อาชีพเสริม
สร้างรายได้เสริมได้ ไม่ต้องจ่ายแฟรนไชส์! จากเริ่มต้นขาย 20 กล่อง สู่ ‘สลัดไฮโซ’ ที่เปิดมานานกว่า 20 ปี พร้อมส่งต่ออาชีพให้คนที่อยากมีรายได้ จากจุดเริ่มต้นน้ำสลัดโฮมเมดที่ทำให้เพื่อนบ้านทดลองชิม สู่ธุรกิจที่เติบโต ‘สลัดไฮโซ’ แบรนด์ที่เป็นทางเลือกของคนรักสุขภาพ อีกทั้งยังสร้างโอกาสสร้างอาชีพให้กับผู้ที่อยากมีอาชีพเสริมสร้างรายได้ โดยไม่ต้องเสียค่าแฟรนไชส์ นี่เป็นเรื่องราวของ คุณหนึ่ง-สิรีสุรีนันท์ จงศิริกุล ผู้บุกเบิกธุรกิจ สลัดไฮโซ โดยเริ่มจากการทำขายวันแรกเพียง 20 กล่อง และได้ส่งต่อให้ทายาทรุ่น 2 คุณแพร-ณัฏฐณิชชญา วงศ์วัชระกุศล จนปัจจุบันสามารถสร้างยอดขายได้ 2,000 กล่องต่อวัน และขยายโอกาสให้คนอื่นได้มีอาชีพอย่างแท้จริง วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จักถึงจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จของสลัดไฮโซ ที่ยังคงความโฮมเมด และยกระดับแบรนด์ให้มีความเป็นระบบ มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น จุดเริ่มต้นสลัดไฮโซ “ด้วยความที่เรารักในอาชีพนี้ เราก็ทำมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้เวลามีคนมาถามผ่านมา 20 ปีแล้วเหรอกับอาชีพนี้ เหมือนเพิ่งแป๊บเดียวเอง” คุณหนึ่ง เจ้าของร้าน กล่าวด้วยท่าทางยิ้มแย้ม ก่อนจะเล่าต่อถึงจุดเ
จากงานอดิเรกของบล็อกเกอร์สาว สู่ธุรกิจหลัก เดือนละ 13 ล้าน! “Penny Linn Designs” ธุรกิจปักเฟรมผ้าใบ จากขายเล็กๆ บนออนไลน์ สู่หน้าร้าน แฟนคลับต่อแถวตั้งแต่ตี 5 ในยุคที่เศรษฐกิจไม่มีความแน่นอน การหารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำแล้วนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในแต่ละวัน แต่ละเดือน มีค่าใช้จ่ายตามมาอย่างไม่หยุดหย่อน ดังนั้น การหารายได้เสริมจะช่วยทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและมีทางเลือกมากขึ้น เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของ คริสต้า เลอเรย์ (Krista LeRay) สาววัย 33 ปี ที่สามารถเปลี่ยนงานอดิเรกให้กลายเป็นรายได้หลักที่มั่นคงได้ คริสต้า เลอเรย์ เธอใช้เวลาแค่ 2 ชั่วโมงขายผ้าใบปักเข็ม สร้างรายได้ถึง 25,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 875,000 บาท หลังจากเปิดตัว “Penny Linn Designs” เมื่อกันยายนปี 2020 ครั้งแรกดูเหมือนจะไปได้สวย แต่เมื่อมานั่งคิดบัญชีจริงๆ ถึงรู้ว่าผ้าใบเล็ก ประมาณ 4×4 นิ้ว ที่ขายผืนละ 50 ดอลลาร์ ประมาณ 1,675 บาท ต้องใช้เวลาวาดถึง 6 ชั่วโมง ใช้เวลาทำกันอยู่ 4 เดือน กว่าจะเสร็จแต่ละผืน เมื่อหักค่าวัสดุไปกำไรที่ได้ก็ตกแค่ชั่วโมงละ 2 ดอลลาร์ หรือประมาณ 67 บาท “ตอนนั้นคิดเลยว่าแบบนี้ไม่ไหวแ
เปิดร้านสปาเกตตีใช้งบเท่าไหร่ เลือกทำเลยังไงให้ขายดี ถอดสูตร Olio Pasta ยอดขาย 1,000 กล่องต่อวัน ในปัจจุบันหลายๆ คนอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง บางคนอาจจะอยากเปิดร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆ เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่การจะทำร้านอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังต้องคำนึงถึงต้นทุน ทำเล กลยุทธ์การตลาด และต้องดูไปถึงในเรื่องของพฤติกรรมของลูกค้า เพราะปัจจุบันผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น ทั้งร้านอาหารแบบนั่งทาน ดีลิเวอรี ทำให้การแข่งขันจึงสูงขึ้นตามไปด้วย หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จที่น่าสนใจ คือร้าน Olio Pasta (โอลิโอ้ พาสต้า) ที่มีเจ้าของคือ คุณโอ๋-ธมนณัท ก๋งอุบล เป็นร้านสปาเกตตี ตลาดนัดอินดี้ปิ่นเกล้า ที่สามารถทำยอดขายได้ 1,000 กล่องต่อวัน ภายใต้แนวคิด “อร่อย เยอะ คุ้มค่า” ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ 1. เริ่มต้นจากเล็กๆ ขยับขยายตามกำลัง สำหรับการเปิดร้านสปาเกตตีในตลาดนัด ช่วงแรกอาจจะไม่ต้องลงทุนเยอะมาก เช่น อุปกรณ์ สามารถเลือกซื้อในออนไลน์หรือเป็นมือสองสภาพดีมาใช้ก่อน เพื่อที่จะลดต้นทุน หรือเลือกใช้เป็นโต๊ะธรรมดาๆ ในการวางของก่อน และหากมีทุนแล้ว
เปิดสูตรความสำเร็จ Olio Pasta จากอาชีพเสริม สู่พาสต้ายอดฮิตย่านปิ่นเกล้า ยอดขายพุ่ง 1,000 กล่อง/วัน จากจุดเริ่มต้นที่อยากหาอาชีพเสริม จึงเกิดไอเดียทำเป็นธุรกิจเล็กๆ โดยเปิดเป็นร้านสปาเกตตีเสิร์ฟในสไตล์ข้าวราดแกง วางขายเป็นถาดๆ ให้ในปริมาณที่เยอะ ซอสฉ่ำ ล้นกล่อง ราคาหลักสิบ จนกระทั่งมีเพจดังมารีวิว ทำให้เหมือนพลิกชีวิตสร้างยอดขายได้ 1,000 กล่องต่อวัน วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณโอ๋-ธมนณัท ก๋งอุบล เจ้าของธุรกิจ Olio Pasta (โอลิโอ้ พาสต้า) ร้านสปาเกตตีสุดไวรัลที่ตลาดอินดี้ปิ่นเกล้า จากอาชีพเสริมสู่ธุรกิจหลัก แต่เดิมคุณโอ๋เคยทำธุรกิจคาเฟ่และโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่แม่กลองมาก่อน แต่ทว่าต้องย้ายเข้ามาในกรุงเทพฯ เพราะลูกสาวต้องเข้ามาเรียนต่อในระดับชั้นมัธยม เธอจึงต้องมาทำงานประจำอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง จนเมื่อเวลาผ่านไปกระทั่งลูกสาวอยู่ชั้นมัธยมปลาย ทำให้คุณโอ๋มีเวลาว่างมากขึ้นและเริ่มมองหารายได้เสริม โดยโอกาสก็เข้ามาแบบไม่คาดคิด เมื่อหลานของเธอที่เปิดร้านขายมะพร้าวอยู่ตลาดอินดี้ปิ่นเกล้า และให้เธอเข้าไปช่วยดู ทำให้เธอมองเห็นช่องทางการขาย ว่าตลาดนี้น่าจะทำอาชีพเสริมได้
หาค่าขนมให้แมว! ขายแซนด์วิชเค้ก ต่อยอดสู่ รับจัดเบรก จ๊อบเสริมเซลส์สาว รายได้ตีคู่งานประจำ จากความตั้งใจ อยากหาค่าขนมให้ลูกชายหรือน้องแมวที่เลี้ยงไว้ สู่การมีอาชีพเสริมขายแซนด์วิช ก่อนต่อยอดสู่รับจัดเบรกงานประชุม งานสัมมนาต่างๆ ที่สร้างรายได้สูสีงานประจำ ให้ คุณหมวย-สุณิสา สถาพรพงศ์ เจ้าของร้าน Sanswich Got (แซนด์วิชกัซ) หาค่าขนมให้น้องแมว คุณหมวย เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า แม้จะมีอาชีพหลักเป็นเซลส์ขายเหล็ก อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง แต่ก็อยากหารายได้เสริมเล็กๆ น้อยๆ มาเป็นค่าขนมให้ลูกชายหรือแมวที่เลี้ยงไว้ โดยก่อนหน้านี้เธอทำจ๊อบเสริม เช่น รับหิ้ว กระทั่งมาปิ๊งไอเดียขายแซนด์วิชเกาหลีหลังจากเห็นเพื่อนโพสต์รูปแซนด์วิชเกาหลีในเฟซบุ๊ก “รูปที่เพื่อนลงมันดูน่ากินมากๆ เลยอยากทำขายดูบ้าง เห็นปุ๊บลงมือทำทันที แต่ทำให้ตัวเองกินก่อน ทำเสร็จ ถ่ายรูปไปโพสต์ในกลุ่มแซนด์วิชก็มีคนสนใจเยอะมาก ชมว่าหน้าตาน่ากินบ้าง ถ่ายรูปสวยบ้าง พอมีฟีดแบ็กดีๆ เข้ามา 2 อาทิตย์ต่อมาถึงเริ่มทำขาย ไปศึกษาตามกลุ่มต่างๆ ตามยูทูบ ว่าจะขายแซนด์วิชแบบไหน ทำไส้อะไรบ้าง แล้วคิดต่อว่า จะขายให้ใคร กลุ่มแรกคือเพื่อนในอ
จากเซลส์ขายประกัน สู่เจ้าของร้านชีสบอร์ด สร้างอาชีพใหม่ขณะตั้งครรภ์ ลงทุนหลักพัน สร้างกำไรต่อวันถึงครึ่งหมื่น เมื่อชีวิตเราสามารถกำหนดเองได้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่คิด เช่นเดียวกับ คุณหมู-พรรณิภา ปัดตา เจ้าของร้าน charcuterie.bkk อดีตพนักงานขายประกันสุขภาพที่ผันตัวมาเปิดร้านชีสบอร์ดระหว่างการตั้งครรภ์ 3 เดือน การเปิดร้านชีสบอร์ดในประเทศไทยยังเป็นเรื่องที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักกันอย่างแพร่หลาย จนเมื่อในติ๊กต็อกมีกระแสชีสบอร์ด ด้วยลักษณะการตกแต่งที่มีความน่ารักเหมาะสำหรับการถ่ายภาพสนุกๆ รวมทั้งรสชาติเฉพาะตัวอย่างโดดเด่น คุณหมู เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าจะมาเปิดร้านชีสบอร์ด เธอเป็นพนักงานขายประกัน ลักษณะงานต้องเดินทางไกลไปออกบูธตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ในเวลาเดียวกันของช่วงนั้นเธอตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน จึงทำให้นึกถึงอนาคตว่าจะทำอย่างไรที่จะหยุดพักจากการทำงานมาอยู่บ้านแต่ยังคงมีรายได้ให้กับตัวเอง “จุดเริ่มต้นของร้านเราอยู่ในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าจะหาอาชีพไหนที่จะสามารถทำที่บ้านได้ เนื่องจากเดิมทำอาชีพเซลส์ขายประกัน แล้วอาชีพนี้ต้องเดินทางไกล จ
6 แฟรนไชส์ ‘ของกินเล่น’ และรูปแบบการลงทุน งบไม่เกิน 3 หมื่นก็เป็นเจ้าของได้ คืนทุนไว ตอบโจทย์คนงบน้อย ในยุคนี้ไม่ว่าใครก็ต่างอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือเป็นเจ้านายตัวเอง แต่ติดตรงที่ว่า มีทุนไม่มาก ไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้รวบรวม 6 แฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่ม ประเภทของกินเล่น ที่ลงทุนน้อย งบไม่เกิน 30,000 บาท แต่มีโอกาสทำกำไรสูง คืนทุนไว ขายง่าย ไม่ต้องใช้ทักษะเยอะ เหมาะกับทั้งมือใหม่และคนที่อยากมีอาชีพเสริม ปาเกียว ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ แฟรนไชส์น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ เป็นธุรกิจอาหารที่สามารถขายได้ตลอด โดยไม่ต้องพึ่งกระแส สามารถขายได้ทุกที่ แต่แนะนำเป็นแหล่งที่มีคนพลุกพล่าน อาทิ ตลาดนัด, ตลาดในหมู่บ้าน, บริเวณใกล้เคียงรถไฟฟ้า, ถนนคนเดิน, หน้าโรงเรียน เป็นต้น ซึ่งอาชีพนี้อยู่กับครอบครัวคุณแนนมากว่า 18 ปี โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ตัวแป้งปาท่องโก๋ เป็นสูตรโรยธัญพืช เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ ปัจจุบันเปิดเป็นแฟรนไชส์มากว่า 3 ปี ขยายสาขาไปแล้วกว่า 30 แห่ง ซึ่งหากใครสนใจ สามารถทำเป็นอาชีพหลัก หรืออาชีพเสริมก็ได้ เพราะธุรกิจนี้ใช้เวลาขายช่วงเช้าหรือช่วงเย็น ใช้
สาวไอทีวัย 24 ปี ถูกเลิกจ้างจากงานรายได้หลักแสน ชีวิตผกผันต้องแกะหอยนางรมเสิร์ฟในงานปาร์ตี้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ฮันนาห์ เชีย ใช้เวลาส่วนใหญ่ทั้งสัปดาห์ นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่ตอนนี้สามารถพบเธอได้ที่งานเลี้ยงสังสรรค์ในการแกะหอยนางรมให้กับแขก ฮันนาห์ เชีย หญิงสาววัย 24 ปี ถูกเลิกจ้างจากตำแหน่ง Data Analytics Engineer (วิศวกรวิเคราะห์ข้อมูล) ที่บริษัท Paramount ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เชียเล่าว่า เธอกับเพื่อนร่วมงานหลายคนรู้สึกกังวลตั้งแต่บริษัทเริ่มลดขนาดองค์กรในช่วงปลายปี 2023 ถึงแม้ว่าการตกงานจะไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีนัก แต่เธอก็เลือกที่จะโฟกัสไปที่ด้านดีๆ ไม่กี่อย่างที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์นี้ โดยเธอมีเวลา 1 สัปดาห์ในการทำงานให้เสร็จและออกจากงาน พร้อมกับรับเงินชดเชย 4 สัปดาห์ แต่เธอยังมีงานสำรองอีกงานหนึ่งเพื่อเพิ่มเงินในบัญชีธนาคารของเธอ นั่นคืองานพาร์ตไทม์ที่เธอเริ่มทำเมื่อปีที่แล้วในฐานะ “คนแกะหอยนางรมเคลื่อนที่” ดูโพสต์นี้บน Instagram โพสต์ที่แชร์โดย Hannah Chea (谢慧宁) 🍉 (@xirimpi) จุดเริ่มต้น “คนแกะหอยนางรมเคลื่อนที่” เมื่อปีที่แล้ว เชียได้เจอกับงานแ
ต่อขนตาบนคอนโด ธุรกิจเงินแสน ของอดีตสาวออฟฟิศ เติบโตสู่หน้าร้าน สาขาแรก คืนทุนใน 3 เดือน เพราะหมดไฟในการทำงานประจำ ทำให้ คุณส้ม-สุพิชชา พุกเผื่อน หันมาวางแผนชีวิตใหม่ กับความตั้งใจ “อยากทำให้เพื่อนสาวชาวโลกมีความมั่นใจมากขึ้น” ด้วยการเปิดร้านต่อขนตาเล็กๆ บนคอนโด ย่านทองหล่อ พร้อมรับลูกค้าหลังเลิกงานประจำอันแสนหนักหน่วง สู่การมีหน้าร้านถึง 2 สาขา และมีลูกค้าต่างชาติเป็นกลุ่มหลัก ธุรกิจนี้ขยับขยายจากคอนโดสู่หน้าร้านได้อย่างไร และทำไมถึงมีชาวต่างชาติมาเป็นลูกค้าประจำ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาไปพูดคุยกับ คุณส้ม เจ้าของร้าน LASHLY.BKK วัย 25 ปี ทำงานประจำควบคู่อาชีพเสริม หลังเรียนจบวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUIC) คุณส้มเริ่มทำงานประจำด้านไฟแนนซ์ในบริษัทแห่งหนึ่งเกือบ 2 ปี เธอได้รับเงินเดือนสูงเกือบ 4 หมื่นบาท แต่ก็เป็นงานที่มีความเครียดสะสม และระบบการทำงานที่ค่อนข้างซับซ้อน จนทำให้เธอหมดไฟในการทำงาน และเป็นเหตุผลให้ตัดสินใจลาออก แล้วหันมาจริงจังกับธุรกิจต่อขนตา ที่ได้เริ่มทำเป็นอาชีพเสริมควบคู่กับงานประจำมาสักพักใหญ่ อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง จบปริญญา มาเป็นแม่ค้า “
หนุ่มจุฬาฯ เปิดร้าน “บ้านบัวลอย” จากวันแรกขายได้ไม่ถึง 10 ถ้วย ใช้ ChatGPT ช่วยปรับสูตรจนปัง ที่สี่แยกวังหิน มีร้านขนมหวานเล็กๆ ชื่อว่า “บ้านบัวลอย” ที่กลายเป็นไวรัลในเวลาเพียงข้ามคืน ร้านนี้เกิดจากความชอบกินบัวลอยของ คุณวิน-ธนวัฒน์ จันทร์กระจาย อายุ 28 ปี หนุ่มนิเทศฯ จุฬาฯ ที่ยืนหยัดอยากทำธุรกิจของตัวเอง แต่เมื่อพอมาทำจริงๆ ก็พบว่าไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด จากคนที่ไม่เคยทำขนมเลยแต่ต้องมาปั้นแป้ง ทำสูตรบัวลอยเอง แต่คุณวินเลือกที่จะใช้เทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหา เขาใช้ AI อย่าง ChatGPT เป็นที่ปรึกษาในการปรับสูตร โดยทดลองใส่ส่วนผสมตามคำแนะนำจนได้รสชาติที่ลงตัว แต่ทว่าพอแก้ปัญหาเรื่องสูตรได้ ก็มีปัญหาให้เข้ามา นั่นคือ ร้านไม่มีคนรู้จัก บางวันขายได้แค่ถ้วยเดียวก็มี จนกระทั่งเพื่อนของเขาเข้ามาช่วยรีวิวลงโซเชียล ทำให้สิ่งนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ “บ้านบัวลอย” กลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน ยอดขายพีกสุด 175 ถ้วยต่อวัน จุดเริ่มต้นของธุรกิจ “เรารู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ชอบทำงานประจำ ไม่ชอบกิจวัตรการตื่นเช้าไปตอกบัตร เลยเป็นฟรีแลนซ์รับตัดต่อวิดีโอ ทำงานอยู่ที่บ้านเป็นหลักครับ” เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว