การเลี้ยงสัตว์ไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มชีวิตให้มีชีวิตชีวาเท่านั้น แต่ยังสร้างความสุขและลดความเครียดจากการใช้ชีวิตในเมืองได้อีกด้วย หากใครอาศัยอยู่ในบ้านที่มีพื้นที่กว้างมากพอ จะเลี้ยงสัตว์อะไรไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว ปลา หรือสัตว์เล็กๆ อย่างหนูแฮมสเตอร์ ก็สบาย ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนใคร แถมมีพื้นที่ให้เจ้าตัวป่วนทั้งหลายวิ่งเล่นด้วย
สำหรับคนที่พักอาศัยอยู่คอนโด ที่มีพื้นที่จำกัด หากใครสนใจอยากเลี้ยงสัตว์น่ารักๆ เป็นเพื่อแก้เหงา การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดไม่ผิดกฎหมายอาญา แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของคอนโดนั้น ๆ ในกรณีที่คอนโดมีกฎห้ามเลี้ยงสัตว์ แล้วคุณฝ่าฝืนอาจถูกปรับหรือถูกขอให้ย้ายออกตามสัญญาเช่า แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นความผิดทางอาญา การเลือกสัตว์เลี้ยงในคอนโดที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากจะพิจารณาความชอบส่วนตัวแล้ว ควรคำนึงถึงเวลาที่มีให้กับสัตว์เลี้ยง พื้นที่ในห้อง และกฎระเบียบของคอนโดด้วย วันนี้ เรามีคำแนะนำในการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กแบบที่ไม่ต้องกลัวดราม่ามาฝากกันค่ะ แนะนำให้เลือกสัตว์เลี้ยงตัวเล็กที่ไม่ส่งเสียงดังและมีขนาดไม่ใหญ่ เช่น…

– ปลา แนะนำเลี้ยงปลาขนาดเล็ก และตกแต่งด้วยไม้น้ำ เช่น ปลากัด ปลาทอง ปลานีออน ปลาคาดินัล ซึ่งมักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง เวลาที่เราเหนื่อยล่าลองพักสายตาแล้วมองไปที่ตู้ปลาจะรู้สึกช่วยผ่อนคลายได้ดีเลยทีเดียว แถมยังไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ สามารถใช้ตู้ปลาขนาดไม่ใหญ่มากได้ และมีระบบกรองน้ำ เพื่อใช้บำบัดของเสียในตู้ปลา หากมีอาหารที่เหลือในตู้หรือ ขี้ปลา ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกรองน้ำบ่อยๆ
– นก อย่าง นกแก้ว ที่เราสามารถเลี้ยงในกรงได้เลย รับรองว่าเสียงไม่ดังจนก่อให้เกิดความรำคาญกับห้องข้างๆ อย่างแน่นอน


– กระต่าย เจ้าขนปุยสุดน่ารัก เลี้ยงไม่ยากและไม่ใช้พื้นที่เยอะด้วย เช่น พันธุ์ เนเธอร์แลนด์ ดวอฟ (Netherland Dwarf) ลักษะเด่น คือ ลำตัวสั้น กะทัดรัด ขนนุ่ม-แน่น หรือจะเป็นพันธุ์ Czech Frosty กระต่ายหน้ากลม กระดูกหนา ตัวตันสุดน่ารักไปอีกแบบ
– เจ้าตัวเล็ก อย่าง กระรอก ราคาไม่แรง แถมยังน่ารักสุดๆ ส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงกันก็คือ กระรอกสวน เช่น กระรอกสวนท้องขาว กระรอกสวนหลังดำ และกระรอกสวนท้องแดง เพราะจะมีหางฟูสวยงาม หาง่าย ราคาแค่ประมาณ 200-600 บาทเท่านั้น ยิ่งถ้ารับมาเลี้ยงให้เชื่องตั้งแต่อายุก่อน 4 เดือน จะดูแลง่าย และเชื่อฟังเรามากๆ

– หนู มีหลากหลายสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง ทั้งหนูชินชิล่า (Chinchilla) หนูแฮมสเตอร์ หนูเดกู (Degu) เพราะหนูไม่ได้ส่งเสียงสร้างความลำคาญ แต่ผู้เลี้ยง ต้องหมั่นใส่ใจดูแลทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระบะทราย หรือแม้แต่กรงที่อยู่ของเจ้าหนู เพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นรบกวน และต้องมีของเล่นให้เค้าได้คลายเครียดด้วย สำหรับ ชินชิลล่านั้นมีด้วยกันหลากหลายราคา ชินชิลล่าในไทย ราคาประมาณ 5,000-50,000 บาท บาทต่อตัว ส่วนชินชิลล่าที่นำเข้า ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 7,000-100,000 บาท


– แพรี่ด็อกซ์ เป็นสัตว์สังคมที่ชอบอยู่รวมกัน ตัวเล็กพอๆ กับกระต่าย แสนรู้ มีความขี้อ้อน หลายคนจึงตกหลุมรักอย่างง่ายดาย
สำหรับทาสแมวที่อยากเลี้ยงแมวในคอนโด ควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับกฎระเบียบของคอนโดฯ ล่วงหน้าเพราะตามระเบียบ คอนโดขนาดพื้นที่ 20-80 ตารางเมตรขึ้นไป สามารถเลี้ยงแมวได้ไม่เกิน 1 ตัว (ถ้าพื้นที่มากกว่านี้ เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว)
ก่อนเลี้ยง ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง?
ก่อนตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ชนิดไหน อันดับแรก อย่าลืมศึกษานิสัย พฤติกรรม อาหาร หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้กันก่อน เพื่อที่จะประเมินตัวเราว่า เหมาะที่จะเลี้ยงพวกเขาไหม และต้องเตรียมพร้อมหรือต้องปรับตัวบ้าง เช่น
– ถ้าเลี้ยงปลา ต้องมีตู้ปลา มีอาหาร ออกซิเจน อุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ รวมถึงต้องคิดเรื่องการเปลี่ยนน้ำให้ปลาด้วย
– นก อย่างนกแก้วหรือนกสวยงาม ที่ต้องมีกรง มีอาหาร รวมถึงมีของเล่นเล็กๆ อื่นๆ ให้นกได้เล่นหรือเกาะด้วย
– กระต่าย อันดับแรกต้องเตรียมกรง ขวดน้ำ ที่แขวนข้างกรง ถาดถ้วยเซรามิกใส่อาหารเม็ดกับหญ้า ซึ่งการเลี้ยงควรให้หญ้าสดและหญ้าแห้งเป็นอาหารหลัก เสริมผักและผลไม้เล็กน้อยส่งผลต่อสุขภาพและการขับถ่าย และอย่าลืมห้องน้ำกระต่ายด้วยนะคะ
– กระรอก ผู้เลี้ยงต้องเตรียมที่อยู่สำหรับกระรอก(กรง) ภายในอาจตกแต่งเป็นแบบโพรง เพื่อให้กระรอกที่อาศัยรู้สึกปลอดภัย ในกรงกระรอกควรมีภาชนะสำหรับใส่น้ำไว้ด้วย ส่วนอาหารกระรอกกินได้หลายชนิดโดยเฉพาะผักผลไม้ และธัญพืช นอกจากนี้ ควรเตรียมกระเป๋า และโซ่ สำหรับพาเจ้ากระรอกน้อยไปเที่ยวนอกบ้านด้วย
– หนู ควรเตรียมความพร้อมด้านที่อยู่ อาหาร ของเล่นวงล้อปั่น น้ำดื่ม ห้องน้ำ ควรศึกษาพฤติกรรมของเจ้าหนูให้ละเอียด ทำความคุ้นเคยกับมันก่อนที่จะเล่นกับเขา
– แพรี่ด็อกซ์ เบื้องต้นต้องมีกรง ที่ซี่กรงไม่ห่างเกินไปนักเพราะอาจหลุดได้ และไม่สูงมากเพราะอาจตกลงมาบาดเจ็บได้ และไม่ควรชุบสีเพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ส่วนอาหารการกินที่ต้องกินเป็นประจำทุกวันคือ หญ้า และอาหารเม็ดและต้องมีขวดน้ำใส่น้ำสะอาดติดกรงไว้ตลอด เปลี่ยนหญ้าหรือเติมใหม่ทุกวัน ควรทำความสะอาดถาดรองกรงอย่างน้อยอาทิตย์ละ2ครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมเชื้อโรคและกลิ่น