ราคายางพารา
“โฆษกเกษตรเผย ก.เกษตรฯ เอาจริง ดันราคายางพาราดีขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุ 90 บาท สูงสุดในรอบ 85 เดือน เดินหน้าตามนโยบายรัฐบาลเศรษฐาฯ “ธรรมนัส “คุมเข้มผลักดันขายคาร์บอนเครดิตในสวนยางไทย เพิ่มรายได้ชาวสวนยาง กว่า 2.4 หมื่นล้านบาท” นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคายางพาราในปัจจุบันดีดตัวขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ราคายางที่ซื้อขายผ่านสำนักงานตลาดกลางยางพารา ของ กยท. พุ่งทะลุ 90 บาทไปแล้ว ซึ่งราคาซื้อขายยางแผ่นรมควัน อยู่ที่ 90.09 บาทต่อกิโลกรัม ถือเป็นราคาสูงที่สุดในรอบ 85 เดือน (7 ปี 1 เดือน) โดยปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะยังคงอยู่ในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นต่อไป ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำชับสั่งการให้ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย มุ่งดำเนินงานสนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา นอกเหนือจากการผลิตยางธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ไม้ยางพารา โดยสร้างแหล่งรายได้ให้กับเกษตรกร ผ่านกระบวนการซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิต เพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของเกษตรก
ยางทุบสถิติ 77 บาทต่อกิโลกรัม ประธาน กยท. หวั่นเหตุปมพื้นที่ ส.ป.ก. ทับซ้อนอุทยานฯ กระทบราคายางพาราร่วงวืด 100 บาทต่อกิโลกรัม เกรงอียูไม่เชื่อมั่น ชาวสวนยาง 6 ล้านไร่ เคว้ง เข้ามาตรการ EUDR ปลายปี 2567 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (บอร์ด กยท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากได้ลงพื้นที่ประชุมกับหลายฝ่าย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้สถานการณ์ราคายางพาราปรับขึ้นไปถึง 30 บาท จากราคากิโลกรัมละ 49 บาท เป็น 77 บาท ในช่วงเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงที่ผลผลิตยางออกสู่ตลาดมากที่สุด แต่ก็ทำให้มีผลให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบ มากถึง 30,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการบริหารจัดการระบบนิเวศยางพารา และในช่วงปลายปี 2567 จะมีการบังคับใช้มาตรฐาน Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ซึ่งทาง กยท. ได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบ โดยจะต้องสามารถรายงานถึงที่มาที่ไปของการซื้อยาง 100% ว่าซื้อจากใคร ซึ่งก็เหมือนบล็อกเชน ถ้ารู้ซื้อจากใครก็ง่ายขึ้น “เกษตรกร 100 ราย มาร้านรับซื้อร้านหนึ่ง ร้านนั้นก็จะมีข้อมูลของคน 100 รายงานว่าม
ราคายางพาราในประเทศพุ่งรับปีมังกร แค่ 5 วัน ยางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 ประมูลในตลาดกลางสงขลาขยับขึ้นมา 5 บาทกว่า/กก. หรือราคายางยืนอยู่เหนือ 63 บาท/กก. ดันราคาน้ำยางขึ้นมา 60 บาทเช่นกัน ชาวสวนหวั่นราคาขึ้นเร็ว ต้องจับจังหวะซื้อขายยางล่วงหน้าให้ดี ส่วน “เพิก เลิศวังพง” ยืนยันราคายางกำลังปรับฐาน ผลปราบยางเถื่อน ดันโครงการล้อยาง “Thai Tyre” ไปตลาดโลก ราคายางพาราในประเทศได้ขยับขึ้นมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จากราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่ กก.ละ 55.02 บาท (ตลาดกลางยางพารา จ.สงขลา) ในวันที่ 19 ธันวาคม 2566 มาถึงวันนี้ (16 มกราคม 2567) ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ได้ขยับขึ้นมาถึง กก.ละ 63.09 บาท หรือราคาปรับขึ้นมาถึง 8 บาท/กก.ในช่วงเวลาแค่เดือนเดียว สอดคล้องกับราคาน้ำยางสด ณ โรงงานก็ได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยขณะนี้ราคาน้ำยางอยู่ที่ กก.ละ 60 บาท (บ.ศรีตรัง กก.ละ 59 บาท-ไทยรับเบอร์ 58 บาท-เซาท์แลนด์ 56 บาท) ส่วนราคา FOB RSS3 (Bangkok) อยู่ที่ 68.59 เหรียญ หรือปรับขึ้นมาจากช่วงวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ 60.52 เหรียญ ย้อนหลังไป 5 วันที่ผ่านมาจะพบว่า ราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 ปรับตั
ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางแห่งชาติ (กนย.) โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมฯ มีมติเห็นชอบเดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 4 วงเงินรวมกว่า 7.6 พันล้านบาท พร้อมเร่งเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อ คาดเริ่มจ่ายเงินงวดแรกได้กุมภาพันธ์นี้ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า กนย. มีมติเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 4 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในกรณีที่รายได้ลดลงจากที่เกษตรกรควรจะได้รับ และช่วยลดผลกระทบในการดำเนินชีวิต โดยการประกันรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่กับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 จำนวนทั้งสิ้น 1,604,379 ราย (เจ้าของสวน ผู้เช่า ผู้ทำ 1,372,865 ราย และคนกรีดยาง 231,514 ราย) คิดเป็นพื้นที่ปลูกยาง รวม 18,183,764.59 ไร่ ซึ่งเป็นสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว กำหนดราคาประกันผลผลิตยางแต่ละชนิด ดังนี้ ยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กิโลกรัม น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กิโลกรัม และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กิโลกรัม แบ่งสัดส่วนรายได้ เจ้าของสวนร
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวถึงสถานการณ์ยางในช่วงนี้ว่า กยท. ได้เฝ้าระวังเรื่องนี้อยู่ตลอด โดยเรื่องบริษัทลูกของ กยท. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ผ่านการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะรัฐมนตรี เพื่ออนุมัติให้ดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่รอการจัดตั้งบริษัทลูก กยท.ได้ดูแลการซื้อ-ขายยางผ่านหน่วยธุรกิจ (BU) เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพราคายางมาอย่างต่อเนื่อง โดยซื้อ-ขายยางทั้งในตลาดล่วงหน้าและตลาดซื้อขายจริง อย่างไรก็ตาม เรื่องของราคายางพาราเป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากช่วงนี้ความต้องการใช้ลดลง จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว บวกกับภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทั่วโลก แม้ราคายางในช่วงนี้จะมีการปรับตัวบ้าง แต่ก็เพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น เชื่อว่ายางยังคงมีเสถียรภาพอยู่ โดยคาดว่าช่วงปลายปีแนวโน้มราคายางจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากโรงงานต่างๆ กลับมาซื้อยางเพื่อป้อนเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมการผลิต นอกจากนี้ กยท. ยังดำเนินโครงการชะลอการขายยางของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เป็นยางก้อนถ้วยแห้ง ทำให้ยางที่เข้าร่วมโครงการจะได้ส่ว
ผู้ว่า กยท. ชูมาตรการหาทางออก เร่งการผลิตยางตามความต้องการของตลาด รับมือความผันผวน หลังราคาน้ำยางร่วงแรง พัวพันหลายสถานการณ์โลกตึงเครียด ด้านนายกสมาคมน้ำยางข้นไทยไม่ตระหนก ชี้ราคาเตรียมกลับสู่สมดุล ขณะที่อุปนายกสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางฯ มองปัจจัยแฝง เกิดสินค้าทดแทนแย่งความต้องการใช้น้ำยาง วันที่ 30 มิถุนายน นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ราคาน้ำยางที่เกิดขึ้นว่า จากสภาวะราคาน้ำยางสดที่มีการแกว่งตัวค่อนข้างสูงในช่วงปลาย พฤษภาคม – ต้นมิถุนายน ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางเกิดความกังวลใจ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีฝนตกค่อนข้างชุก ทำให้ผลผลิตออกมาน้อย ขณะเดียวกันเป็นช่วงผู้ประกอบการหลายรายต้องมีการส่งมอบสินค้าตามสัญญา จึงทำให้ความต้องการใช้ยางในขณะนั้นค่อนข้างสูง ส่งผลให้ราคา น้ำยางขยับตามกลไกตลาด ในช่วงเวลานี้ถือว่าราคากลับมาปกติตามภาวะของตลาด แต่อย่างไรก็ตาม กยท. มีมาตรการเพื่อรับมือในเรื่องราคาที่ผันผวน ได้แก่ โครงการชะลอขายยางของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยให้เงินอุดหนุนกับสถาบันเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการรับซื้อย
แรงไม่หยุดจริงๆ สำหรับราคายางพาราที่วันนี้พุ่งกระฉูดใกล้แตะ 100 บาท ต่อกิโลกรัม เข้าไปแล้ว จากตัวเลขหลังปิดตลาดล่าสุด (ณ 28 ต.ค. 63) ราคายางแผ่นรมควันพุ่งแตะสูงสุด 82.80 บาท/กก. ที่ตลาดกลางยางพารา จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา ส่วนตลาดกลางฯ จ.สุราษฎร์ธานี ราคาอยู่ที่ 82.69 บาท/กก. โดยหลังจากเปิดตลาดสัปดาห์นี้เพียง 3 วัน ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 16 บาท คาดการณ์ว่าราคาสามารถพุ่งสูงต่อเนื่อง อาจแตะ 100 บาท/กก.ได้ในไม่ช้า ทั้งนี้ ราคายางจะยังคงอยู่ในแนวบวกอย่างต่อเนื่อง และทะลุแนวต้านสูงสุดในรอบ 3 ปี 5 เดือน ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยกลไกตลาดและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะการขับเคลื่อนโมเดล “เกษตรฯ-พาณิชย์ทันสมัย” และนโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ซึ่งเป็นความร่วมมือการทำงานระหว่าง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ดำเนินงานร่วมกันตั้งแต่ปีที่แล้วทั้งโครงการประกันรายได้ชาวสวนยางเฟส 1 และ 2 โดยเฟส 2 เริ่มเมื่อ วันที่ 1 ตุลาคม ผ่านมา โดยกำหนดราคายางแผ่น 60 บาท/กก. น้ำยา
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เผยสถานการณ์ราคายางขยับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ (1 กันยายน 2563) ราคายางพุ่งทะลุ 60 บาท ต่อกิโลกรัม โดยยางแผ่นรมควันชั้น 3 ณ ตลาดกลางยางพาราทั้ง 3 แห่ง ของ กยท. คือ ตลาดกลางยางพาราจังหวัดสงขลา ตลาดกลางยางพาราจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตลาดกลางยางพาราจังหวัดนครศรีธรรมราช ราคาปิดตลาดอยู่ที่ 60.05 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 1.80 บาท นับเป็นราคายางที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปี ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณรัฐบาล นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน แทนพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ให้ความสำคัญและผลักดันราคายางพารามาตลอด กระทั่งในวันนี้ราคายางสูงขึ้นกว่า 60 บาท/กิโลกรัม ช่วยแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งใจไว้
นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง กยท. ได้หารือกับกลุ่มบริษัทอาลีบาบา ผู้ประกอบการตลาดสินค้าออนไลน์รายใหญ่ของจีน เกี่ยวกับการจัดทำแพลตฟอร์มซื้อขายยางทางอิเล็กทรอนิกส์ มาแล้ว 2 ครั้ง โดยทางอาลีบาบา รับหน้าที่ออกแบบแพลตฟอร์มการซื้อขายยางในระบบออนไลน์ให้กับไทยเพื่อไว้ใช้ซื้อขายร่วมกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าไม่เกิน 1-2 เดือน แพลตฟอร์มขายยางร่วมกันน่าจะมีความชัดเจน ทั้งนี้ ในเบื้องต้น กยท. กำหนดประเภทยางที่จะส่งขายไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์กับอาลีบาบา ทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ 1.น้ำยางข้น 2.ยางแท่ง (STR20) และยางแผ่นรมควันชั้น 3 (Rs3) โดยยางเหล่านี้จะมาจากสถาบันเกษตร หรือ สหกรณ์ที่สามารถผลิตยางและแปรรูปยางพาราได้ นอกจากนี้ การซื้อขายยางออนไลน์ จะส่งผลทำให้ราคายางในประเทศปรับตัวสูงขึ้น เพราะราคายางจะถูกกำหนดโดยผู้ขายโดยตรง “ปัจจุบัน ราคายางพาราอยู่ในเกณฑ์ดี และเชื่อมั่นว่าราคายางพาราจะเพิ่มขึ้นถึงไตรมาสที่ 2 (เดือน มี.ค.-พ.ค.) เป็นอย่างน้อย เพราะต้นยางจะอยู่ในช่วงผลัดใบ โดยปัจจุบันราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 (FOB) เฉลี่ยอยู่ที่ 50 บาท ต่อกิโลกรัม (กก.)
นายเรืองยศ เพ็งสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจผู้แปรรูปยางพารารมควันภาคใต้ ซึ่งมีเครือข่ายประมาณ 200 โรง เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคายางพาราได้ขยับขึ้นมา วันละ 1 บาท/กิโลกรัม (กก.) ซึ่งในกลุ่มมีการรับซื้อน้ำยางสดอยู่ที่ 36 บาท/กก. ซึ่งเดิมเคยประมาณการไว้ว่าราคาจะไหลลงมาอยู่ที่ 25 บาท/กก. ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ดันราคาขึ้นมาจากการที่รัฐบาลมีโครงการใช้ยางพาราภายในประเทศเพิ่มขึ้น เช่น โครงการนำน้ำยางสดมาทำถนนถนนยางพาราซอยล์ซีเมนต์ หรือถนนดินซีเมนต์ผสมยางพารา 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร กว่า 84,000 หมู่บ้าน ทั่วประเทศ ประกอบกับภาคใต้มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถกรีดยางพาราได้ และอีก 3 เดือนข้างหน้าจะถึงฤดูกาลปิดหน้ายาง ซึ่งจะทำให้ยางพาราหดหายไปจากตลาดเป็นจำนวนมาก “ทิศทางในปีถัดๆ ไป จึงมีแนวโน้มราคายางพาราจะขยับขึ้น จากนโยบายการเพิ่มใช้ยางพาราภายในประเทศ หากราคาได้ขยับขึ้นไปเท่ากับต้นทุนการผลิตที่ 63 บาท/กก. ตามที่ทางการกำหนด จะเป็นการดีมากต่อเศรษฐกิจไทย” นายเรืองยศ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางกลุ่มชาวสวนยางพารากำลังดำเนินการ กรณีที่รัฐบาลให้การสนับสนุนช่วยเหลือ 1,800 บาท/ไร่ ปรากฏว่ากรณีสวนยางพาราที่โดนเป็น