ทุเรียน
หมดปัญหา ‘ทุเรียนไม่สุก–สุกเกิน’ ด้วยเทคโนโลยี CT-Scan นวัตกรรมใหม่ที่กำลังเปลี่ยนการคัดแยกคุณภาพทุเรียนไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตลาดผลไม้ไทยกำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านคุณภาพจากทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออก โดยเฉพาะ “ทุเรียน” ซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญที่มีมูลค่าการส่งออกต่อปีนับแสนล้านบาท หนึ่งในปัญหาเรื้อรัง คือ “ความไม่แน่นอนของเนื้อใน” ที่ผู้บริโภคไม่สามารถรู้ได้จนกว่าจะผ่า ปัญหานั้นกำลังถูกแก้ไขด้วยเทคโนโลยีล่าสุดจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA ผ่านโครงการสนับสนุนทุนวิจัยที่สร้าง “นวัตกรรมจับต้องได้” อย่างแท้จริง นางสาวศิริกร วิวรวงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (ARDA) กล่าวว่า ในยุคที่เกษตรไทยเผชิญทั้งปัญหาแรงงานขาดแคลน ต้นทุนสูงและการแข่งขันที่เน้น “คุณภาพมากกว่าปริมาณ” การเปลี่ยนผ่านสู่ เกษตรสมัยใหม่ จึงไม่ใช่แค่แนวคิดอีกต่อไป ARDA ในฐานะหน่วยงานบริหารทุนวิจัยภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน AgriTech เช่น เกษตรแม่นยำ และ เกษตรอัจฉริยะ เพื่อยกระดับศักย
สายทุเรียนต้องไม่พลาด ปีนี้ฉันต้องได้กินทุเรียน!! ช่วงนี้หันไปทางไหนก็เจอทุเรียนตามแผงผลไม้ แต่การเลือกซื้อทุเรียนให้ได้ลูกที่มีเนื้อสุกกำลังดีไม่แก่เกินไปถือว่าเป็นเรื่องยากเลยทีเดียว แต่บางคนอาจจะใช้วิธีสังเกตง่ายๆ เพียงแค่ “เคาะ-ดม-ดู” และอีกเคล็บลับที่วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านจะพาไปเลือกทุเรียนแก่ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ตามไปดูกันเลย ที่ผ่านมา มีเกษตรกรจำนวนมากที่รีบตัดทุเรียนอ่อนออกขายทำกำไร โดยทั่วไปลักษณะของทุเรียนอ่อนช่วงเวลาสุกหลังเก็บเกี่ยว ทุเรียนอ่อนจะใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน หรืออาจจะมากกว่านั้น ปลิงจะแฟบ หลุด เหนียว เน่า ก้านขั้วจะอ่อนนิ่ม หนามมีขนาดเล็ก ป้าน หนามแคบ ปลายหนามสด พูเล็ก แคบ มองไม่เห็นเส้นแบ่งกลางพู เวลาเคาะไม่มีเสียงแน่นทึบ ดังกึกๆ เปลือกหนาสีสด เนื้อสีซีดอ่อนและรสชาติจืด มีกลิ่นอ่อน เมล็ดมีสีน้ำตาลอ่อนหรือชมพู เมล็ดไม่เหี่ยว การปอกแบบฉีกตามเส้นกลางพูทำได้ยาก หวงไส้ ทุเรียนแก่ ช่วงเวลาสุกหลังเก็บเกี่ยวจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน ทุเรียนสวนจะใช้เวลา 3 วัน ทุเรียนดอนใช้เวลา 5 วัน ปลิงบวมโต ยังไม่หลุดจากปลิงหรือหลุดพอดี ก้านขั้วแข็ง สากมือ หนามใหญ่ ส่วนหนามกว้าง ปลายหนามแห้งเ
(ซินหัว) ปัจจุบันทุเรียนสดจากกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังทยอยเข้าสู่ตลาดจีนอย่างต่อเนื่องตามการมาถึงของฤดูเก็บเกี่ยวและจำหน่ายทุเรียน โดยเมื่อไม่นานนี้ มีการขนส่งทุเรียนไทยสู่จีน 6 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักรวม 96 ตัน ซึ่งเป็นการขนส่งผ่านเวียดนามและผ่านพิธีการศุลกากรอันรวดเร็ว ณ ด่านหลงปังในเมืองจิ้งซี เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน โดยทุเรียนชุดนี้ถูกขนส่งต่อไปยังเมืองหนานหนิงและกระจายสู่ตลาดทั่วจีน ราชาแห่งผลไม้อย่าง “ทุเรียน” ที่มีรสและกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวจีนมากขึ้นและกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกประจำบน “จานผลไม้” ของชาวจีนหลายครอบครัว ซึ่งทุเรียนเนื้อสีเหลืองทองพูอวบอ้วนที่ข้ามทะเลข้ามภูเขาข้ามพรมแดนประเทศ เดินทางไกลจากปลายกิ่งก้านสู่ปลายลิ้นผู้บริโภคชาวจีนนี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวมิตรภาพทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับไทยที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ณ ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเขตหย่งหนิงของเมืองหนานหนิง มีบรรดาลูกค้าเลือกซื้อทุเรียนหมอนทองจากไทยกันอย่างคึกคัก ซึ่งหญิงแซ่หวังคนหนึ่งเผยว่าซื้อทุเรียนหมอนทองจากไทยมารับป
ตลาดสี่มุมเมือง ปักหมุดหมายใหม่เพื่อคนรักทุเรียน กับงาน “ทุเรียน Expo 2025” ระหว่างวันที่ 9-12 พฤษภาคม 2568 ชิม – ช้อป – เที่ยว ในสไตล์ One Day Trip ครบจบในวันเดียว เดินชมตลาดค้าส่งผลไม้ระดับโลก ช้อปและชิมทุเรียนสด ๆ จากสวนคุณภาพดีราคาส่ง ทั้งหมอนทอง ก้านยาว หลงลับแล รวมถึงทุเรียนลูกผสมนวัตกรรมใหม่ที่หาชิมยาก พบกิจกรรม นาทีทองสุดคุ้ม แจกฟรีคูปองแทนเงินสด และโซนนั่งกินสุดชิล ตลอดทั้งวัน ตลาดสี่มุมเมืองพร้อมยกระดับสู่ Epicenter ของทุเรียนไทย จุดศูนย์กลางที่รวมที่สุดของทุเรียนหลากสายพันธุ์ จากสวนไทยสู่คนรักทุเรียนทั่วโลก เดินทางสะดวก เพียง 10 นาทีจากสนามบินดอนเมือง และเปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง คุณปณาลี ภัทรประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานกลยุทธ์ธุรกิจ ตลาดสี่มุมเมือง กล่าวว่า “ตลาดสี่มุมเมืองขยับบทบาทสู่การเป็น Innovation Hub ด้าน Food Ingredients ด้วยการเชื่อมตรงทุเรียนสด ๆ จากสวนถึงมือผู้บริโภค พร้อมเปิดพื้นที่ให้เกษตรกร ผู้ประกอบการรายใหญ่ รายย่อย และคนรุ่นใหม่ได้เติบโตไปด้วยกัน เรามองธุรกิจไม่ใช่แค่ตัวเลขหรือยอดขาย แต่คือการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง ให
“ทุเรียน” ราชาผลไม้ของไทย มีหลากหลายสายพันธุ์ บางชื่อบางสายพันธุ์อาจจะไม่คุ้นหู แต่ทุเรียนไทยก็อร่อยไม่แพ้ของที่อื่น ยิ่งใกล้ฤดูของทุเรียนเมื่อไหร่ คอทุเรียนต้องรีบไปจับจ่ายกันแน่นอน ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นผลไม้ที่ราคาค่อนข้างสูง แต่ก็มีหลายคนที่ยอมจ่ายเพื่อความอร่อย เอกลักษณ์เฉพาะที่หลายคนหลงใหล รู้ก่อน เตรียมก่อน กำเงินให้พร้อม คอทุเรียนห้ามพลาด วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านจะพาไปส่อง 5 อันดับพันธุ์ทุเรียนแพงที่สุดในไทย จะมีสายพันธุ์ไหนกันบ้างต้องไปดู ราคาอาจจะแพง แต่ละลูกจะมีที่มาและมีเอกลักษณ์เด่น ที่ใครได้ลิ้มลองต้องบอกอร่อย สมกับราคาที่ยอมจ่าย อร่อยแค่ไหนก็ทุ่มสุดตัว อันดับที่ 5 ทุเรียนสายพันธุ์หนามดำ (สวนบ้านไร่ธนิสร) ทุเรียนสายพันธุ์หนามดำ หรือ โอวฉี่ มีการนำต้นพันธุ์มาทดลองปลูกควบคู่กับการปลูกลำไย และพบว่าให้ผลผลิตสมบูรณ์ ลูกกลม ตกไซซ์น้อย ดูแลง่าย ทนต่อโรคระบาดและราคาสูง ใช้เวลาปลูก 3-4 ปีก็ให้ผลผลิตแล้ว ทุเรียนหนามดำ หรือ โอวฉี่ มีถิ่นฐานมาจากมาเลเซีย จุดเด่นรสชาติจะหวานมัน หวานแหลม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เนื้อเยอะ เนื้อนุ่ม เนียน เหมือนทานเค้ก คล้ายกับการทานทุเรียนก้านยาวและพวงมณีผสมกั
หมอนทองเลิฟเวอร์ห้ามพลาด! “ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท” พร้อมเสิร์ฟ “Durian Decadent Afternoon Tea” ชวนจิบอาฟเตอร์นูนทีระดับไฮเอนด์และลิ้มรสเมนูพิเศษที่รังสรรค์จาก “ราชาผลไม้” สัมผัสอาฟเตอร์นูนทีสุดพิเศษในธีมทุเรียนเฉพาะซัมเมอร์นี้เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2568 เมื่อซัมเมอร์มาเยือนเมืองไทยอีกครั้ง หลายคนคงตั้งตารอคอย “ทุเรียน” ราชาแห่งผลไม้เมืองร้อนกับรสชาติหอมหวานมันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกอกถูกใจทั้งคนไทยและคนทั่วโลก และในปีนี้ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญ Durian Decadent Afternoon Tea หลังได้รับเสียงตอบรับอย่างยอดเยี่ยมเมื่อปีก่อน โดยจับมือกับ Toby’s Farm สวนทุเรียนคุณภาพระดับพรีเมียมจากจังหวัดจันทบุรี ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง นำเสนอประสบการณ์การจิบน้ำชายามบ่ายที่ผสานความหรูหราเข้ากับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนหมอนทอง พร้อมยกระดับ “ความโลคอล” ด้วยการนำเสนอแบบ “โกลบอล” ระดับห้าดาว โดยเซตอาฟเตอร์นูนทีในธีมทุเรียนหมอนทองสุดพิเศษนี้ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยเฉพาะฤดูกาลทุเรียนตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน – 31 พฤษภา
หลายปีที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่จำนวนมากเลือกเดินออกจากธุรกิจเกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม เนื่องจากมองเป็นงานหนัก บางคนมองว่าไม่เท่ รวมถึงบางคนมองว่าเป็นงานยากในสถานการณ์ปัจจุบัน แต่สำหรับ นิ้ง-สิริยากร บัณฑิตป้ายแดง เจ้าของแบรนด์ทุเรียน “ลูกสาวกำนัน” จ.จันทบุรี เลือกยืนหยัดกลับมาสานต่อธุรกิจสวนทุเรียนของครอบครัว กลายเป็น New Gen ยุวเกษตรกร ที่มุ่งมั่นให้ธุรกิจเกษตรเติบโตอย่างมีนวัตกรรม นิ้งเล่าว่า เดิมเป็นเด็กที่ชื่นชอบงานด้านวิชาการ จุดเปลี่ยนสำคัญคือ ช่วง ม.6 คุณพ่อไปเห็นทุนการศึกษา ภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) เพื่อเข้าศึกษาต่อคณะเกษตรนวัตและการจัดการ (IAM) คณะที่ช่วยให้เกษตรกรเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ สร้างรายได้สูง “ตอนแรกเคยตั้งคำถามว่า ถ้าเรียนด้านเกษตรกรรมเฉยๆ จะไหวหรือไม่ แต่ที่บ้านบอกเราชัดเจนว่า ไม่ได้อยากให้เรากลับมาเพื่อทำสวน แต่อยากให้มาช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม—” “—ทางคณะให้เราเรียนรู้ด้านเกษตรควบคู่กับธุรกิจ ไม่ใช่เรียนแค่ทฤษฎี แต่ให้เราได้เข้าสู่ภาคปฏิบัติจริงๆ ตลอด 4 ปี ทั้งการฝึกงานที่สวนทุเรียนในจังหวัดอื่น การฝึกงานเป็
“จิตร์นิยม” สวนผลไม้ชื่อดังของจังหวัดปราจีนบุรี ที่ได้เป็นสวนออร์แกนิกดีเด่นระดับประเทศจากกรมวิชาการเกษตร ประจำปี 2556 มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยรุ่นอาเหล่ากงบุกเบิกทำเป็นสวนเกษตรอินทรีย์เป็นที่แรกของอำเภอศรีมหาโพธิ จนเริ่มเป็นที่รู้จักในยุคคุณสมพร อุดมสิน ในชื่อสวนจิตร์นิยม และได้รับการเฝ้าดูจนมาถึงรุ่นคุณเกรียงศักดิ์ อุดมสิน เจ้าของสวนคนปัจจุบัน ผู้ทำการตลาดส่งออกผลไม้และติดต่อขายกับ 24 Shopping ในรูปแบบ E-Commerce และห้างสรรพสินค้า Central จนมาถึงรุ่นที่ 4 ซึ่งได้มีการวางแผนลงทุนและต่อยอดต่อไป ปัจจุบันที่สวนก็ยังยืนหยัดที่จะทำเกษตรอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงมีการขยับขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมพื้นที่ 20 ไร่ จนถึงปัจจุบันขยายพื้นที่ไปถึง 500 ไร่ นับได้ว่าเป็นอีกสวนเกษตรผสมผสานแบบอินทรีย์ที่มากคุณค่า มากเรื่องราว และน่าค้นหาเป็นอย่างมาก คุณบุณยกร อุดมสิน หรือ คุณเนียร์ อยู่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี เกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรง ในวัย 23 ปี ที่กำลังจะกลับมาสานต่อกิจการทำสวนของที่บ้าน อยู่ในช่วงระหว่างการเปลี่ยนรุ่นการดูแล โดยได้มีกา
นางสาวนริศรา เอี่ยมคุ้ย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 ชลบุรี (สศท.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงผลสรุปการจัดทำข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2568 (ข้อมูล ณ 2 เมษายน 2568) โดย สศท.6 และศูนย์สารสนเทศการเกษตร สศก.ประชุมร่วมกับคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ภาคตะวันออก ติดตามสถานการณ์การออกดอกและติดผลของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัด (ระยอง จันทบุรี ตราด) สรุป ปี 2568 ปริมาณผลผลิตรวม ทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 1,298,482 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีจำนวน 999,211 ตัน (เพิ่มขึ้น 299,271 ตัน หรือร้อยละ 29.95) เนื่องจากปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญและสภาพอากาศแปรปรวน ออกดอกติดผลน้อย ทำให้ปีนี้ได้พักต้นเพื่อสะสมอาหาร ต้นสมบูรณ์ พร้อมออกดอกติดผลได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับปีนี้สภาพอากาศเอื้ออำนวยทำให้การออกดอกและติดผลของไม้ผลทั้ง 4 ชนิดเพิ่มขึ้น สำหรับเนื้อที่ให้ผลของทุเรียนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 17 โดยเนื้อที่ให้ผลของทุเรียนเริ่มให้ผลผลิตในปี 2568 เป็นปีแรกเพิ่มขึ้น 72,908 ไร่ ถึงแม้บางพื้นที่ได้รับผลกระ
กรุงเทพฯ, 26 กุมภาพันธ์ 2568 : นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงาน “ก้าวสู่อนาคตเกษตรกรรมไทย ผ่านงานวิจัยด้วย AI Chatbot” ณ ห้องพระศิวะ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น พลิกโฉมการเกษตรไทย เปิดตัวนวัตกรรม AI Chatbot “ตัวช่วยอัจฉริยะ” ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับการปลูกทุเรียนและมันสำปะหลังได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ ผ่านเครื่องมือสืบค้นงานวิจัยด้านการผลิตพืชของกรมวิชาการเกษตร ที่รวบรวมความรู้ งานวิจัย เกี่ยวกับทุเรียนและมันสำปะหลัง ไว้อย่างครบถ้วน ให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจได้เรียนรู้ และนำไปใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตและสร้างรายได้ จากสองชนิดพืชเศรษฐกิจอันดับต้นของประเทศ ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจปีละกว่าหนึ่งแสนล้านบาทในแต่ละชนิด นายรพีภัทร์ เปิดเผยว่า ในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่สังคมยุคดิจิทัล กรมวิชาการเกษตรพร้อมที่จะสนับสนุนบทบาทการนำดิจิทัลไปสู่งานวิจัย โดยกรมวิชาการเกษตรมีบทบาทสำคัญในเรื่องการวิจัยสินค้าเกษตรพืชพันธุ์ต่างๆ ซึ่งการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาสนับสนุน ประกอบกับแผนการจัดการเทคโนโลยีของประเ