เทคโนโลยีชาวบ้าน
ในเมื่อโลกเราทุกวันนี้ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่เป็นปัญหากับคน คนผู้ที่คิดว่าตนเองเป็นเจ้าของโลกนี้ สารพัดสิ่งที่เป็นภัยคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ โรคภัยมันมาจากไหน จากดิน จากหินผา จากน้ำ จากอากาศ หรือจากสิ่งมีชีวิตที่อาศัยร่วมโลกเดียวกันนี้ คน สัตว์ พืช จุลชีพจุลินทรีย์ทั้งหลาย การดำรงชีวิตของมนุษย์ สัตว์ พืช มีความจำเป็นต้องมี อาหาร น้ำ ที่อยู่ เครื่องห่อหุ้มคลุมปิด และยารักษาโรค ซึ่งก็มีอยู่บนโลกใบนี้เช่นกัน พึ่งพาอาศัย ใช้งานกันไปมา “คนกินสัตว์ สัตว์กินพืช พืชกินดิน ดินกลืนกินพืช กินสัตว์ และกินคน” เวียนวนกันอยู่เช่นนี้ ถ้าจะแจงนับเอาสิ่งมีชีวิต ที่เป็นเพื่อนคู่มิตรชิดใกล้กับคนเราแล้ว “พืช” เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้ชิดมาก ได้พึ่งพาอาศัย และทำลายล้างกันมาตลอด พบพืชชนิดหนึ่งที่ใกล้ชิดคนเรามานาน ใบคล้ายใบมะเขือขื่น มีหนามเหมือนมะเขือพวง มีลูกออกมาเป็นช่อ ช่อพวงละหลายลูก มีขนปกคลุมทั่วผล ตอนผลสุกแก่จะดูสวยงาม สวยกว่าผลของพืชอื่น แต่ถ้าจะดูให้น่ากลัว ก็น่าหวาดกลัวอยู่ มันมีขนปุกปุยรอบผล เหมือนขนของตัวบุ้งร่าน ที่พร้อมจะใช้เป็นอาวุธทำร้าย หรือป้องกันคนที่จะเข้าไปเด็ดดอม และกันสัตว์ที่จะเข้าไปกัดก
สาหร่ายพวงองุ่นผักมหัศจรรย์ที่มีพลังช่วยฟื้นฟูร่างกาย กินง่าย ให้สัมผัสกรุบกรอบ เคี้ยวเล่นสนุกทุกคำมีวิตามินกระจายจัดเต็ม “สาหร่ายพวงองุ่น” มีถิ่นกำเนิดจากชายฝั่งทะเลในแถบอินโด-แปซิฟิก เป็นหนึ่งในสาหร่ายที่ทานได้ และได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เพราะหนึ่งเลยสาหร่ายพวงองุ่นเขามีคุณค่าทางอาหารสูง! ซึ่งสาหร่ายพวงองุ่นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติส่วนใหญ่มักจะพบตามบริเวณโขดหิน และพื้นทรายใต้ทะเล แน่นอนว่าในปัจจุบันหลังจากสาหร่ายพวงองุ่นกลายเป็นที่นิยม บวกกับมีผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น กลายเป็นพืชเศรษฐกิจมีการเพาะเลี้ยงและมีการวิจัยต่างๆ เพื่อขายในประเทศไทยและส่งออกไปยังต่างประเทศ สำหรับวงการเพาะเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ สาหร่ายพวงองุ่นถูกเพาะขายครั้งแรกในประเทศฟิลิปปินส์ ตามมาด้วยประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ถูกจัดอันดับเป็นต้นๆ ที่มีผู้บริโภคนิยมทานสาหร่ายพวงองุ่น เห็นชัดได้จากปัจจุบันการเพาะเลี้ยงเริ่มกระจายไปยังประเทศอื่นๆ อีกเช่น ประเทศญี่ปุ่น ประเทศเวียดนาม ประเทศไต้หวัน ประเทศจีน และประเทศไทย ที่มีการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์ ซึ่งนิยมบริโภคกันมากในภาคใต้และภาคตะวันออก คนในพื้นที่บาง
นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แนะนำบริโภคกุ้ง เนื้อสัตว์โปรตีนสูง มีกรดไขมันดีโอเมก้า-3 และกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วนในปริมาณสูง ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหลอดเลือดหัวใจ ผศ.ดร.จุฑา มุกดาสนิท หัวหน้าภาควิชาผลิตภัณฑ์ประมง คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “กุ้ง” เป็นอาหารยอดนิยมของคนทั้งโลก เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพ เมื่อเทียบกับเนื้อปลา กุ้งมีกรดอะมิโน 4 ตัวหลักที่ทำให้เกิดรสชาติหวานและอร่อย เช่น ไลซีน อะลานีน และกลูตามิก ในปริมาณที่มากกว่าจึงทำให้กุ้งมีรสชาติเข้มและอร่อยกว่า ด้วยทั้งกลิ่นรสที่ดึงดูดน่ารับประทาน และมีเนื้อสัมผัสแตกต่างจากเนื้อปลาและสัตว์บกชนิดอื่นๆ จึงเป็นที่นิยมใช้เป็นอาหารในช่วงเทศกาล ปาร์ตี้ หรือ ต้อนรับแขกคนสำคัญ กุ้งยังเป็นแหล่งของแร่ธาตุสำคัญ เช่น 1. เหล็ก (Iron) ซึ่งเป็นองค์ประกอบของฮีโมโกลบิน ที่พาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ 2. สังกะสี (Zinc) ซึ่งช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค รวมถึงทำให้การทำงานของระบบประสาทและสมองอยู่ในสภาพปกติ 3. ทองแดง (Copper) เป็นแร่ธาตุไมโครนิวเทรียนท์ที่ร่างก
เด็กไทย สุดเจ๋ง!! คว้ารางวัลได้รับเลือกเป็น Best Finalist การประกวดวาดภาพระบายสี ระดับโลก สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและความภาคภูมิใจให้กับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด ที่สนับสนุนความสามารถเยาวชนไทยในระดับสากล ด.ช.กันตพัฒน์ พันธ์ป้อม อายุ 10 ปีนักเรียนชั้นประถมศึกษาโรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์จังหวัดปทุมธานี “สุดเจ๋ง”คว้ารางวัลชนะเลิศ ประกวดวาดภาพระบายสี ระดับโลก ได้รับเลือกเป็น Best Finalist จากผลงาน “รถดอกหญ้าพลังงานลม DANDELION” ในการประกวด ระบายสีระดับโลก ที่มีผู้เข้าร่วมส่งผลงานประกวดจาก 90 ประเทศทั่วโลกถึง 782,852 ผลงาน ได้รับเงินรางวัลทุนการศึกษา 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง ด.ช.กันตพัฒน์ เป็นหนึ่งในผลงานที่ชนะการประกวดระบายสี ในโครงการที่บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทยจำกัดได้จัดประกวดในระดับประเทศและด.ช.กันตพัฒน์ คว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ในรุ่น 8 ถึง 10 ปี โครงการ “Toyota Dream Car Art Contest” ครั้งที่ 16 ประจำปี 2566 พร้อมเป็นตัวแทนเยาวชนจากประเทศไทยส่งผลงานร่วมแข่งขันจนได้รางวัลชัยชนะ ที่มีผู้เข้าร่วมส่งผลงานประกวดจาก 90 ประเทศทั่วโลกถึง 782,852 ผลงาน ซึ่งรางวัลที่ได้ร
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตามที่กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการเว็บไซต์ “ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com” มาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อเป็นช่องทางช่วยให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกของเว็บไซต์สามารถจำหน่ายสินค้าผลผลิตทางด้านการเกษตรทั้งรูปแบบผลผลิตสดและแปรรูปโดยตรงให้กับประชาชนผู้สนใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานปัจจุบัน มีเกษตรกรสมัครเป็นสมาชิก จำนวน 1,796 ราย สินค้าที่จำหน่าย จำนวน 2,547 รายการ มีมูลค่าการจำหน่ายสะสมรวม เป็นเงิน 805,229,119 บาท ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของกรมส่งเสริมการเกษตรในการส่งเสริมด้านการตลาดให้กับเกษตรกร และในโอกาสพิเศษเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนของวันแม่ กรมส่งเสริมการเกษตรขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเกษตรกรไทย ปรับเปลี่ยนการซื้อสินค้าอื่นเป็นสั่งสินค้าเกษตรเป็นของขวัญให้แม่ เช่น พืชผัก ปลอดภัย ผลไม้เมืองร้อน กล้วยไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ และสินค้าเกษตรแปรรูปต่างๆ ส่งตรงจากมือเกษตรกรถึงคุณแม่ที่บ้าน ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรยังได้อำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรสมาชิกของเว็บไซต์ด้วย โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัทไปรษณีย์ไ
คุณสิทธิชัย บังเมฆ แห่งน่านหนานราชฟาร์ม ศูนย์บ่มเพาะเกษตรกรรุ่นใหม่จังหวัดน่าน ตั้งอยู่ที่ 26 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านพี้ อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน ประธานเกษตรกรรุ่นใหม่จังหวัดน่าน มีความคิดว่าเนื่องจากพื้นที่จังหวัดน่านมีไผ่ซางหม่นและไผ่ป่าเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งต้นทุนที่มีในพื้นที่ เขาจึงคิดที่จะเพิ่มมูลค่าของไผ่ในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การขยายพันธุ์ไผ่ การทำเฟอร์นิเจอร์ การทำชาจากใบไผ่ การทำถ่านไบโอชาร์ เป็นต้น และยังเพิ่มพื้นที่ป่าในพื้นที่แทนการปลูกข้าวโพด ซึ่งเป็นปัญหาหลักในพื้นที่จังหวัดน่าน ปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ปัญหาไฟป่า จึงรวมกลุ่มในอำเภอบ้านหลวงในการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไผ่ขึ้นมา ไผ่ซางหม่น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dendrocalamus sericeus ลักษณะทั่วไป ไผ่ซางหม่นจัดเป็นไผ่ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เส้นรอบวงประมาณ 30-50 เซนติเมตร สีของลำสีเขียว ไม่มีหนามและไม่ค่อยมีแขนง มีคราบของแป้งสีขาวหรือวงขาวต่างๆ หรือสีขาวหม่น ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ไผ่ซางหม่น” ตามลักษณะที่เกิดขึ้น ลำใหญ่ตรงสูงประมาณ 15-20 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำ เฉลี่ย 6-10 เซนติเมตร ปล้องยาว 30-40 เซนติเมตร เนื้อหนา ใบคล้าย
กรมส่งเสริมการเกษตร นำคณะสื่อมวลชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ล่องใต้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดูงานไม้ผล ชมกระบวนการแปรรูปสินค้าเกษตรเพิ่มมูลค่า ศึกษาบทบาทศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน และร่วมสัมผัสกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตร คุณรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 กรกฎาคม 2566 โดยนำคณะสื่อมวลชนจากทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ศึกษาดูงานในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งงานส่งเสริมไม้ผลภาคใต้ พร้อมงานภารกิจสนับสนุนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมไม้ผลอัตลักษณ์สู่สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) การบริหารจัดการเกษตรแบบแปลงใหญ่ การผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตรต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า การนำเทคโนโลยีไปใช้ในกระบวนการผลิต ตลอดจนบทบาทหน้าที่ของศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) ในการอารักขาพืชและกำจัดศัตรูพืชให้เกษตรกร และเยี่ยมชมท่องเที่ยวเชิงเกษตร ขณะนี้ได้มีการบริหารจัดการไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด ปี 2566 ภายใต้แผนการบริหารจัดการ เมื่อเดือนมิถุนายน 2565 สรุปได้ดังนี้ ทุเรียน ผลผลิตรวม 667,338 ตัน เป็นผลผลิตในฤดูกาล 582,925 ตัน คิ
หลายคนอาจจะคุ้นกับคำว่า “ยักษ์วัดแจ้ง แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์” เรื่องเล่าที่มาจากเรื่องจริง จนกลายเป็นวลีติดปากของคนในสมัยก่อน แต่ที่น่าสนใจคือคำว่า “แร้ง” หรือ “นกอีแร้ง” สัวต์ที่กินซากศพ และหน้าตาที่แสนน่ากลัว ต้องเล่าย้อนกลับไปยังอดีตในสมัยที่ประเทศไทยยังไม่ได้มีเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมมากมายดั่งวันนี้ แต่ก่อนวัดในกรุงเทพ หรือวัดในเมืองไม่ได้มีเมรุที่ใช้สำหรับเผาศพ ทำให้ในสมัยก่อนคนที่ตายกันในเมือง ญาติต้องเอาศพออกไปเผานอกเมือง ซึ่งส่วนมากก็จะนำมาเผาที่วัดสระเกศ จนวัดสระเกศ กลายเป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่อง “แร้งชุม” และนี่ก็คือที่มาของวลีดัง “ยักษ์วัดแจ้ง แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์” เพราะในอดีตการจะเผาศพจำเป็นต้องมีการแยกชิ้นส่วนเพื่อให้เผาได้เร็ว ชิ้นเนื้อจะถูกตัดแบ่งออกมา และบางส่วนจะนำไปโยนทิ้ง และเมื่อชิ้นเนื้อที่โยนทิ้งไปจะถูกกำจัดโดยพวกแร้งที่อาศัยอยู่ระแวกนั้น พวกมันจะลงมาจิกกิน เห็นแบบนี้เจ้าแร้งมีประโยชน์กับมนุษย์มากกว่าที่ทุกคนคิด พวกแร้งช่วยกินซากศพทำลดปริมาณของเน่าเสียในธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยลดอัตราการแพร่ร
กรมส่งเสริมการเกษตรยกสวนลุงสงค์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้นแบบการแปรรูปมะพร้าวอินทรีย์เป็นผลิตภัณฑ์เด่น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สำหรับคนรักสุขภาพ พร้อมเปิดสวนเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สามารถดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าพื้นที่ได้จำนวนมาก นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า “สวนลุงสงค์” ของนายสมประสงค์ ศรีเทพ เจ้าของสวนมะพร้าวอินทรีย์ ตำบลบางใบไม้ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เป็นสวนต้นแบบในการนำผลผลิตมะพร้าวจากชุมชนมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ปัจจุบันมีนายศุภชาติ ศรีเทพ บุตรชายของลุงสงค์ Smart Farmer และเกษตรกรดีเด่น สาขาอาชีพทำสวนระดับจังหวัด เป็นผู้บริหารสวน โดยนำมะพร้าวอินทรีย์ มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ซึ่งมีทั้งแบบเป็นน้ำมัน และแคปซูล เป็นไขมันดี หรือ HDL หากบริโภคเป็นประจำจะทำให้ร่างกายแข็งแรง มีไขมันดีเพิ่มขึ้น โดยตั้งราคาขายอยู่ที่ขวดละ 100-600 บาท ส่วนน้ำมันปรุงอาหาร ขายขวดละ 130-250 บาท นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดเป็นผลิ
“ทุเรียนถ่านหินพันธุ์หมอนทอง ที่เป็นทุเรียนที่มีรสชาติหวาน มัน กรอบ อร่อย และกลิ่นไม่ฉุนมากเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากบริเวณพื้นที่ปลูกมีถ่านหินจำนวนมาก ทำให้ทุเรียนได้รับธาตุซัลเฟอร์หรือกำมะถันที่ปะปนอยู่ในถ่านหิน ประกอบกับได้รับไนโตรเจนสูง จึงส่งผลต่อรสชาติของทุเรียนเป็นลักษณะเฉพาะ” หากพูดถึงพืชทางการเกษตรในจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลายท่านคงได้แต่นึกถึงเพียงยางพาราและปาล์มเท่านั้น คงไม่มีท่านใดนึกถึงทุเรียนอย่างแน่นอน ในช่วง 10 ปีหลังที่ผ่านมา เกษตรกรในพื้นที่จำนวนมาก หันมาทำเกษตรแบบผสมผสานด้วยการปลูกพืชหลายชนิดในแปลงเดียวกัน รวมถึงเลือกปลูกทุเรียนถ่านหินพันธุ์หมอนทองกันมากขึ้น และปรับรูปแบบการทำเกษตรแบบกึ่งสารเคมีและสารชีวภาพ เช่นเดียวกับ คุณณที นุ่นมา เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนและประธานแปลงใหญ่ทุเรียนถิ่นถ่านหิน หมู่ที่ 2 ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เล่าให้ฟังว่า เริ่มจัดตั้งเป็นแปลงใหญ่เมื่อปี 2565 มีสมาชิก 66 คน พื้นที่ปลูก 699 ไร่ คนสมาชิกส่วนใหญ่ได้รับรองมาตรฐาน GAP เนื่องจากทางสำนักงานเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงานเกษตรอำเภอเคียนซา ได้เข้ามาสนับสนุนองค์ความ