เกษตรหลังเกษียณ
“ ตอนแรก คิดจะปลูกปาล์ม แต่ต้นมันสูง ดูแลยาก ถ้าปลูกยางพารา มันก็ทำงานกลางคืน หลานชายชวนปลูกลำไยเพราะปลูกดูแลง่าย แค่ 5ปี เก็บลำไยขายได้ 3-4 ล้าน ” นายโทมัส ผันนะรา อดีตผู้ใหญ่บ้าน 3 สมัย กล่าว หลังจากตัดสินใจปลูกลำไยเป็นพืชทางเลือกหลังเกษียณ นายโทมัสเดินทางไปเรียนรู้เรื่องการทำสวนลำไยของหลานชายที่อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี จากนั้นกลับมาลงทุนทำสวนลำไยในพื้นที่บ้านห้วยกระบอก ตำบลวังตะเคียน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี มาจนถึงทุกวันนี้ เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีแล้ว ด้านตลาด นายโทมัสปลูกลำไยจำนวน 20 ไร่ ได้ผลผลิตปีละ 8-10 ตัน เน้นปลูกพันธุ์อีดอเป็นหลัก และปลูกลำไยพันธุ์เพชรสาครซึ่งไม่ต้องราดสาร ก็ติดผลดกทุกปี แต่โรงงานรับเฉพาะลำไยอีดอ ไม่รับลำไยพันธุ์เพชรสาครเพราะอบไม่แห้ง “ เนื่องจากหลายจังหวัดได้โค่นต้นลำไยทิ้งและหันไปปลูกทุเรียน ท
“ การเกษียณอายุราชการ ไม่ใช่การตาย ชีวิตยังไม่จบ อาจจะมีชีวิตยืนยาวหลังเกษียณไปอีก 20-30 ปีก็ได้ ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นทุกวัน แล้วเราจะอยู่ถึงวันนั้นได้อย่างไร ถ้าเตรียมการได้เร็วเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะปรับตัวได้ก็มากเท่านั้น ” อาจารย์ธีระพล จันทวงษ์ กล่าว อาจารย์ธีระพล จันทวงษ์ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเนินสูง ตำบลวังตะเคียน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี วางแผนทำเกษตรหลังเกษียณ เพื่อให้มีงานทำ มีรายได้อย่างต่อเนื่องโดยเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนเกษียณจริงถึง 10 ปีเต็ม จนปัจจุบันกลายมาเป็น ศูนย์เรียนรู้เกษตรผสมผสาน “คุ้มจันทวงษ์” ปลูกพืชผักไม้ผลนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นไผ่ พริกไทย เพกา สะเดา มะนาว กล้วย ขนุน ลำไย รวมทั้งพัฒนาต่อยอด แปรรูปสร้างมูลค่าสินค้าเกษตร นอกจากนี้ยังเลี้ยงไก่ป่าลูกผสม ซึ่งเริ่มต้นจากการเลี้ยงไก่ป่าเป็นงานอดิเรกของลูกชายและค่อยๆ พัฒนาเป็นอาชีพที่สร้างรายได้งามในเวลาต่อมา ในวันนี้ อาจารย์ธีระพลได้แบ่งปันประสบการณ์ 15 ปีเต็มจากการลองผิดลองถูกบนเส้นทางอาชีพการทำเกษตรที่ตัวเองเลือก ทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้สนใจทำเกษตรหลังเกษียณในอนาคต คิด
อาจารย์สุพิทย์ ขุนเพชร อดีตหัวหน้าสถานีวิจัยกาญจนบุรี ศูนย์วิจัยและบริการวิชาการ คณะเกษตร กำแพงแสน ผันตัวเองทำไร่ทำสวนหลังเกษียณด้วยความสุข ในชื่อสวน “KP FRAM” โดยปลูกฝรั่ง มะม่วง ปาล์มน้ำมันเป็นหลัก อาจารย์สุพิทย์ดูแลบริหารจัดการแปลงเกษตรเนื้อที่ 30 ไร่ด้วยตัวเอง โดยอาศัยนวัตกรรมเป็นตัวช่วย สร้างรายได้หมุนเวียนตลอดทั้งปี ทำเกษตรหลังเกษียณแบบพอเพียง มีความสุข อาจารย์สุพิทย์บอกว่า ทุกวันนี้ ผมทำเกษตร โดยใช้ชีวิตแบบพอเพียง ไม่ได้เน้นสร้างรายได้เป็นหลัก ผมเริ่มทำสวนเกษตรก่อนเกษียณประมาณ 10 ปี บนเนื้อที่ 7 ไร่ อยู่ห่างจาก ตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 4กม. ที่นี่เน้นทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกพืชใช้สอยกับพืชกินได้ ทุกสิ่งทุกอย่าง พอปลูกไปแล้วจริงๆ มันกลายเป็นป่าที่มีสัตว์ป่าเช่น พวกกระรอก กระแต ไก่ป่าเต็มไปหมด พืชที่ปลูกกลายเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์มากกว่าเลี้ยงคน พืชตัวแรกที่ปลูกคือ มะขามเปรี้ยวฝักใหญ่ โดยลงทุนซื้อพันธุ์มะขามเปรี้ยวถึงต้นละ 1 พันบาท พอเริ่มมีผลผลิตออกขาย ปรากฎว่า ขายได้ราคาถูกมากๆ แถมไม่มีคนซื้ออีกต่างหาก นับเป็นความล้มเหลวบทเรียนแรกในเส้นทางการทำเกษตรของอาจารย์สุพิทย์ ปาล์มน้ำมันป
“อร่าม ทรงสวยรูป” อดีตช่างภาพรางวัลพูลิตเซอร์ วัย 56 ปี ผันตัวเองเป็นชาวนาตามรอยบรรพบุรุษ เรียนรู้วิถีธรรมชาติ และยึดธรรมะเป็นที่มั่น ได้สร้างสุขทั้งร่างกายและจิตใจ อีกทั้งมีรายได้จากการทำเกษตรอินทรีย์ ยกระดับครอบครัวและยังช่วยสืบสานพันธุ์ข้าวไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ชาวนาอินทรีย์วิถีไทยใจเกินร้อย คุณอร่ามมีพ่อแม่เป็นชาวนา ส่งให้ลูกเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี แต่ไม่ยอมให้กลับมาทำนา หลังจากทำงานบริษัทในกรุงเทพฯ ระยะหนึ่ง มองเห็นว่า ความสุขที่ได้จากการทำงาน กับความสุขที่ได้อยู่กับธรรมชาติ มีวิถีชีวิตที่กำหนดเอง มีอิสระในอาชีพ มีความแตกต่างกัน ความสุขประการหลังมีมากกว่า จึงตัดสินใจกู้เงินธนาคารเพื่อนำไปซื้อที่ดิน 10 ไร่ ที่อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา โดยเรียกที่ดินผืนนี้ว่า “ออฟฟิศชาวนา” คุณอร่ามตั้งใจทำการเกษตรระหว่างที่ยังคงทำงานประจำอยู่ โดยใช้วันหยุดไปพัฒนาที่ดินที่ซื้อไว้ “ออฟฟิศชาวนา” ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ทั้งทำนา ทำสวน ขุดบ่อน้ำไว้ใช้ ประมาณ 4 ไร่ ที่เหลือปลูกพืชหลากหลายชนิด ปลูกอินทผลัม ปลูกโกโก้ ปลูกมะนาว ปลูกพริกแซมระหว่างต้นอินทผลัมและต้นโกโก้ อ้อยคั้นน้ำ กาแฟโรบัสต้า
อาชีพเกษตรหลังวัยเกษียณ คงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครๆ คนที่กำลังมองหาอาชีพรองรับตนเองหลังเกษียณอายุงาน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านอาชีพที่กำลังจะเดินทางมาถึงในอีกไม่ช้านานนี้ เพื่อเป็นโอกาสในการสร้างรายได้และเป็นการสร้างกำไรชีวิตในบั้นปลายชีวิตตามความตั้งใจที่ต้องการลงมือทำ เช่นเดียวกับ คุณสมสันต์ พงษ์โสภา หรือ ตาสันต์ อดีตข้าราชการ ที่ผันตัวมาทำอาชีพเกษตรเต็มตัวกับภรรยา ลงมือต่อยอดและพัฒนา จนกลายเป็นสวนองุ่นตาสันต์ ตำบลโนนแดง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เนรมิตพื้นที่ข้างบ้านจำนวน 2 งาน ให้มีมูลค่าด้วยการปลูกองุ่น 3 สายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์แบล็คโอปอล สายพันธุ์สกาล็อตต้า และสายพันธุ์ไวท์มะละกา ใช้ระยะเพียง 1 ปีกว่า ทำให้สวนองุ่นแห่งนี้กลายเป็นจุดเช็กอินที่ห้ามพลาด เรียกได้ว่าไปถึงบ้านโนนแดง ต้องไปเยือนสวนองุ่นตาสันต์นั่นเอง “คือผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวตามสวนองุ่นต่างๆ ครับ ก็เห็นว่าสวยดี จึงซื้อและนำมาทดลองปลูก เพราะคนที่เราซื้อเขาบอกว่าอากาศร้อนก็สามารถปลูกองุ่นได้นะ ก็ลองผิดลองถูกอยู่เหมือนกันครับ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ใช้เวลาประมาณ 1 ปีกว่าๆ ก่อนหน้านี้ผมรับราชการอยู่ที่กรุงเทพฯ
ของดีมีคุณภาพ! สองสามีภรรยา ข้าราชการครูบำนาญ ปลูกกระท้อนอินทรีย์ ไร้สารเคมี เพียงแค่ 23 ต้น โดยใช้เนื้อที่หลังบ้าน 3 ไร่ เพื่อเป็นอาชีพรองรับหลังเกษียณ ผลผลิตกลับงดงามด้วยความตั้งใจ ลูกโต หวาน ปุยฝ้ายเยอะ โกยรายได้หลักแสนบาทต่อปี เผยจะทำการห่อผลทุกลูก และคัดคุณภาพ ก่อนส่งจำหน่าย โดยส่งขายทั่วประเทศกิโลกรัมละ 40-70 บาท เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนกระท้อนสุวรรณศิลป์ ตั้งอยู่เลขที่ 29 หมู่ 2 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งเป็นสวนของ นายไพรัตน์ สุวรรณศิลป์ อายุ 64 ปี นางมยุรา สุวรรณศิลป์ อายุ 61 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นข้าราชการครูบำนาญ โดยได้ริเริ่มทำสวนผสมผสาน ในที่ดินเนื้อที่แค่เพียง 3 ไร่ เมื่อช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับไว้เป็นอาชีพในชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ โดยปลูกกระท้อนพันธุ์ดี จำนวน 23 ต้น แบ่งเป็น 4 ชนิด คือ 1.พันธุ์เขียวหวาน ผิวเป็นสีเขียว ผลไม่โตมาก แต่เนื้อข้างในมีความอร่อย ปุยน้อย รสชาติหวานมาก ไม่มีรสเปรี้ยว 2.พันธุ์อีล่า มีผลขนาดปานกลาง ผิวสีเหลือง มีเส้นติดผิว ปุยนุ่มมาก รสชาติหวาน ส่วนเมล็ดหวานอมเปรี้ยวนิดๆ แต่เนื้อนุ่มมาก 3.พันธุ์ทองอุไร
ข้าราชการบำนาญ เลี้ยงปลาทับทิมขายโกยรายได้วันละ 20,000 บาท นายมณเฑียร พิชัยรัตน์ (ลุงตุ๊กติ๊ก) อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการตำแหน่งนายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน สำนักงานจังหวัดตรัง ใช้ชีวิตหลังเกษียณด้วยการเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง ตั้งอยู่บริเวณหมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ลุงตุ๊กติ๊ก ได้นำเงินเก็บสะสมและเงินออมจากกองทุนต่างๆ มาลงทุนทำกระชังจำนวน 60 กระชัง เพื่อเลี้ยงปลาทับทิม จำนวน 60,000 ตัว จากการเลี้ยงปลาทับทิมในกระชังของลุงตุ๊กติ๊กได้รักการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างมาก มียอดสั่งซื้อจนปลาโตแทบไม่ทัน แต่ละวัน ลุงตุ๊กติ๊กขายปลาทับทิมได้ 200-300 ตัว โดยลูกค้า มาซื้อถึงกระชัง เพื่อนำไปขายต่อ หรือนำไปเผาเกลือขายในตัวเมืองตรัง และผู้ประกอบการอาหารโต๊ะจีนที่นำปลาทับทิมไปทำเมนูแกงส้ม ปลาทับทิมราดพริกฯ ลุงตุ๊กติ๊กเผยเคล็ดลับที่ทำให้ลูกค้าซื้อปลาทับทิมของลุงจนปลาโตแทบไม่ทัน เนื่องจากตนเลี้ยงปลาทับทิมในกระชังที่บริเวณคลองหินขวาง ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำไปสู่ทะเลตรัง เวลาน้ำขึ้นลงทำให้น้ำเกิดสภาวะน้ำเค็มผสมน้ำจืด จนกลายเป็นน้ำกร่อย และเป็นคลองที่มีน้ำไหลแรง ทำให้ปลามีความแข็งแรง ไม่มีกลิ่นคาว เนื้อแน่น เ
“ผม…ในฐานะที่เคยเป็นนายอำเภอลองมาก่อน ตั้งใจจะทำแปลงอินทผลัมแห่งนี้ให้เป็นแหล่งเรียนรู้หรือแหล่งศึกษาดูงานสำหรับเกษตรกรชาวอำเภอลอง หรือผู้สนใจจะปลูกอินทผลัมมาถ่ายภาพหรือเซลฟี่ดูทัศนียภาพ ดูการจัดสวน วางระบบน้ำ ผมยินดีต้อนรับครับ” เป็นคำกล่าวปรารภในเบื้องต้นของเจ้าของแปลงปลูกอินทผลัม จากอดีตนายอำเภอกลับคืนถิ่นสู่วิถีเกษตร อินทผลัม (อ่านว่า อิน-ทะ-ผะ-ลำ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542) ภาษาทางพฤษศาสตร์ว่า Date Palm ซึ่งก็คือ อินทผลัมกินผล เป็นพืชตระกูลปาล์ม พืชดั้งเดิมของประเทศแถบทะเลทราย ตะวันออกกลาง ประเทศที่อยู่ในเขตอากาศร้อนในตอนกลางวัน หนาวเย็นตอนกลางคืน แต่อินทผลัมกลับกลายเป็นพืชไม้ผลเศรษฐกิจอีกตัวเลือกหนึ่งของเกษตรกรไทยกลุ่มผู้รักอินทผลัม พบเห็นการปลูกกันในหลายจังหวัดทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคเหนือ กอปรกับมีการเผยแพร่ว่า อินทผลัม เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่หลากหลาย เป็นผลไม้ทางเลือกอีกชนิดหนึ่งสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ในบทความของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนว่า จากการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของอินทผลัมมีค่อนข้างมาก โดย
“เกษตรกรรม เป็นชีวิตในวัยเกษียณ ถ้าผมแก่ตัวจะใช้ชีวิตต่างจังหวัด ทำโฮมสเตย์เล็กๆ อาศัยวิถีชุมชนในการเบรกดาวน์ชีวิตจากกรุงเทพฯ ที่พีกแล้ว มาอยู่ตรงนี้” เจ้าของพื้นที่ราว 50 ไร่ ที่ดูจะรวมความสดชื่นของอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เกือบทั้งหมดไว้ที่นี่ บอกกับเรา บุคลิกนอบน้อมถ่อมตน ที่ติดตัว คุณสุรเดช ศิลปวิจิตรการ หรือ คุณแจ๊ค มาแต่ไหนแต่ไร ทำให้การพูดคุยในวันนั้นออกอรรถรสอย่างดี สัมผัสได้ถึงความตั้งใจสร้างพื้นที่นี้ให้เหมือนภาพในจินตนาการของเขา คุณแจ๊คมีงานและครอบครัวอยู่กรุงเทพฯ ตลอดวันทำงานเขาตั้งใจทำ โดยไม่ละจากหน้าที่แม้แต่น้อย แต่เมื่อถึงวันหยุด เขาจะทุ่มเทให้กับสิ่งที่เขาเรียกว่า เกษตรหลังเกษียณอย่างเต็มที่ แท้จริงก็เฉกเช่นมนุษย์เงินเดือนหรือการทำงานในระบบทั่วไป ที่เมื่อท้ายที่สุดจะมองหาการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนและมีความสุข คุณแจ๊คไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเกษตรกรรมแม้แต่น้อย แค่มีความตั้งใจผนวกกับการวางแผนและลงมือเริ่มทำตั้งแต่ยังมีแรง ทำให้เขาเริ่มได้เร็วกว่า “ผมวางพิมพ์เขียวไว้ในหัวผมหมดแล้วตั้งแต่ผมอายุ 27 ปี และผมต้องเริ่มจากการวางแลนด์สเคปก่อน จากนั้นเตรียมผังรอในอนาคตว่าตรงไหนเ
การทำเกษตรแบบผสมผสาน หรือไร่นาสวนผสม ไม่มีคำจำกัดความ ไม่มีกติกาหรือกฎตายตัว ว่าต้องเป็นพืชชนิดใด เลี้ยงสัตว์ชนิดใด ทั้งนี้ เพราะแต่ละพื้นที่และท้องถิ่นมีสภาพทางธรรมชาติที่แตกต่างกัน การผสมผสาน ขอให้ยึดหลัก สร้างความร่มรื่น ให้พืชหลายชนิดที่ปลูกอยู่ในพื้นที่เดียวกันมีการเกื้อกูลกันทางธรรมชาติให้มากที่สุด และสำคัญที่สุดคือผู้ปลูกต้องได้ประโยชน์มากที่สุด แล้วยังสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน คุณจินดา ฟั่นคำอ้าย อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 2 ตำบลผาปัง อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง อดีตศึกษานิเทศก์ จังหวัดลำปาง เป็นอีกท่านหนึ่งที่สนใจการทำเกษตรผสมผสาน แล้วตั้งใจเดินตามแนวทางนี้ในบั้นปลายชีวิต จึงวางแผนล่วงหน้าก่อนจะเกษียณอายุราชการในปี 2558 อดีตศึกษานิเทศก์ท่านนี้ให้เหตุผลที่เลือกแนวทางการทำเกษตรกรรมแบบผสมผสาน เนื่องจากสมัยที่รับราชการได้มีโอกาสเดินทางไปดูงาน ตลอดจนศึกษาหาความรู้ด้านการทำเกษตรหลายแห่ง หลายด้าน ล้วนพบว่า การทำเกษตรกรรมแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยวจะเกิดความเสี่ยงต่อความเสียหายมาก เพราะรายได้ของการมีชีวิตแบบชาวไร่ ชาวนา ส่วนใหญ่เกิดจากการทำเกษตรกรรม แล้วเมื่อมีความเสียหายจากกา