หมู
การเลี้ยงหมู มักประสบปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์ เศษอาหารและน้ำที่ใช้ชำระล้างสิ่งขับถ่ายปฏิกูลต่างๆ ภายในคอก สร้างมลพิษทางกลิ่นภายในฟาร์มและชุมชนใกล้เคียง จึงมีการคิดค้นและปรับปรุงคอกสำหรับการเลี้ยงหมูเพื่อกำจัดกลิ่นดังกล่าวโดยการขุดหลุมและใส่วัสดุเพื่อซับและกำจัดกลิ่นเหม็น เรียกว่า การเลี้ยงหมูหลุมที่เวียงกาหลง คุณอ้าย เดชวงศ์ยา เกษตรกรแห่งเวียงกาหลง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 7 ตำบลเวียงกาหลง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ได้รับการยกย่องว่า เป็นปราชญ์ชาวบ้าน และเป็นเกษตรกรดีเด่นด้านเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2549 ของสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย เปิดบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องเกษตรผสมผสาน ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริแบบเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย เดิมทีครอบครัวคุณอ้าย ทำนาปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว ได้ผลผลิตน้อย ขาดทุนอยู่เรื่อย ต่อมาปรับพื้นที่เข้าร่วมโครงการไร่นาสวนผสม ตามคำชักชวนของ สำนักงานเกษตรอำเภอเวียงป่าเป้า โดยผลิตพืชหลายชนิด มีทั้งข้าว พืชไร่ พืชผัก สมุนไพร ไม้ใช้สอย ไม้เศรษฐกิจ และไม้ผล เช่น ลำไย มะม่วง ฝรั่ง พุทรา ชมพู่ กระท้อน มะละกอ ฯลฯ ควบคู่กับการเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่พื้นเมือ
น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากโครงการรรักษาเสถียรภาพราคาสุกร โดยการตัดวงจรลูกสุกรทำหมูหัน ร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เพื่อขอใช้งบประมาณจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) กรมการค้าภายใน รวมไปถึงนโยบายเดินหน้าปราบปรามการลักลอบนำเข้าสุกรเถื่อนอย่างจริงจัง ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งผลให้แนวโน้มราคาสุกรในระบบเริ่มปรับตัวสูงขึ้นได้ และเชื่อว่าไม่เกินกลางปี 2567 ราคาสุกรจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ ราคาสุกร ณ เดือนมีนาคม 2567 ราคา 64.06 บาทต่อกิโลกรัม ลดลง 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ราคา 87.75 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ขณะที่ความต้องการบริโภคยังคงชะลอตัว “ราคาสุกรมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่เรื่องนี้ต้องใช้เวลา เพราะเมื่อเทียบการแก้ปัญหาราคาไข่ไก่ กรมปศุกสัตว์ใช้เวลาประมาณ 3 ปี ราคาจึงกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ดังนั้น ราคาสุกรก็เช่นกันหากต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปี กลางปี 2567 สถานการณ์ราคาก็จะกลับสู่สภาวะปกติ ราคาจะดีขึ้น หรือสูงขึ้น” น.สพ.สมชวน กล่าวว่า ราคาไก่เนื้อ ณ เดือนมีนาคม 2567 ร
ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการกรมปศุสัตว์ เข้มงวด ทลายกวาดล้างขบวนการนำเข้าเนื้อหมูผิดกฎหมาย ไม่ได้มาตรฐาน กำชับกรมปศุสัตว์ ลุยพื้นที่ตรวจสอบต่อเนื่อง พร้อมผนึกกำลังหน่วยงานเกี่ยวข้อง ป้องกันการลักลอบนำเข้าผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด หากพบผู้กระทำความผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายในทันที ไม่ละเว้นให้กับผู้ใดทั้งสิ้น พร้อมแนะผู้บริโภคซื้อสินค้าปศุสัตว์ปลอดภัยตราสัญลักษณ์ ‘ปศุสัตว์ OK’ และเร่งขับเคลื่อน ‘Pig Sandbox’ ส่งเสริมและยกระดับการผลิตสุกรในประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า จากที่ได้มีกระแสข่าวการลักลอบนำสินค้าเนื้อและชิ้นส่วนสุกรเข้าประเทศ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลและความเสี่ยงต่อการนำเชื้อไวรัส หรือพาหะต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรคระบาดร้ายแรง โดยเฉพาะโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever : ASF) ในสุกรเข้าสู่ประเทศ เสี่ยงทั้งโรคระบาดและสารเร่งเนื้อแดง ซึ่งสร้างผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ตลอดจนผู้บริโภค กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินงานอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนติดต่อกับเมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย มีเจ
ปัจจุบันมีผู้คนมากมายที่เบื่อกับสถานการณ์รถติดในเมืองหลวงไม่น้อย จนทำให้สภาพจิตใจตึงเครียดด้วยระยะเวลาที่ต้องเร่งรีบ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วความสุขที่มีอาจจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่หมดใจที่จะประกอบอาชีพอยู่ในเมืองหลวง หันหลังและเดินหน้ากลับสู่บ้านเกิดเพื่อประกอบอาชีพในถิ่นฐานเดิม และสืบทอดกิจการของครอบครัวที่ทำมาอยู่เดิม จนขยับขยายเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โตมากขึ้นก็มี คุณสมหวัง สุทนต์ อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 2 ตำบลอบทม อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่หันหลังให้กับเมืองกรุง กลับมาทำอาชีพเลี้ยงหมูที่เดิมทีเป็นอาชีพเสริมของครอบครัว โดยที่เขามาเริ่มทำอย่างจริงจังจนเป็นงานที่สร้างเงินได้เป็นอย่างดี จากลูกจ้างในเมืองกรุง สู่ชีวิตเกษตรกรที่บ้านเกิด คุณสมหวัง เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอยู่ในกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อทำไปได้สักระยะรู้สึกไม่ค่อยชอบงานทางด้านนี้ ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆ อย่าง จึงทำให้ตัดสินใจที่จะออกมาประกอบอาชีพอยู่ที่บ้านเกิดคือ จังหวัดอ่างทอง “ช่วงนั้นที่ไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ บอกตามตรงว่าก็เหนื่อยพอสมควร และมิหนำซ้ำยังโดนโกงค่าแรงด้ว
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การผลิตสุกรในประเทศไทยร่วมกับภาครัฐพบว่า การผลิตสุกรมีปริมาณผลผลิตเพียงพอต่อการบริโภคตลอดปี 2565 แน่นอน โดยต้นทุนการเลี้ยงอาจยังอยู่ในเกณฑ์สูงจากปัจจัยหลายด้านที่เข้ามากระทบ แต่ขณะนี้ทุกสมาคมสุกรยังคงให้ความร่วมมือกันรักษาระดับราคาหน้าฟาร์มที่ 100 บาท/กิโลกรัม ตามประกาศราคา ณ วันพระล่าสุด “ภาพรวมทั้งประเทศในขณะนี้ การผลิตและการบริโภคหมูมีความสมดุล แม้ภาคเหนืออาจมีผลผลิตไม่เพียงพอบ้าง แต่ภาคใต้ก็มีหมูที่เกินความต้องการอยู่ ดังนั้น ขอผู้บริโภคมั่นใจว่าผลผลิตหมูของไทยไม่ขาดแคลน และมีเพียงพอต่อการบริโภคไปตลอดทั้งปี” นายสิทธิพันธ์ กล่าว ขณะที่ข้อมูลของกรมปศุสัตว์ ซึ่งทำการสำรวจจำนวนสุกรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมกราคม–พฤษภาคม 2565 พบว่าจำนวนสุกรแม่พันธุ์มีอยู่ประมาณ 1 ล้านตัวในระบบ ขณะที่ปริมาณความต้องการบริโภคในประเทศอยู่ที่เดือนละ 1.5 ล้านตัว และจากผลการสำรวจสุกรขุนในแต่ละเดือนมีประมาณ 9 ล้านตัว ตามรอบการผลิตสุกรขุนประมาณ 6 เดือน นั่นแสดงว่าปริมาณสุกรขุนมีเพียงพอต่อความต้องการในประ
นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีขบวนการลักลอบนำเข้าหมูจากประเทศเพื่อนบ้านในหลายจังหวัด โดยเฉพาะแถบภาคอีสาน เพื่อนำมาขายปะปนกับหมูไทย จากกลุ่มไอ้โม่งที่ทำมาหาทำกินบนความทุกข์ของคนเลี้ยงหมูและคนไทย ทำให้ประชาชนต้องเสี่ยงกับการได้รับสารเร่งเนื้อแดงและสารปนเปื้อนอื่นๆ ในเนื้อหมูลักลอบที่ไม่รู้แหล่งที่มา ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบโรคตามข้อกำหนดและผิดกฎหมายไทย ขณะเดียวกัน ยังเสี่ยงกับโรคหมูที่จะติดมากับผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะสร้างความเสียหายและซ้ำเติมวิกฤติในอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูไทยอย่างมาก ที่สำคัญรัฐต้องสูญเสียรายได้จากสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีตามระบบ หมูผิดกฎหมายนี้จึงสร้างกระทบกับเศรษฐกิจของไทยอย่างที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ เพราะทำให้คนไทยตายผ่อนส่ง คนเลี้ยงหมูตายสนิท และเศรษฐกิจไทยย่ำแย่ เกษตรกรขอเรียกร้องให้ภาครัฐเข้มงวดกวดขันและเร่งกวาดล้างขบวนการนี้โดยเร็วที่สุด รวมถึงคนเลี้ยงหมู ผู้บริโภค และประชาชน ที่ทราบเบาะแสช่วยกันชี้เป้าแก่เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อเร่งจับกุมเอาผิดต่อไป “วันนี้การบริหารจัดการด้านการป้องกันโรค ASF ในหมู กำลังดำเนินก
นายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตสุกรในขณะนี้ว่า จากผลกระทบของความกังวลต่อภาวะโรค ASF ในสุกร ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรที่เคยมีมากถึง 2 แสนรายทั่วประเทศ ลดลงไปมากกว่าครึ่ง เหลือเพียง 1 แสนรายเท่านั้น ส่งผลต่อประชากรสุกรทั้งแม่พันธุ์ ลูกสุกร และสุกรขุน หายไปมากกว่า 50% ขณะเดียวกัน สภาพอากาศแปรปรวนร้อนจัดสลับฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้สุกรปรับตัวไม่ได้ เกิดความเสียหายในทุกช่วงอายุ กลายเป็นวิกฤติซ้ำเติม ส่งผลให้ปริมาณสุกรออกสู่ตลาดลดลงยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งยังมีปัจจัยเสริมที่ทำให้ต้นทุนการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างหนัก จากการขาดแคลนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เป็นวัตถุดิบหลักในอาหารสำหรับสัตว์ รวมทั้งราคา กากถั่วเหลืองนำเข้า รำ ข้าว ฯลฯ ที่ปรับขึ้น รวมแล้วทำให้ต้นทุนสูงส่วนนี้ขึ้นไปประมาณ 30-40% และการที่รัฐบาลลอยตัวราคาน้ำมันดีเซล กลายเป็นภาระต้นทุนทั้งในภาคการเลี้ยงสัตว์และภาคขนส่ง “เกษตรกรขอความเข้าใจจากผู้บริโภค การที่ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องปรับราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม เป็นไปตามกลไกตลาดที่เกิดขึ้นจริงในขณะนี้ ที่ปริมาณหมูมีชีวิตออกสู่ตลาดลดลงไปมาก ประมาณ 10-20% จากช่ว
นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีขบวนการปั่นราคาหมู และให้ข้อมูลข่าวสารด้านเดียวว่าราคาเนื้อหมูหน้าเขียงมีราคาสูงถึง 250 บาท ต่อกิโลกรัม เพื่อหวังให้เกิดกระแสสังคมและใช้หลักจิตวิทยา มากดดันให้เกษตรกรผู้เลี้ยงขายหมูมีชีวิตในราคาต่ำกว่าราคาประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รวมทั้งอาจมีวัตถุประสงค์แอบแฝงอื่น อาทิ การหากำไรกับส่วนต่าง หรือเพื่อชี้เป้าให้พาณิชย์จังหวัดออกมาดูแลราคาหมูหน้าฟาร์ม ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นราคาจำหน่ายไม่ได้สูงดังที่กล่าว “ในขณะที่เกษตรกรยังต้องรับภาระขาดทุน และอยู่ในช่วงที่ยากลำบากที่สุดในอาชีพ กลับมีขบวนการปั่นราคารอล่วงหน้า ขบวนการนี้ได้ให้ข้อมูลและปั่นกระแสไว้ก่อนหน้าแล้ว ว่าราคาหมูหน้าเขียงขึ้นไป 250 บาท ทั้งๆ ที่ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มเพิ่งจะพ้นต้นทุนมาไม่กี่วัน และภาคผู้เลี้ยงทั่วประเทศยังคงให้ความร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการดูแลค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการร่วมกันจัดจำหน่ายหมูเนื้อแดงในห้างโมเดิร์นเทรด จัดรายการอยู่ที่ราคา 150-160 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภค ส่ว
นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรร่วมกันลดราคาสุกรมีชีวิตลงทั่วประเทศ โดยประกาศราคาแนะนำสุกรขุนมีชีวิตหน้าฟาร์ม วันพระที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ปรับราคาดังนี้ ภาคตะวันตก 94 บาทต่อกิโลกรัม ภาคตะวันออก 94 บาทต่อกิโลกรัม ภาคอีสาน 94-96 บาทต่อกิโลกรัม ภาคเหนือ 96 บาทต่อกิโลกรัม และภาคใต้ 97 บาทต่อกิโลกรัม หวังช่วยผลักดันเนื้อสุกรจำหน่ายปลีกราคาลดลง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดค่าครองชีพแก่ผู้บริโภค โดยขณะนี้ห้างค้าปลีกได้ร่วมจำหน่ายเนื้อหมูราคาประหยัด อาทิ ห้างแม็คโคร จำหน่ายหมูเนื้อแดง “ราคาพิเศษ สะโพกหมู กิโลกรัมละ 150 บาท” “เกษตรกรทุกคนเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนด้านค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน จึงจับมือกันลดราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันราคาเฉลี่ยลงมาอยู่ที่ 94-97 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อให้ราคาหมูขายปลีกหน้าเขียงปรับตัวลงมาในระดับที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดที่แท้จริง ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อหาเนื้อหมูมาบริโภคได้อย่างทั่วถึง เป็นการกระตุ้นการบริโภคเนื้อสุกร และประคับประคองทุ
การรับมือสถานการณ์ ASF ในเรื่องของการป้องกันโรค นับเป็นประเด็นสำคัญที่เกษตรกรควรเรียนรู้และเตรียมความพร้อม เมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้จัดงานสัมมนาสัญจรขึ้น ณ จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดสุรินทร์ ภายใต้หัวข้อ “หลังเว้นวรรค…จะกลับมาอย่างไรให้ปลอดภัย?” เพื่อปูพื้นฐานที่เข้มแข็งให้กับเกษตรกรรายย่อยพร้อมกลับเข้ามาในระบบและทำการเลี้ยงหมูอีกครั้ง เป็นส่วนหนึ่งของการคลี่คลายสถานการณ์หมูหายไปจากระบบเป็นจำนวนมาก ด้วยสาเหตุของโรคระบาดที่เกิดขึ้น นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระบุว่างานดังกล่าวได้รับความร่วมมือด้วยดีจากบริษัทผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งมีประสบการณ์ในการถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรคอนแทร็กต์ฟาร์มมิ่งของบริษัทปลอดภัยจากโรคระบาดได้สำเร็จ และยังคงเลี้ยงหมูป้อนตลาดได้จนถึงปัจจุบัน ส่งผู้แทนนักวิชาการของบริษัทร่วมถ่ายทอดเทคนิคความรู้ดังกล่าว ร่วมกับ ผศ.น.สพ.คัมภีร์ กอธีระกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านสุกรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน ทั้งนี้ มาตรการป้องกันโรคดังกล่าว ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การพิจารณาข้อมูลระดับจังหวัด โดยทำการโซนนิ