วิศวกรหนุ่มทำสวนฝรั่ง จากขายผลสดสู่ขายกิ่งพันธุ์ รายได้ไม่ธรรมดา
ทุกเรื่องราวความสำเร็จ มักซ่อนจุดเริ่มต้นที่คนอื่นมองไม่เห็น อย่างเช่น คุณต้อม-ภานุพงษ์ คำกวีปราชญ์ ชายหนุ่มที่เคยมีอาชีพเป็นวิศวกรด้านคอมพิวเตอร์ ต้องผันตัวสู่การมาเป็นเกษตรกรอย่างตั้งใจ จากจุดหักเหที่หารายได้เสริมระหว่างทำงานประจำต้องล้มเหลว ทำให้คุณต้อมสนใจทำเกษตรยุคใหม่ โดยนำนวัตกรรมและการจัดการพื้นที่อย่างเป็นระบบเข้ามาใช้ เพื่อให้พื้นที่ 6 ไร่ สามารถมีมูลค่าและสร้างรายได้ตลอดทั้งปี
หวังแค่เพียง “ปลูกไว้กิน”
สู่โอกาสเปลี่ยนชีวิต!!!
คุณต้อม เล่าให้ฟังว่า จากเดิมที่เคยทำอาชีพเป็นวิศกรมานั้น ในช่วงนั้นได้ทดลองทำอาชีพเสริมหลายอย่าง เพราะช่วงที่ทำงานประจำประสบปัญหาในเรื่องของรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ทำให้คุณต้อมทำอาชีพเสริมมาเรื่อยๆ ตั้งแต่การขายของตลาดนัด เปิดร้านขายอะไหล่แต่งรถ เรียกได้ว่าเจ๊งจนถึงที่สุด ส่งผลให้ได้มาทดลองทำเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ได้เริ่มมาปลูกพืชไว้กินเองและถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตด้วยเช่นกัน
“พอได้รับความล้มเหลวจนถึงที่สุดแล้ว ผมก็ได้กลับมาบ้านมาทดลองปลูกพืชผัก เน้นเพียงแต่ปลูกกินเท่านั้นยังไม่ได้เน้นขาย เพราะช่วงแรกเริ่มต้นจากพื้นที่เพียง 2 งานเท่านั้น ซึ่งพืชตัวหลังภายในสวนเลยก็จะเป็นฝรั่ง”
ฝรั่ง จากไม้ผลที่ไม่เคยรู้จัก
สู่ไม้สร้างรายได้อย่างเต็มรูปแบบ
คุณต้อมเล่าถึงการจัดการพื้นที่เพียง 2 งานในช่วงแรกว่า เปรียบเสมือนเป็นห้องทดลองธรรมชาติ คุณต้อมเริ่มปลูกพืชแบบลองผิดลองถูก จนเมื่อผลผลิตเริ่มงอกงาม จึงค่อยๆ ขยับขยายจนกลายเป็นพื้นที่สวนขนาด 6 ไร่ โดยมี “ฝรั่ง” เป็นพืชหลักที่เลือกปลูก ไม่ใช่เพราะรักในรสชาติ แต่เพราะฝรั่งเป็นพืชที่โตไว ขายได้จริง ทำตลาดได้หลากหลายช่องทางตั้งแต่ผลไปจนถึงกิ่งพันธุ์
ฝรั่งจึงไม่ใช่แค่ผลไม้สำหรับคุณต้อม แต่คือธุรกิจที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์ โดยการเลือกสายพันธุ์ฝรั่งเข้ามาปลูกภายในสวน จะเลือกหลายสายพันธุ์เพื่อลองเชิงทางการตลาดและคัดเลือกจุดเด่นจากแต่ละพันธุ์ ซึ่งตอนนี้คุณต้อมปลูกฝรั่งอยู่ 6 สายพันธุ์ ที่ให้ผลผลิตดี โตไว และรสชาติเยี่ยม อย่างเช่น หงจ้วนสือ เฟิ่นหงมี่ หงเป่าสือ แตงโม และต่อมาได้ทดลองฝรั่งสายพันธุ์ใหม่ๆ อย่างศรีสะเกษเบอร์ 3 และอโยธยาเบอร์ 3 ที่มีสีแดงทั้งต้น ใบ และผลเข้ามาปลูก เพื่อสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าได้อย่างชัดเจน
“ฝรั่งตอนนี้ที่ขายดีสุดก็จะเป็นหงจ้วนสือ เฟิ่นหงมี่ หงเป่าสือ แตงโม ซึ่งทั้ง 4 ตัวนี้จะเป็นฝรั่งที่ข้างนอกสีเขียวข้างในสีแดง และส่วนพันธุ์ผลแดงใบแดงอย่าง ศรีสะเกษเบอร์ 3 และอโยธยาเบอร์ 3 เป็นสายพันธุ์ที่คนไทยผสมสายพันธุ์ขึ้นมา”
การดูแลฝรั่งต้องเข้าใจธรรมชาติ
มากกว่าปลูกผ่านตำราเพียงอย่างเดียว
สำหรับการปลูกผลผลิตให้ได้ผลผลิตคุณภาพ คุณต้อม บอกว่า ฝรั่งเป็นไม้ที่ชอบแดดจัด 100 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 6-8 ชั่วโมง และไม่ชอบพื้นที่น้ำท่วมขัง และดินที่ใช้ปลูกไม่ต้องพิเศษอะไรมาก เพียงแต่ห่มฟางคลุมดินให้มีความชื้น และรดน้ำทุกวัน วันละ 10 นาที ก็เพียงพอ พร้อมกับใส่ปุ๋ยทุก 15 วัน เป็นปุ๋ยแบบแห้งและน้ำสลับตามช่วงเวลา เมื่อต้นที่นำมาปลูกได้อายุ 6-7 เดือนก็จะเริ่มให้ผลผลิตได้
ตั้งแต่การบำรุงต้นจนถึงการออกผลผลิต การดูแลไม่มีอะไรซับซ้อนแต่ต้องสม่ำเสมอ ในส่วนของการเลือกเทคนิคการขยายพันธุ์และกิ่งพันธุ์เข้ามาปลูกนั้น คุณต้อมแนะนำให้ใช้กิ่งตอนเป็นหลัก เพราะกิ่งที่ได้จากการตอนจะโตไวให้ผลผลิตเร็ว แม้จะไม่มีระบบรากแก้ว
“การปลูกฝรั่งที่สวนระยะห่างระหว่างต้นก็จะอยู่ที่ 3×4 เมตร หรือ 2×2 เมตร สามารถเลือกปลูกให้เหมาะสมกับพื้นที่ได้ครับ ซึ่งฝรั่งการบำรุงต้นปกติก็จะใส่ปุ๋ยตัวหน้าสูง เช่น สูตร 25-7-7 หรือ สูตร 29-9-9 ให้พร้อมกับปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และพอเริ่มทำผลผลิตก่อนที่จะมีการตัดแต่งกิ่ง บำรุงด้วยปุ๋ยตัวท้ายสูงเป็นปุ๋ยสูตร 15-5-25 หรือสูตร 15-5-30 และต้องตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้เขาแทงยอดใหม่ ออกดอกใหม่ ให้ติดผล พอเก็บผลผลิตแล้ว ก็จะกลับมาบำรุงต้นใหม่”
การห่อผลฝรั่ง เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การห่อผลถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลผลิตคุณภาพ คุณต้อม บอกว่า การห่อจะเริ่มเมื่อผลฝรั่งมีขนาดเท่าหัวแม่มือหรือขนาดเท่ากับเหรียญ 10 บาท เนื่องจากฝรั่งเป็นไม้ที่ออกผลดก เพื่อให้ได้ผลสวย รสชาติดี จึงไม่จำเป็นต้องห่อทุกผล ควรเลือกผลที่สวยๆ ไว้ในปริมาณที่เหมาะสม หากไว้มากเกินไปจะทำให้ต้นฝรั่งโทรมหรือตายได้ พร้อมทั้งส่งผลไปถึงรสชาติที่ไม่อร่อยด้วยเช่นกัน
“อย่างที่สวนผม 1 ต้น จะคัดเหลือผลไว้ประมาณ 50 ผล เพื่อทำการห่อ การเลือกต้องเลือกผลที่ไม่มีรอย ช่วงที่จะห่อก็จะมีการฉีดพ่นด้วยสารชีวภัณฑ์ ทุกๆ 7-10 วัน เพื่อป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช ส่วนในเรื่องของใบฝรั่งอย่าเอาออกเยอะ เราจะเอาออกเฉพาะช่วงตัดแต่งกิ่งเท่านั้น ตอนที่ฝรั่งมีผลแล้วอย่าไปยุ่งกับใบ เพราะใบฝรั่งจะเป็นตัวสร้างอาหาร และยังเป็นร่มเงาช่วยในการควบคุมความร้อนได้ด้วย”
การขายฝรั่งก็ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน
ทำตลาดออนไลน์จากสวน ส่งตรงถึงบ้าน!
สำหรับการทำตลาดเพื่อจำหน่ายฝรั่งภายในสวน คุณต้อมเลือกใช้วิธีการจำหน่ายแบบออนไลน์เพื่อทำตลาด ตั้งแต่การโพสต์คลิปสั้นบนโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงการทำคอนเทนต์ให้ความรู้ สร้างตัวตนจนลูกค้ารู้จักและไว้วางใจ ซึ่งผลผลิตฝรั่งสดๆ ที่ได้จากสวนคุณต้อมจะแพ็กใส่กล่องที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 2-3 กิโลกรัม จำหน่ายในราคากล่องละ 250-350 บาท ราคาถูกแพงขึ้นอยู่กับเกรดและสายพันธุ์ของฝรั่ง ส่วนฝรั่งที่เป็นผลแดงทั้งผลจะจำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 350 บาท ซึ่งผลผลิตทั้งหมดจากสวนจะจัดส่งถึงหน้าบ้านขอลูกค้าที่สั่งซื้อเข้ามาในระบบออนไลน์
“การจำหน่ายออนไลน์มันดีนะครับ มันทำให้ได้คุยกับลูกค้าได้โดยตรง อย่างมีผลผลิตช่วงไหนโพสต์แจ้งออกไป ลูกค้าเห็นก็จะเข้ามาจับจองกัน ซึ่งถ้าเราจำหน่ายแถวบ้านแบบไม่ทำตลาดออนไลน์ ราคาก็ไม่ค่อยดี แต่พอจับตลาดออนไลน์ได้มันค่อนข้างได้ราคา และที่เห็นชัดเลยคือฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น ลูกค้าเห็นสินค้าเราทางออนไลน์มากกว่าการมีหน้าร้าน จนทำให้เห็นว่าการทำเกษตรผลผลิตมันต่อยอดไปได้เรื่อยๆ”
“เกษตรทำยังไงก็ไม่รวย”
คือความเชื่อที่คุณต้อมพิสูจน์ว่า “ผิด”
จากประสบการณ์และการทำตลาดจำหน่ายฝรั่งมาหลายปี คุณต้อมไม่ได้จำหน่ายแค่ผลฝรั่ง แต่ยังนำประสบการณ์และความรู้ที่สะสมจากการลองผิดลองถูก มาสร้างมูลค่าโดยทำคลิปให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกเพจที่เป็นลูกค้า ถึงแนวการปฎิบัติที่ถูกต้องของการทำเกษตรที่คุณต้อมทำจริงใช้จริงจนเห็นผล จึงทำให้สินค้าอื่นๆ อย่างเช่น น้ำหมัก ปุ๋ยหมัก กิ่งพันธุ์ฝรั่งของที่สวนขายดี เพราะจากการแนะนำและตอบการแก้ปัญหาอย่างจริงจังที่ทำให้ลูกค้ามองว่า คุณต้อมเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้ สินค้าที่จำหน่ายอาจจะแพงหน่อย แต่การันดีคุณภาพของดีคือคำที่ลูกค้าพูดถึงคุณต้อมเสมอ
“สมัยก่อนผมจะฝังใจกับคำว่าเกษตรทำยังไงก็ไม่รวย แต่ผมมองกลับกัน เกษตรนี่ถ้าทำดีๆ โคตรรวยเลย ต้นทุนไม่เยอะ ถ้าทำแบบเข้าใจ นำองค์ความรู้เข้ามาปรับใช้ เพราะการทำตลาดมันไม่ได้ขายได้แค่ผลผลิต มันสามารถขายกิ่งพันธุ์ ขายได้ไปถึงปุ๋ย คือลูกค้าเห็นผมใช้อะไรแล้วได้ผลเขาก็อยากใช้ มันจึงทำให้สิ่งเหล่านี้ทำตลาดให้ผมไปด้วยพร้อมๆ กัน”
การปลูกฝรั่งอย่างเดียวคุณต้อมได้พิสูจน์แล้วว่าอาจไม่ได้พาให้รวย แต่ถ้ารู้จักปลูกฝรั่งให้ขายได้มากกว่าแค่ฝรั่ง จะสามารถสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนในโลกออนไลน์ และเกษตรกรยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องถือจอบไถนาอย่างเดียว แต่ต้องถือกล้อง สร้างคลิป ทำตลาด สื่อสาร และใช้เทคโนโลยีเป็นเพื่อขยายการทำตลาดให้กว้างขึ้น
หากท่านใดสนใจเกี่ยวกับกิ่งพันธุ์ฝรั่งหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณต้อม-ภานุพงษ์ คำกวีปราชญ์ หมายเลขโทรศัพท์ 064-220-9000 หรือที่เพจ พี่ต้อม เกษตรปลอดสารพิษ
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก 9 เมษายน 2025
ก่อนที่จะลงมือปลูกไม้เศรษฐกิจ เรามารู้จักความหมายกันก่อนดีกว่า ไม้เศรษฐกิจ หมายถึง ไม้ยืนต้นทุกชนิด รวมถึงไผ่ที่ปลูก หรือขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่นอกเขตป่าอนุรักษ์ที่มีการใช้ประโยชน์เนื้อไม้ หรือผลิตผลอื่นที่ไม่ใช่เนื้อไม้เพื่อการค้า ดังนั้น อาจกล่าวโดยรวมว่า ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจเป็นไม้ที่สามารถนำมาสร้างมูลค่าหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมทั้งให้ประโยชน์ทางตรงและทางอ้อมแก่ผู้ปลูก นำไปสู่แนวทางส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ ตามนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาลที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกไม้เศรษฐกิจในที่ดินกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองที่ดินอันชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไม้หวงห้าม เหมือนการปลูกพืชทั่วไป การตัด ขาย ขนย้าย แปรรูป ไม่ต้องขออนุญาตหรือจะให้เจ้าหน้าที่รับรองไม้เพื่อการค้าการส่งออกก็ได้ โดยการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นสวนป่า วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านได้รวบรวมไม้เศรษฐกิจ 5 ชนิดมาฝาก และเหมือนจะเป็นไม้นอกสายตาที่หลายคนยังไม่รู้ว่าไม้ชนิดนี้เป็นไม้เศรษฐกิจและมีเนื้อไม้ที่สวยงามมากๆ แถมผลยังกินได้อีกด้วย 1. มะริด มะริดเป็นไม้โบราณดั้งเดิมของไทย อยู่ในกลุ่มไม้เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดี เนื่องจาก
การที่คิดนอกกรอบอย่างหนุ่มช่างแอร์ที่สู้ชีวิตคิดค้นและต้องทำให้ได้จนประสบความสำเร็จ กับการเลี้ยงปูดำทะเลในที่ๆ ไกลจากทะเล และเลี้ยงแบบออร์แกนิกด้วย เท่ากับว่ายกทะเลมาไว้ที่ภาคเหนือคือ หนุ่มโอม หรือ นายธนกฤต พลอยงาม ช่างแอร์วัย 36 ปี ผู้นี้จนเป็นที่ฮือฮา และสมควรยกย่องในความคิดนอกกรอบของเขาให้เป็นผู้นำในการศึกษาทดลองการเลี้ยงปูดำทะเล จนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน ยังไม่พอแค่นี้ หนุ่มโอมยังเตรียมขยายพื้นที่เพิ่มเพื่อเลี้ยงปูดำทะเลเพื่อรองรับออร์เดอร์จากลูกค้าที่สั่งจองมาไม่ขาดสาย อยู่ภาคเหนือได้กินปูทะเลสดๆ เป็นๆ แถมยังรสชาติดี เนื้อหวาน และปลอดสารพิษหรือออร์แกนิกอีกด้วย ลูกค้าต่างติดอกติดใจ สั่งจองออร์เดอร์ข้ามปี ได้กินของสด สะอาด รสชาติดี ต้องจากฟาร์มที่พิษณุโลกเท่านั้น “ผมภูมิใจจากการลองผิดลองถูก หมดค่าใช้จ่ายไปมากมายแต่ไม่ท้อ จนในที่สุดได้มาพบว่าน้ำเกลือง่ายๆ ไม่ต้องมีอะไรยุ่งยาก ผมเลี้ยงในน้ำเกลือมา 3 ปีโดยที่ไม่ต้องเติมเกลือ เติมแค่น้ำสะอาดเท่านั้น ที่ว่าน้ำสะอาดได้ระเหยออกไป ก็เติมน้ำสะอาดทดแทน หลักการแค่นี้ก็เลี้ยงปูทะเลดำได้แล้วครับ” นายธนกฤต พลอยงาม เจ้าของธ
โกสนจัดเป็นไม้มงคล ที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันดี เนื่องจากชื่อ “ โกสน” เป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า “กุศล” หมายถึง การสร้างบุญงาม ความดี จึงนิยมปลูกโกสนไว้หน้าบ้าน ในทางทิศตะวันออกของบ้าน มาตั้งแต่สมัยโบราณ เพื่อเป็นไม้เสริมสิริมงคล ให้ทุกคนในครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ความมีเสน่ห์ของโกสนอยู่ที่ลวดลายใบที่สวยงามสลับเฉดสีต่างๆ เช่น เฉดสีชมพูก็จะมีสีเขียวเข้มมีชมพูเข้ม เส้น ลายใบชัดเจน เฉดสีเหลืองก็จะออกสีไล่เลี่ยกันในโทนเหลือง เป็นต้น โกสน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า โคร-ออน (Croton) เป็นไม้ประดับประเภทไม้พุ่ม ที่มีใบเป็นจุดเด่น โดยใบมีรูปทรงและสีที่สวยงามแตกต่างไปกับพรรณไม้อื่นๆ นิยมเป็นไม้กระถาง ให้มีลักษณะทรงพุ่มเล็กๆ หากต้องการให้มีทรงพุ่มใหญ่ จะใช้วิธีปลูกลงดิน โกสนมีทั้งใบเล็ก-ใบใหญ่ ต้นโกสนเป็นไม้พุ่มที่มีขนาดตั้งแต่ พุ่มเล็ก จนถึงพุ่มใหญ่ ลักษณะเด่นของพันธุ์ไม้นี้คือ ทรงของใบมีหลายลักษณะผันแปรตามธรรมชาติ และมีเด่นที่ใบมีหลายสี เช่น เหลือง ส้ม ม่วง ขาว ชมพู ดำ และยังมีลักษณะใบลูกผสม ที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ขึ้นมา โกสนที่ใช้เป็นไม้ประดับงดงามนั้นมีชนิด (species) เดียวคือ โคเดียมหรือโคดิเอี้ยม
ถั่วพู ไม่ใช่ ถั่วพลู (ถั่ว ก็ ถั่ว พลู ก็ พลู) ชื่อสามัญ : ถั่วพู, winged bean, princess bean ชื่อวิทยาศาสตร์ : Psophocarpus tetragonolobus วงศ์ : Leguminosae ถั่วพู มักถูกเรียกผิดๆ ว่า ถั่วพลู เป็นประจำ ที่จริงต้องเรียกว่า ถั่วพู จึงจะถูกต้อง ผู้เขียนเห็นใครเรียกถั่วพลู จะหงุดหงิดทุกครั้งไป คนตั้งชื่อเขาคิดดีคิดถูกแล้ว ที่เรียกว่า ถั่วพู ก็เพราะลักษณะของฝัก จะเป็น พู มี 4 แฉก ซึ่งตรงกับ คอมมอนเนม ภาษาอังกฤษว่า winged bean หากรักกันจริงทราบแล้วโปรดเรียกให้ถูกกันสักนิดนะครับ ภาษาไทยของเรายอดเยี่ยมอยู่แล้ว ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้ดีเถอะ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ถั่วพู เป็นไม้เลื้อย อายุหลายปี (Herbaceous perennials plant) เมื่อถึงวัยแก่เต็มที่ ส่วนลำต้นที่เป็นเถาเหนือดินก็จะแห้งเหี่ยวตายไป เหลือไว้เพียงหัวหรือลำต้นใต้ดิน แอบซุ่มรอคอยเวลาเจริญเติบโตได้ในฤดูฝนถัดไป ดอกถั่วพูจะเป็นชนิดดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกมีสีม่วงอ่อนอมขาว หากมีค้างให้ก็สามารถเลื้อยไปได้ไกลๆ ระบบรากของถั่วพูจะแข็งแรงมาก มีจำนวนปมจุลินทรีย์ (Rhizobium) ที่ช่วยตรึงไนโตรเจนจากอากาศได้มากกว่าถั่วชนิดอื่นด้วยกัน จึงเหมาะสำหรับปลูกบำร
