ถั่วเหลือง
ผักกรอบไม่ง้อเคมี! ด้วย “สูตรน้ำหมักถั่วเหลือง” ฮอร์โมนถั่วเหลือง จะช่วยเร่งต้น เร่งใบ ทำให้ผักอ่อนกรอบ ลำต้นไม่แคระแกร็น ผักสมบูรณ์แข็งแรง และช่วยบำรุงดิน ทำให้ดินดี มีธาตุอาหารมากขึ้น 🔴วัตถุดิบ ถั่วเหลือง 1 กิโลกรัม (ที่ใช้ทำน้ำเต้าหู้) ผงกลูโคส 1 กระป๋อง (ปริมาณ 400 กรัม) น้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม โยเกิร์ต (รสธรรมชาติ) 2 ถ้วย หรือ ยาคูลท์ 2 ขวด น้ำส้มสายชู 1/2 ขวด (ขนาดขวดน้ำปลา) มะพร้าว 4 ลูก กลูโคส 400 กรัม น้ำเปล่า 8 ลิตร 🪴ขั้นตอนการทำ ล้างถั่วเหลืองด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด นำไปแช่ในน้ำอุ่นทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นเทน้ำทิ้งแล้วล้างให้สะอาดอีกครั้ง นำถั่วเหลืองที่ล้างแล้วผสมกับน้ำสะอาด 8 ลิตรปั่นให้ละเอียด กรองกากถั่วเหลืองครั้งแรกด้วยกระชอน แล้วกรองซ้ำอีกครั้งด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นเทใส่ถังที่เตรียมไว้ ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดตามลงไปในถัง คนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วปิดฝา หมักทิ้งไว้ 1 เดือน 🍀วิธีใช้ ผสมน้ำหมักถั่วเหลือง 2-3 ช้อนลงในน้ำเปล่าประมาณ 5 ลิตร ใช้รดผักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ช่วยให้ผักเติบโตได้ดี ลำต้นแข็งแรง และทำให้ผักกรอบอร่อย ✨เคล็ดลับ หากใช้ยาคูลท์หมักทิ้งไว้ 1 เดือน หากใ
ทุกวันนี้ ผู้คนทั่วโลกต่างหันมาดูแลใส่ใจเรื่องการรักษาสุขภาพ โดยเลือกกินอาหารคลีนและเพิ่มการบริโภคโปรตีนจากพืชเพื่อลดอัตราการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจแล้ว การบริโภคอาหารจากพืชยังสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการเกษตรปศุสัตว์ ทำให้คนไทยจำนวนมากหันมากินอาหารมังสวิรัติ จากผัก ผลไม้และธัญพืชแบบ 100% เพื่อสุขภาพที่ดีทำให้ร้านอาหารต่างๆ พยายามเพิ่มเมนูไร้เนื้อสัตว์เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคมากขึ้น . “ ไส้อั่ว ” เป็นอาหารพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นของภาคเหนือของไทย ปกติทำจากเนื้อหมูบด โดยผสมกับมันแข็งของหมู เพื่อไม่ให้เนื้อหมูด้านเวลาสุก เพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าในท้องตลาด กลุ่มนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพฝาง เกิดแรงบันดาลใจคิดค้นไส้อั่วที่ทำจากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่หาง่ายในท้องถิ่น เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพ คนไม่ทานเนื้อสัตว์หรือคนที่รับประทานเจ วีแกนและ คีโต การทำไส้อั่วถั่วเหลือง มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากเริ่มจากจัดเตรียมส่วนผสมสำคัญ ได้แก่ ถั่วเหลือง เต้าหู้ขาว เส้นบุก ฟองเต้าหู้ พริกแกงสูตรเจ วิธีทำ 1. ล้างถั่ว
ถั่วเหลืองเป็นพืชเศรษฐกิจที่ถูกพูดถึงในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งจากไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจกับเทรนด์รักสุขภาพมากยิ่งขึ้น กอปรกับการเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนที่มีความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม และให้ความสนใจกับการบริโภคโปรตีนจากพืช ทำให้ถั่วเหลืองป๊อปปูลาร์ขึ้นอย่างมาก ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า สถานการณ์ในประเทศไทยในปี 2567 มีผลผลิตถั่วเหลืองภายในประเทศรวม 22,737 ตัน และไทยมีพื้นที่ปลูกลดลง เนื่องจากผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ำเมื่อเทียบกับพืชแข่งขันชนิดอื่น ๆ จึงต้องพึ่งการนำเข้าเป็นส่วนใหญ่ โดยในปี 2566 จำเป็นต้องนำเข้าจำนวนถึง 3.28 ล้านตัน มูลค่า 69,955.10 ล้านบาท ประกอบกับรายงานจาก Madre Brava เปิดเผยว่า การเผาตอซังพืชในช่วงฤดูแล้ง (ธันวาคม-เมษายน) เป็นสาเหตุหนึ่งของฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากความชื้นต่ำทำให้ฝุ่นสะสมในอากาศ ปรากฏการณ์อุณหภูมิผกผัน และภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาทำให้การไหลเวียนของอากาศไม่ดี ส่งผลให้ PM 2.5 ไม่สามารถกระจายตัวได้ และที่สำคัญ การเผาเพื่อการเกษตรอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในประเทศไทยมากกว่า 34,000 รายต่อปี มรภ.ศรีสะเกษ ปิ๊งไอเดีย จังหวัดศรีสะเ
ถั่วแระ เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยของคนไทยมานานแล้ว โดยได้จากการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในระยะที่ฝักไม่แก่และไม่อ่อนเกินไป ฝักยังคงมีสีเขียวอยู่ นํามาต้ม หรือนึ่งทั้งต้นและฝัก โรยเกลือเล็กน้อย รับประทานเป็นอาหารว่าง ถั่วแระที่นํามาบริโภคนี้คือ ถั่วเหลือง เพื่อนําเมล็ดไปสกัดนํ้ามัน หรือทําอาหารโปรตีน ดังนั้น เมล็ดจึงมีขนาดเล็กแข็งกระด้าง รสชาติจืด นอกจากนี้ ในท้องตลาดจะมีถั่วแระ เมล็ดถั่วแระญี่ปุ่นที่แกะจากฝักแล้ววางขายเป็นครั้งคราวเฉพาะฤดูที่มีการปลูกถั่วเหลืองเท่านั้น ไม่มีการปลูกถั่วเหลืองเพื่อผลิตถั่วแระโดยตรง ในทวีปเอเชียประเทศที่มีประวัติการบริโภคถั่วเหลืองในระยะฝักไม่อ่อนและไม่แก่เกินไปมานานคือ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานถั่วแระเป็นกับแกล้มเบียร์ หรืออาหารว่างเกือบทุกครัวเรือน จึงมีการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ถั่วเหลืองให้มีฝักและเมล็ดใหญ่กว่าถั่วเหลืองธรรมดา 2 เท่า เมล็ดนุ่ม รสชาติหวานมัน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สําหรับบริโภคฝักสดเพียงอย่างเดียว และมีความพยายามปลูกถั่วแระส่งตลาดตลอดทั้งปี ซึ่งความต้องการบริโภคถั่วแระญี่ปุ่น หรือถั่วเหลืองฝักสด (Vegetable Soybean) ของชา
“โปรตีนเกษตร” คือ โปรตีนที่ได้จากแป้งถั่วเหลือง โดยผ่านกระบวนการสกัดไขมัน (Defatted soy flour) และนำมาอัดพอง (Extrusion) และนำมาอบแห้งเพื่อให้ได้เป็นโปรตีนในรูปทรงต่างๆ ซึ่งโปรตีนเกษตรแต่ละรูปทรงก็จะเหมาะกับการนำไปประกอบอาหารในประเภทที่แตกต่างกัน แต่โปรตีนคงเป็นชื่อที่ใครหลายๆ คนคงไม่ค่อยคุ้นหูนัก ในขณะที่บางคนคงคุ้นหูเป็นอย่างดี เนื่องจากโปรตีนเกษตรนั้นเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมสำหรับผู้ที่ทานเจหรือกลุ่มผู้ทานวีแกน เนื่องจากเป็นอาหารที่สามารถทานแทนการบริโภคเนื้อสัตว์ได้เพราะมีโปรตีนที่สูง โดยมีโปรตีนมากถึง 49.47% มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย และมีสารอาหารอื่นๆ เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก ไนอะซิน วิตามินบี 1 และบี 2 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหาร หรือ superfood เลยก็ว่าได้ วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านจึงอยากชวนมาทำความรู้จักกับเจ้าโปรตีนเกษตรนี้ให้มากขึ้น ! โปรตีนเกษตรเกิดขึ้นได้ยังไง ? เจ้าโปรตีนเกษตรนี้เกิดจากการวิจัยและศึกษาของ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีเป้าหมายจะสร้างผลิตภัณฑ์โปรตีนสูงเพื่อทดแทนเนื้อสัตว์ และวางจำหนายครั้งแรกในปี พ.ศ.
ชื่อ ‘เทมเป้’ คงเป็นชื่อคุ้นหูอยู่บ้าง เพราะเจ้าเทมเป้นี้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเทมเป้มีคุณประโยชน์และสายอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์และโพรไบโอติกส์ รวมถึงมีโปรตีนในปริมาณที่สูง ทำให้เทมเป้นั้นเป็นที่นิยมในหมู่ผู้รักสุขภาพและคนทานมังสวิรัติ โดยเทมเป้เป็นการแปรรูปถั่วที่อาศัยขั้นตอนการหมักและขึ้นรูปเป็นก้อน เจ้าเทมเป้นี้มีถิ่นกำเนิดจากเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซียในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดยในยุคแรกมักใช้ถั่วเหลืองในการทำ เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายและมีราคาถูก แต่ในปัจจุบันชนิดถั่วที่ใช้นั้นมีหลากหลายชนิดมากขึ้น วันนี้เทคโนโลนีชาวบ้านชวนมาดูกรรมวิธีการทำเทมเป้อย่างง่ายที่สามารถทำได้ทั้งการรับประทานในครัวเรือนและการประกอบอาชีพ ! ขั้นตอนการทำเทปเป้นั้นสามารถทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากหากแต่การจะทำเทมเป้ได้นั้นจะต้องอาศัยสิ่งที่เรียกว่า ‘หัวเชื้อเทมเป้’ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในโลออนไลน์ในปัจจุบัน โดยในการทำเทมเป้ใช้วัตถุดิบเพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น คือ ถั่วเหลืองซีก และหัวเชื้อเทปเป้ เมื่อได้วัตถุดิบทั้ง 2 อย่างมาอยู่ในมือแล้วก็มาเริ่มทำเทมเป้โฮมเมดก
ถั่วเหลือง: เม็ดจิ๋วแต่แจ๋ว รวม 4 สิ่งแปรรูปจากถั่วเม็ดจิ๋ว “ถั่วเหลือง” พืชตระกูลถั่วที่ถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ และมีอายุในการเก็บเกี่ยวที่สั้น ใช้น้ำน้อย อีกทั้งยังมีความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศซึ่งนอกจากการปลูกเพื่อบริโภคแล้ว เจ้าพืชตระกูลถั่วสีเหลืองนี้ยังมักถูกปลูกเพื่อตัดวงจรการระบาดของศัตรูพืชในนาข้าวและปรับปรุงโครงสร้างดินสำหรับการทำการเกษตรอีกด้วย “ถั่วเหลือง” แหล่งโปรตีนชั้นดีและสารอาหารที่สามารถหาซื้อได้ในราคาย่อมเยา มักปรากฎตัวในชีวิตประจำวันของเราอยู่เสมอ บ้างก็มาในรูปของน้ำเต้าหู้ร้อน ๆ ที่เรารับประทานคู่กับปาท่องโก๋ในตอนเช้าก่อนไปทำงาน บ้างก็ปรากฎตัวในฐานะเครื่องปรุงต่าง ๆ ภายในห้องครัว และแม้ว่าเจ้าถั่วเม็ดจิ๋วสีเหลืองนวลนี้จะมีขนาดเล็กเพียงไม่กี่เซนติเมตร แต่กลับอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายและสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน K , B1, B9, และฟอสฟอรัส อีกทั้งยังมีไขมันดีที่สามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง และพร้อมไปด้วยคาร์ดโบไฮเดรตและไฟเบอร์ด้วยเช่นกัน วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านชวนมาดูการแปรรูปถั่วเหลืองในรูปแบบต่าง ๆ ที
สยามคูโบต้า เปิดตัวโครงการ “คูโบต้า ต้นกล้า พัฒนาถั่วเหลือง” ปั้นโมเดลถั่วเหลืองประสิทธิภาพ นำโซลูชันและนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร เพิ่มศักยภาพการผลิตถั่วเหลืองที่มีคุณภาพ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ กรมวิชาการเกษตรในการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) ภาคเหนือและภาคอีสาน ในการจัดทำแปลงเรียนรู้ต้นแบบถั่วเหลืองในฤดูฝนพร้อมถ่ายทอดสู่เกษตรกร นายรัชกฤต สงวนชีวิน ผู้จัดการฝ่าย Business Value Creation บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “พืชถั่วเหลือง ถือเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก เนื่องจากเป็นพืชที่ตลาดมีความต้องการสูง แต่ในทางกลับกันการผลิตถั่วเหลืองสำหรับการบริโภคในประเทศไทยกลับน้อยลง ทำให้ต้องพึ่งการนำเข้าเป็นหลัก สยามคูโบต้าเล็งเห็นโอกาสในการส่งเสริมการปลูกถั่วเหลืองไทยสู่ความยั่งยืน หากทดแทนการนำเข้าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยทั้งในฤดูการเพาะปลูกและหลังการเก็บเกี่ยวข้าว จึงได้ดำเนินโครงการ “คูโบต้า ต้นกล้า พัฒนาถั่วเหลือง” สร้างโมเดลต้นแบบการเรียนรู้สำหรับพืชถั่วเหลืองเพื่อส่งเสริมและขยาย
บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บังกี้ จำกัด (BUNGE) คู่ค้ารายใหญ่ระดับโลก จัดส่ง “กากถั่วเหลืองปลอดรุกพื้นที่ป่า” จากบราซิลถึงไทย “ล็อตแรก” จำนวน 185,000 ตัน ผ่านการเชื่อมต่อระบบตรวจสอบย้อนกลับของทั้งสองบริษัท และเพิ่มความโปร่งใสด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทในการจัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตรอย่างรับผิดชอบ มาจากแหล่งที่ไม่บุกรุกพื้นที่ป่า ร่วมปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ บริษัท บังกี้ จำกัด (NYSE: BG) (“บังกี้”) และ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) หรือ บีเคพี ผู้จัดหาวัตถุดิบหลักอาหารสัตว์ให้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โชว์ความสำเร็จของความร่วมมือในการจัดหาถั่วเหลือง และวัตถุดิบจากถั่วเหลืองอย่างรับผิดชอบ ผ่านการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มระบบตรวจสอบย้อนกลับถึงแปลงปลูกของเกษตรกรในบราซิล โดยดำเนินการทดสอบการเชื่อมต่อระหว่างการส่งมอบกากถั่วเหลืองจากบราซิลจำนวน 185,000 ตัน ซึ่งเดินทางถึงประเทศไทยในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน 2567 นี้ นับเป็นถั่วเหลือง “ตู้แรก” จากบราซิล ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแปลงปลูกของเกษตรกรเป็นพื้นที่ท
บริษัท บังกี้ จำกัด (BUNGE) และ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ผู้จัดหาวัตถุดิบหลักอาหารสัตว์ ให้แก่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) บูรณาการร่วมกันพัฒนาและเชื่อมต่อระบบตรวจสอบย้อนกลับถึงที่มาถั่วเหลืองและวัตถุดิบจากถั่วเหลืองที่มาจากแหล่งที่ไม่ตัดไม้ทำลายป่า และเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมวัตถุดิบทางการเกษตรที่จัดหาในประเทศบราซิลโดยบังกี้ สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ซีพีเอฟในประเทศไทย และกิจการในต่างประเทศ ขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานอาหารของซีพีเอฟทั่วโลกที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และร่วมปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ ในพิธีลงนาม นายไพศาล เครือวงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุงเทพโปรดิ๊วส และนายฮูลิโอ จาเวียร์ การ์รอส ประธานบริหารร่วม ธุรกิจการเกษตร ประจำ เซา เปาโล บังกี้ เซ็นต์ลงนาม โดยมี นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ เป็นสักขีพยาน พร้อมกับ นายพีรพงศ์ กรินชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิศวกรรมกลาง ซีพีเอฟ และคริสโตส ดิโมพูโลส ประธานบริหารร่วม ธุรกิจการเกษตร ประจำ