สูตรลับจากฟาร์ม
กระแสรักสุขภาพยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง หากเกษตรกรท่านใดอยากจะสร้างรายได้และช่องทางการตลาดเพิ่ม การทำเกษตรอินทรีย์ หรือเกษตรปลอดสารพิษ ถือเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์ เพราะไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพของตัวเอง แต่ยังดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค และที่สำคัญคือ สินค้าที่เป็นเกษตรอินทรีย์จะขายได้ราคาดี และเป็นที่ต้องการของตลาด สามารถกำหนดราคาขายได้เอง ซึ่งการเกษตรที่ใช้สารเคมีไม่สามารถทำได้ โดยครั้งนี้จะพาทุกท่านมาทำปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เองสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมะละกอฮอลแลนด์ เป็นสูตรของ คุณสำราญ แคยิหวา เกษตรกรจังหวัดสตูล เกษตรกรตัวอย่าง ปลูกมะละกอฮอลแลนด์อินทรีย์ ส่งขายกลุ่มคนรักสุขภาพ ผลผลิตมีเท่าไหร่ก็ไม่พอขาย ด้วยเคล็ดลับน้ำหมักจากมะละกอที่เสียหายจากการโดนแมลงกัดกิน คุณสำราญ บอกว่า สาเหตุที่ทำให้ผลผลิตดก เก็บขายได้ทุก 4 วัน ส่วนหนึ่งมาจากการใช้ปุ๋ยน้ำหมักที่ทำเอง ส่วนผสมมีดังนี้ 1. มะละกอที่ช้ำเสียหายจากการโดนแมลงกัดกิน 20 กิโลกรัม 2. พด.2 ที่ขอจากกรมพัฒนาที่ดิน 1 ห่อ 3. กากน้ำตาล 5 ลิตร 4. น้ำเปล่า ใส่ไม่มาก ปุ๋ยหมักต้องมีความข้น วิธีทำ ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ใส่ถังหมักปิดฝา หมักทิ้งไว้ 45 วัน น้ำหมั
มะละกอเป็นผลไม้ที่มีความนิยมสูงในประเทศไทย ด้วยรสชาติหวานฉ่ำและคุณค่าทางโภชนาการที่มากมาย การปลูกมะละกอในปัจจุบันมีเทคนิคต่างๆ ที่สามารถช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของผลไม้ได้ หนึ่งในนั้นคือการ “เสียบยอด” ที่ช่วยให้มะละกอออกดอกเร็วและติดผลได้ดี การปลูกมะละกอ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ผลมีรูปทรงสวยงามเป็นทรงกระบอก ตรงตามความต้องการของตลาดและขายได้ราคาดี ต้องปลูกจากต้นมะละกอเพศกะเทย แต่ชาวสวนจะทราบได้อย่างไรว่า มะละกอต้นไหนเป็นต้นตัวผู้ วิธีคัดเลือกเพศแบบดั้งเดิมคือ การปลูกจากเมล็ดเพื่อดูดอก แต่มีข้อเสียคือใช้เวลา 2-3 เดือน ปัจจุบันมีวิธีการคัดเลือกเพศมะละกออีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถผลิตต้นกล้าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ สามารถผลิตต้นกล้าได้ปริมาณมาก การขยายพันธุ์มะละกอวิธีนี้เรียกว่า “การเสียบยอดมะละกอ” แบบไม่อาศัยเพศ วิธีเสียบยอดมะละกอ ข้อดีของการปลูกมะละกอเสียบยอด นอกจากจะคัดเลือกต้นกล้าที่เป็นต้นกะเทยได้แล้ว ต้นมะละกอยังมีการเจริญเติบโตเร็ว และให้ผลผลิตเร็วขึ้น โดยร่นระยะเวลาการเก็บเกี่ยว ประโยชน์ของการเสียบยอด การปลูกมะละกอด้วยวิธีเสียบยอดเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการอ
วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน รวมสูตรน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมักชนิดต่างๆ ที่สายเกษตรปลูกผักทำสวนไม่ควรพลาด สามารถนำไปทำตามกันได้ง่ายๆ วัตถุดิบหาได้ไม่ยาก แถมมีประโยชน์กับการปลูกพืชผักชนิดต่างๆ อีกด้วย จัดหนัก จัดเต็มทั้ง 13 สูตร สามารถนำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่บอกหมดเปลือกตั้งแต่อุปกรณ์วัตถุดิบ ขั้นตอนการทำ รวมไปถึงวิธีการนำมาใช้ จะมีสูตรไหนกันบ้างไปดูกันเลย เคล็ดไม่ลับ “สูตรน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง” กำจัดแมลงที่ชอบมากัดกินใบทำให้เป็นรู และเหี่ยวแห้ง แต่ไม่อยากใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ไร้สารตกค้าง เรียกได้ว่าวัตถุดิบวันนี้หาได้ง่ายๆ สมุนไพรล้วนๆ ที่มีรสเผ็ดร้อนและมีกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย ไม่มีสารเคมีปลอดภัยแน่นอน ซึ่งแต่ละชนิดล้วนมีสรรพคุณช่วยขัดขวางการดูดกินอาหารและยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลงหลายชนิด และทำให้ไข่แมลงฝ่อ รวมถึงช่วยกำจัดเชื้อราและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุโรคพืชได้ วิธีใช้ : นำน้ำสกัดสมุนไพรที่กรองได้ทั้งหมด มาผสมกับน้ำ 10 ลิตร ใช้ฉีดพ่นต้นผักในช่วงเย็นเมื่อไม่มีแสงแดดทุก 7-10 วัน เพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืช แต่หากมีแมลงระบาดมากให้ฉีดพ่นทุก 3-5 วัน ข้อแนะนำ : น้ำหมักสูตรนี้ไม่ค
ปลูกพืชมักจะมีปัญหาเพลี้ยมากวนใจ เพลี้ยลง ซึ่งพบได้ในพืชหลายชนิด มักจะคอยดูดน้ำหวานของพืช หากพบเพลี้ยอยู่ต้องรีบกำจัดอาจส่งผลร้ายแรงต่อพืช เนื่องจากเพลี้ยจะใช้ปากอันแหลมคมที่มีขนาดเล็ก ดูดและทำลายท่อเลี้ยงของพืช ทำให้พืชอ่อนแอ ขาดธาตุอาหารไปเลี้ยง หากปล่อยไว้กิ่งจะแห้งตายและไม่สามารถแตกใบใหม่ได้อีก วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน มีสูตรกำจัดเพลี้ย ปลอดภัยไร้สารเคมี สามารถทำตามกันได้ง่ายๆ ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีหลากหลายสูตรที่ไล่เพลี้ยแบบธรรมชาติ ลองนำสูตรสมุนไพรสูตรนี้ไปลองใช้กันดูได้เลย ส่วนผสม เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ข่าแก่ 1 กำมือ ยาเส้นประมาณ 2 กำมือ วิธีทำ นำข่าหั่นแว่น 1 กำมือ ใส่หม้อต้มไว้ เติมน้ำแค่พอท่วมข่า ใส่ยาเส้นตามลงไป 2 กำมือ กดให้จมน้ำ ต้มทิ้งไว้จนเดือด 10-15 นาที ให้มีสีน้ำตาลและกลิ่นฉุน ยกลงจากเตาทิ้งไว้ให้เย็น กรองเอาแต่น้ำ ใส่ขวดสเปรย์ 7-10 ช้อนโต๊ะ น้ำยาเส้น+เกลือ+น้ำส้มสายชู+น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร เขย่าให้เข้ากัน ฉีดทุกส่วนของพืชที่มีเพลี้ยเป็นประจำ ในส่วนผสมของยาเส้นจะมีส่วนประกอบของสารนิโคติน นิยมนำมาใช้ไล่แมลง พวกเพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ ไรแดง ซ
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีการเพาะปลูกข้าวเป็นหลัก ในแต่ละปีมีการผลิตและส่งออกข้าวจำหน่ายในปริมาณสูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก การอนุรักษ์สายพันธุ์ดั้งเดิมของข้าวพื้นเมืองเอาไว้ โดยนำมาผลิตเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำพวกสาโทนั่นเอง จากเครื่องดื่มพื้นบ้าน มีปัจจัยอะไรบ้างที่จะประกอบร่างสร้างให้กลายเป็นสินค้าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่มีดีทั้งคุณภาพและรูปลักษณ์ ยกระดับมูลค่าทางเศรษฐกิจขึ้นสู่ของดีประจำชาติ และยังสร้างรายได้มหาศาลกลับคืนสู่ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชน การส่งเสริมแบรนดิ้งให้แข็งแรง ให้คุณค่ากับความเฉพาะตัวของวัตถุดิบพื้นถิ่น ใส่ใจในการออกแบบหน้าตาบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยเพื่อเพิ่มสุนทรียะในการดื่มชิม คือตัวอย่างองค์ประกอบที่จะพาให้เครื่องดื่มพื้นบ้านไปไกลได้ทั้งในไทยและต่างแดน ความโดดเด่นทางภูมิศาสตร์และสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยส่งผลให้แต่ละภูมิภาคมีการเพาะปลูกพืชพันธุ์ที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะมีจุดร่วมคือภูมิปัญญาหมักดองถนอมอาหารแต่การแปรรูปข้าว พืชผลไม้พื้นถิ่น สมุนไพรเหล่านี้ก็ยังต้องอาศัยภูมิปัญญาของชุมชนปราชญ์ ชาวบ้านที่ศึกษาและลงลึกในการหยิบจับส่วนผสมต่างๆ มาทดลองหมักบ่มผ่
กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เป็นประจำทุกปี เพื่อประกาศเกียรติคุณและเผยแพร่ผลงานให้ปรากฏต่อสาธารณะ โดยปีนี้ ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกคือ นายพินิจ แก้วพิมาย ซึ่งจะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญประจำปี พ.ศ. 2567 ในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ณ พลับพลาที่ประทับมณฑลพิธีท้องสนามหลวง สืบสานอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจากบรรพบุรุษชาวไทคอนสาร นายพินิจสนใจอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพราะต้องการสืบทอดภูมิปัญญาคนไทคอนสาร และสืบทอดอาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมาจากบรรพบุรุษ และมีแนวคิดว่าการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทำให้ครอบครัวไม่ต้องไปทำงานที่อื่น และเป็นการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง นายพินิจช่วยมารดาเลี้ยงไหมตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จนกระทั่งอายุ 20 ปี หลังแต่งงานก็หันมาปลูกหม่อนเลี้ยงไหม สาวไหม ทอผ้าเองมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเป็นคนชอบงานลักษณะนี้ จึงหาวิธีการสาวไหมให้ได้เส้นไหมสวยที่มีขนาดสม่ำเสมอ เรียบ สะอาด มีสีสดใส เพื่อพัฒนาต่อยอดในการผลิตผ้าไหมที่มีคุณภาพ ผลิตผ้าไหมด้วยไหมพันธุ์ไทยพื้น
“กากน้ำตาล” เป็นส่วนหนึ่งที่เกษตรกรนิยมใช้ในการทำเกษตร เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานสำคัญสำหรับจุลินทรีย์ที่ช่วยปรับปรุงดินและเร่งการหมักปุ๋ย บางครั้งกากน้ำตาลแท้อาจมีราคาแพงหรือหาซื้อได้ยาก จึงมีการพัฒนาสูตรกากน้ำตาลเทียมขึ้นมาเพื่อใช้ทดแทน โดยใช้วัตถุดิบที่หาง่าย ในโลกการเกษตรที่ต้องการความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการทำงาน บางครั้งเราต้องมองหาวิธีที่ช่วยลดต้นทุน แต่ได้ผลดีเหมือนกับปุ๋ยเคมีหรือสารเร่งโตจากภายนอก วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ ที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ นั่นคือ “การทำกากน้ำตาลเทียม” ซึ่งเป็นการใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในบ้าน ช่วยเร่งพืชโตไว เพิ่มผลผลิต และประหยัดอย่างแท้จริง สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับทำกากน้ำตาลเทียม น้ำตาลทราย (หรือน้ำตาลอ้อย) 1 กิโลกรัม ซีอิ๋วดำ 370 มิลลิลิตร น้ำเปล่า 6 ลิตร ถังพลาสติก หรือภาชนะหมัก ขนาดพอเหมาะ ทัพพี ขั้นตอนการทำกากน้ำตาลเทียม เตรียมส่วนผสม เริ่มจากการผสมน้ำตาลทราย (หรืออาจใช้น้ำตาลอ้อย) กับน้ำเปล่า 6 ลิตรในภาชนะแล้วคนให้เข้ากันจน ละลายดีแล้ว เติมซีอิ๋วดำ เทซีอิ๋วดำลงไป เพื่อเพิ่มสี เพิ่มกลิ่น เทหมดขวด เมื่อสุกแล้ว เอาหม้อลงมาวางให้เย
Eden Agritech เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาผักและผลไม้สด โดยใช้สารที่ได้รับการรับรองจาก FDA ซึ่งปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง เป้าหมายหลักของบริษัทคือการลดการสูญเสียอาหารในระดับโลก และช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประทานผักและผลไม้ที่สดใหม่ยาวนานยิ่งขึ้น วงการเกษตรไทยต้องจับตามอง กับนวัตกรรมใหม่จากฝีมือคนไทย อย่าง “Naturen” ผลิตภัณฑ์เพื่อการยืดอายุผักผลไม้ โดยทีมสตาร์ทอัพชื่อ Eden Agritech เป็นนวัตกรรมที่มีสารเคลือบจากธรรมชาติที่ปลอดภัยและสามารถบริโภคได้ ผลิตจากวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น เปลือกผลไม้ และ Plant-based Cellulose หรือเซลลูโลสจากพืช ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยยืดอายุผักผลไม้ได้นานขึ้นถึง 5 เท่า โดยไม่กระทบต่อคุณภาพหรือคุณค่าทางโภชนาการ Naturen คือผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาสำคัญในวงการเกษตร โดยเฉพาะเรื่อง การยืดอายุและรักษาคุณภาพของผักผลไม้ หลักการทำงานของ Naturen มี 3 จุดเด่นสำคัญ ปัจจุบันมีการทดสอบใช้งานจริงในกลุ่มผู้ประกอบการ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก เก็บผลไม้ให้สดได้นาน ด้วย 2 วิธีง่ายๆ กับ Ed
นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2509 เป็นต้นมา คณะรัฐมนตรีได้ลงมติให้วันพระราชพิธีพืชมงคล เป็น “วันเกษตรกร” ประจำปี เพื่อให้ผู้มีอาชีพทางการเกษตรได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเกษตร ซึ่งเป็นภาคการผลิตและเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ คณะรัฐมนตรีจึงได้กำหนดให้จัดงานวันเกษตรกรควบคู่กับวันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เพื่อบำรุงขวัญแก่เกษตรกรนับแต่นั้นเป็นต้นมา เนื่องจาก ร.ต.สุรชัย บุญคง วัย 68 ปี มีผลงานโดดเด่นด้านการปลูกแฝกและเกษตรทฤษฎีใหม่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงประกาศยกย่อง ร.ต.สุรชัย บุญคง ในฐานะปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน ประจำปี พ.ศ.2568 สาขาปราชญ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียงโดยจะเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในวันศุกร์ที่ 9พฤษภาคม 2568 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทำเกษตรหลังเกษียณ หลังลาออกจากข้าราชการทหาร ร.ต.สุรชัย บุญคง ผันตัวมาทำเกษตรโดยปลูกมันสำปะหลังและมะม่วง บนเนื้อที่ 26 ไร่ แต่รายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่ายแถมมีปัญหาด้านสุขภาพจากการใช้สารเคมีในการเพาะปลูก จึงเปลี่ยนมาทำเกษตรผสมผสาน ปลูกปุ๋ยพืชสดเช่น ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า และปอเทือง
นานแล้วที่คนพื้นบ้านตำนานไทยว่าไว้ ถึงภูมิปัญญาไทยเกี่ยวกับ “ขมิ้นชัน หรือขมิ้นเหลือง” กันอย่างมาก เกี่ยวกับประโยชน์และสรรพคุณทางยา เรียกว่า เป็นตำรับสมุนไพรพื้นบ้าน และเป็นเครื่องเทศปรุงอาหารประจำครัว นานจนดูเหมือนว่าจะเป็นพืชไทยมาแต่โบราณกาลเก่าก่อน แท้จริงเลย เรารู้จักขมิ้นกันมาตั้งแต่สมัยไหนสมัยใดแล้ว ถ้ามีใครสืบค้นต้นตอ และบันทึกไว้ อาจจะเจอเป็นหลักฐานโบราณเลยก็เป็นได้ จนถึงวันนี้สารพัดประโยชน์จากขมิ้น มีมากมายหลายด้าน หลากหลายสรรพคุณ โดยเฉพาะเกี่ยวกับสมุนไพร ขมิ้นชัน มีชื่อเรียกกันหลายอย่าง ขมิ้น ขมิ้นแกง ขมิ้นหัว ขมิ้นเหลือง ขมิ้นดี เข้าหมิ้น ภาคใต้เรียก ขี้มิ้น ละมิ้น เป็นพืชในวงศ์เดียวกับ ขิง ข่า คือ ZINGIBERACEAE มีชื่อสามัญ Turmerie ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma domestica (C.longa) ขมิ้นมี 2 อย่าง คือ ขมิ้นชัน กับ ขมิ้นอ้อย มีสรรพคุณเหมือนกัน แต่ขมิ้นอ้อยจะนำมาเป็นยารักษาโรค ขมิ้นชันจะนำมาเป็นยาสมุนไพร และเป็นเครื่องเทศปรุงอาหารหลายอย่าง ใช้ได้ทั้งหัวแง่ง และใบแก่ ใบอ่อน ทางภาคใต้ แกงเหลือง หรือแกงส้ม ทางเหนือ แกงฮังเล เครื่องหมักไก่ปิ้งสีสวย กลิ่นหอมมาก ใส่ห่อหมกปลา ใบรองหม้อนึ่