พืชสมุนไพร
เห็ดหลินจือ ราชาแห่งสมุนไพร มีคุณค่าทางอาหาร และมีสรรพคุณทางยาสูง จึงเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก คุณสหรัช รักษา เจ้าของอารีย์ฟาร์มเห็ดไทรโยค ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะเห็ดประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เป็นหนึ่งในฟาร์มเห็ดที่สนใจเพาะเห็ดหลินจือเชิงการค้า รวมทั้งแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มเห็ดหลินจือแดงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ชาเห็ด เห็ดอบแห้ง แคปซูลเห็ด และเซรั่มจากเห็ดหลินจือแดง ฯลฯ วิธีการเพาะเห็ดหลินจือ คุณสหรัช บอกว่า เห็ดหลินจือ ใช้วิธีการเพาะก้อนเช่นเดียวกับเห็ดทั่วไป คือ ใช้ขี้เลื่อย ยางพารา จากวัสดุเพาะที่มีส่วนประกอบพวกรำ แป้ง และอาหารเห็ดเป็นหลัก จากนั้นหยอดเชื้อเห็ดเข้าไปรอจนกว่าเส้นใยเดินเต็มก้อน ใช้เวลาประมาณเดือนกว่าๆ เมื่อเชื้อเดินเต็มแล้ว จึงนำเข้าโรงเรือนและเปิดดอก หลังเปิดดอกแล้วประมาณ 70-80 วันถึงจะเก็บดอกได้ เห็ดหลินจือจะใช้เวลาปลูกเลี้ยงยาวนานกว่าเห็ดชนิดอื่น เพราะเป็นเห็ดที่มีการเติบโตช้า ต้องสะสมอาหารเป็นจำนวนมาก จึงอุดมไปด้วยสารอาหารที่ทำให้เห็ดหลินจือได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดพืชสมุนไพร ข้อควรระวัง ก
“ผักเป็นยา” เป็นแนวคิดที่เชื่อว่าผักสามารถนำมาใช้ในการบำรุงร่างกายและรักษาโรคต่างๆ ได้ เนื่องจากผักมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งมีทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ เทคโนโลยีชาวบ้านจึงได้รวบรวมพืชสมุนไพร ผักกินได้ ใกล้ตัว ที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกายกว่า 10 ชนิดมาฝาก อันดับ 1 ขิง สมุนไพรที่ใช้ทำอาหาร และมีสรรพคุณในการรักษาโรค ซึ่งสามารถช่วยรักษาอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย และช่วยบรรเทาอาการไมเกรนลดความเจ็บปวดจากการปวดหัวได้ อันดับ 2 กระสัง พืชมนต์ขลัง ยาดีไม่มีลืมเลือน ผักที่เป็นอาหารและเป็นยา มีประโยชน์และคุณค่าทางอาหารช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหาร ใช้เป็นยาสมุนไพรนำใบมาต้ม ใช้ล้างหน้ารักษาสิว และทำให้ผิวหน้าใส อันดับ 3 หูเสือ สมุนไพรประจำบ้าน ช่วยแก้หวัด ซึ่งเป็นพืชผักสมุนไพรมาใช้รักษาบรรเทาอาการไอ แก้หวัดคัดจมูกได้อย่างยอดเยี่ยม อันดับ 4 ตดหมู ตดหมา(พาโหม) สมุนไพรที่ใช้ลดน้ำตาล-ไขมันในเลือด ทั้งยาบำรุงที่ดี เป็นยาอายุวัฒนะ โดยเชื่อว่าการรับประทานเป็นประจำ สามารถเพิ่มกำลัง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ช่วยทำให้กระดูกที่หักติดกันง่าย ช่วยทำให้สีผิวเงางาม ช่วยกำจัดพ
มะรุม จัดเป็นพืชผักพื้นบ้านของไทย มีประโยชน์อเนกประสงค์ ทั้งทางด้านอาหาร ยา และอุตสาหกรรม เป็นไม้ยืนต้นที่โตเร็ว ทนแล้ง ปลูกง่ายในเขตร้อน อาจจะเติบโตมีความสูงถึง 4 เมตร และออกดอกภายในปีแรกที่ปลูก โดยทั่วไปต้นมะรุมสามารถปลูกได้ในสภาพไร่ คนเมืองที่มีพื้นที่จำกัด สามารถปลูกต้นมะรุมใส่กระถางข้างบ้านหรือปลูกในวงซีเมนต์ โดยมีเทคนิคการปลูกและบำรุงรักษาที่เหมาะสมเพื่อให้ติดฝักและใบสำหรับประกอบอาหารและเป็นยาตามที่ต้องการ สภาพปลูกในกระถางข้างบ้าน ดินปลูกเป็นปัจจัยสำคัญมาก ต้องมีอินทรียวัตถุมาก แต่ควรให้อุ้มน้ำได้ดี ไม่แน่นและไม่หลวมจนเกินไป ส่วนภาชนะที่จะปลูกต้องใหญ่พอ ขนาดกระถางตั้งแต่ 20 นิ้วขึ้นไป หรือหากเป็นวงซีเมนต์ควรมีขนาดตั้งแต่ 80 เซนติเมตร การบำรุงเริ่มต้นที่ควรเติมปุ๋ยมูลสัตว์ โดยเฉพาะมูลวัว ตั้งแต่เริ่มปลูก ผสมกับปุ๋ยสูตรเสมอเล็กน้อยในทุกๆ 1 เดือน ควรเติมปุ๋ยมูลสัตว์อย่างต่อเนื่อง ให้ปุ๋ยสูตรเสมออย่างบางๆ ประมาณ 2 สัปดาห์ครั้ง น้ำเป็นอีกปัจจัยหนึ่งขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะรดน้ำโดยวิธีใด เพื่อให้ดินชุ่มอยู่เสมอ เมื่อเริ่มออกดอก ควรปรับปุ๋ยเป็น 13-13-21+สูตรเสมอ ปุ๋ยสูตรควรให้น้อยแต่บ่อยครั้
เมื่อเร็วๆ นี้ มีโอกาสไปฟังสัมมนา “เห็ดเป็นยา” จัดโดย สถาบันอานนท์ไบโอเทค ซอยไอยรา 38 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นอกจากได้รับฟังแนวคิดการพัฒนาเห็ดเป็นยาแล้ว ดร.อานนท์ เอื้อตระกูล อดีตผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านเห็ด องค์การสหประชาชาติ (ระหว่างปี 2524-2548) และผู้ก่อตั้ง สถาบันอานนท์ไบโอเทค ยังได้พาเดินชมมหัศจรรย์พันธุ์พืช ทั้งพันธุ์พืชไทยและต่างแดน ที่มีศักยภาพเป็นพืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต “ กำยานโอมาน ” ไม้ทำเงินที่น่าปลูก สุดยอดสมุนไพรที่ทั่วโลกต้องการ กำยาน (Frankincense) นับเป็นสุดยอดสมุนไพรป้องกัน รักษาอาการอักเสบ และฆ่าเชื้อ กำยานมีกลิ่นหวานหอมสะอาด อบอุ่น ช่วยคลายเครียด บรรเทาอาการหอบหืด ช่วยให้หายใจสะดวก ลดอาการไซนัส บรรเทาอาการภูมิแพ้ เจ็บคอ ไข้หวัด และหลอดลมอักเสบแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยฟอกอากาศ กำจัดกลิ่น ไล่มดปลวกและแมลง กำยานเป็นไม้มงคลที่ทรงคุณค่าของชาวตะวันออกกลาง เพราะอยู่ในทุกช่วงของชีวิตตั้งแต่วันเกิดจนถึงวันตาย โดยจุดกำยานเป็นเครื่องหอม รมฆ่าเชื้อ และเป็นยารักษาโรค ในศาสนาคริสต์ นิยมจุดกำยานเป็นเครื่องหอมบูชาแทนการอธิษฐานแด่ พระคริสต์ ในวงการแพทย์ใช้กำยานเป็นส่วนผ
ปัจจุบัน ความต้องการใช้พืชสมุนไพรไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งใช้ประกอบอาหาร เป็นวัตถุดิบสำหรับแปรรูปผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลสุขภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอาง พืชสมุนไพรกลายเป็นพืชทำเงินที่ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรได้อย่างดี บ้านห้วยร่องคำ หมู่ที่ 10 ตำบลกุดปลาดุก อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นกลุ่มวิสาหกิจ “ต้นแบบการผลิตสมุนไพร” ที่มีศักยภาพในพื้นที่ มีระบบบริหารจัดการแปลงที่ดี มีการวางแผนด้านการผลิตเพื่อเป็นไปตามความต้องการของตลาด รวมถึงการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้จากสมุนไพร วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเศรษฐกิจชุมชนบ้านห้วยร่องคำ เริ่มดำเนินการเมื่อปี 2559 โดยมี นางละอองฉัตร คูตะพันธุ์ เป็นประธานกลุ่ม ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจเกิดจากการรวมตัวของเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพรในพื้นที่ มีสมาชิกเกษตรกรและเครือข่ายรวม 55 ราย พื้นที่ปลูกรวม 105 ไร่ เนื้อที่ปลูกเฉลี่ย 1.9 ไร่ต่อครัวเรือน โดยมีรายได้จากการปลูกสมุนไพรหมุนเวียนอยู่ที่เดือนละ 120,000 บาท คิดเป็นรายได้รวมทั้งปีประมาณ 1,440,000 บาท ทางกลุ่มมีการปลูกสมุนไพรที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย (GAP) โดยสมุนไพรที่สร้างรายได้
ตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง เป็นโซนตอนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ส่วนมากเป็นผืนป่าไม้และภูเขาสูง ที่มีความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติ และมีสิ่งแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ เอื้อต่อการท่องเที่ยว ชาวบ้านในชุมชนประกอบด้วย 5 ชนเผ่า ได้แก่ เผ่าลาหู่ เผ่าม้ง เผ่าปกากะญอ เผ่าลีซอ และเผ่าอาข่า ตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ เบโด้ (Bedo) ได้สนับสนุนงบประมาณให้ท้องถิ่นแห่งนี้ ดำเนินโครงการธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน (Community BioBank) ทำให้ชาวบ้านตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรชีวภาพมากขึ้นว่า หากไม่มีป่า ไม่มีเงิน ไม่มีรายได้ คุณจิราพรรณ ทิมทอง ที่ปรึกษากลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมู่บ้านสมุนไพรบ้านเมืองกื้ด กล่าวว่า โครงการธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน (Community BioBank) ทำให้ชาวบ้านได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญของทรัพยากรชีวภาพมากขึ้น ป่าชุมชนห้วยกุ๊บกั๊บของตำบลกื้ดช้าง เป็นป่าเบญจพรรณที่สูง จากระดับน้ำทะเล 700 เมตร มีพืชเฉพาะถิ่น 156 ชนิดพันธุ์ ชาวบ้านได้จัดตั้งธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพ พืชตระกูลขิง ข่า ว่าน และสมุนไพร ชุมชนตำบลกื้
ปัจจุบัน กระแสเรื่องสิ่งแวดล้อมและการบริโภคเพื่อสุขภาพมีการตื่นตัวกันเพิ่มมากขึ้น ผู้คนทั่วโลกต่างเสาะแสวงหาสิ่งดำรงชีพที่ปราศจากการปนเปื้อนของสารเคมีและสารพิษต่างๆ ทั้งๆ ที่มนุษย์รู้จักการใช้สมุนไพรป้องกันกำจัดศัตรูพืชมานานแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกมองข้าม ขาดการเผยแพร่ ประกอบกับสารเคมีทางการเกษตรในปัจจุบันหาได้ง่าย ใช้ได้ง่าย และเห็นผลรวดเร็วกว่า แต่เมื่อมีการใช้ในระยะเวลานานๆ ก็จะเริ่มส่งผลเสียออกมาให้เห็น มีทั้งผลกระทบต่อมนุษย์ สัตว์ พืช รวมทั้งสิ่งแวดล้อมด้วย จึงเป็นสาเหตุให้บรรดาเกษตรกรเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการปลูกพืชผักผลไม้ปลอดสารพิษ และหาวิธีการต่างๆ เพื่อที่จะนำมาใช้ทดแทนสารเคมี พืชสมุนไพรจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุด ซึ่งปัจจุบันภาคธุรกิจได้หันมาผลิตสารสกัดจากสมุนไพรเพื่อใช้สำหรับกำจัดศัตรูพืชออกมาจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย อาจารย์แสงเดือน อินชนบท สำนักฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคุณสมบัติต่างๆ ของสมุนไพรเพื่อให้มีการนำไปใช้ได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กล่าวว่า “สำหรับผู้ที่กำลังใช้หรือต้องการใช้พืชสมุนไพร ต้องทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่
“ต้นขลู่” เป็นไม้พุ่มที่อยู่ในวงศ์ Asteraceae สามารถพบได้ทั่วไปในบริเวณที่ชื้นแฉะของประเทศแถบเอเชีย สำหรับประเทศไทย พบในพื้นที่ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน มีชื่อเรียกแตกต่างในแต่ละท้องถิ่น ภาคกลางเรียก “ขลู่” จังหวัดอุดรธานี เรียกว่า “หนวดงัว” สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีตัดกิ่งปักชำ สมุนไพรใบขลู่ มีสารพฤกษเคมีมากมายหลายชนิดที่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ สามารถลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต ในตำราแพทย์แผนไทยนำใบขลู่มาใช้รักษาอาการขัดเบา นำมาอาบเพื่อดับกลิ่นตัว ปัจจุบัน มีการนำใบขลู่มาประยุกต์ใช้ในรูปแบบของชา เพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยขับปัสสาวะ “ชาใบขลู่” สร้างอาชีพ วิสาหกิจชุมชนลุงแกละชาใบขลู่ บ้านตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ได้นำต้นขลู่ ซึ่งเป็นวัชพืชที่งอกงามอยู่ใกล้กับป่าชายเลนมาจำหน่ายในรูปแบบผลิตภัณฑ์ชาใบขลู่ ที่ขายดีเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ ต่อมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครได้นำนวัตกรรมเข้ามายกระดับการผลิตทำให้ผลิตภัณฑ์ใบขลู่อบแห้ง มีคุณภาพและผ่านเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เป็นรายแรกในประเทศไทย สร้างความ
การเลี้ยงไก่นอกจากเรื่องของอาหารที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษแล้ว การป้องกันโรคต่างๆ โดยไม่ใช้ยาปฏิชีวนะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องใส่ใจ ซึ่งพืชสมุนไพรเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เกษตรกรในหลายพื้นที่นำมาผสมกับอาหารให้ไก่กิน เพราะนอกจากจะหาง่ายแล้ว ยังเป็นตัวช่วยแบบประหยัดต้นทุนให้กับเกษตรกร วันนี้จะพามารู้จักกับพืชสมุนไพร 5 ชนิด ที่นิยมนำมาผสมอาหารให้กับไก่ที่เลี้ยงกิน มีดังนี้ ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อต่างๆ เช่น โควิด-19 ทำให้ฟ้าทะลายโจรกลายเป็นสมุนไพรที่ได้รับความสนใจและถูกนำมาศึกษาอย่างแพร่หลาย ลักษณะของฟ้าทะลายโจร การนำฟ้าทะลายโจรมาใช้กับไก่นั้นเป็นที่นิยมในหมู่เกษตรกรและผู้เลี้ยงไก่ เนื่องจากมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลายและสามารถช่วยป้องกันโรคในไก่ได้หลายชนิด สรรพคุณของฟ้าทะลายโจรเมื่อใช้กับไก่ ต้านเชื้อแบคทีเรียช่วยป้องกันและรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคท้องเสีย ต้านการอักเสบช่วยลดอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารและระบบหายใจ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันช่วยให้ไก่แข็งแรงและต้า
คัดเค้า จัดอยู่ในพันธุ์ไม้ดอกหอม ให้กลิ่นหอมแรงในตอนกลางคืน ถิ่นกำเนิดอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระจายพันธุ์ถึงอาฟริกาเขตร้อน นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป การปลูกคัดเค้าให้สวยงามต้องคอยตัดแต่งทรงพุ่มสม่ำเสมอ เนื่องจากเป็นไม้ที่มีการแตกกิ่งก้านสาขามาก และไม่มีรูปทรงที่แน่นอน มีคุณค่าทางสมุนไพร ลำต้น มีรสเฝื่อนฝาด แก้เสมหะ แก้ไข้ เปลือกต้น รสฝาด ปิดธาตุแก้เสมหะ แก้โลหิตซ่าน ส่วนใบ มีรสเฝื่อนเมา ดอก รสขมหอม แก้โลหิตในกองกำเดา ด้านผล มีรสเฝื่อนปร่า ขับโลหิตประจำเดือนเสีย บำรุงโลหิต บำรุงผิวให้ผ่องใส และราก มีรสฝาด แก้ไข้ แก้ท้องเสีย แก้เลือดออกตามไรฟัน คัดเค้า มากคุณค่า นอกจากนี้ ดอกสวย มีกลิ่นหอมแล้ว คัดเค้ายังมีข้อดีอื่นๆ ได้แก่ 1.เป็นพันธุ์ไม้ที่มีหนามแหลมคมมาก สามารถใช้ปลูกเป็นแถวเพื่อทำรั้วป้องกันคนหรือสัตว์ผ่านได้ 2.ดอกมีกลิ่นหอมแรงและออกดอกพร้อมๆ กันเกือบทั้งต้น เวลาออกดอกจะสวยงามมาก 3.ต้องการน้ำไม่มากในการเจริญเติบโต 4.เป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกได้ดีทั้งที่มีแดดจัดเต็มวัน และแดดปานกลาง (ครึ่งวัน) ได้ดีชนิดหนึ่ง. ………….. ชื่ออื่นๆ: