อาหารสัตว์
คุณบลู หรือ คุณธามปริญ แจ้งวิจิตร์ เกษตรกรรุ่นใหม่ ที่เรียนจบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จากมหาวิทยาลัยพระเจ้าจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้ทำงานที่กรุงเทพฯ 3 เดือน รู้สึกว่าไม่ชอบไม่ถูกจริต จึงย้ายกลับบ้านเพื่ออยู่ใกล้ชิดกับ คุณปู่วรรณ ที่มีอายุมากถึง 107 ปีแล้ว และทำสวนเกษตรภายใต้ชื่อ “ สวนผักปู่วรรณ” คุณบลูทำเกษตร ชื่นชอบการทำเกษตร เพราะมองว่า เป็นอาชีพที่ยั่งยืน สามารถขยายไปได้เรื่อยๆอย่างไม่มีสิ้นสุด เช่น มะขามเทศที่มีอยู่ต้นเดียว แต่ก็สามารถขยายออกได้เป็น 10 เป็น 100 เป็น 1000 ได้ คุณบลูแบ่งพื้นที่ทำ “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” โดยกลุ่มไม้ใช้สอย เช่น ขี้เหล็ก ประดู่ แค กระถินยักษ์ สะเดา ไม้กินได้ เช่น พืชผักสวนครัว สมุนไพร ไม้ผล ส่วนไม้เศรษฐกิจ เช่น สัก พะยูง ยางนา ฯลฯ คุณบลูใช้พื้นที่บ้าน 144 ตารางวา สำหรับเลี้ยงสัตว์ปีกและปลูกผักสลัด ประเภทกรีนโอ๊ค เรดคอรอล บัตเตอร์เฮด เรดคอส ฯลฯและผักสวนครัวไว้รอบบ้าน ทั้ง ผักกาดขาว กระเพรา โหระพา พริก ตะไคร้ คะน้า ผักบุ้ง เพื่อเป็นแหล่งอาหารในครัวเรือน เมื่อการปลูกผักได้ปริมาณมาก จึงโพสต์ขายผ่านสื่อออน
อาหารสัตว์ นับเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งต่อการเลี้ยงสัตว์และเป็นหนึ่งในต้นทุนที่สำคัญ ซึ่งในวันนี้เกษตรกรเป็นจำนวนมากต้องประสบกับภาวะราคาต้นทุนอาหารที่เพิ่มขึ้น จากภาวการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงรายย่อย ที่มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนค่าอาหารที่เพิ่มขึ้นได้ จนทำให้ต้องเลิกอาชีพการเลี้ยงสัตว์ไป ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและทำให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงสัตว์เพื่อสร้างรายได้ต่อไปได้ จึงได้มีการนำแนวคิดเกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ในท้องถิ่นมาผสมขึ้นเป็นอาหารใช้เอง ทดแทนการซื้ออาหารสำเร็จรูป สำหรับวันนี้จะนำสูตรอาหารสัตว์ 4 กระเพาะ ของปราชญ์ชาวบ้าน จังหวัดกระบี่ มาฝากทุกคน การผลิตอาหารสัตว์ 4 กระเพาะ เป็นสูตรอาหารที่เน้นถึงการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่มีอยู่ในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างในภาคใต้จะมีทางปาล์มน้ำมันอยู่มาก ทางปาล์มน้ำมันเป็นวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตร ปีหนึ่งๆ มีหลายร้อยพันตัน นำมาบดและหมักสามารถใช้เป็นอาหารเลี้ยงแพะและวัวแทนหญ้าได้เป็นอย่างดี ใช้เลี้ยงแพะและวัวในฟาร์ม บางส่วนยังเหลือสามารถจำหน่ายได้อีกด
วว. แนะผลิตฟางปรุงแต่งทดแทนหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ได้ปริมาณโปรตีนเพิ่มขึ้น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ ประสบผลสำเร็จวิจัยและพัฒนา การผลิตฟางปรุงแต่งทดแทนหญ้า โดยเป็นสูตรที่ ลดปริมาณการใช้ยูเรียลง และเพิ่มปริมาณรำข้าวในส่วนผสม สามารถนำไปใช้เลี้ยงโคได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่เกษตรกรในการเลี้ยงสัตว์ให้มีคุณภาพ สูตรการผลิตฟางปรุงแต่งทดแทนหญ้า มี 3 สูตร ดังนี้ 1. ฟางข้าวหมักกับน้ำ 100 กิโลกรัม กากน้ำตาล 10% และยูเรีย 1.5% 2. ฟางข้าวราดด้วยส่วนผสมน้ำ 100 กิโลกรัม กากน้ำตาล 10% และยูเรีย 1.5% 3. ฟางข้าวสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่น ในอัตราส่วนกากน้ำตาล 14% ยูเรีย 1% รำข้าว 4% ต่อฟางข้าว 100 กิโลกรัม จุดเด่น “ฟางปรุงแต่งทดแทนหญ้า” 1. สูตรภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นสูตรที่ลดปริมาณการใช้ยูเรียลง และเพิ่มปริมาณรำข้าวในส่วนผสม 2. ได้ปริมาณโปรตีนเพิ่มขึ้น 11% 3. วัวกินมากขึ้นถึง 5 กิโลกรัมต่อ 1 วัน สามารถเพิ่มน้ำหนักวัวจากเดิมได้ถึง 3 ขีด 4. สามารถนำไปใช้เลี้ยงโคได้อย่างปลอด
“หญ้าเนเปียร์” หรือ “หญ้าบาน่า” เป็นหญ้าที่ถูกนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ เมื่อสัตว์กินเข้าไปแล้วจะทำให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายและไม่เป็นพิษต่อสัตว์อีกด้วย เกษตรกรผู้เลี้ยงวัว แพะ แกะ ปลา ไก่ นิยมนำมาปลูกเพื่อใช้เป็นอาหารหยาบเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม เพื่อช่วยลดต้นทุน มีคุณค่างทางอาหารสัตว์สูง เป็นหญ้าที่มีโปรตีนสูงอีกด้วย รวมถึงสามารถเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตต่อไร่สูง สามารถเก็บเกี่ยวต้นได้ตลอดทั้งปี และเก็บเกี่ยวได้นาน 5-7 ปีต่อการปลูก 1 ครั้ง ช่วงหน้าแล้งหญ้าเนเปียร์จะโตช้า การนำหญ้าเนเปียร์สดมาบด ปั่น ตากแห้งเก็บไว้ในช่วงหน้าแล้ง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรที่ส่วนใหญ่ทำกัน โดยใช้เทคนิคเดียวกันกับการปลูกอ้อย เป็นพืชที่ดูแลง่าย ใช้ระยะเวลาให้ผลผลิตประมาณ 45 วัน ช่วงเวลาปลูกที่เหมาะสม สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่โดยทั่วไปควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม สายพันธุ์หญ้าเนเปียร์ หญ้าเนเปียร์ยักษ์ ชื่อสามัญ : King grass ชื่อวิทยาศาสตร์ : P. purpureum King grass ต้นประเทศที่นำเข้า : ประเทศอินโดนีเซีย ปีที่นำเข้า : มกราคม 2533 ผู้นำเข้า : นายชาญชัย มณีดุล ลักษณะเด่นชัด : ลำต้นสูง แตกกอ
คุณเคยลองกินแมลงไหม? คำถามนี้ อาจจะฟังดูแปลกสำหรับคนไทยหลายๆ คน แต่ที่จริงแล้วการกินแมลงเป็นเรื่องปกติในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก และปัจจุบันการบริโภคแมลงกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะแหล่งโปรตีนทางเลือกที่ยั่งยืน แมลงมีโปรตีนสูงเทียบเท่าหรือสูงกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไป เช่น เนื้อวัวหรือเนื้อไก่ และยังมีไขมันต่ำกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไป ส่วนทางด้านวิตามินและแร่ธาตุของแมลงนั้นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น เหล็ก แคลเซียม และวิตามินบี 12 หากมองไปในเรื่องของความยั่งยืนการเพาะเลี้ยงแมลงใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการเลี้ยงสัตว์ทั่วไป ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม ในอนาคตการบริโภคแมลงจะกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อยๆ และมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากแมลงออกมาหลากหลายรูปแบบ เช่น ผลิตภัณฑ์โปรตีนจากแมลงสำหรับนักกีฬา อาหารว่างจากแมลง และส่วนผสมในอาหารแปรรูปต่างๆ ปัจจุบันแมลงไม่ใช่เพียงเป็นอาหารของคนเท่านั้น ในวงการของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ Exotic แมลงถือเป็นอาหารและแหล่งโปรตีนชั้นดีด้วยเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยกำลังขยายตัวมากขึ้นเช่นกัน
แมลงขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและกำลังได้รับความนิยม แม้แต่สัตว์เลี้ยงเองแหล่งโปรตีนจากแมลงถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยให้สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ Exotic โตไวมีความแข็งแรงเมื่อได้กินอาหารจากแหล่งโปรตีนสูง “แมลงสาบดูเบีย” เป็นอีกหนึ่งแหล่งโปรตีนในสัตว์เลี้ยง ซึ่งแมลงสาบสายพันธุ์นี้มาจากต่างประเทศ มีถิ่นกำเนิดจากทวีปอเมริกากลางจนถึงอเมริกาใต้ และเป็นที่รู้จักในประเทศไทยหลายปีมาแล้ว ซึ่งปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะแมลงสาบสายพันธุ์นี้นำมาเป็นอาหารให้กับสัตว์ได้หลายชนิด โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงสวยงาม สัตว์แปลก สัตว์หายากที่นิยมกินแมลงสาบดูเบีย คุณจ๋า-ภัทราวดี เบ้าจันทึก เล็งเห็นช่องทางการทำตลาดจากแมลงสาบดูเบีย ซึ่งสมัยก่อนนั้นซื้อมาให้สัตว์เลี้ยงกินเพียงแต่อย่างเดียว แต่ใครจะคิดว่าสัตว์เหล่านี้จะสามารถขยายพันธุ์ออกมาเรื่อยๆ จนเวลานี้บ้านของคุณจ๋าแม้มีพื้นที่น้อย แต่สามารถเป็นแหล่งเพาะแมลงสาบดูเบียส่งขายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว จากความกลัว สู่อาชีพเพาะพันธุ์ จนสามารถสร้างรายได้เป็นอาชีพ คุณจ๋า เล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกเดิมทีไม่ได้คิดว่าแมลงสา
ถั่วเหลือง: เม็ดจิ๋วแต่แจ๋ว รวม 4 สิ่งแปรรูปจากถั่วเม็ดจิ๋ว “ถั่วเหลือง” พืชตระกูลถั่วที่ถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ และมีอายุในการเก็บเกี่ยวที่สั้น ใช้น้ำน้อย อีกทั้งยังมีความทนทานต่อสภาพภูมิอากาศซึ่งนอกจากการปลูกเพื่อบริโภคแล้ว เจ้าพืชตระกูลถั่วสีเหลืองนี้ยังมักถูกปลูกเพื่อตัดวงจรการระบาดของศัตรูพืชในนาข้าวและปรับปรุงโครงสร้างดินสำหรับการทำการเกษตรอีกด้วย “ถั่วเหลือง” แหล่งโปรตีนชั้นดีและสารอาหารที่สามารถหาซื้อได้ในราคาย่อมเยา มักปรากฎตัวในชีวิตประจำวันของเราอยู่เสมอ บ้างก็มาในรูปของน้ำเต้าหู้ร้อน ๆ ที่เรารับประทานคู่กับปาท่องโก๋ในตอนเช้าก่อนไปทำงาน บ้างก็ปรากฎตัวในฐานะเครื่องปรุงต่าง ๆ ภายในห้องครัว และแม้ว่าเจ้าถั่วเม็ดจิ๋วสีเหลืองนวลนี้จะมีขนาดเล็กเพียงไม่กี่เซนติเมตร แต่กลับอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายและสารอาหารมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน K , B1, B9, และฟอสฟอรัส อีกทั้งยังมีไขมันดีที่สามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง และพร้อมไปด้วยคาร์ดโบไฮเดรตและไฟเบอร์ด้วยเช่นกัน วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านชวนมาดูการแปรรูปถั่วเหลืองในรูปแบบต่าง ๆ ที
บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อีอาร์เอ็ม-สยาม จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนระดับโลก จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การยกระดับห่วงโซ่อุปทานด้านการเกษตรของไทยสู่ระบบการผลิตอาหารที่ยั่งยืน” โดยมีผู้แทนเกษตรกร ผู้แทนภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานภาครัฐสถาบันการศึกษา ผู้ตรวจสอบอิสระ รวมถึงองค์กรอิสระทั้งในประเทศและต่างประเทศ ร่วมแบ่งปันมุมมองและข้อเสนอแนะ เพื่อทวนสอบยืนยันความถูกต้องของระเบียบการใช้มาตรฐานการจัดซื้อวัตถุดิบทางการเกษตรอย่างยั่งยืน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ของ ISEAL Alliance หน่วยงานที่กำหนดบรรทัดฐานระหว่างประเทศในการพัฒนามาตรฐานความยั่งยืนรับระเบียบการค้าโลก นายไพศาล เครือวงศ์วานิช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในฐานะผู้จัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตรสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทดำเนินการทวนสอบยืนยันความถูกต้องของมาตรฐานการจัดชื้อวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารสัตว์คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง ปาล์มน้ำมัน และมันสำปะหลัง ที่จำเป็นต้องมีองค์กรกลาง (Third party) มาตรวจร
ครูอินสอน สุริยงค์ แห่งศูนย์เกษตรธรรมชาติแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เลี้ยงสัตว์แบบสัตว์อินทรีย์ปลอดเคมีและไร้กลิ่น ได้ผลผลิตคุณภาพดี ขายได้ราคาสูงอีกต่างหาก ครูอินสอนเลี้ยงไก่โดยใช้ปุ๋ยหมักที่ผลิตขึ้นเองผสมอาหารให้ไก่กินเลย ส่วนน้ำก็ใช้ผสมด้วยจุลินทรีย์เพื่อดับกลิ่น หรือถ้ามีกลิ่นเหม็นก็ใช้ปุ๋ยหมักโรยให้ทั่วเพราะเป็นจุลินทรีย์แห้งก็จะช่วยย่อยสลาย แทนที่จะเป็นมูลสัตว์ที่มีแก๊สหรือแก๊สไข่เน่าต่างๆ จุลินทรีย์ต่างๆ ก็จะช่วยย่อยสลาย เมื่อมูลสัตว์มากพอก็นำมากองรวมกันใช้ทำปุ๋ยได้อีก ส่วนวัคซีน ครูอินสอนจะให้ตั้งแต่ตอนไก่ยังเล็กๆ เพื่อป้องกันโรคต่างๆ ในส่วนนี้จะใช้สมุนไพร เช่น ตะไคร้หอม จุลินทรีย์ กระเทียม ผสมน้ำให้ไก่กิน เพื่อสร้างภูมิต้านทานโรค ครูอินสอนจะซื้อพันธุ์ไก่ตัวเล็กๆ ในราคาตัวละ 5 บาท ใช้เวลาเลี้ยง 70 วัน ก่อนขายในราคาตัวละ 65 บาท มีต้นทุนการเลี้ยงตัวละ 20 บาท แต่ละวันครูอินสอนสามารถขายไก่ได้วันละประมาณ 3,000 บาท การเลี้ยงไก่ต้องเลี้ยงเป็นรุ่นๆ ต่อกันเพื่อให้มีรายได้ตลอดปี ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ต้องมีรายได้ทุกวัน ถ้าซื้อไก่มารุ่นเดียวกันหมด จะสู้ค่าอาหารไม่ได้ เพราะไก่กินจุมาก วันห
BEDO ขยายผลองค์ความรู้การใช้ความหลากหลายทางชีวภาพในการปรับเปลี่ยนวิถีเกษตร มุ่งสู่สังคมการทำเกษตรยั่งยืนด้วยแมลงโปรตีน BSF สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO จัดประชุมเสวนา “ปรับ เปลี่ยน สู่สังคมเกษตรยั่งยืนด้วยแมลงโปรตีน BSF” ภายใต้โครงการการขยายผลการถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตแมลงโปรตีน (Hermetia illucens L.) สำหรับอาหารสัตว์ เพื่อลดต้นทุนการผลิต สร้างรายได้ในระดับชุมชน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (กสว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) และ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) ด้านการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ (RU: Research Utilization) ณ ห้อง Grand Hall 2 โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร ภายในงานประชุมเสวนาฯ ได้รับเกียรติจาก นางสาวศิริกร วิวรวงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ความท้าทายและโอกาส เกษตรคาร์บอนต่ำ สู่ความยั่งยืนด้วยวิจัยและนวัตกรรม” และ ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่ง