เมื่อพูดถึงจังหวัดน่าน หลายคนจะนึกถึงภูเขาสูงเสียดฟ้าและสายหมอกยามเช้า พร้อมทั้งวิถีชีวิตเรียบง่ายของชุมชน แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่กำลังสร้างชื่อให้กับจังหวัดน่านในเวทีเกษตรกรรมไทย นั่นก็คือการปลูกโกโก้ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่แห่งนี้ ด้วยสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศที่เอื้อต่อการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดนี้ ที่นี่จึงกลายเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจในอุตสาหกรรมโกโก้ของไทย

คุณพีช – คณาธิป ศรีรัตโนภาส เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่เห็นโอกาสและตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่การเกษตรของครอบครัวบางส่วน ให้กลายเป็นแหล่งปลูกโกโก้ที่มีคุณภาพสูง ด้วยแนวคิดที่ต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมโกโก้ไทยให้ก้าวไกลสู่ตลาดโลก คุณพีชได้นำแนวทางที่ได้จากการศึกษาดูงานจากหลายพื้นที่มาประยุกต์ใช้ในสวน เพื่อให้โกโก้ที่ปลูกในสวนของคุณพีช กลายเป็นที่รู้จักในฐานะสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียม
จุดเริ่มต้นของการทำสวนโกโก้
สไตล์เกษตรกรรุ่นใหม้ไฟแรง
คุณพีช เล่าให้ฟังว่า หลังจบการศึกษาได้มีมุมมองและอยากจะกลับมาพัฒนาสวนทางการเกษตรของครอบครัว โดยอยากให้มีกิจกรรมที่หลากหลายต้อนรับนักท่องเที่ยวในอนาคต จึงเริ่มต้นสนใจในพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคตไกล เมื่อได้ศึกษาตลาดคุณพีชพบว่าโกโก้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในอุตสาหกรรมช็อกโกแลต จึงตัดสินใจเปลี่ยนพื้นที่ทำการเกษตรของครอบครัวบางส่วนให้กลายเป็นสวนโกโก้
“ช่วงปี 2019 ช่วงนั้นพอรู้ตัวเองว่าสนใจที่จะปลูกโกโก้ ผมก็เดินทางไปศึกษาจากสวนที่ประสบผลสำเร็จทั่วประเทศไทยเลยครับ เพื่อที่อยากจะรู้ว่าในประเทศไทยสายพันธุ์ไหนดีที่สุด ก็เลยรู้มาว่าสายพันธุ์ที่เหมาะสมจะนำมาปลูกในสวนของผม ก็จะเป็นสายพันธุ์ชุมพรที่ได้รับการพัฒนามาแล้วให้สามารถปลูกได้ในบ้านเรา”
โดยแบ่งปลูกโกโก้บนเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ ใช้สายพันธุ์ชุมพร 1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตดีและเหมาะกับสภาพแวดล้อมของน่าน แม้ในช่วงแรกจะต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ เช่น การปรับปรุงดิน การจัดการโรคพืช แต่ด้วยความมุ่งมั่น คุณพีชสามารถพัฒนาสวนโกโก้แห่งนี้ให้กลายเป็นต้นแบบของการปลูกโกโก้อย่างยั่งยืนได้สำเร็จ
เทคนิคการปลูกโกโก้ ให้ได้ผลผลิตคุณภาพ
โดยลักษณะของโกโก้ก่อนที่จะให้ผลผลิตได้นั้น ในช่วงแรกของการปลูกลงแปลงจำเป็นต้องมีไม้พี่เลี้ยงช่วยให้ร่มเงา คุณพีชจึงเลือกปลูกกล้วยน้ำว้าเป็นไม้พี่เลี้ยง การปลูกโกโก้ในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกโกโก้อยู่ที่ประมาณ 130 ต้น ซึ่งระยะห่างระหว่างต้นจะอยู่ที่ 3×4 เมตร ต้นพันธุ์โกโก้ที่นำมาปลูกลงแปลง ควรเป็นต้นพันธุ์ที่มีความสมบูรณ์และมีอายุตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 1 ปี
“สภาพพื้นดินถ้าเป็นดินเหนียว ต้นโกโก้ยังสามารถเจริญเติบโตอยู่ได้ ถ้าแปลงไหนดินสมบูรณ์ก็จะไม่มีการปรุงดินก่อนปลูก แต่ถ้าแปลงไหนสภาพดินไม่ดี ไม่มีสารอาหารเลย ผมก็จะนำแบ๊กโฮมาขุดเป็นรูลึกลงไปประมาณ 1 เมตร และผสมดินลงไปในหลุมนั้น ใส่พวกขี้วัว อินทรียวัตถุต่างๆ เพื่อปรุงดินก่อน ถ้าปรับสภาพดินไว้ดีก็จะช่วยให้ต้นโกโก้ที่ปลูกไปใหม่โตได้ดี แต่ถ้าดินไม่ดีระยะแรกปลูกไปต้นโตช้าไม่สมบูรณ์ ก็จะทำให้โรคและแมลงศัตรูพืชเข้ามาทำลายได้ไวครับ”
สำหรับต้นโกโก้ที่ปลูกลงแปลงในระยะเริ่มแรก คุณพีช เล่าต่อว่า จะต้องดูแลเป็นพิเศษพอสมควร เนื่องจากโกโก้ไม่ได้เป็นพืชพื้นถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ในเรื่องของการให้น้ำและป้องกันแมลงศัตรูพืช หากไม่รอบคอบจะทำให้ต้นโกโก้ถูกทำลายจนเกิดความเสียหายได้
เมื่อต้นโกโก้ที่ปลูกได้อายุประมาณ 2 ปี ต้นจะมีความสูงอยู่ที่ 2-3 เมตร จะเริ่มให้ผลผลิตได้ จากนั้นจะต้องตัดต้นกล้วยที่เป็นไม้พี่เลี้ยงออกจากแปลงปลูก และการให้น้ำจะเป็นระบบสปริงเกลอร์ ให้น้ำทุก 2 วันครั้งเป็นอย่างต่ำ ซึ่งการให้น้ำอย่างเหมาะสมและการดูแลต้นโกโก้ให้แข็งแรง รวมถึงการใช้ระบบเกษตรผสมผสานเพื่อช่วยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ
“ปุ๋ยที่ใส่ภายในสวนโกโก้ ผมจะเน้นใส่เป็นปุ๋ยคอก จะเป็นปุ๋ยที่ผมหมักเองมีตั้งแต่ปุ๋ยขี้ไก่ ขี้วัวบ้าง แล้วแต่ช่วงแล้วแต่ราคา โดยจะใส่ทุก 4 เดือนครั้ง และก็จะมีเสริมด้วยปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ 15-15-15 ต้นละ 300 กรัม ใส่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น โดยใส่ก่อนที่หน้าฝนจะมาครับ”
โกโก้ที่ต้นโตเต็มที่
ให้ผลผลิตอยู่ที่ 30 กิโลกรัม
เมื่อโกโก้เริ่มให้ผลผลิตได้แล้ว คุณพีช บอกว่า เฉลี่ยแล้วโกโก้ 1 ต้น จะให้ผลผลิตอยู่ที่ประมาณ 30 กิโลกรัมต่อต้น โดยผลผลิตที่ได้ทั้งหมดจะนำมาแปรรูปเองจำหน่ายเป็นน้ำช็อกโกแลต และบางส่วนส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าที่มาติดต่อขอซื้อ ซึ่งการออกไปตั้งบูธตามงานต่างๆ คุณพีชจะได้เจอลูกค้าใหม่ๆ เยอะมาก การได้เล่าและมีการพูดคุยโดยตรงทำให้ลูกค้าเข้ากระบวนการผลิตมากขึ้นตามไปด้วย
คุณพีชไม่เพียงแต่ขายเมล็ดโกโก้ดิบให้กับผู้ผลิตช็อกโกแลตเท่านั้น แต่ยังพัฒนาโกโก้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น ผงโกโก้ ชาโกโก้ และช็อกโกแลตโฮมเมด โดยวางแผนสร้างแบรนด์ของตัวเองให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“การจำหน่ายของที่สวน ก็จะมีทั้งขายปลีกและขายส่งให้กับร้านต่างๆ และทางสวนผมก็จะรับซื้อผลผลิตกับทางเกษตรกร เพื่อนำมาแปรรูปขายในตลาดที่เรามี อย่างเช่นส่งเข้าโรงงาน โดยราคาโกโก้ที่เป็นเมล็ดแห้งจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 180-250 บาท ถ้าเป็นโกโก้นิบส์ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 800-1,500 บาท และก็จะมีสินค้าอื่นๆ อีกหลายตัว การจำหน่ายก็มีทั้งไปออกบูธและก็ทำตลาดช่องทางออนไลน์ควบคู่กันไปครับ”
ความสำเร็จบนเวทีระดับประเทศ
ช่วยการันดีคุณภาพสินค้าโกโก้ภายในสวน
จากความมุ่งมั่นและอยากที่จะพัฒนาโกโก้ให้มีคุณภาพสูง คุณพีชไม่ได้เพียงสร้างรายได้ให้กับชุมชนเท่านั้น แต่ยังนำพาโกโก้ไปสู่เวทีระดับประเทศ ล่าสุดเขาได้รับการคัดเลือกให้ติด Top 10 ในการแข่งขัน Thailand Cacao Bean Contest 2024 ซึ่งเป็นเวทีประกวดเมล็ดโกโก้ที่สำคัญของไทย การได้รับการยอมรับในระดับนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับสวนโกโก้ของคุณพีช แต่ยังช่วยตอกย้ำว่าโกโก้จากน่านสามารถแข่งขันได้ในระดับประเทศและพร้อมที่จะก้าวไกลสู่ตลาดโลก
“การที่ผมส่งเมล็ดแห้งเข้าไปประกวด ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะได้รับรางวัล เพราะเมล็ดแห้งสวนผมเพิ่งจะมานิ่งเมื่อปีที่แล้วนี้เอง แต่การส่งเข้าไปประกวดทำให้เราทราบคุณภาพโกโก้ของสวนมากขึ้นครับ ว่าเมล็ดโกโก้ของเราเป็นยังไง มีเทสโน้ต (Taste Note) เป็นยังไง ซึ่งการส่งเมล็ดกาแฟไปก็จะช่วยในเรื่องของการวัดคุณภาพได้ดีครับ”
เส้นทางที่มองว่ายังคงเติบโต โกโก้ไทยในเวทีโลก
จากความสำเร็จนี้ ทำให้เห็นว่าการปลูกโกโก้ของคุณพีช จุดแข็งสำคัญคือแนวทางการผลิตแบบครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การปลูก การแปรรูปเมล็ดโกโก้ ไปจนถึงการผลิตช็อกโกแลตคุณภาพสูง สิ่งนี้เองที่ช่วยให้เพิ่มมูลค่าผลผลิต สร้างมาตรฐานที่ยั่งยืนและทำให้ตลาดโกโก้ไทยมีความมั่นคง
สำหรับในอนาคตคุณพีชมองว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพในการผลิตโกโก้ที่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยตั้งเป้าให้โกโก้น่านเป็นที่รู้จักในฐานะโกโก้คุณภาพสูง ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล และขยายตลาดสู่ผู้ผลิตช็อกโกแลตพรีเมียมทั่วโลก คุณพีชเน้นย้ำว่าผู้ที่สนใจปลูกโกโก้ต้องให้ความสำคัญกับการแปรรูปควบคู่กันไป เพื่อควบคุมคุณภาพ สร้างเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ และทำให้ตลาดโกโก้ไทยเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
“ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เจอ พอเราบอกว่าเราขายอะไร พอรู้ว่าเป็นผงโกโก้ ทุกคนจะมีภาพจำว่าต้องเป็นโกโก้ที่ต้องเป็นของนำเข้ามาจากต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้ไทยเราก็ทำอย่างมีคุณภาพเช่นกัน โดยเฉพาะโกโก้ใครจะเริ่มทำก็สามารถทำได้ เพราะตอนนี้ภาครัฐเองก็กำลังให้ความสำคัญมากขึ้นครับ”
จากจุดเริ่มต้นของเกษตรกรผู้มีวิสัยทัศน์ จนวันนี้โกโก้น่านได้ก้าวเข้าสู่ตลาดและเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ท่านใดสนใจการปลูกโกโก้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ คุณพีช – คณาธิป ศรีรัตโนภาส สวนตั้งอยู่ หมู่ที่ 1 ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน หมายเลขโทรศัพท์ 097-156-2106
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก 26 ก.พ. 2025