เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
แปรรูปสินค้าเกษตร

ผู้ส่งออกข้าวจ๊าก!! บาทแข็งเร็วดันราคาแพงขึ้นแข่งขันยาก จี้รัฐสกัดด่วน-เหมาะสม33บ./ดอลล์

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯคาดการณ์ปริมาณส่งออกข้าวไทยปี 2561 ไว้ที่ 9.5 ล้านตัน มีมูลค่าประมาณ 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาทประมาณ 137,000 ล้านบาท (อิงค่าบาท 31.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ) ลดลงจากปี 2560 ที่มีปริมาณส่งออก 11.6 ล้านตัน มูลค่า 5,167 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินบาทประมาณ 174,503 ล้านบาท ซึ่งเป็นอันดับ2 รองจากอินเดียที่ส่งออก 12 ล้านตัน และปีนี้อินเดียยังเป็นประเทศส่งออกข้าวมากสุดของโลก

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้สมาคมฯคาดการณ์ส่งออกปีนี้ลดลง เนื่องจากไทยไม่มีสต็อกข้าวมีผลจิตวิทยาต่อการเพิ่มสต็อกเพื่อขายของประเทศผู้ส่งออกและประเทศนำเข้า ประกอบกับนโยบายลดพื้นที่เหมาะปลูก ประเมินว่าผลผลิตข้าวเปลือกปีนี้จะอยู่ที่ 30 ล้านตัน

ร.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า ปัจจัยลบต่อการส่งออกข้าวไทยปีนี้ คือ 1. ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องและแข็งค่ามากกว่าประเทคู่แข่งทำให้ราคาข้าวไทยแพงกว่าประเทศคู่แข่งมาก โดยเฉพาะเวียดนามที่ราคาข้าวชนิดเดียวกันต่างกันกว่า 80-150 เหรียญต่อตัน 2.ขาดแคลนชนิดข้าวที่กำลังเป็นที่นิยมของประเทศผู้ซื้ออย่างข้าวพื้นนิ่มและจีนเป็นตลาดใหญ่

ขณะที่เวียดนามได้มีการพัฒนาจนตอบสนองตลาดจีน และขายได้ราคาสูง 490 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน นอกจากนี้ประเทศนำเข้าพึ่งพาการผลิตในประเทศและออกมาตรการกีดดันทางการค้า เช่น ญี่ปุ่นเข้มงวดเรื่องสารปนเปื้อนที่จะบังคับใช้ใหม่เดือนตุลาคมนี้ ส่วนปัจจัยบวกต่อส่งออกข้าว คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การค้าโลกเพิ่ม สต็อกข้าวลดลงทำให้ผู้นำเข้าตื่นตัวในการเพิ่มสต็อก และหลายประเทศผลผลิตลดลง จนต้องเพิ่มนำเข้า

“ปัญหาที่ผู้ส่งออกกังวลมากสุด คือค่าเงินบาทแข็งเร็วและแข็งค่ากว่าประเทศคู่แข่งมาก ซึ่งเดือนมกราคม2561 เงินบาทแข็งค่าแล้ว 3% แต่เวียดนามอ่อนค่าลง 0.02% เมื่อเทียบราคาส่งออกตันละ 400 เหรียญสหรัฐฯ ไทยจะแพงขึ้นถึง 12 เหรียญจากค่าบาทแข็ง แต่เวียดนามเท่าเดิม ทำให้ตอนนี้ภาวะซื้อขายข้าวค่อนข้างเงียบ ที่ซื้อเพื่อตรุษจีนได้ผ่านพ้นไปแล้ว จากนี้ผู้ส่งออกต้องระวังต่อการขายล่วงหน้าเพราะวิตกว่าหากค่าบาทผันผวนและแข็งค่าเร็ว จะทำให้ผู้ส่งออกขาดทุน เป็นเรื่องที่อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไข ” ร.ต.ท.เจริญ กล่าว

และ เรื่องการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ ไม่ได้กระทบมากเท่าเงินบาทแข็ง เพราะเป็นการขยับในสัดส่วนที่รับได้ และไม่ได้ขึ้นแรงอย่างครั้งขึ้นจาก 200 บาท เป็น 300 บาททั่วประเทศ อีกทั้งผู้ประกอบการเริ่มใช้เครื่องจักรแทนแรงงานที่หายไปมากขึ้น

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ผู้ส่งออกต้องการให้รัฐบาลดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทผันผวนเร็วและแข็งเกินคู่แข่ง เช่น เวียดนามแข็ง1% ไทยก็ควรแข็งใกล้เคียงกัน ไม่ใช่ 3% เพื่อไม่ให้ไทยสูญเสียความสามารถแข่งขัน ตอนนี้ค่าบาทที่เหมาะสมและแข่งขันได้อยู่ระดับ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ

Related Posts