของเห็ดมีเนื้อที่แน่น เมื่อนำมาประกอบอาหารได้รสชาติที่ดี มีความอร่อยให้เนื้อสัมผัสคล้ายกับเนื้อสัตว์ ซึ่งผู้ที่ไม่ชื่นชอบการกินเห็ดสามารถกินได้ นอกจากนี้ เห็ดมิลกี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีเส้นใยและไฟเบอร์สูง คุณนัท-กิตติพงศ์ กีรติเตชะนันท์ (Mushroom man) เล็งเห็นช่องทางการสร้างรายได้จากการเพาะเห็ดมิลกี้ จึงใช้พื้นที่ภายในบ้านขนาด 6×4 เมตร มาเพาะเห็ดมิลกี้ที่ได้คุณภาพ ส่งขายให้กับร้านอาหารที่นำไปทำเมนูต่างๆ ได้ในราคาสูง วิศวกรผู้สนใจงานเกษตร คือการเพาะเลี้ยง “เห็ดมิลกี้” คุณนัท เล่าว่า เดิมทีเป็นวิศวกรประจำอยู่ที่โรงงาน ต่อมาเริ่มรู้สึกว่าอยากค้นหาตัวเองมากขึ้น จึงทำให้อยากเปลี่ยนวิถีการทำงานมาสู่ความยั่งยืน และสามารถมีความสุขอยู่
สมัยก่อนมักเข้าใจผิดว่ามีพื้นที่น้อยจะไม่สามารถทำการเกษตรได้ แต่ปัจจุบันพื้นที่น้อยสามารถสร้างรายได้ให้กับหลายๆ คนได้ชนิดที่ว่ามากกว่าการทำงานประจำ โดยเฉพาะในช่วงนี้การปลูกดอกไม้ที่สมัยก่อนเป็นเพียงการประดับเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ในยุคนี้เป็นสินค้าสวยงามที่ทำเงินให้กับผู้ปลูกได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ชนิดที่ว่าแซงเงินเดือนงานประจำและมีเงินเหลือเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉินในอนาคตได้อีกด้วย คุณฐิรนาถ นิธิภัทร์ธนโภคิน หรือ คุณฝน ได้มีแนวความคิดและสร้างจุดเริ่มต้นของการปลูกดอกไม้กินได้ขึ้น โดยศึกษาในเรื่องของสายพันธุ์ต่างๆ ว่าแบบไหนดอกสีอะไรเป็นที่ต้องการของตลาด จากนั้นจึงหาซื้อพันธุ์ดอกไม้จากพื้นที่ต่างๆ เข้ามาปลูกพร้อมกับเรียนรู้การขยายพันธุ์เอง นอกจากทำให้มีผลผลิตตลอดปีแล้ว ยังประหยัดต้นทุนในเรื่องของการซื้อเมล็ดพันธุ์ใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน ใช้พื้นที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ไม่ถึง 20 ตารางวา ปลูกดอกไม้ คุณฝน เล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกทำงานประจำอยู่ที่บริษัท ต่อมาเมื่อได้มาแต่งงาน จึงได้ลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านอย่างเต็มตัว เพราะต้องดูแลลูกน้อยที่ยังเล็กอยู่ และในขณะนั้นคุณแม่ของสามีพาคุณฝนไปซื้อต้นไม้ที่มีดอกสวย
ขวดพลาสติกรีไซเคิล การใช้ขวดพลาสติกในการปลูกผักเป็นวิธีที่สร้างสรรค์และช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับผู้ที่อยากปลูกผักไว้รับประทานเองแต่มีพื้นที่จำกัด หรือผู้ที่ต้องการสร้างมุมสวนเล็กๆ ด้วยวัสดุรีไซเคิล เหมาะสำหรับ ผักอายุสั้น เช่น ผักบุ้ง ผักชีลาว ✅ ข้อดี 1.ช่วยลดขยะและส่งเสริมการรีไซเคิล ขวดพลาสติกใช้แล้วสามารถนำกลับมาสร้างประโยชน์ใหม่ ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ก่อให้เกิดมลพิษ 2.ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องซื้อกระถางหรือภาชนะปลูกใหม่ ใช้ขวดน้ำพลาสติกที่มีอยู่แทน 3.ประหยัดพื้นที่ สามารถแขวนหรือวางขวดพลาสติกในแนวตั้ง ทำให้ปลูกพืชได้ในพื้นที่จำกัด เช่น ริมระเบียงหรือกำแพง 4.ดูแลง่ายและสะดวก ขวดพลาสติกมีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก และดูแลทำความสะอาดง่าย 5.ปรับแต่งได้หลากหลาย ตัดและดัดแปลงขวดให้เหมาะสมกับพืชที่ต้องการปลูก เช่น ตัดขวดครึ่งหนึ่งสำหรับปลูกพืชเล็กๆ หรือใช้ทั้งขวดสำหรับพืชรากยาว วิธีการใช้ขวดพลาสติกปลูกผัก 1.เลือกขวดพลาสติกที่เหมาะสม ใช้ขวดน้ำพลาสติกทั่วไป เช่น ขวดขนาด 1 ลิตร หรือ 1.5 ลิตร ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช 2.เตรียมขวดพลาสติก ล้างทำความสะอาดขวด และตัดตามลักษณะ
ดร.คณิต สุขรัตน์ อาศัยอยู่ที่ ซอยรามอินทรา 8 แยก 24 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการปลูกพืชผักสวนครัว และไม้ผลต่างๆ ในพื้นที่รอบบ้านมาก่อนที่โรคระบาดโควิดจะเกิดขึ้น เมื่อในเขตกรุงเทพมหานครให้มีการอยู่กับบ้านมากขึ้น จึงทำให้การเกษตรที่ทำไว้อยู่ก่อนได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ สามารถมีผลผลิตไว้ทานเองและแจกจ่ายเพื่อนบ้าน ตลอดไปจนถึงผลผลิตทางการเกษตรชนิดอื่นที่มีมากเกินไป ก็สามารถจำหน่ายสร้างรายได้อีกด้วย ดร.คณิต เล่าให้ฟังว่า ย้อนไปเมื่อปี 2556 ได้ซื้อที่ดินในย่านนี้ไว้ เป็นที่ดินประมาณ 148.9 ตารางวา ซึ่งพื้นนี้เมื่ออยู่ในกรุงเทพมหานครแล้ว ก็ถือว่าสามารถนำมาทำการเกษตรได้หลายอย่าง โดยจัดสรรพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุด และที่สำคัญด้านหลังพื้นที่มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ จึงสามารถนำน้ำมาทำการเกษตรในพื้นที่ได้ โดยไม่ต้องใช้น้ำประปาเพื่อมารดให้กับพืชที่ปลูก อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง 7 พืชควรปลูกรอบบ้าน ได้ทั้งไว้กินเอง และสร้างรายได้ หนุ่มลพบุรี ปลูกผักสลัดหลังบ้าน เผยเทคนิคเพาะกล้าในตู้เย็น ผักโตดี๊ดี เก็บขาย กก.ละ 150 บาท ปลูกมะนาวในกระถาง ใช้พื้นที่น้อย เก็บได้นาน 5 ปี “ช่วงแรกที่เร
ในยุคที่พื้นที่ทำการเกษตรมีความจำกัด การใช้ประโยชน์จากพื้นที่เล็กๆ อย่างมีประสิทธิภาพกลายเป็นความจำเป็นสำหรับเกษตรกรยุคใหม่ หนึ่งในแนวทางที่กำลังได้รับความนิยมคือ การเลี้ยงปลาในระบบพื้นที่น้อย เน้นการจัดการที่ดีใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อให้ได้เนื้อปลาที่มีคุณภาพสูง คุณน้ำมนต์-ธีรเวชช์ ยิ้มแดง ได้เล็งเห็นความสำคัญของการใช้พื้นที่ จึงได้สร้างบ่อผ้าใบขนาด 3 x 6 เมตร และถังที่จุน้ำได้ 1,000 ลิตร มาเลี้ยงปลาดุกในระบบหนาแน่น โดยใช้เทคโนโลยีตั้งแต่ระบบถังกรองน้ำ ระบบจุลินทรีย์ ทำให้ปลาดุกที่เลี้ยงในระบบนี้ไม่มีกลิ่นโคลน และกลิ่นสาบในเนื้อปลา อ่านบทความเพิ่มเติมได้่ที่ เลี้ยงปลาดุกในถัง 1,000 ลิตร
วันนี้ ผมแวะเยี่ยม คุณคงศักดิ์ นาคคุ้ม บ้านเลขที่ 260 หมู่ที่ 5 บ้านนิคม ตำบลนิเวศ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด คุณคงศักดิ์จบการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สาขาช่างโยธา วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ แต่มาประสบความสำเร็จในอาชีพภาคการเกษตร ภูมิลำเนาเดิม บ้านเลขที่ 547 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เขาให้การต้อนรับด้วยดีพร้อมภรรยาที่สวนหลังบ้าน ติดกับเรือนเพาะชำ มีพันธุ์พืชนานาชนิด เช่น ฝรั่งพันธุ์กิมจู ไผ่พันธุ์หม่าจู หม่อนกินผล กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง กล้วยหอมทอง ชะอม เป็นการดูแลรักษาแบบเกื้อกูลระหว่าง “พี่ใหญ่กับน้องเล็ก” ถุงกล้วยเพาะชำ วางใต้ต้นกล้วยขนาดใหญ่ ไผ่หม่าจูเพาะชำแบบฝังถุงให้ปากถุงอยู่ระดับดิน ให้น้ำมีความชื้นพอเหมาะ ชะอมชำถุงใหญ่ 1-2 ต้นวางหน้าบ้าน สามารถรับประทานได้ทั้งครัวเรือน คุณคงศักดิ์ นำมันเทศพันธุ์โอกินาว่า มันเทศญี่ปุ่น สีม่วงที่นึ่งสุกแล้ว มาผ่าออกให้รับประทาน สีม่วงมีสารอาหารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ผมรีบคว้ามารับประทาน เผื่อว่าความแก่จะได้ลดลง ท่านคงศักดิ์ บอกว่า ใจเย็นๆ ครับ ที่นี่จำหน่ายสายพันธุ์ มัดละ 100 ต้น 500 บาท วิธีการปลูกง่ายมาก ยกร่องขน
คุณพีระพล เศรษฐพลอย หรือ พี่โจ๊ก เนรมิตพื้นที่รอบบ้าน ปลูกพืชผักสวนครัว และผักสลัดอินทรีย์ “ผักกรอบ อร่อย จนตอนนี้ผลิตไม่ทันขาย” พี่โจ๊กใช้พื้นที่รอบบ้าน 150 ตร.ว. ปลูกพืชผักสวนครัวมากกว่า 20 ชนิด ข้อดีเป็นพืชอายุสั้น ใช้พื้นที่น้อย หาตลาดง่าย สามารถวางแผนจัดการปลูกให้มีผลผลิตออกขายได้ทุกวัน ที่สำคัญคือมีวิธีการปลูกการดูแลที่ไม่ยุ่งยากมากนัก โดยจะเลือกปลูกผักสวนครัวชนิดที่ตลาดนิยมสูง เช่น คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง และ เคล เป็นต้น และจะมีวิธีการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสมกับผักแต่ละชนิด เน้นใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการดัดแปลงวัสดุปลูกให้เข้ากับพื้นที่ในแต่ละโซน หากพื้นที่ส่วนไหนแคบ ก็จะใช้วิธีการทำเป็นชั้นปลูกผักแนวตั้ง รวมถึงการนำวัสดุเหลือใช้มาทำเป็นกระถางปลูกผักขนาดย่อม เพื่อวางไว้ในบริเวณตรงที่มีพื้นที่แคบ และยังเหลือพื้นที่ให้พอเดินเข้าไปดูแลได้ทั่วถึง #ปลูกผักรอบบ้าน #เกษตรรอบบ้าน #ทำเกษตรข้างบ้าน #เทคโนโลยีชาวบ้าน
วันนี้ ผมแวะเยี่ยมคุณคงศักดิ์ นาคคุ้ม บ้านเลขที่ 260 หมู่ 5 บ้านนิคม ต.นิเวศ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด คุณคงศักดิ์ จบการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงสาขาช่างโยธาวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ แต่มาประสบความสำเร็จในอาชีพภาคการเกษตร ภูมิลำเนาเดิม บ้านเลขที่ 547 ต.บางขุนศรี อ.บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เขาให้การต้อนรับด้วยดีพร้อม ภริยาที่สวนหลังบ้าน ติดกับเรือนเพาะชำ มีพันธุ์พืชนานาชนิด เช่น ฝรั่งพันธุ์กิมจู ไผ่พันธุ์หม่าจู หม่อนกินผล กล้วยน้ำว้ามะลิอ่อง กล้วยหอมทอง ชะอม เป็นการดูแลรักษาแบบเกื้อกูลระหว่าง “พี่ใหญ่กับน้องเล็ก” ถุงกล้วยเพาะชำ วางใต้ต้นกล้วยขนาดใหญ่ ไผ่หม่าจูเพาะชำแบบฝังถุงให้ปากถุงอยู่ระดับดิน ให้น้ำมีความชื้นพอเหมาะ ชะอมชำถุงใหญ่ 1-2 ต้นวางหน้าบ้าน สามารถรับประทานได้ทั้งครัวเรือน คุณคงศักดิ์ นำมันเทศ “พันธุ์โอกินาว่า” มันเทศญี่ปุ่น สีม่วงที่นึ่งสุกแล้ว มาผ่าออกให้รับประทาน สีม่วงมีสารอาหารที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ผมรีบคว้ามารับประมาน เผื่อว่าความแก่จะได้ลดลง ท่านคงศักดิ์ บอกว่า ใจเย็นๆครับ ที่นี่จำหน่ายสายพันธุ์ มัดละ 100 ต้น 500 บาท วิธีการปลูกง่ายมาก ยกร่องขนาด กว้าง
คุณพันธ์ศักดิ์ เผื่อนพงศ์ หรือ ครูเป้ แห่ง “บ้านสวนชวนชม-เมล่อน พิจิตร” เลขที่ 2 หมู่ที่ 6 บ้านยางคอยเกลือ ตำบลปากทาง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โทร. (089) 702-6391, (084) 080-8152 อดีตข้าราชการครูเกษียณ ซึ่งถ้าในวงการปลูกเลี้ยงชวนชมคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะครูเป้ปลูกเลี้ยงชวนชมมานานกว่า 20 ปี สะสมชวนชมเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากวงการไม้ประดับก็จะมีกระแสเป็นบางช่วงเวลา ประกอบกับเรื่องของอายุที่มากขึ้น จึงมองหาพืชใหม่ที่ใช้พื้นที่น้อย แต่สร้างรายได้ งานไม่หนักมากนัก ก็มาลงตัวที่การปลูกเมล่อนในโรงเรือน “เมล่อน” พืชอายุสั้น ที่สร้างรายได้ดี คุณพันธ์ศักดิ์ เผื่อนพงศ์ หรือ ครูเป้ เล่าว่า สำหรับการปลูกเมล่อนก็ศึกษามาสักระยะหนึ่งก่อนจะตัดสินใจปลูก เพราะเห็นว่าเป็นพืชอายุสั้น เพียง 65-80 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตจำหน่ายได้แล้ว ใช้พื้นที่น้อย ปลูกในโรงเรือนที่มีมุ้งตาข่าย ก็จะตัดปัญหาเรื่องแมลงศัตรูได้ และประกอบกับราคาขายเมล่อนค่อนข้างดี เฉลี่ยขายกิโลกรัมละ 90-150 บาท (ซึ่งราคาจะอยู่กับราคาเมล็ดพันธุ์และกลุ่มลูกค้า) ที่สำคัญการทำงานไม่หนักสำหรับคนที่อายุมาก ซึ่งตอนนี้ก็ใช้แรงงานแค่คนในครอบครัว คื