ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
“ปลานิล” เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญของเชียงราย มีพื้นที่หลายแห่งเลี้ยงปลานิล แต่แหล่งผลิตใหญ่ที่สุดอยู่ที่อำเภอพาน เนื่องจากมีระบบชลประทานแม่ลาว ชาวบ้านตำบลศรีดอนชัย อำเภอเทิง ใช้วิธีเลี้ยงปลานิลแบบต้นทุนต่ำแนวอินทรีย์ช่วยให้มีคุณภาพ ปลอดภัย พร้อมแปรรูปสร้างมูลค่า ส่งขายตลาดสุขภาพ ขุดบ่อสร้างแหล่งน้ำทำเกษตรกรรม แล้วใช้เลี้ยงปลาและสัตว์น้ำหลายชนิด คุณพิชญาภา ณรงค์ชัย ประธานกลุ่มเลี้ยงปลานิลถิ่นล้านนาสู่สากล ตำบลศรีดอนชัย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เล่าว่า จุดเริ่มต้นมาจากการที่ชาวบ้านในชุมชนประสบปัญหาน้ำเพื่อใช้ทำเกษตรกรรมไม่เพียงพอจึงร่วมกันขุดบ่อของแต่ละบ้านเอง มีขนาดเล็ก-ใหญ่ ตั้งแต่ 3 งาน ไปจน 1 ไร่ หลังจากใช้ประโยชน์แล้วก็นำปลาไปเลี้ยงในบ่อเพื่อใช้บริโภคก่อน ต่อมาได้พัฒนาวิธีเลี้ยงจนมีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด จึงรวมกลุ่มกันเลี้ยงเป็นอาชีพเพื่อเป็นรายได้ จากเริ่มที่จำนวน 6 บ่อ จนถึงวันนี้มีจำนวน 130 บ่อ ปลาที่เลี้ยงเป็นชนิดกินพืช อย่างปลานิล ปลาตะเพียน โดยไปซื้อพันธุ์ปลามาจากอำเภอต่างๆ รวมถึงที่ศูนย์เพาะพันธุ์ปลาด้วย แล้วเริ่มเลี้ยงกันจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 4 ปี ใช้พืชผักเป็นอาหา
“ทำไม่เยอะ ทำน้อยๆ แต่เรามีกำลังใจที่จะทำตลอดเวลา ทำไม่ต้องเยอะ ทำแล้วมีเงินมีตังค์ใช้ เหลือกินก็แจก เหลือแจกก็ขาย” นี่เป็นคำให้สัมภาษณ์ของ คุณเจริญ สุขวิบูลย์ ชาวสวนเกษตรผสมผสาน ที่คลุกคลีอยู่กับการเกษตรมาเกือบ 20 ปี ถือเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ หันมาทำเกษตรผสมผสาน หรือเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริ คุณเกษตรชัย แปลนดี เกษตรอำเภอลำปลายมาศ เล่าว่า สำหรับเกษตรผสมผสานของ คุณเจริญ สุขวิบูลย์ เป็นเกษตรต้นแบบอย่างแท้จริง เนื่องจากว่าการทำการเกษตรครอบคลุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพืชไม้พุ่มอย่าง ไผ่ ที่สร้างรายได้จากการนำเอาหน่อไม้จากต้นไผ่มาขาย และยังมีการเจาะน้ำจากกอไผ่เพื่อไปขาย ถือว่าเป็นการสร้างรายได้ที่ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีรายได้เสริมเข้ามาจากการทำปุ๋ยหมักชีวภาพขาย ที่ได้มาจากการเลี้ยงโค โดยวิธีการทำปุ๋ยหมัก จะนำมูลโคมาทำตามกระบวนการและปล่อยทิ้งไว้ให้ครบกำหนดวัน จากนั้นนำมาขายและสามารถใช้กับพืชที่ปลูกภายในสวนของเขาเองอีกด้วย “ด้วยประสบการณ์มากถึง 10 กว่าปี ที่คลุกคลีอยู่กับการเกษตร ศึกษาเรียนรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเกษตร จนทำให้ได้รับการยกย่องจากชาวบ้
แม้จะไม่มีความรู้เรื่องการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และไม่เคยทำอาชีพเกษตรกรรมมาก่อน แต่ด้วยความมุมานะพยายามเรียนรู้บวกกับการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง ทำให้วันนี้ คุณภูดิศ หาญสวัสดิ์ หรือ คุณเอก เจ้าของ “บ้านสวน สานฝัน” บ้านหนองไฮ ตำบลบ้านหัน อำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพเกษตรกรรม ในระยะเวลาไม่กี่ปี โดยมีรางวัลการันตีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ประธานยังสมาร์ท ฟาร์มเมอร์ (Young Smart Farmer) จังหวัดขอนแก่น ในฐานะต้นแบบเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ สืบสานตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ของกรมส่งเสริมการเกษตร และรางวัลเกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์ม ระดับภาค ประจำปี 2561 ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ เขายังทำงานจิตอาสาเพื่อช่วยเหลือสังคมในหลายบทบาท อาทิ เป็นอาสาสมัครการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (อสปก.) เป็นครูบัญชีอาสา อำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น และเป็นประธานกลุ่มข้าว 3D (อร่อยดี ปลอดภัยดี สุขภาพดี) ตำบลบ้านหัน อำเภอโนนศิลา และเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องการเกษตรและการทำบัญชีครัวเรื
มหาอุทกภัยครั้งร้ายแรงเมื่อปลายปี 2554 ที่มีมวลน้ำก้อนมหึมา ถาถมเข้าใส่พื้นที่หลายจังหวัด นับตั้งแต่ตอนบนของประเทศเรื่อยมาจนถึงกรุงเทพมหานคร ในครั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นใครที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน ซึ่งไม่ต่างจากความเดือดร้อนของคู่สามีภรรยาคือ ป้าสาวและลุงเนียร ในยามบั้นปลายของชีวิตที่บอกว่าไม่เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมร้ายแรงเช่นนี้มาก่อน กระทั่งทำให้พื้นที่ทั้งหมดของตำบลบางม่วง จังหวัดนครสวรรค์ และพื้นที่อีกหลายแห่งต้องจมอยู่กับความสูงของระดับน้ำ 4 เมตร เป็นเวลานานถึง 2 เดือน ซาบซึ้งในโครงการหลักเศรษฐกิจพอเพียง ลาออกจากงาน เดินหน้าตามโครงการ ผู้เขียนได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 39/1 หมู่ที่ 2 ตำบลบางม่วง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อไปพบกับ ป้าสาว หรือ คุณมันทนา กลิ่นนิ่มนวล และ ลุงเนียร หรือ คุณจำเนียร กลิ่นนิ่มนวล คู่ชีวิตที่เพิ่งผ่านการต่อสู้กับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมมาไม่นาน เพราะทราบมาว่าท่านทั้งสองใช้ชีวิตคู่ด้วยการทำไร่นาสวนผสม ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ป้าสาว ในวัย 70 ปีเศษ เดิมเคยทำงานที่ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ฝ่ายการเงิน แต่เมื่อซาบซึ้งในโครงการหลักเศรษฐกิจพอเพีย
อาชีพเกษตรเป็นอาชีพที่หลายคนมองว่าลำบากทำไปก็เหนื่อยเปล่า แต่ก็ยังมีอีกหลายคนมองอาชีพเกษตรเป็นทางรอด ต่างคนต่างทัศนคติ แต่สำหรับคนที่มีทางเลือกน้อย วุฒิการศึกษาไปแข่งกับคนอื่นไม่ได้ จึงมองว่าหากไม่ย่อท้อ มีมันสมองและสองมือ อาชีพเกษตรอาจจะเป็นทางรอดที่ยั่งยืนให้เขาในอนาคตก็เป็นได้ คุณศุภชัย เณรมณี หรือ คุณกอล์ฟ อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 5 ตำบลมงคลธรรมนิมิตร อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง เกษตรกรผู้สู้ชีวิตไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เล่าว่า อดีตตนเองทำงานเป็นจับกังได้ค่าแรงวันละร้อยกว่าบาท แต่ก็ต้องยอมเพราะมีทางเลือกไม่มาก เรียนจบแค่ ป.3 ไปสมัครงานบริษัทเขาก็ไม่รับเพราะไม่มีคุณสมบัติที่เขาต้องการจึงต้องยอมลำบากทำงานรับจ้างได้ค่าแรงหลักสิบหลักร้อย แต่ต้องเลี้ยงคนที่บ้านอีก 7 ชีวิต พ่อแม่ก็ต้องช่วยกันเก็บผักจับปลามาเป็นอาหาร มีนาข้าวก็ทำได้ปีละครั้ง สมัยนั้นข้าวมีราคาเกวียนละแค่ 3,500 บาท ใช้จ่ายได้สามสี่เดือนก็หมดต้องไปเชื่อร้านค้ากินเป็นอาทิตย์ชนอาทิตย์ ภรรยาก็เพิ่งคลอดลูกจะมาอยู่แบบเดิมไม่ได้แล้ว มีลูกเพิ่มมาอีกชีวิตต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง เลยหันมาสังเกตวิถีชีวิตที่ตัวเองอยู่ มีผักให้เก็บกิน แล้วถ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ส่งเสริมและผลักดันให้เกษตรกรและประชาชน มีการทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนมาอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างครูบัญชีอาสาหรือ“อาสาสมัครเกษตรด้านบัญชี” ซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในการเป็นวิทยากร วิทยากรผู้ช่วย เพื่อสอนแนะ กระตุ้นการเรียนรู้ และติดตามผลการทำบัญชีของเกษตรกร รวมถึงการสร้างเครือข่ายถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรในชุมชนของตนและพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการทำงานเป็นเครือข่ายร่วมกันระหว่างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์และครูบัญชี ได้ช่วยเสริมสร้างให้เกษตรกรได้ใช้บัญชีไปใช้วิเคราะห์ต้นทุนการประกอบอาชีพ เพื่อวางแผนธุรกิจในครัวเรือนของตนได้ คุณขนิษฐา มะโนสมบัติ หรือ ครูรุ่ง ครูบัญชีดีเด่น รองชนะเลิศอันดับ 2 ประจำปี 2558 จากจังหวัดเชียงราย นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของครูบัญชีที่น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้แก้ไขปัญหาในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ โดยนำระบบบัญชีมาใช้เป็นเครื่องมือให้เข้าถึงแก่นแท้ของความพอเพียง และวิเคราะห์ข้อมูลทางบัญชีบริหารจัดการทำเกษตรทฤษ
จากภาพรวมของธุรกิจจิวเวลรี่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ค่อนข้างซบเซา อันเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจ และผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด จนทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องหยุดชะงักหรือปิดตัวลง แต่สำหรับ พนา เพิร์ล แอนด์ เจมส์ (PANA Pearl & Gems) ร้านค้าส่งเครื่องประดับและจิวเวลรี่ ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 18 ปี กลับยังสามารถยืนหยัดและต่อยอดธุรกิจได้ในช่วงเวลาดังกล่าว แถมยังคืนกำไรสู่สังคมด้วยการทำกิจกรรม CSR ด้านการศึกษาด้วย “ออย – ธาวินี พนาเชวง” คนรุ่นใหม่ที่กลับมาต่อยอดธุรกิจของครอบครัว จากร้านจำหน่ายจิวเวลรี่ เป็นร้านค้าส่งจิวเวลรี่ที่มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้ประกอบการค้าอัญมณีและเครื่องประดับ โดย 90% เป็นลูกค้าในประเทศ และอีก 10% เป็นผู้ซื้อจากต่างชาติที่เข้ามาซื้อสินค้าในไทย ธาวินี เล่าว่า เธอเรียนจบทางด้านนิเทศศิลป์ และมีความคุ้นเคยกับงานจิวเวลรี่มาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณพ่อเปิดร้านขายจิวเวลรี่อยู่แล้ว หลังจากเรียนจบและได้ไปทำงานมาระยะหนึ่ง ก็กลับมาทำธุรกิจที่บ้านโดยขยับขยายจากร้านจำหน่ายจิวเวลรี่ มาทำเป็นร้านค้าส่ง พนา เพิร์ล แอนด์ เจมส์ (PANA Pearl & Gems) ตั้งอยู่ที่ถนนตีท
วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เปิดหลักสูตรปริญญาโทและปริญญาเอกทางภาวะผู้นำอย่างยั่งยืน ที่ได้แนวคิดจากศาสตร์พระราชา “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” จนสามารถขยายผลสู่ระดับอาเซียนจัดตั้ง “ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน” (ASEAN Centre for Sustainable Development Studies and Dialogue : ACSDSD) ภายใต้การสนับสนุนโดยรัฐบาลไทย และขยายผลสู่ระดับภูมิภาคอาเซียน รองศาสตราจารย์ ดร.วิชิตา รักธรรม คณบดีวิทยาลัยการจัดการมหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) คือผู้นำวิสัยทัศน์ “MVP” โดย “M” ย่อมาจาก “Modern” หรือ “ความทันสมัย” “V” ย่อมาจาก “Versatile” หรือ “ความรอบรู้และทักษะที่หลากหลาย” และ “P” ย่อมาจาก “Professionnal” หรือ “ความเป็นมืออาชีพ” CMMU ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก AACSB หรือ Association to Advance Collegiate Schools of Business ซึ่งมีมหาวิทยาลัยเพียง 5% เท่านั้นจากทั่วโลก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ คณาจารย์จาก CMMU ได้รับการจัดอันดับจาก “AD Scientific Index 2021, World Scientist and University Rankings 2021” ซึ่งเป็นหน่วยงานการจัดอันดับนักวิทยาศาสตร์และมหาวิทยาลัยโลกป
จากอดีตที่ผ่านมา ชาวปากพนังส่วนใหญ่ประกอบอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษ คือการทำนา แต่มีรายได้น้อย จึงเปลี่ยนมาทำนากุ้งที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ทุกพื้นที่ของอำเภอปากพนัง มองไปทางไหนก็จะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟจากบ่อกุ้ง แต่ไม่นานก็มีอันล่มสลายเพราะสภาพสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม ส่งผลให้นากุ้งนับแสนไร่กลายเป็นนากุ้งร้าง พื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านบางพระ ตำบลปากแพรก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เกษตรกรหันมาทำนากุ้งกันเป็นจำนวนมาก ต่อมาเจอปัญหาโรคกุ้งและสภาพธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่เอื้อต่อการเลี้ยงกุ้ง ทำให้เกษตรกรประสบภาวะขาดทุน ต้องหยุดเลี้ยงกุ้งในที่สุด ภายหลังจากการก่อสร้างประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ (ประตูน้ำปากพนัง) เสร็จสมบูรณ์ บ่อกุ้งที่เคยปล่อยทิ้งร้างจึงถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้ง ภายใต้โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่เข้ามาส่งเสริมการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืด กศน.อำเภอปากพนัง ช่วยพลิกฟื้นนากุ้งร้าง คุณสุรศักดิ์ อนันต์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอปากพนัง ได้ให้ความสำคัญกับการพลิกฟื้นนากุ้งร้าง จึงมอบหมายให้ คุณโศภิษฐา มาศแสวง ครูกศน.ตำบลปากแพรก จัดทำเวทีประชาคมเพื่อวิ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหนึ่งในพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานไว้ให้ประชาชนคนไทยได้น้อมนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต ยึดหลักความพอเหมาะพอดี มีเหตุมีผลและไม่ประมาท ทรงใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประชาชนคนไทยในหลายยุคหลายสมัย ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนสามารถผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ ไปได้อย่างราบรื่น และทรงชี้แนะแนวทางให้ทุกคนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยยึดหลักการดำเนินชีวิตในทางสายกลาง กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินโครงการขับเคลื่อนการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร มาตั้งแต่ปี 2551 เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ดำเนินธุรกิจ และเผยแพร่สู่สมาชิกเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงและสามารถพัฒนาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างยั่งยืน โดยในแต่ละปีจะมีการคัดเลือกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรต้นแบบที่น้อมนำไปประยุกต์ใช้จนประสบผลสำเร็จ และมีรูปแบบการบริหารจัดการเป็นแบบอย่างสำห