สับปะรด
ปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำ นับเป็นปัญหาคลาสสิกของเกษตรกรไทย ยิ่งปีไหนน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ดี ผลผลิตของชาวไร่ชาวสวนก็ออกมามาก จนขายไม่ทัน ตกอยู่ในภาวะล้นตลาด เช่นเดียวกับ “สับปะรด” ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ที่ปกติแล้วผลผลิตรุ่นแรกของปีจะออกช้ากว่าภาคใต้และภาคตะวันออก แต่ปีนี้เมื่อทางเหนือฝนดี แดดดี สับปะรดที่ปลูกก็ผลิดอกออกผลกันฉ่ำ เมื่อส่งเข้าสู่ตลาดผลผลิตจากทุกภาคก็ชนกัน ทำให้ในภาพรวมมีสินค้าในปริมาณมาก โก โฮลเซลล์ (GO WHOLESALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร จุดหมายใหม่เพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จึงได้ร่วมมือกับ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง และ นางศิริพร ช่างปณีตัง เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดตำบลบ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง ในการเชื่อมโยงการตลาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน ซึ่ง โก โฮลเซลล์ จะช่วยกระจายผลผลิตไปจำหน่ายยัง 13 สาขา ทั่วประเทศ ทั้งนี้ จังหวัดลำปางได้ชื่อว่า เป็นแหล่งปลูกสับปะรดที่สำคัญในภาคเหนือ ซึ่งตำบลบ้านเสด็จถือเป็นว่าพื้นที่หนึ่งของจังหวัดที่มีการปลูกสับปะรดกันมาก เนื่องจากสภาพพื้นดินเป็นดินภูเขา มีความอุดมสมบูร
“เกษตรรอบบ้าน สร้างง่ายและทำเงิน” ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางในการประกอบการตัดสินใจ สำหรับผู้ที่ต้องการทำอาชีพเกษตรกรรมหรือเปลี่ยนพื้นที่รอบบ้านให้มีมูลค่าในยุคปัจจุบัน ซึ่งเกษตรกรต้นเรื่องที่ต้องการถ่ายทอดประสบการณ์การทำสวนฉบับเกษตรกรหนุ่มอารมณ์ดี วัย 31 ปี ที่หักเหชีวิตจากพนักงานออฟฟิศสู่การเป็นเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดตราดสีทอง ทีเพียงเอ่ยชื่อ ชาวบ้านในพื้นที่ถึงขั้นต้องร้องอ๋อ นั่นก็คือ คุณปกรณ์ รัตนธรรม หรือ คุณท็อป เจ้าของไร่รัตนธรรม ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลท่ากุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดตราด หลังเรียนจบหันมาสานต่ออาชีพเกษตรอย่างเต็มตัว เพราะที่บ้านทำเกษตรมาก่อนอยู่แล้ว ด้วยการปลูกผลไม้หลายอย่าง โดยเฉพาะสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร จากหนุ่มออฟฟิศ สู่เกษตรกรอารมณ์ดี คุณท็อป เล่าถึงเส้นทางชีวิตการทำอาชีพเกษตรอย่างเต็มตัวให้เราฟังว่า หลังจากเรียนจบ ในปี 2558 ได้เข้าทำงานเป็นนักวิจัยเกี่ยวกับการดูแลข้อมูลในบริษัทหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งระหว่างการทำงานประจำ ในช่วงต้นปี 2559 จึงทดลองปลูกสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง 7,000-8,000 หน่อ ในพื้นที่ข้างบ้าน ขณะนั้นคุณท็อปก็พอมีความรู้เรื่องเกษ
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากนโยบายของศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมุ่ง “ส่งเสริมและสนับสนุนด้านการเกษตร” เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกร สร้างโอกาสให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้แนวคิด “เกษตรกรต้องอยู่ดี สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน” กรมวิชาการเกษตร ซึ่งมีภารกิจหลักวิจัยแลปรับปรุงพันธุ์พืช เพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการของเกษตรกรและผู้บริโภคได้ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์ “สับปะรด กวก. เพชรบุรี 3” นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการเกษตรไทยที่มุ่งเน้นการพัฒนาพืชผลที่สามารถเพิ่มผลผลิตได้สูงและรสชาติดี เนื่องจากสับปะรดเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยอีกชนิดหนึ่ง ในปี 2566 การส่งออกสับปะรดผลสดมีมูลค่าสูงถึง 913 ล้านบาท มีการขยายตัวมากถึง 299 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 ที่มีมูลค่าการส่งออกเพียง 229 ล้านบาท โดยมีจีนเป็นตลาดหลักในการส่งออกมีส่วนแบ่งการตลาด 86 เปอร์เซ็นต์ นางสาวมัลลิกา นวลแก้ว นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า “สับปะร
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน ธ.ก.ส. ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แก่ สาขาปราณบุรี สาขาสามร้อยยอด สาขากุยบุรี สาขาอ่าวน้อย สาขาเมืองประจวบคีรีขันธ์ สาขาเกาะยายฉิม และสาขาทับสะแก โดยได้พบปะพูดคุยกับลูกค้า เพื่อสอบถามความคิดเห็นในการใช้บริการ รวมถึงได้ให้กำลังใจการปฏิบัติงานของพนักงาน ธ.ก.ส. ในการเปิดจำหน่ายสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต ซึ่งได้เปิดรับฝากผ่านสาขาเป็นวันที่ 3 โดยมียอดรับฝากผ่านทางเคาน์เตอร์ธนาคารและแอปพลิเคชัน BAAC Mobile แล้วกว่า 30,000 ล้านบาท พร้อมชวนออมและลุ้นรวยเหลือแจกกับสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต หน่วยละ 500 บาท ที่ให้ผลตอบแทน 0.30% ต่อปี และร่วมลุ้นโชคใหญ่ถึง 20 ล้านบาทและรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่า 159 ล้านบาททุกเดือน และเมื่อฝากสลากฯ 500,000 บาทขึ้นไป การันตีผลตอบแทน 400 บาทต่อเดือน ผลตอบแทนรวมเมื่อครบกำหนด 12,600 บาท รีบฝากเลยช้าหมดอดรวย! นอกจากนี้ ยังได้ตรวจเยี่ยมการให้บริการสินเชื่อเงินด่วนคนดี ที่สนับสนุนให้กลุ่มสมาชิก อสม. และ อสส. ได้มีเงินทุนสำหรับนำไปใช้จ่ายและแบ่งเบาภาระของครอบครัวแทนการกู้
ในช่วงที่สถานการณ์โลกไม่แน่นอน ทั้งสงครามและโรคระบาด ทุกอาชีพที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ในครั้งนี้ขอพูดถึงอาชีพเกษตร ที่ได้รับผลกระทบทั้งในด้านปัจจัยค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าอาหารสัตว์ ที่ต่างพร้อมใจกันขึ้นราคา สวนทางกับรายได้ที่ต่ำลง เพราะราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ มองไม่เห็นทุน ไม่เห็นกำไร ทางออกเบื้องต้นที่พอจะทำให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ก็คงจะหนีไปพ้นการทำเกษตรสมัยใหม่ หันมาปลูกพืชผสมผสานให้มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงการลด ละ เลิก การใช้สารเคมี แล้วมาพึ่งธรรมชาติให้มากขึ้น และที่ขาดไม่ได้เลยคือปรับปรุงต่อยอดการตลาด เพิ่มช่องทางการขายสินค้าจากที่เคยขายผ่านพ่อค้าคนกลางเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะต้องปรับมาขายในช่องทางออนไลน์และขายหน้าร้านเองมากขึ้น หรือการแปรรูปก็นับเป็นทางออกที่ช่วยให้เกษตรกรหลายรายเอาตัวรอดและได้ดิบได้ดีกับวิธีการนี้ กลายเป็นเกษตรกรที่ไม่มีหนี้ เป็นเกษตรกรที่มีความสุข เพราะไม่ต้องกังวลกับปัญหาสินค้าล้นตลาดหรือสินค้าราคาตกต่ำอีกต่อไป คุณจณิกาญจน์ รัชภูมิพิพัฒน์ หรือ พี่อ้อ เจ้าของไร่บ้านอ้อ ตั้งอยู่เลขที่ 39/2 หมู่ที่ 2 ซอยเขาระฆัง ตำบลตาสิทธิ์ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง อด
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้เดินหน้าขยายผลสับปะรดพันธุ์ กวก. เพชรบุรี 2 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี กรมวิชาการเกษตรวิจัยและพัฒนาพันธุ์เพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะเหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง ทดแทนสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียที่เกษตรกรปลูกเพียงพันธุ์เดียวต่อเนื่องมาเป็นเวลานานทำให้เกิดการกลายลักษณะไม่พึงประสงค์มากขึ้น เช่น เกิดหนามตลอดทั้งใบ ผลไม่เป็นทรงกระบอก สีเนื้อไม่สม่ำเสมอ อ่อนแอต่อโรค ผลขนาดเล็กลงส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ สับปะรดพันธุ์ กวก. เพชรบุรี 2 เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูป มีอัตราส่วนน้ำหนักเนื้อต่อน้ำหนักผลสูงกว่าพันธุ์ปัตตาเวีย แกนผลเล็กทำให้ได้ปริมาณเนื้อสำหรับแปรรูปสูง อัตราการสูญเสียเนื้อต่ำ ผลทรงกระบอก เหมาะสำหรับการบรรจุกระป๋อง ความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 13.9-17.9 องศาบริกซ์ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 9 ตันต่อไร่ เกษตรกรที่ได้รับพันธุ์สับปะรด กวก. เพชรบุรี 2 ไปปลูกจะได้ผลผลิตมีคุณภาพส่งโรงงานเพื่อแปรรูป จึงได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเพชรบุรี เร่งขยายพันธุ์ไปสู่เกษตรกร นาง
คงไม่ต้องเสียเวลาแนะนำกันอีกแล้ว สำหรับสับปะรดพันธุ์เพชรบุรี 1 หรือที่รู้จักกันดีในนามสับปะรดฉีกตา ผลงานการวิจัยของศูนย์วิจัยพืชสวนเพชรบุรี กรมวิชาการเกษตร ทั้งนี้เพราะมีปลูกและบริโภคกันมากขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน คุณบุญส่ง พูลพัฒน์ กับผลสับปะรดเพชรบุรี 1 ที่สุกแก่แล้ว คุณบุญส่ง พูลพัฒน์ อดีตนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ปัจจุบันคือเจ้าของ “ไร่ส่งตะวัน” บ้านห้วยเกษม ตำบลยางน้ำกลัดเหนือ อำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวัดเพชรบุรี ก็เป็นอีกผู้หนึ่ง ที่ปลูกสับปะรดพันธุ์นี้อย่างจริงจัง สามารถนำผลผลิตออกจำหน่ายหมุนเวียนทั้ง 12 เดือน เฉลี่ยเดือนละ 5 ตัน คุณบุญส่ง เป็นคนเพชรบุรีโดยกำเนิด หลังเรียนจบก็ทำงานคลุกคลีกับเกษตรกรมายาวนาน สุดท้ายได้ลงหลักปักฐาน ทำงานเกษตรที่บ้านห้วยเกษม ในพื้นที่ 100 ไร่ ปลูกไม้ดอกไม้ประดับอาทิจันท์ผา ลีลาวดี (ลั่นทม) เฮลิโคเนีย (ธรรมรักษา) ทางด้านไม้ผล มีขนุนทองประเสริฐ กล้วยหายากร่วม 100 สายพันธุ์ รวมทั้งพืชผักสมุนไพรหายาก เช่นข้าวไร่ในท้องถิ่น สมุนไพรเขยตายแม่ยายปก มะแข่วน(พริกพราน) เป็นต้น สำหรับสับปะรด คุณบุญส่งเรียนรู้มานานแล้ว ช่วงที่รับราชการอยู่ ได้แต่ศึกษาและวิจัย จนกร
ที่ราชบุรีมีผลไม้เด่นและเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญคือ สับปะรด รู้จักกันอย่างดีในชื่อสับปะรดสวนผึ้งหรือบ้านคา เป็นพันธุ์ปัตตาเวีย มีลักษณะเด่นที่รสหวานฉ่ำ ไม่กัดลิ้น กลิ่นหอม เนื้อละเอียด ปลูกในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ จอมบึง ปากท่า สวนผึ้ง และบ้านคา ที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาและพื้นที่ราบสูง มีเกณฑ์ปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิที่เหมาะสมสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพ เป็นเอกลักษณ์มีความแตกต่างจากสับปะรดแหล่งอื่น มีตลาดขายส่งโรงงานและผลสดพร้อมทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ GI ช่วยการันตีคุณภาพ ชูความอร่อย ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น คุณชนม์พศุตม์ ไกรวิจิตร หรือ คุณหนุ่ย อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 20/1 หมู่ที่ 4 ตำบลหนองพันจันท์ อำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี โทรศัพท์ 065-351-6352 มารับช่วงปลูกสับปะรดต่อจากแม่ได้ 4 ปี ใช้พื้นที่ปลูกทั้งหมดกว่า 120 ไร่ เพื่อขายตรงให้กับพ่อค้าเป็นหลัก บริหารจัดการสวนสับปะรดอย่างเป็นระบบ ทั้งการปลูก ใส่ปุ๋ย ดูแลโรคและแมลงเพื่อให้มีผลผลิตคุณภาพส่งขายตลอดทั้งปี ที่น่าสนใจสวนแห่งนี้ได้ดัดแปลงรถปิกอัพเพื่อนำมาใช้ฉีดพ่นปุ๋ยยาแทนแรงงาน ช่วยให้สะดวก รวดเร็ว ทุ่นค่าแร
ในช่วงที่มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ระยะนี้ กรมวิชาการเกษตร แนะเกษตรกรชาวไร่สับปะรดเฝ้าระวังโรคยอดเน่ารากเน่า ที่สามารถพบได้ในทุกระยะการเจริญเติบโตของสับปะรด อาการที่ต้น ใบยอดมีสีซีด โคนใบ หรือฐานใบเน่าช้ำมีสีขาวอมเหลือง ขอบแผลสีน้ำตาล และส่งกลิ่นเหม็นเฉพาะตัว เมื่อดึงส่วนยอดจะหลุดได้โดยง่าย ถ้าอาการรุนแรงกลุ่มใบตรงกลางต้นจะหักล้มพับลงมา อาการที่ราก เริ่มแรกมีอาการใบสีซีดคล้ายอาการที่ต้น ใบด้านล่างจะนิ่มกว่าปกติ และแห้งตายลามเข้ามาจากปลายใบ ต้นชะงักการเจริญเติบโต รากมีแผลสีน้ำตาล เปื่อย และเน่า หากดึงจะหลุดออกมาจากดินได้โดยง่าย อาการที่ผล ผลมีขนาดเล็ก ผลจะเน่าเป็นจุดสีเขียวเข้ม เมื่อผ่าดูภายในเนื้อเยื่อจะเน่าเป็นสีน้ำตาล เกษตรกรควรหมั่นตรวจและกำจัดวัชพืชในแปลงและรอบแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบต้นที่เริ่มแสดงอาการของโรคยอดเน่ารากเน่า ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชเมทาแลกซิล 25% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 20-40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 50-100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟอสโฟนิก แอซิด 40% เอสแอล อัตรา 50-60 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ทุก 1 เด
จากปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำในปี 2561 “คุณนุ๊ก หรือ คุณปริศนา คำขอด” คนรุ่นใหม่กลับบ้านพัฒนาถิ่นบ้านเกิดช่วยเหลือชุมชนอยู่ดีกินดี โดยจัดตั้งวิสาหกิจชุมชน ฮัก ณ เชียงราย รับซื้อผลผลิตและแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มสับปะรด จำหน่ายสินค้าผ่านตลาดออนไลน์ และร้านขายของฝาก จนกลายเป็นสินค้าของดีประจำจังหวัดเชียงราย สร้างรายได้หลักล้านเข้าสู่ท้องถิ่น สับปะรดภูแล พืช GI จังหวัดเชียงราย สับปะรดภูแล เกิดมาจากการที่มีผู้นำสับปะรดพันธุ์ภูเก็ตมาปลูกในบริเวณพื้นที่บ้านนางแล ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ปลูกในพื้นที่สูง อากาศดี น้ำดี ดินดำ ไม่ชุ่มน้ำ ทำให้ผลสับปะรดภูแลเนื้อแห้งสีเหลืองทอง มีกลิ่นหอม เนื้อกรอบ เนื้อเนียน ละมุน ไม่มีเส้นใย รสหวาน ผลมีขนาดเล็กตรงกับความชอบของลูกค้า เนื้อกรอบ รสอร่อย ไม่กัดลิ้น ให้ผลผลิตตลอดปี รสชาติ เนื้อผล และขนาดของสับปะรดภูแล มีความพอดีกับความต้องการของผู้บริโภค จึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในประเทศและต่างประเทศ จนมีกลุ่มแอบอ้างนำสับปะรดพันธุ์อื่นไปหลอกขายสร้างความเสื่อมเสีย จึงได้มีการจดสิทธิบัตรสินค้าที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI (G