ยาง
คอลัมน์ ระดมสมอง โดย สุตาภัทร ม่วงนา ฝ่ายนโยบายโครงสร้างเศรษฐกิจ ธปท. ยางพารา เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจหลักของไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตเกษตรกรกว่า 1.4 ล้านครัวเรือน ถามว่า ทำไมไทยถึงปลูกยางพารามากขนาดนี้? ต้องบอกว่า ยางพารา เป็นพืชที่มีข้อดีหลายประการ ประการแรก คือ ยางเป็นพืชที่ทำรายได้สม่ำเสมอ เพราะเป็นพืชที่กรีดได้เกือบทุกวัน เป็นสินค้าอุตสาหกรรมที่มีตลาดรองรับ 100% และยังมีเงินบำเหน็จจากการขายไม้ยางหลังการโค่นยาง ประการที่สอง ยางเป็นพืชที่มีต้นทุนเฉลี่ยต่ำ โดยยางต้นหนึ่งสามารถให้ผลผลิตนานกว่า 15 ปี ช่วงเวลาทำงานไม่มาก เพียง 4-5 ชั่วโมง ต่อวัน และหลังจากปลูกแล้ว เกษตรกรเลือกใส่หรือไม่ใส่ปุ๋ยและยาบำรุงรักษาก็ได้ ประการสุดท้าย คือ เกษตรกรมีความคาดหวังต่อยางสูง โดยคาดว่าราคายางในอนาคตจะสูงขึ้นไปเกินกว่า 100 บาท ต่อกิโลกรัม ดังเช่นในอดีต ด้วยข้อดีและความคาดหวังตามที่กล่าวมา ทำให้ยางพาราเป็นพืชที่เกษตรกรนิยมปลูก และแม้ไทยจะเป็นประเทศผู้ผลิตยางพาราอันดับหนึ่งของโลก แต่กลับไม่สามารถกำหนดราคายางพาราเองได้ ทำให้เกษตรกรต้องเผชิญกับความผันผวนของราคา ส่งผลให้รายได้ไม่แน่นอน แล้วเกษตรกรจะรับมือ
นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนมีนาคม 2562 ที่จัดทำโดย ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ว่า ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนเล็กน้อย 0.18-0.59% อยู่ที่ราคา 15,574-15,638 บาท/ตัน เนื่องจากความต้องการข้าวหอมมะลิยังมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการเสนอราคารับซื้อในราคาที่สูง สำหรับน้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาเฉลี่ยในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.20-1.00% อยู่ที่ราคา 13.39-13.50 เซนต์/ปอนด์ (9.23-9.31 บาท/กก.) เพราะการปรับขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนราคาน้ำตาลสัญญาล่วงหน้า ทำให้บราซิลนำอ้อยไปผลิตเป็นเอทานอลมากกว่าน้ำตาล ประกอบกับราคาขายน้ำตาลขั้นต่ำภายในประเทศของอินเดียที่สูงขึ้นอาจกระตุ้นให้ผู้ผลิตน้ำตาลของอินเดียเพิ่มกำลังการผลิตน้ำตาล เพื่อขายภายในประเทศมากขึ้น ทำให้การส่งออกน้ำตาลทรายลดลง ส่วน ยางพาราแผ่นดิบ ราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 3.52-4.56% อยู่ที่ราคา 42.64-43.12 บาท/กก. เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง เพราะเข้าสู่ฤดูยาง
หอการค้าประเมินความเสียหายพิษโซนร้อนปาบึกถล่มใต้ ชี้ภาคท่องเที่ยวขยายตัวตามเป้า เกษตรกระทบระยะสั้น ส้มโอ-ทุเรียน ผลผลิต ส่วน ยาง-ปาล์ม ขยับขึ้น จี้รัฐจัดแหล่งเงินกู้ ดอกเบี้ย 0% หนุนผู้ประกอบการรายย่อยฟื้นฟูธุรกิจ นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) วันที่ 9 ม.ค. จะปรับประมาณการตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจจากเดิมช่วงธันวาคม 2561 จีดีพี ประเทศ ปี 2562 จะขยายตัว 4-4.3% อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่ารายได้ภาคการท่องเที่ยวในปีนี้ยังมีโอกาสขยายตัวได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากเดือนมกราคมเป็นฤดูการท่องเที่ยว จากการตรวจสอบยอดจองโรงแรมช่วงไตรมาส 1 ยังคงมีทิศทางที่ดี ส่วนผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึกไม่กระทบกับการท่องเที่ยวมากนัก เพราะคลี่คลายเร็ว นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ สภาหอการค้าไทย เปิดเผยว่า พายุโซนร้อนปาบึกที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบในระยะสั้นไม่เกิน 3-4 เดือน ในส่วนของภาคการเกษตรยางและปาล์มไม่ได้เสียหายจากพายุมากนัก ส่วนผลไม้ เช่น ทุเรียนและส้มโอทับทิมสยาม นางสาววาริน ชิณวงศ์ กรรมการ
ชื่อสามัญ ทะลอก ชื่อวิทยาศาสตร์ Vatica philastreana Pierre วงศ์ Dipterocapaceae ในปีนี้ถ้าจะว่าไปแล้ว เป็นปีทองสำหรับผู้เขียน เพราะได้เจอเรื่องมหัศจรรย์หลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องต้นไม้ที่ออกดอกออกผลกันยกใหญ่ ทั้งการได้พบเจอตะเคียนทองต้นใหญ่ยักษ์งอกเบี้ยใต้ต้นเป็นหมื่นๆ แสนๆ ต้น ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบหลายสิบปี ทั้งต้นกาจะหรือมะเกลือกาที่บ้านเมืองนนท์ ที่เพิ่งลงดินได้ 2 ปี กลับออกดอกเต็มต้น หรือจะเป็นเพราะปีนี้อากาศสุดจะวิปริต หรือเพราะเป็นธรรมดาของต้นไม้ที่จะรับรู้ว่าฝนจะตกเมื่อไร จึงได้ผลิตลูกหลานมาอย่างหนำใจ (ไว้โอกาสหน้าจะเขียนเรื่องต้นไม้ทำนายฝน…) ที่น่าอัศจรรย์ใจก็คือ ผู้เขียนมีโอกาสได้เจอ ต้นทะลอก ต้นยางใหญ่ยักษ์อายุเกินร้อยปี ทั้งๆ ที่วันที่ได้ต้นกล้าครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปีก่อน จากคุณหมอท่านหนึ่ง ซึ่งท่านนำมาจากมาเลเซีย แค่นั้นไม่พอท่านได้ใส่ข้อมูลไว้ในสมองผู้เขียนว่า ในเมืองไทยหาไม่ได้แล้วนะเจ้าคุณพี่ หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ที่ไทยน่ะสูญพันธุ์ไปแล้ว และที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือ ต้นทะลอกต้นนี้ออกลูกมาอย่างทะลักทะเลื่อเหมือนจะอวดโฉมให้เราได้เห็นเขาอย่างเต็มตาหลังจากหลบ
การยางแห่งประเทศไทย ชี้แจงมาตรการหยุดกรีดยาง 2 ล้านไร่ ช่วงเดือน พ.ค.-ก.ค. ยังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น เปิดรับฟังทุกภาคส่วนเสนอความเห็นร่วมกันเพื่อวิเคราะห์ความเหมาะสมและเป็นไปได้ของมาตรการหยุดกรีดนี้ ว่าจะเกิดผลดีผลเสียเช่นไรต่อสถานการณ์ยางพาราในประเทศไทย ก่อนนำมาตรการดังกล่าวนี้มาใช้ ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การหยุดกรีดยางในพื้นที่สวนยางของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่นั้น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการควบคุมปริมาณผลผลิต ภายใต้มาตรการการรักษาเสถียรภาพราคายางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำมาใช้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางควบคู่ไปกับมาตรการต่างๆ โดยเน้นเฉพาะในช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค. 61 ต่อมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแนวคิดขยายการหยุดกรีดยางเพิ่มเติมออกไปในพื้นที่ของประชาชนทั่วไปที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง จำนวน 2 ล้านไร่ ในช่วงเวลา 3 เดือน คือ เดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม 2561 อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปริมาณผลผลิตในตลาดลดลง(supply) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ราคายางเพิ่มสูงขึ้นตามกลไกตลาด “ขอย้ำว่าการขยายโครงการหยุดการกรีดยาง (tapping holiday) ยังคงเป็นเพียงแนวคิด
น.ส.อัจฉริยา จันทรวงศ์ กงสุล (ฝ่ายการเกษตร) ประจำกงสุลใหญ่ ณ นครเซียงไฮ้ เปิดเผยว่า ราคายางพาราในตลาดยางเซียงไฮ้ ประเทศจีน ราคาเริ่มนิ่งและแนวโน้มลดลงเล็กน้อย เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน หลายโรงงานเริ่มหยุด และชะลอการซื้อ-ขาย แต่สถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นช่วงสั้นๆ หลังจากผ่านเทศกาลไปแล้วคาดว่าแนวโน้มของราคา ซึ่งเป็นไปได้จะดีดตัวกลับขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ยางพาราในจีน พบว่าแนวโน้มการใช้ยางธรรมชาติปรับตัวลดลง เนื่องจากการการนำเข้ายางธรรมชาติมีภาษีสูงกว่า ส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมบางส่วนเริ่มปรับสูตรการผลิตใหม่หันไปใช้ยางสังเคราะห์มากขึ้น ซึ่งทางกงสุลฯ จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวต่อไป แต่ทั้งนี้ จากภาษีการนำเข้ายางธรรมชาติที่อยู่ในอัตราที่สูงกว่า ดังกล่าว ผู้ประกอบการจีนหลายรายหันมานำเข้ายาง คอมปาวด์ หรือยางที่มีส่วนผสมของสารเคมีต่างๆ ซึ่งเก็บภาษีต่ำกว่า หลังจากนั้นผู้ประกอบการจะสกัดสารเคมีออก ยังมีต้นทุนการนำเข้าที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับการนำเข้ายางธรรมชาติโดยตรง “กรณีไทยส่งออกยางคอมปาวด์ จะไม่ถูกจัดเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษจากการส่งออกยางหรือเซส ดังนั้นยางคอมปาวด์จึงเป็นที่นิยม
วันที่ 19 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบัวหลวง หมู่ 3 ต.เสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ว่ามีคนร้ายออกตระเวนขโมยยางที่กรีดเอาไว้ภายในสวนยางของชาวบ้านหายไปหลายเจ้า ทั้งที่ราคายางในขณะนี้ก็ไม่ค่อยดีนัก สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง น.ส.ทัศนีย์ ปิ่นทองหลาง อายุ 34 ปี เกษตรกรชาวสวนยางบ้านบัวหลวง หนึ่งในผู้เสียหาย นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบสวนยางที่ปลูกไว้จำนวน 20 ไร่ พร้อมให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากคนดูแลสวนยางว่า มียางถ้วยที่กรีดเอาไว้จนเต็มถ้วย ถูกคนร้ายมาขโมยเก็บเอาไปเกือบครึ่งสวน คาดว่าจะมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 2,000 บาท เช่นเดียวกันกับสวนยางที่อยู่ข้างๆ ก็ถูกขโมยในลักษณะเดียวกันหายไปอีกจำนวนมาก โดยคนร้ายฉวยโอกาสในช่วงที่ไม่มีคนเฝ้าสวนยามบ่ายแก่ๆ เพราะคนเฝ้าสวนยางส่วนใหญ่จะเข้าไปเฝ้ากรีดยางในช่วงเย็นจนถึงช่วงเช้าของอีกวัน ประกอบกับสวนยางที่ถูกขโมยนั้นอยู่ค่อนข้างลึกห่างไกลจากแหล่งชุมชน จึงเป็นเป้าหมายที่คนร้ายจ้องเข้าไปขโมย ครั้งนี้ถือเป็นความเสียหายครั้งแรก แต่เท่าที่ได้รับข้อมูลมาทราบว่าก่อนหน้
เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ห้องประชุม กยท.นราธิวาส อ.เมืองนราธิวาส นายนอรดีน เจะแล สหกรณ์จังหวัดนราธิวาส จัดประชุมพูดคุยการทบทวนยุทธศาสตร์การสร้างความเข้มแข็งให้เครือข่ายสหกรณ์ยางพาราในจังหวัดนราธิวาส โดยมีผู้อำนวยการ กยท.นราธิวาสและคณะผู้แทนสหกรณ์กองทุนสวนยาง สหกรณ์การเกษตร กลุ่มน้ำยางสด และ ผู้แทนบริษัทศรีตรัง จำกัด รวม 30 คน ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นในการสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายฯ เพื่อการพึ่งตนเองและสร้างรายได้ที่มั่งคงแก่สมาชิกเกษตรกรชาวสวนยาง โดยร่วมกำหนดแนวทางที่จะดำเนินการในปี 2561 อาทิ 1.จับมือกับ บริษัทศรีตรัง จำกัด (นราธิวาส)ในการพัฒนาคุณภาพยางก้อนถ้วยของเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์และเครือข่ายป้อนเข้าโรงงานฯ โดยใช้กลุ่มเป้าหมาย ของ กยท. ในปีงบ 2561 จำนวน 750 ราย และให้ยกระดับเป็นงานบูรณาการของจังหวัด 2. กำหนดประชุมกรรมการเครือข่ายอย่างต่อเนืองเพื่อผลักดันเป้าหมายการตั้งโรงงานน้ำยางข้น 3.ยกระดับเวทีเครือข่ายฯ ให้เป็นทางเลือกของจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาราคายางพาราในพื้นที่ 4. จัดหาพื้นที่เป็นจุดที่ตั้งโรงงานน้ำยางข้นในอนาคต ฯลฯ ถือว่าเป็นแนวทางการพัฒนาที่เกิดจาก
รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมว่า สถานการณ์ราคายางพาราที่ตกต่ำต่อเนื่อง ทำให้ชาวสวนยางได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยราคาน้ำยางสด ปรับลดลงมาจากเดือนก่อน ซึ่งมีราคากิโลกรัมละ 50 บาทเศษ ปรับลดลงเหลือกิโลกรัมละ 38 -40 บาท เท่านั้น ในขณะที่ชาวสวนยางกลับไม่สามารถกรีดยางได้เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกต่อเนื่อง ยิ่งเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้เพิ่มมากขึ้น นายสมพงษ์ ราชสุวรรณ รองประธานกรรมการ การยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท.กล่าวว่าราคายางพาราที่ตกต่ำลงมา ทั้งที่ในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งชาวสวนยางจะกรีดยางได้ลดน้อยลง จากฝนตก หน้ายางเปียก ราคาจึงควรจะปรับสูงขึ้น เพราะมีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ราคาที่ตกต่ำในช่วงนี้จึงเป็นการสวนทิศทางการตลาดที่ควรจะเป็น ในช่วงบ่ายวันนี้แกนนำเครือข่ายชาวสวนยางในภาคใต้จึงได้มีกำหนดเชิญตัวแทน สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและเกษตรกรชาวสวนยางในจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ร่วมหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ตลาดกลางยางพาราสงขลา อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งจะมีตัวแทนเกษตรกรจากหลายจังวัดภาคใต้เข้าร่วม ที่มา : มติชนออนไลน์
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 เผยผลการประชุมข้อมูลคณะทำงานพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านพืช ภาคใต้ ครั้งที่ 2/2560 แจงเนื้อที่เพาะปลูก ผลผลิตใน 4 สินค้าสำคัญ ข้าวนาปี สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนบน เตรียมชงข้อมูลเสนอต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านพืชต่อไป นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลประชุมคณะทำงานพัฒนาคุณภาพข้อมูลด้านพืช ภาคใต้ ครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี (นายธรณิศร กลิ่นภักดี) เป็นประธานการประชุม และได้ร่วมกับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด ศูนย์วิจัยข้าว ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว สำนักงานพัฒนาการเกษตรที่ 8 การยางแห่งประเทศไทยจังหวัด ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันกระบี่ ร่วมกันพิจารณาข้อมูลข้าวนา ปี 2559/60 สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ปี 2559 ที่ประชุมให้การรับรองข้อมูลข้าวนาปี ปี 2559/60 สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน และยางพารา ปี 2559 (ข้อมูล ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2560) ใน 7 จังหวัดภาคใต้ต